Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 313 ฉันจะพาเขาไป !

“หัวหน้า พวกมันโจมตีเข้ามาแล้ว ประเมินจากสายตาน่าจะประมาณห้าสิบคน และมีการติดอาวุธร้ายแรง !”

มีเสียงรายงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดังมาจากด้านล่าง

เฉินตงและคุนหลุนต่างตกใจพร้อมกัน

การยิงโดยไม่พลาดเป้าของคุนหลุนเมื่อครู่ ทำให้ทหารรับจ้างเดดพูลต้องสูญเสียกำลังคนไปไม่น้อย หากตอนนี้เหลืออยู่ห้าสิบคน ต่อให้เข้ามาจากทุกทิศทาง ด้วยจำนวนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยังถือว่าได้เปรียบอยู่ดี

แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกตกใจจริงๆ ก็คือ “อาวุธร้ายแรง” !

นี่เป็นเพียงแค่การลอบสังหารเพื่อเงินรางวัล !

ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องทั้งหมดจะกลายเป็นการจ้างวานทหารรับจ้างข้ามพรมแดนเช่นนี้

แม้กระทั่งคุนหลุนเอง การเตรียมการเบื้องต้นก็เพียงแค่เตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันและตรวจจับขั้นสูง ส่วนอาวุธ ก็มีเพียงอาวุธธรรมดาเท่านั้น ส่วนอาวุธร้ายแรง ไม่ได้มีการเตรียมการไว้แม้แต่ชิ้นเดียว !

หากเป็นการลอบสังหารโดยทั่วไป ต่อให้เป็นมือสังหารชั้นยอด ด้วยจำนวนคนและอาวุธเบาที่มีการตระเตรียมไว้จำนวนหนึ่ง ก็คงเพียงพอสำหรับการรับมือ

แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารที่ติดอาวุธร้ายแรง สิ่งที่จะสามารถรับมือได้ก็มีเพียงแค่อาวุธร้ายแรงเท่านั้น !

“ต้องถอยแล้ว !”

คุนหลุนตัดสินใจเด็ดขาด : “คุณชาย ที่ที่คุณว่าคือที่ไหน ?”

“คลับสี่ยิ่น !”

เฉินตงพูดออกมาสามคำ

คุนหลุนแววตาเป็นประกายขึ้นทันที : “ทำไมผมคิดไม่ออกตั้งแต่แรก หากจัดการคุ้มกันขึ้นที่นั่น จะมีเรื่องไอ้พวกสวะทหารรับจ้างเดดพูลพวกนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ?”

เบื้องหลังของคลับสี่ยิ่นคืออะไร คุนหลุนนั้นรู้ดี

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินตงเสนอขึ้นมาในเวลานี้

หากสามารถเข้าไปในคลับสี่ยิ่นได้ ทหารรับจ้างเดดพูล ก็จะกลายเป็นแค่เหมือนฝูงสุนัขที่ไร้ยางอายก็เท่านั้น !

“ทั้งหมดเตรียมตัวถอนกำลังเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร ก็ต้องส่งคุณชายไปให้ถึงคลับสี่ยิ่นให้ได้ !”

คุนหลุนออกคำสั่ง

“รับทราบ !”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกือบหนึ่งร้อยนายขานรับโดยพร้อมเพรียงกัน

หลังจากติดตามคุนหลุนมาหลายปี ทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างก็มีความเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี

หลังจากที่คุนหลุนออกคำสั่ง ทุกคนก็เริ่มเคลื่อนไหวในทันที

สิบกว่านายเดินนำไปด้านหน้าก่อน แล้วพุ่งตรงเข้าไปในลาน และพยายามยิงสกัดกั้นทหารรับจ้างเดดพูลที่ข้ามกำแพงเข้ามา

ส่วนคนที่เหลือ ต่างค่อยๆ คุ้มกันเฉินตง เพื่อวิ่งไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่จอดรออยู่ด้านนอก

เฮลิคอปเตอร์กว่าสิบลำที่จอดอยู่ ขอเพียงแค่เฉินตงสามารถขึ้นลำใดลำหนึ่งได้ และบินขึ้นได้สำเร็จเท่านั้น

การต่อสู้ในครั้งนี้ ก็จะถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว !

เสียงกระสุนปืนดังก้องไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างต่อเนื่อง

ทำให้บรรยากาศภายในเขตวิลล่าเขาเทียนซานทั้งหมด ดูราวกับอยู่ในสนามรบ

ห่างออกไป มีศพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่มารักษาความสงบในที่เกิดเหตุนอนอยู่

อีกทั้งในส่วนอื่นๆ ของเขตวิลล่า ก็มีการเคลื่อนไหวอย่างโกลาหลของผู้คน รวมไปถึงเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มีบางคนหวาดกลัวและขับรถหนีออกไป

ภาพที่ปรากฏขึ้นนี้ ทำให้เฉินตงอึ้งไป

เขาไม่เคยไปเหยียบในสนามรบมาก่อน

แต่คิดไม่ถึงว่า คืนนี้ตนเองจะต้องมาอยู่ท่ามกลางสนามรบ

มีการสาดกระสุนราวกับสายฝน

เลือดสาดกระเซ็นอย่างโหดร้าย

ขณะที่วิ่งตรงไปด้านหน้าพร้อมกับทีม

ก็จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล้มลงไปอยู่ตลอด

กระสุนแต่ละนัด เป็นเหมือนกับเคียวมรณะ ที่มาเก็บเกี่ยวชีวิตผู้คนไป

ปัง !

ห่างออกไปไม่ไกลนัก หน้าอกของผู้รักษาความปลอดภัยนายหนึ่ง ถูกกระสุนเจาะทะลุเข้าที่หน้าอก เลือดสีแดงสาดกระเซ็นเข้ามาที่ใบหน้าของเฉินตง

กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งลอยเข้าจมูกในทันที

ร่างกายของเฉินตงสั่นเทา แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ภาพการนองเลือด ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ด้วยการฝึกฝนมาเป็นเวลานาน สภาพจิตใจของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าคนปกติ

แต่ภาพที่ปรากฏขึ้นตอนนี้ กลับทำให้เขารู้สึกชาไปทั้งตัว

“คุณชาย อดทนอีกหน่อยนะครับ ใกล้จะถึงแล้ว !”

คุนหลุนสีหน้าเคร่งขรึม เขารับรู้ได้ว่าเฉินตงรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจไม่น้อย จากภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้

ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครเกิดมาเพื่อที่จะเป็นเครื่องจักรสังหาร

แม้แต่ราชาทหาร ตอนที่ก้าวเข้าสู่สนามรบครั้งแรก ก็ยังต้องใช้เวลาเพื่อทำความคุ้นเคยกับการนองเลือดที่โหดร้ายในสนามรบ จากนั้นจึงค่อยๆ เติบโตขึ้นทีละก้าวๆ

การนองเลือดในสนามรบ ห่างไกลจากการต่อสู้ตามท้องถนนนัก

ในสนามรบ คุนหลุนเห็นทหารรับจ้างผ่านศึกหลายคน ที่ต้องประสบกับภาวะเครียดจากสงคราม หลังจากผ่านการต่อสู้อันน่าเศร้าสลด

“ฉัน ฉันไม่เป็นไร”

เฉินตงพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ

ระยะห่างของเฮลิคอปเตอร์ตรงหน้า ใกล้เข้ามาทุกทีๆ

ฟิ้ว !

ทันใดนั้น มีลูกไฟขนาดใหญ่พร้อมด้วยกลุ่มควันโขมงลอยมาในท้องฟ้า

“หมอบ !”

คุนหลุนตะโกนเสียงดัง พลางออกแรงกดเฉินตงลงกับพื้น

ตูม !

เฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าระเบิดเป็นจุณ แล้วปล่อยควันลอยโขมงขึ้นสู่ท้องฟ้า

“ให้ตายเถอะ รีบถอยเร็วเข้า !”

คุนหลุนก่นด่าออกมาแล้วลุกขึ้น จากนั้นจึงประคองเฉินตงขึ้นมา

และเป็นเพราะการกระทำนี้ ทำให้เขาลุกขึ้นเร็วกว่าคนอื่นๆ

ปัง !

มีเสียงดังสนั่นดังเข้าไปในหูของเฉินตง ทำให้แก้วหูของเขาสั่นสะเทือนจนรู้สึกเจ็บ

ร่างกายที่กำลังโค้งงอของเขาหยุดนิ่งกะทันหัน ดวงตาของเขาพร่ามัวไปด้วยเลือดในทันที

แต่เขากลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าคุนหลุนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา จู่ๆ ร่างกายก็สั่นสะท้าน และจากนั้นก็หยุดนิ่งกะทันหัน

เสียง “ปัง” ดังขึ้นในสมองของเฉินตง ดวงตาของเขาเบิกโพลงและค่อยๆ เงยหน้าขึ้น

ตอนนี้ดูเหมือนเวลาจะเดินช้าลง

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นช้าลงอย่างมาก

สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือ คุนหลุนยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่บนหน้าอก กลับฉาบไปด้วยเลือดสีแดงสด ถึงขั้นมองเห็นหยดเลือดที่ค่อยๆ ไหลรินออกมา

มือใหญ่ของคุนหลุนที่จับอยู่บนไหล่ของเฉินตงตลอดเวลา ไม่เคยผละออกไปไหนมาก่อน

“คุณชาย……”

คุนหลุนมองดูเฉินตงด้วยแววตาที่เลื่อนลอย และยิ้มออกมาอย่างหดหู่ จากนั้นจึงตะโกนออกคำสั่งด้วยความโมโห : “พาคุณชายไป !”

ทันใดหน้า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่โดยรอบก็เข้ามาหามเฉินตงและวิ่งไปยังเฮลิคอปเตอร์อีกลำที่อยู่ห่างออกไป

“ปล่อยฉัน ให้ตายเถอะ ปล่อยฉันลงให้หมด !”

ตอนนี้ เฉินตงดูราวกับคนเสียสติ เขาพยายามต่อสู้ขัดขืนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ : “พาคุนหลุนไปด้วย เขาเป็นหัวหน้าของพวกนาย พาเขาไปด้วย !”

น้ำตาเอ่อล้นจนท่วมดวงตา และไหลรินออกมาอย่างต่อเนื่อง

ราวกับถูกมีดกรีดที่หัวใจ !

“คุณชาย ความปลอดภัยของคุณสำคัญที่สุด !”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างๆ กล่าวเตือน

“เหลวไหล !”

เฉินตงก่นด่า เขากัดฟันและตะคอกออกมาว่า : “เขาเป็นพี่น้องของฉัน เขาสำคัญเท่ากับฉัน ปล่อยฉัน ฉันจะพาเขาไป จะพาเขาไป……”

แต่ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนเช่นไร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่โดยรอบก็ไม่คิดจะปล่อยเขาลง

และในที่ไกลๆ แววตาของคุนหลุนค่อยๆ กลับมาแน่วแน่ขึ้นอีกครั้ง

เขาตะโกนอย่างดุดัน : “คุณชาย อย่าลืมที่นายท่านสั่งคุณไว้นะครับ !”

ขณะที่เขาตะโกนออกมา จู่ๆ คุนหลุนก็หันหลัง และถือAWM-P ที่อยู่บนตัวเขาเอาไว้ในมือ

ปัง !

กระสุนถูกยิงออกไป เกิดเปลวเพลิงขึ้นในท้องฟ้ายามค่ำคืน

แต่ทว่าหลังจากนั้น

ฟิ้ว !

มีเสียงดังทะลุอากาศมา

ปัง !

กระสุนอีกหนึ่งนัดยิงเข้าที่ขาขวาของคุนหลุน เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น

คุนหลุนนั่งคุกเข่าลงไปกับพื้นหนึ่งข้าง แต่ปืนไรเฟิลที่อยู่ในมือของเขา ยังคงปล่อยกระสุนออกมาอย่างต่อเนื่อง

“หากยังมีฉัน คุนหลุนอยู่แล้วละก็ จะปล่อยให้พวกแกมาทำร้ายคุณชายของฉันง่ายๆ ได้อย่างไร !”

คุนหลุนตะคอกออกมาด้วยความโกรธเคือง และพร้อมที่จะสู้ตาย

ภาพนี้ปรากฏขึ้นในสายตาของเฉินตง แต่กลับรู้สึกราวกับว่าดวงตาของเขากำลังจะแหลกสลาย

เขาจ้องเขม็งไปยังคุนหลุนที่กำลังต่อสู้อย่างสุดชีวิต และร้องไห้ออกมาพลางส่ายหัวอย่างสุดกำลัง

“ไม่ เป็นแบบนี้ไม่ได้ นายต้องไป นายต้องไปกับฉัน……”

เขาต่อสู้ดิ้นรน จนขณะนี้อ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด

และในตอนนี้เอง

ฟิ้ว !

ปัง !

เสียงของกระสุนดังทะลุอากาศมา และเจาะเข้าที่ขาข้างซ้ายของคุนหลุน

และนี่ทำให้เกิดเสียงระเบิดขึ้นในสมองของเฉินตงในเวลาเดียวกัน

เฉินตงมองดูคุนหลุนที่ค่อยๆ คุกเข่าลงไป ก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธทันที

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะพาเขาไป !”

“คำสั่งบ้าบออะไรกัน ไม่เคยสนใจไยดีมายี่สิบปี ตอนนี้จะให้ฉันฟังเขาอย่างนั้นเหรอ?”

“มีสิทธิ์อะไร ? มีสิทธิ์อะไร ? ฉันยอมเป็นลูกอกตัญญู แต่จะต้องพานายไปให้ได้ !”

ขณะที่เขากำลังดิ้นรนขัดขืนอย่างบ้าคลั่ง

จู่ๆ เฉินตงก็ออกแรงใช้แขนทั้งสองข้าง สลัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ขนาบอยู่ทั้งซ้ายและขวา จนล้มลงไปข้างหน้า

ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เขาชิงลงมือก่อน มือทั้งสองข้างกวัดแกว่งราวกับงู จับเข้าที่มือขวาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังถือปืนอยู่ และแย่งปืนมาในทันที !

จากนั้น ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตกใจอยู่

เฉินตงก็ยกปืนขึ้นมาจ่อที่ขมับ แล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า

“พาคุนหลุนไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะตายพร้อมกับเขา !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset