Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 319 สวนกระแส สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน?

คลับสี่ยิ่น

ด้วยการจัดการของท่านหลง คลับสี่ยิ่นถูกยกระดับความปลอดภัยถึงขั้นสูงสุด

มาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดถูกเปิดใช้งาน

รถลาดตระเวนขับวนเวียนอยู่โดยรอบคลับสี่ยิ่น เพื่อคอยคุ้มกัน

พนักงานบริการภายในคลับ ถูกลดจำนวนน้อยลงไปมาก เหลือแต่เพียงพนักงานบริการที่สามารถดูแลเรื่องความเป็นอยู่ให้เฉินตงได้เท่านั้น

ส่วนในลานป่าไผ่ ก็กลายเป็นที่ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาที่สุด

หลังจากกูหลังมาถึง ก็พาทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปถางลานป่าไผ่ในทันที จากนั้นจึงติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันภัยจำนวนมาก

ภารกิจการรักษาความปลอดภัยด้านนอก มอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในคลับสี่ยิ่น

แต่ภายในลานป่าไผ่ ได้ใช้คนของตนเองทั้งหมด ตามคำขอของท่านหลง

มีการป้องกันเป็นชั้นๆ

จิตใจที่รู้สึกวิตกกังวลของเฉินตงเริ่มสงบลง

หลังจากนอนลงบนเตียง ในที่สุดก็รู้สึกง่วงอย่างหนัก

ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เห็นการปรากฏตัวของท่านเมิ่งเลย เขาเองก็ไม่ได้สนใจ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก การที่ท่านเมิ่งกุมอำนาจเอาไว้แต่ไม่ปรากฏตัวถือเป็นการดีที่สุด

อีกทั้งเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้นขึ้นที่เขตวิลล่าเขาเทียนซานเมื่อคืน ทำให้ท่านเมิ่งต้องแสดงตัวเพื่อจัดการกับเรื่องนี้

ไม่ช้า เฉินตงก็หลับไป

การหลับครั้งนี้ ถือเป็นการหลับที่สนิทเป็นอย่างมาก

เมื่อเขาลืมตาขึ้น ท้องฟ้าด้านนอกก็มืดลงแล้ว

เฉินตงอาบน้ำอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเดินออกจากห้องนอนไป เขาเห็นท่านหลงกำลังนั่งนิ่งอยู่ในห้องโถง และกำลังจิบชาอยู่

เมื่อเห็นเฉินตง ท่านหลงก็รีบลุกขึ้น : “คุณชาย คุณยังบาดเจ็บอยู่ ควรจะนอนพักนิ่งๆอยู่ในห้องจะเป็นการดีที่สุด”

เฉินตงหันมองบาดแผลบนแขนข้างซ้าย แล้วยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ : “ไม่เป็นอะไรมากหรอก”

ท่านหลงเองก็ไม่คิดโต้เถียงให้มากความ เขาประคองเฉินตงนั่งลง แล้วค่อยๆ พูดขึ้น

“การรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบลานป่าไผ่ มีคนของเราเข้าประจำการเอาไว้หมดแล้ว แต่อย่างไรเสียท่านหลงก็เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมืออาชีพ ดังนั้นกระผมจึงให้เขาเป็นหัวหน้าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมด ดังนั้นเรื่องเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทั้งหมด จะปล่อยให้ทีมรักษาความปลอดภัยบริหารจัดการกันเอง”

“ทางด้านเขาเทียนซานกระผมจัดการเอาไว้จนเกือบสมบูรณ์แล้ว ยังดีที่พื้นที่ของเขตวิลล่าเขาเทียนซานนั้นค่อนข้างคดเคี้ยว จึงสามารถจัดการได้ไม่ยากนัก”

“ส่วนทางด้านคุนหลุน กระผมได้จัดส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนสี่นายไปคุ้มกันเขาเรียบร้อยแล้ว”

เขากล่าวรายงานทีละเรื่องๆ

เฉินตงเองก็ไม่ได้โต้แย้งแม้แต่น้อย

การจัดการเช่นนี้ของท่านหลง ถือว่าเหมาะสมที่สุด

สามารถติดตามพ่ออยู่หลายปี และได้กลายเป็นคนรับใช้คนสนิทของพ่อ ความสามารถของท่านหลงนั้น ได้รับการพิสูจน์แล้ว

เฉินตงลูบจมูกแล้วมองท่านหลงด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง

“พ่อกำลังตรวจสอบคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินแล้วหรือยัง ?”

“หลังจากรายงานท่านเจ้าบ้าน ท่านเจ้าบ้านก็รีบลงมือตรวจสอบทันทีครับ”

ท่านหลงพยักหน้า : “แต่ยังคงต้องรออีกสักพัก ทางด้านหนึ่งเจ้าบ้านก็กำลังหาวิธีการที่จะยกเลิกภารกิจการลอบสังหารขององค์กรhidden killers ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ต้องตามสืบคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน นี่ถือว่าต้องแยกร่างในการทำงานแล้ว”

“อืม ฉันรู้ดี ในสถานการณ์เช่นนี้ มีเพียงพ่อคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถทำทั้งสองเรื่องนี้ได้”

ใบหน้าของเฉินตงเต็มไปด้วยความจนใจ ไม่ว่าจะเป็นภารกิจลอบสังหารขององค์กรhidden killersก็ดี หรือว่าการสืบเรื่องคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็ดี ทั้งสองเรื่องนี้ หากเปลี่ยนให้คนอื่นมาจัดการแทนก็ไม่มีทางทำได้สำเร็จ

มีเพียงพ่อซึ่งกุมอำนาจในฐานะของเจ้าบ้านตระกูลเฉินเอาไว้เท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์ทำทั้งสองเรื่องนี้ได้

เงียบไปครู่หนึ่ง

จู่ๆ ท่านหลงก็พูดขึ้นมาว่า : “คุณชาย ฉินเย่บอกว่าอยากจะกลับมา รวมไปถึงตระกูลจูเก่อแห่งซีสู่เอง ก็อยากที่จะมาคุ้มกันคุณ เป็นความคิดของฉินเย่ เขาจึงให้ผมมาถามความเห็นของคุณก่อน”

“ไม่ต้องมา”

เฉินตงส่ายหัว : “บรรดานักฆ่าที่ต้องการลอบฆ่าฉันล้วนอยู่ในที่มืด หากไม่ถึงเวลาที่จะลงมือฆ่า ก็ไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นได้ทั้งนั้น หากคนที่อยู่รอบข้างฉันมีมากเกินไป ก็จะยิ่งทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น”

จากนั้น เขาก็กลอกตา

และจู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา : “แต่ว่า ในเมื่อฉินเย่และตระกูลจูเก่อมีน้ำใจ ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้”

ช่วยเหลือ ? !

ท่านหลงตกใจอยู่ครู่หนึ่ง

อันที่จริงแล้ว ตอนที่เขาได้รับข่าวจากฉินเย่ ก็มีความคิดเช่นเดียวกับเฉินตง

เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างเฉินตงและฉินเย่ จึงได้เอ่ยถามออกมา

ส่วนเรื่องช่วยเหลือ ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ?

ตอนที่องค์กรhidden killersประกาศภารกิจลอบสังหาร แม้แต่นายท่านเองก็นังรู้สึกปวดหัว

ถึงแม้ตระกูลจูเก่อจะขยายอำนาจและขึ้นแท่นเศรษฐีอันดับหนึ่งของซีสู่แทน ในขณะที่ตระกูลฉินกำลังตกที่นั่งลำบาก

แต่ทว่าเศรษฐีอันดับหนึ่ง ก็ยังไม่น่าจะเกี่ยวพันถึงการให้ความช่วยเหลือได้ !

เฉินตงยิ้ม : “ให้ตระกูลจูเก่อส่งคนมา แล้วให้ความร่วมมือกับโจวเย่นชิวและโจวจุนหลงในการตรวจสอบเมืองทั้งเมือง แล้วรายงานมาให้ฉันรับรู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับคนที่เข้ามาในเมืองนี้ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ผ่านมานี้”

“นี่……”

ท่านหลงรู้สึกตะลึง จนกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว : “คุณชาย งานนี้ดูเหมือนจะไม่อาจสำเร็จได้”

“ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำ” เฉินตงผายมือออกแล้วพูดต่อว่า : “ส่วนอีกด้านหนึ่งให้ฉินเย่และตระกูลจางตระกูลฉู่แห่งเมืองหลวง ร่วมกันตรวจสอบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หากมีภารกิจเกี่ยวกับการลอบสังหารฉันปรากฏขึ้น ให้รีบติดตามแหล่งที่มาทันที”

เกิดความหวาดกลัวขึ้นในแววตาของท่านหลง

เขามองเฉินตงอย่างไม่อยากเชื่อ ริมฝีปากของเขาขยับและพูดว่า : “คุณชาย ที่คุณคิดที่จะ……โต้กลับเหรอ?”

ตอนที่พูดออกมา แม้แต่ตัวท่านหลงเองก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ

ไม่เคยมีใครคิดวิธีเช่นนี้จัดการกับการประกาศภารกิจลอบสังหารขององค์กรhidden killersมาก่อน

ใครๆ ก็รู้ดีว่าองค์กรhidden killers จากดาร์กเว็บนั้นแข็งแกร่ง เมื่อได้รับภารกิจสอบสังหาร ก็จะคิดหาวิธีในการเอาชีวิตรอด คิดหาวิธีในการยกเลิกภารกิจ รวมไปถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากผลกระทบด้านนอก

แต่ตอนนี้ การวางแผนทั้งสองอย่างของเฉินตง

ทำให้ท่านหลงรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของความบ้าระห่ำ

นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการสวนกระแส สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน!

เฉินตงยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นจึงโบกมือ : “ไปจัดการเถอะ ฉันไม่อยากให้โชคชะตาของตัวเองขึ้นอยู่กับการจัดการในมือของคนอื่น ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันเคยชินกับการต่อสู้อย่าสุดชีวิตแล้ว !”

“แม้ผลลัพธ์ของสิ่งนี้จะเล็กน้อยมากก็ตาม แต่ก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่า ยังดีกว่าไม่ทำอะไร เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตของฉัน ฉันคงจะปล่อยให้พ่อต้องแบกรับทุกอย่างเอาไว้ และต่อสู้เพียงลำพังไม่ได้ จริงไหม ?”

“ได้ครับ กระผมจะรีบไปดำเนินการเดี๋ยวนี้” ท่านหลงลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

ภายในห้องโถง แสงไฟสีเหลืองนวลส่องสว่าง และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของไม้จันทน์

แววตาของเฉินตงลึกซึ้ง เหมือนกำลังมีความคิดอะไรบางอย่าง และบ่นพึมพำออกมา : “ถ้าหากภารกิจลอบสังหาร แพร่กระจายมาจากเครือข่ายมืดจริง ถ้าเช่นนั้น บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะต้องมีการทิ้งเบาะแสเอาไว้อย่างแน่นอน ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนจงใจชี้นำกันแน่ ?”

เฉินตงเช็ดหน้า ทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาไม่น้อย

หลังจากนอนหลับสนิทมาทั้งวัน ทำให้พลังกายของเขาฟื้นฟูกลับขึ้นมา และในขณะเดียวกันก็ทำให้เขาสงบลง และได้จัดการกับความคิดบางอย่าง

หากยังคงยืนหยัดอยู่ที่นี่ต่อไป ก็จะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้

แต่หลังจากนี้ล่ะ ?

การรอไม่ใช่นิสัยของเขา

แทนที่จะนั่งรอความตาย หวังว่าพ่อจะสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ได้ ไม่สู้ลงมือทำอะไรสักอย่าง

ตรวจสอบทุกคนที่เข้ามาเมืองนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้จริง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยก็น่าจะพบเบาะแสของนักฆ่าจำนวนหนึ่งบ้าง

เฉินตงไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากนัก

สิ่งที่เขาสนใจจริงๆ ก็คือ สามารถสืบหาตัวคนที่ชี้นำให้เกิดภารกิจลอบฆ่าขึ้นในอินเทอร์เน็ตได้

ในความคิดเห็นของเขา การควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าการหาทางยกเลิกภารกิจลอบสังหารขององค์กรhidden killers จากดาร์กเว็บเสียอีก

ขณะที่กำลังคิด เฉินตงก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา แล้วเปิดดู

ภายในกระเป๋าสตางค์ บรรจุรูปแต่งงานของเขากับกู้ชิงหยิ่งเอาไว้

เขาใช้นิ้วค่อยๆ ลูบลงไปที่รูปภาพเบาๆ จากนั้นเฉินตงจึงยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความแน่วแน่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ : “ยัยโง่ ผมจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน !”

เสียงท้องร้องด้วยความหิวโหย

เฉินตงตบท้อง แล้วลุกขึ้นเดินออกไปด้านนอกลาน

เขาเรียกให้กูหลังเตรียมอาหารเย็น

แต่ในขณะที่กำลังรออาหารเย็นขึ้นเสิร์ฟบนโต๊ะอยู่นั้น ท่านหลงกลับวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีหวาดกลัว

“คุณชาย เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ ! การประกาศภารกิจขององค์กรhidden killers จากดาร์กเว็บ มีการเปลี่ยนแปลงใหม่แล้ว !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset