Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 309 ทุกย่างก้าวคือการลอบฆ่า

อากาศดูคล้ายจะหยุดนิ่งลง ณ ชั่วเวลานั้น

รอบด้านล้วนเงียบสนิท

พระอาทิตย์ส่องแสงเป็นประกาย

ลมพัดแผ่วโชยเอื่อย แต่กลับมีเพียงเสียงกรอบแกรบของใบไม้

ผั๊วะ!

จู่ๆ คุนหลุนก็ยกเท้าขวาขึ้น แล้วเตะหินโมเสกที่วางประดับเรียงรายอยู่บนพื้นจนหลุดออก

จากนั้น ภายใต้สายตางุนงงของเฉินตงที่จ้องมองอยู่

คุนหลุนก็ก้มตัวลงไปหยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วขว้างมันไปทางประตูคฤหาสน์อย่างแรง

ภายใต้แรงขว้างอันมหาศาล ก้อนหินนั้นถึงกับส่งเสียงหวีดหวิว เกิดเป็นเสียงลมขณะที่มันลอยผ่านอากาศไป

นั่นทำให้เฉินตงตกใจระคนงุนงงมาก

แต่แล้ว ในตอนที่หินก้อนกำลังจะลอยไปถึงประตูคฤหาสน์นั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ ก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

วี้ดดดดดดด!

ที่กลางอากาศ จู่ ๆ ก็เกิดเสียงหวีดแหลมดังเสียดแทรกขึ้นมาจนแสบแก้วหู

เสียงหวีดแหลมนั้นสับสนสะเปะสะปะ ทำให้ยากต่อการจับทิศทางที่เป็นต้นเสียงได้

แต่ในชั่วพริบตานั้น ก้อนหินที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศก็แตกออกเป็นสองเสี่ยง แล้วตกลงสู่พื้น

“นี่มันสถานการณ์บ้าบออะไรกันเนี่ย!?”

เฉินตงสีหน้าเปลี่ยนอย่างหนัก อดร้องอุทานออกมาไม่ได้

หลังจากพูดจบ หัวใจของเขาก็เต้นกระหน่ำรัวเร็วราวลั่นกลอง เรียกได้ว่าเหมือนหัวใจแทบจะกระเด็นออกจากอกได้อยู่แล้ว

แม้จะอาศัยสติที่แน่วแน่มั่นคงอยู่เสมอของเขา ในเวลานี้ก็ยังยากที่จะควบคุมอารมณ์ได้

หากไม่ใช่เพราะคุนหลุนเรียกให้เขาหยุดแล้วล่ะก็ เมื่อครู่เขาคงจะเดินเข้าไปทั้งอย่างนั้นแล้ว

และเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งความสูงที่ก้อนหินแตก ก็พบว่ามันอยู่ตรงตำแหน่งมุมคอของเขาพอดิบพอดีอีกด้วย

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าเมื่อครู่นี้เขาเดินเข้าไป คอของเขาก็จะเป็นเหมือนหินก้อนนั้น คือถูกบั่นจนขาดสะบั้น หัวกับตัวปลิวออกจากกันไปคนละทิศคนละทาง!

เพราะถึงยังไง คอของเขาก็ไม่ได้แข็งไปกว่าก้อนหินแน่ ๆ!

ก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งเจอการลอบฆ่าจากชายชราคนนั้น

ตอนนี้พอกลับถึงบ้าน แม้แต่ประตูหน้าบ้านก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว

ทุกย่างก้าวคือการลอบฆ่าอย่างแท้จริง!

เฉินตงอกสั่นขวัญผวาไปหมดแล้ว

เขาพอจะเดาได้ว่ามันจะต้องอันตรายมาก แต่กลับคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้

คุนหลุนถอนหายใจหนัก ๆ เฮือกหนึ่ง สีหน้าหนักอึ้งเคร่งเครียด แววตาลึกล้ำค่อย ๆ เดินไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง

เฉินตงตามหลังเขาไปติด ๆ

เขาเห็นคุนหลุนหยุดอยู่ตรงหน้าประตู แล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปสัมผัสอะไรบางอย่างที่อยู่กลางอากาศอย่างแผ่วเบา

ภาพฉากนี้ เป็นอะไรที่ดูแล้วตลกพิลึก

แต่เวลานี้ เฉินตงกลับหัวเราะไม่ออกโดยสิ้นเชิง

“เจอแล้วครับ!”

จู่ ๆ คุนหลุนก็ขมวดคิ้วมุ่น

“อะไรรึ?”

เฉินตงขมวดคิ้วมองที่มือขวาของคุนหลุน คล้ายว่าเขากำลังบิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่กลับมองเห็นไม่ชัด

คุนหลุนยิ้มน้อย ๆ พลางบิดนิ้วชี้กับนิ้วโป้งมือขวาเข้าหากัน

ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง ปรากฏแสงเย็น ๆ สายหนึ่ง สะท้อนวูบขึ้นมากลางอากาศในชั่วพริบตา

หัวใจของเฉินตงถึงกับกระตุกอย่างรุนแรง เขามองเห็นแล้ว มันคือด้ายเส้นหนึ่งที่เล็กและบางอย่างยิ่ง!

“คุณชายครับ สิ่งนี่เรียกว่าเซอร์คัมเฟลกซาครับ ”

คุนหลุนอธิบายช้า ๆ ว่า “มันบางละเอียดเหมือนดั่งเส้นผม แต่ยืดหยุ่นได้มากกว่า คมดุจเกล็ดปลา สามารถสะบั้นทั้งทองและหินให้แตกหักได้ เป็นอาวุธลับที่มีกลไกแบบพิเศษที่นักฆ่านำมาใช้ เซอร์คัมเฟลกซาชนิดนี้พบเห็นได้ยาก ถึงขั้นพูดได้ว่ามันเป็นอาวุธล่องหนที่สามารถฆ่าคนได้ก็ไม่เกินจริงเลยทีเดียว”

“แล้วนาย……”

เฉินตงมองคุนหลุนด้วยความงุนงงสงสัย ระคนประหลาดใจ

ไม่รอให้เขาพูดจบ คุนหลุนก็ชี้ไปที่โคนต้นไม้เล็ก ๆ ในคฤหาสน์ต้นหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วยกยิ้มประหลาด: ” ตอนที่องค์กรhidden killersในดาร์กเว็บประกาศภารกิจ ผมก็ไล่ทำเครื่องหมายเพื่อพิสูจน์ร่องรอยเอาไว้ทุกแห่งจนทั่วคฤหาสน์แล้ว กระทั่งนอกคฤหาสน์ผมก็ทำไว้ด้วยส่วนหนึ่งเหมือนกัน”

“ต้นไม้เล็ก ๆ ต้นนั้นถูกผมป้ายปูนขาวเอาไว้ชั้นหนึ่ง คุณชายลองสังเกตดูดี ๆ สิครับ มันมีช่องว่างของปูนขาวที่ปรากฏบนลำต้นแล้วใช่ไหมล่ะครับ?”

เฉินตงมองดูอย่างละเอียดลึกซึ้งอีกครั้ง รอยปูนขาวกระจายตัวอย่างสม่ำเสมออยู่บนลำต้น ในที่สุดเขาก็มองเห็นช่องว่างเล็ก ๆ ที่ว่านั้นได้จริง ๆ เป็นช่องว่างที่น่าจะมีขนาดหนาแค่พอ ๆ กับนิ้วก้อยของเขาเท่านั้น

ถ้าไม่สังเกตดูอย่างละเอียดถ้วนถี่เป็นพิเศษ ก็จะไม่สามารถตรวจพบได้เลย

“กลไกของอาวุธลับอยู่บนต้นไม้นั่น”

คุนหลุนเดินตรงไปที่ต้นไม้ต้นเล็กนั้นอย่างมั่นใจ จากนั้นก็พุ่งปราดขึ้นไปด้วยพลังที่น่าทึ่งราวสัตว์ป่า แล้วกระแทกฝ่ามือเข้ากับลำต้นโดยตรง ด้วยกระบวนท่าปล่อยแรงปราณที่บีบอัดจนแน่นออกไป

สิ่งที่ตามมากับเสียงกระแทกที่ทึบ ๆ แต่หนักแน่นนั้น คือใบจากต้นไม้เล็ก ๆ ต้นนั้นต่างพากันร่วงหล่นโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง

เคร้ง ๆ ๆ …

กล่องโลหะใบหนึ่งที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับกำปั้น ก็ร่วงตกลงมาบนพื้นเสียงดังสนั่น

คุนหลุนหยิบกล่องโลหะใบนั้นขึ้นมา แล้วยื่นไปตรงหน้าเฉินตง “ก็คือสิ่งนี้นี่แหละครับ”

พูดพลาง เขาก็ชี้ไปที่ต้นไม้อีกต้นที่อยู่ไม่ไกลกันนัก: “ตรงนั้นยังมีอีกใบ”

เฉินตงมองดูกล่องโลหะในมือ เจ้ากล่องกลใบนี้ถ้าเทียบกันจริง ๆ มันมีขนาดที่เล็กกว่ากำปั้นผู้ใหญ่เกือบครึ่งเห็นจะได้ มีลักษณะแบนคอดกิ่วเหมือนแผ่นดิสก์ขนาดเล็ก ถ้าต้องอธิบายออกมาเป็นคำพูด มันดูเหมือนกล่องเป่าฟองสบู่ยักษ์ตอนที่เขาเป็นเด็กไม่มีผิด

และในรูเล็ก ๆ ด้านข้างกล่อง มีเซอร์คัมเฟลกซาร้อยเชื่อมต่อกันยาวเป็นเส้นเดียว แต่เนื่องจากกล่องถูกคุนหลุนกระแทกจนร่วงลงมาจากต้นไม้ ทำให้ตอนนี้เจ้าเซอร์คัมเฟลกซานั่นไม่ได้ร้อยต่อกันจนตึงแน่นแล้ว แต่ร่วงตกลงพื้นไปแทน

ในเวลานั้นเอง คุนหลุนก็ไปเก็บกล่องโลหะอีกใบหนึ่งลงมาเรียบร้อย

หลังจากเดินไปหยุดตรงหน้าเฉินตงแล้ว เขาก็พูดขึ้นว่า “คุณชาย ขอกล่องโลหะนั่นให้ผมด้วยครับ”

หลังได้รับกล่องโลหะในมือของเฉินตงมาแล้ว คุนหลุนก็ถอยหลังไปสามก้าว แล้วหยิบเหล็กเดือยปลายแหลมที่ทหารใช้ออกมาจากช่วงเอว หลังวางกล่องโลหะทั้งสองใบลงบนพื้น เขาก็ใช้เหล็กเดือยปลายแหลมนั้น จ้วงเข้าไปตรงบริเวณรูเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงส่วนหน้าของกล่องใบหนึ่ง

เปรี๊ยะ!

ปรากฏเสียงหวีดหวิวกลางอากาศ ดังตามหลังเสียงบางอย่างที่แตกหักขึ้นมาติด ๆ

เซอร์คัมเฟลกซาทั้งหมด ต่างม้วนตัวกลับเข้าไปในกล่องโลหะอีกใบหนึ่งทันที

คุนหลุนหยิบกล่องนั้นขึ้นมา แล้วยื่นให้เฉินตง: “คุณชาย เจ้ากล่องกลนี่เป็นอาวุธที่ทำได้ยากมาก ผมติดตามคุณท่านมานานหลายปีแล้ว ยังไม่เคยคิดจะทำอาวุธที่มีกลไกซับซ้อนแบบนี้เลย แต่ตอนนี้ อุตส่าห์มีคนเอามาส่งให้เองจนถึงหน้าประตูแล้ว คุณชายก็เก็บรักษาไว้ดี ๆ เถอะครับ มันเป็นของดีที่ใช้เป็นเครื่องป้องกันตัวได้เลยทีเดียว”

เฉินตงพยักหน้าตอบรับ

เขากวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยความหวาดหวั่น: “นักฆ่าเข้ามาวางกลไกเอาไว้ที่นี่ เจ้าตัวก็น่าจะอยู่แถวๆ นี้ด้วยใช่ไหม?”

“ไม่หรอกครับ”

คุนหลุนยิ้มอย่างติดจะจองหองน้อยๆ: “นักฆ่าที่รู้วิธีใช้เซอร์คัมเฟลกซา ย่อมเป็นนักฆ่าที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ นักฆ่าที่แท้จริง จะไม่เอาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงต่ออันตรายเด็ดขาด ก่อนการลอบฆ่าทุกครั้ง จะต้องหาทางหนีที่ไล่เอาไว้อย่างแน่นอน ต่อให้การลอบฆ่าครั้งนั้นล้มเหลว ก็ยังสามารถปกป้องตัวเอง รวมทั้งหาทางหลบหนีไปได้ด้วย”

เฉินตงยกยิ้มอย่างขมขื่น

ด้วยจุดนี้เพียงประการเดียว นักฆ่าคนนี้ก็มีภาษีกว่าชายชราบนถนนคนนั้นเป็นพันเท่าแล้ว!

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้จิตใจตัวเองสงบลง

“ไปกันเถอะ กลับบ้าน”

เฉินตงพูดออกมาประโยคหนึ่ง ก็หันหลังเดินเข้าบ้านไป

แต่เพื่อความปลอดภัยรอบด้าน คุนหลุนยังคงรีบเดินไปข้างหน้าของเฉินตง แล้วกวาดสายตาสแกนดูสิ่งผิดปกติไปตลอดทาง ระมัดระวังทุกย่างก้าวรอบตัวเขา

สีหน้าของเฉินตงที่เดินตามหลังคุนหลุนยังคงสงบนิ่ง แต่กล่องโลหะในมือเขาใบนั้น กลับถูกมือขวาของเขาบีบอย่างรุนแรงไปนานแล้ว ถึงขั้นที่หลังมือปรากฏเส้นเลือดสีเขียว ๆ นูนขึ้นมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ทั้งยังสั่นน้อย ๆ

เขาไม่เคยคิดเลยว่า จะมีวันหนึ่งที่เขากลับมาถึงบ้านตัวเอง แล้วจะต้องรู้สึกหวาดกลัวจนหัวหดถึงขนาดนี้!

ความรู้สึกอัปยศจากการถูกกดดันคุกคามเช่นนี้ ทำให้เฉินตงทั้งโกรธ ทั้งไม่ยินยอมพร้อมใจอย่างถึงที่สุด

การถูกโจมตีอย่างรุนแรงร้ายกาจ ทุกย่างก้าวมีแต่คนหมายจะเข่นฆ่า!

ในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ถึงกับมีการลอบสังหารถึงสองครั้ง อีกทั้งการลอบฆ่าแต่ละครั้งก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

ถ้าอย่างนั้น แล้วหลังจากนี้ล่ะ?

และถึงจะเป็นอย่างนั้น เขากลับทำได้แค่เป็นฝ่ายตั้งรับ กระทั่งโอกาสที่จะต่อต้านก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ

หลังจากเข้าไปคฤหาสน์ คุนหลุนก็ใช้เวลาสองชั่วโมงเต็ม ๆ ในการตรวจสอบทุกอย่างในบ้าน

หลังจากยืนยันได้ว่าไม่มีอันตราย เฉินตงก็กลับไปที่ห้องนอนของตัวเองตามลำพัง

ส่วนคุนหลุน ก็เลือกที่จะย้ายไปห้องข้าง ๆ ห้องนอนของเฉินตง

ขณะที่นอนอยู่บนเตียง เฉินตงเอาแต่รู้สึกสังหรณ์ใจในความไม่ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา

เขาไม่กลัวอันตราย แม้กระทั่งในตอนแรกที่เขาต้องอยู่ในคุกมืดนั่น แม้จะรู้ว่ามันเป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เขาก็กล้าที่จะต่อสู้แบบทุ่มสุดตัว

แต่สิ่งที่เขากลัว คือความรู้สึกที่ต้องเผชิญกับอันตรายที่ไม่อาจล่วงรู้ได้ ในแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ต่างหาก

และทั้งหมดนี้ ล้วนมีสาเหตุมาจากตระกูลหลี่ทั้งสิ้น!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินตงก็ขมวดคิ้วมุ่น หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดค้นหาบันทึกการโทรรอบหนึ่ง

ในที่สุด ก็พบการโทรที่ยังไม่ได้บันทึกในบันทึกการโทรจนได้

จากนั้น เขาก็กดโทรออก

แต่หลังจากที่เสียงสัญญาณเรียกสายเริ่มดัง อีกฝ่ายก็วางสายไป

เฉินตงไม่ยอมหยุด ยังคงโทรออกอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง…

เขาโทรแบบวนไปจนครบรอบ ก็ถูกวางสายใส่ทุกรอบ

แม้แต่เฉินตงเอง ก็ไม่รู้ว่าตัวเองโทรออกไปกี่ครั้งเหมือนกัน

ไหนๆ อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ถือซะว่าหาอะไรทำช่วงเบื่อ ๆ ไปซะก็แล้วกัน

เขากดหมายเลขเดิมซ้ำอีกครั้ง

หลังจากได้ยินเสียงเรียกสาย ในที่สุดคนปลายสายก็ยอมกดรับโทรศัพท์

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset