Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 24 แขกที่เคารพมากที่สุด

บทที่ 24 แขกที่เคารพมากที่สุด

MG Club

หลังจากวางสายไป หลี่ต้าเป่าก็ยิ้มพลางโยนโทรศัพท์ไปอีกทาง: “ขนาดนั้นเลยเหรอ คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนงั้นเหรอ?”

เรื่องของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เป็นเขาที่หาคนไปจัดการจริงๆ ด้วย

ในใจของหลี่ต้าเป่า เฉินตงเป็นเพียงแค่คนที่เคยกระดิกหางดุกดิกอยู่ข้างกายเขาก็เท่านั้นเอง

ถึงจะมีคนช่วยเหลือ ให้เฉินตงซื้อไท่ติ่ง แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้หมาตัวเล็กๆ นั้นมาเหยียบหัวเขาแน่นอน

ในสถานการณ์แบบนี้ ครั้งก่อนที่ตรอกภายนอกของMG Club เขาถูกคนของเฉินตงสั่งสอนไปไม่น้อย

หลังพิงพี่เขยของเขาที่เป็นเหมือนภูเขาลูกใหญ่ การแก้แค้นนี้ทำไมจะทำไม่ได้?

เขารู้ว่าเฉินตงมีคนช่วยอยู่เบื้องหลัง แต่จะช่วยอย่างไร ก็คงไม่มีทางเหมือนที่พี่เขยช่วยเขาหรอก?

“พี่ต้าเป่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” หญิงที่แต่งหน้าจัดซบอยู่ในอ้อมกอดของหลี่ต้าเป่า

หลี่ต้าเป่ายักไหล่: “ก็แค่หมาเห่านะ หมาที่คิดว่าตัวเองเป็นคนไปแล้ว คุณว่ามันตลกไหม?”

ผู้หญิงชี้ไปที่อกของหลี่ต้าเป่าก่อนจะทำนิ้ววนเป็นวงกลม พลางพูดเสียงอ่อยว่า: “พี่ต้าเป่า……”

หลี่ต้าเป่าเลิกคิ้วขึ้น ความไม่พอใจนั้นมันหายไปในพริบตา พลางเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งตัณหา

……

หลังจากวางสายไป เฉินตงก็โทรหาท่านหลง

หลี่ต้าเป่าเก่งกาจแค่ไหน เขานั้นรู้ดีกว่าใคร ทำเรื่องแบบนั้นออกมา เขามีวิธีร้อยแปดที่จะเล่นงานหลี่ต้าเป่า

แต่พี่เขยของหลี่ต้าเป่านั้น ทำให้เขาลังเล

เคยเป็นถึงเจ้านายเก่าของเขา คนคนนั้นให้ความรู้ความเคารพแก่เขา เขาถึงได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งรองผู้บริหารได้ภายในเวลาเพียงแค่สามปี

เขารู้ดี เกี่ยวกับความสามารถของเจ้านาย ไม่มีทางได้เลื่อนตำแหน่ง เพียงเพราะว่าเขาช่วยหลี่ต้าเป่าอยู่หลายครั้งหลายหน และหลี่ต้าเป่าได้มายืนอยู่ข้างกายอย่างงสง่างาม

ถ้าเกิดว่าไม่สามารถโน้มน้าวเจ้านายคนนั้น มันทำให้หลี่ต้าเป่าไม่มีทางกุมอำนาจต่อรองและหาที่พึ่งได้ ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะแก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยนิสัยที่เจ้าคิดเจ้าแค้นของหลี่ต้าเป่า ทำให้ไม่นานก็ก่อเรื่องอื่นขึ้นมาอีก

ครั้งก่อนท่านหลงสามารถซื้อขายกับไท่ติ่งได้ภายในเวลาไม่กี่นาที มันทำให้เห็นได้ชัดว่าเจ้านายนั้นรู้จักท่านหลงเป็นอย่างดี

เพียงไม่นาน ท่านหลงก็โทรกลับมา และนัดที่โรงแรมไท่ซานเวลาแปดโมง

เฉินตงตอบตกลง แต่ในใจกลับรู้สึกไร้ทางเลือกใดๆ

ความสามารถของเจ้านายในเมืองนี้ เขารู้เป็นอย่างดี ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะคำพูดของท่านหลง ให้เขาไปคนเดียว เกรงว่าเจ้านายคงจะไม่ให้โอกาสแม้แต่จะเจอหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ

ถึงแม้ว่าเขาเคยเป็นคนที่เจ้านายยกย่อง แต่คนที่เจ้านายเอ็นดูยกย่องนั้นไม่ใช่แค่เขาเพียงคนเดียว

ตอนบ่าย เฉินตงได้รับโทรศัพท์จากบริษัทแม่บ้านนั้น พี่เลี้ยงคนนั้นตอบตกลงแล้ว แต่ทว่าอยากจะเจอเฉินตงสักหน่อย

ตอนที่เฉินตงไปที่บริษัทแม่บ้านนั้น นอกจากเจ้านายวัยกลางคน ก็ยังมีผู้หญิงอีกคนนั้นอยู่บนโซฟา เป็นคนที่เหมือนกับรูปในรายละเอียดแนะนำข้อมูลเลยล่ะ

“คุณเฉิน ฉันแนะนำให้คุณก่อน นี่คือฟ่านลู่”

ชายวัยกลางคนยิ้มพลางต้อนรับเฉินตง ก่อนจะแนะนำให้เฉินตงฟัง

ฟ่านลู่ลุกขึ้นมา ก่อนจะยิ้มด้วยความสดใสให้เฉินตงพลางยื่นมือออกมา: “สวัสดี คุณเฉิน ฉันชื่อฟ่านลู่ ขอบคุณคุณมากที่รับฉันทำงาน”

เฉินตงจับมือ ก่อนจะมองฟ่านลู่

ใบหน้าของเธอนั้นไม่ได้ดูโดดเด่นอะไร มันเหมือนกับในรูปเลย สวยงามสดใส มัดผมเปีย ตอนที่ยิ้มมีลักยิ้มเล็กๆ ด้วย มันทำให้รู้สึกเหมือนกับความสดใสที่หอมหวาน

ส่วนสูง170cmนั้น ทำให้เธอดูไม่เหมือนใครแล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้เฉินตงตกใจก็คือ ตอนที่จับมือกับฟ่านลู่นั้น เขาเพิ่งจะค้นพบ ว่ามือของฟ่านลู่นั้นด้านมาก เป็นไตแข็งๆ เต็มไปหมด

ถ้าเกิดว่าไม่ได้ทำงานหนักมาแรมปี คงจะไม่มีทางเกิดผิวด้านแบบนี้ขึ้นมาได้

แต่ทว่าเพียงแค่จับมือกันตอนนั้น ก็ทำให้เขารู้สึกได้ ถึงแรงมือที่ฟ่านลู่มี

มันทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก ไม่แปลกใจเลยที่เคยฝึกการต่อสู้มา

อันที่จริงปกติเฉินตงก็ออกกำลังกาย รวมไปถึงส่วนสูง180ของเขา ทำให้คนรู้สึกได้ถึงความแข็งแรง

แต่เขามั่นใจ ว่าตัวเองนั้นไม่มีทางชนะฟ่านลู่ได้

“เงินเดือนหนึ่งหมื่น แต่ว่าคุณต้องดูแลแม่ของฉันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนนี้งานของฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลามาดูแลเธอตลอด ตอนนี้เธอป่วยอยู่ เลยไม่สามารถรับอะไรที่กระทบต่อจิตใจได้เลย”

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะให้เจ้าของบริษัทหาแม่บ้านนั้นบอกฟ่านลู่ไปแล้ว แต่เขาก็พูดอีกครั้ง: “ถ้าเกิดว่าคุณเต็มใจ ฉันอยากให้พวกเรามาทำงานกันอย่างเป็นทางการ”

“ยินดี” ฟ่านลู่พยักหน้าอย่างไม่ลังเล

เงินเดือนที่เธอคาดหวังเอาไว้นั้นคือแปดพัน เฉินตงให้เธอถึงหนึ่งหมื่น แถมแค่ดูแลคุณป้าคนเดียว สำหรับเธอ มันเหมือนลาภลอยเลยล่ะ

หลังจากเซ็นต์สัญญาการทำงานกันเรียบร้อย เฉินตงก็พาฟ่านลู่ไปที่โรงพยาบาลลี่จิง

โบกแท็กซี่คันหนึ่ง เมื่อขึ้นรถไปแล้ว ฟ่านลู่มองเฉินตงด้วยสายตาประหลาดตลอดทาง

“คุณสงสัยอะไร?” เฉินตงถาม

ฟ่านลู่ตกใจ ก่อนจะรีบก้มหน้าลง: “ขอโทษค่ะคุณเฉิน ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าไม่ควรถาม แต่แค่คิดว่าคุณสามารถจ่ายเดือนละหมื่นเพื่อหาพี่เลี้ยง แต่กลับไม่มีรถเนี่ยนะ”

เฉินตงยิ้มออกมา เขาเพิ่งจะมีเงินได้เพียงครึ่งเดือน หลังจากผ่าตัดปลูกตับให้แม่เสร็จ เขาก็ทุ่มเททุกอย่างให้กับการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เลยยังไม่ได้คิดเรื่องอื่น

“สนใจแต่งานหมดแล้ว ตอนนี้เลยยังไม่ได้ซื้อรถน่ะ” เฉินตงตอบเพียงประโยคเดียว ก่อนจะถามกลับ: “ก่อนหน้านี้คุณทำงานที่ก่อสร้างเหรอ?”

“อือ” ฟ่านลู่พยักหน้า ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “คุณเฉินรู้ได้อย่างไรกัน?”

เฉินตงยิ่งรู้สึกแปลกใจเข้าไปใหญ่ ภายนอกของฟ่านลู่นั้นก็ไม่ได้แย่ แถมยังเคยฝึกการต่อสู้มาอีก ทำไมถึงทำงานเป็นพี่เลี้ยงหรือไม่ก็กรรมกรล่ะ?

เขาชี้ไปที่มือของฟ่านลู่: “มือของคุณมันด้านแข็งน่ะ”

ฟ่านลู่เอามือทั้งสองข้างซ่อนเอาไว้ตรงขา ก่อนจะก้มหน้าลงโดยปริยาย

ผู้หญิงอายุ28ปี มีใครไม่อยากมีมือสวยๆ สะอาดๆ บ้างเหรอ?

“ยกอิฐในไซต์ก่อสร้างเหรอ?” เฉินตงถามต่อ

“ไม่ใช่” ฟ่านลู่ส่ายหัว ก่อนจะพูดเบาๆ : “บิด บิดเหล็กน่ะ”

เฉินตงลูบจมูก ก่อนจะยิ้มขึ้นมาด้วยความพอใจ พี่เลี้ยงที่หามาให้แม่นั้น ฟ่านลู่เหมาะเหม็งมากเลย!

หลังจากไปถึงโรงพยาบาลลี่จิง เฉินตงก็พาฟ่านลู่ไปที่ห้องพักผู้ป่วยของแม่ ก่อนจะพูดเรื่องการดูแลในเรื่องต่างๆ อย่างละเอียด จากนั้นก็โอนเงินให้ฟ่านลู่เป็นจำนวนห้าพัน ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายของเธอกับแม่

หลังจากจัดการเรื่องทั้งหมดเสร็จ เขาก็กลับไปที่บริษัท ก่อนจะรีบทำงานต่อ

ตอนหนึ่งทุ่ม เฉินตงออกจากบริษัท

มีโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมจอดอยู่ข้างถนน รออย่างเงียบๆ

เฉินตงขึ้นรถ ท่านหลงพูดด้วยความเคารพ: “คุณชาย เจ้านายเก่าของคุณไปรออยู่ที่ร้านอาหารของไท่ซานแล้ว เขาบอกว่าจะให้ค่าตอบแทนอย่างเหมาะสม”

“อือ” เฉินตงพยักหน้า

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมค่อยๆ ขับออกไป

ในขณะเดียวกัน ในห้องรับรองของโรงแรมไท่ซาน

คนที่มากับพี่เขยก็คือหลี่ต้าเป่าถูกห้องรับรองของไท่ซานทำให้ตกใจอึ้งไป

โรงแรมไท่ซานนั้นเป็นโรงแรมห้าดาวเดียวในเมือง

แต่ห้องรับรองไท่ซานก็เป็นห้องรับรองห้าดาวของโรงแรมไท่ซานเช่นเดียวกัน!

ชีวิตของหลี่ต้าเป่านั้นหรูหรา แต่ก็ยังไม่เคยมาที่ห้องรับรองของไท่ซาน ส่วนใหญ่การร่วมก็จะอยู่ที่MG Clubเสียมากกว่า

แต่สถานที่ระดับสูงอย่างห้องรับรองไท่ซานนั้น เขาไม่มีสิทธิ์จะมา นี่เป็นเพราะพี่เขยเขาพามาเลยล่ะ

“ขอบคุณพี่เขยที่พาฉันมาเปิดหูเปิดตา”

หลี่ต้าเป่าตื่นเต้นจนพูดกับชายวัยกลางคนที่แก่กว่าเขาว่า: “คืนนี้มาอยู่ที่ห้องรับรองไท่ซานแล้ว แขกที่มาต้องเป็นลูกค้าระดับสูงมากเลยใช่ไหม?”

ชายวัยกลางคนนั้นมีปอยผมที่ขาว ใส่แว่นขลิบทอง ดูดีไม่น้อยเลย

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ต้าเป่า เขาก็ยิ้มแต่ก็เหมือนจะไม่ยิ้มพลางพูดว่า: “เป็นแขกที่น่าเคารพมากที่สุดเลยล่ะ!เดี๋ยวคุณทำตัวดีๆ หน่อยนะ”

“วางใจเถอะพี่เขย ฉันจะไม่ทำให้คุณเสียหน้า” หลี่ต้าเป่าทุบอกเป็นการรับประกัน โดยไม่ได้สนใจแววตาเย็นชาของพี่เขยเลย

เมื่อพูดจบ

แกร่ก……

ประตูของห้องรับรองไท่ซาน ก็ค่อยๆ ถูกเปิดออก

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset