Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 25 ถูกบังคับจนคนดีต้องกลับกลายเป็นเลว

บทที่ 25 ถูกบังคับจนคนดีต้องกลับกลายเป็นเลว

มาแล้ว!

หลี่ต้าเป่าดวงตาเปล่งประกาย ก่อนจะรีบลุกขึ้น จากนั้นก็จัดแจงสูทให้เรียบร้อย

พี่เขยพาเขามาในที่แบบนี้ แน่นอนว่าจะเอาเขามาฝากอย่างเห็นได้ชัด

ถ้าเกิดว่าสามารถได้รับการสนับสนุนของแขกใหญ่คนนั้น การงานหลังจากนี้ของเขาก็จะง่ายขึ้นแล้ว

“หึๆ เฉินตง ฉันพึ่งพาพี่เขยของฉัน เพียงแค่ฉันเต็มใจจะปีนขึ้นไป ใช้แรงเพียงนิดหน่อยก็ได้แล้ว แล้วคุณล่ะ?ถึงจะซื้อไท่ติ่งมา ก็ถูกฉันบี้ตายอยู่ดี!”

หลี่ต้าเป่าคิดออก เลยอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาอย่างภูมิอกภูมิใจ

เมื่อเขาเห็นคนสองคนที่เข้ามาในห้องรับรองของโรงแรมไท่ซาน หัวสมองของเขาก็มีเสียงตึงตังขึ้นมา

รอยยิ้มบนใบหน้ากลับหายไปในทันตา ทำหน้าบู้บี้ ด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก

“ทำ ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ?”

มีเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ จนเสียงสะท้อนในห้องรับรองของโรงแรมไท่ซาน

“ต้าเป่า คุณเรียกบ้าอะไร?” พี่เขยดันแว่นขอบทองบนจมูก ก่อนจะยิ้มแหะๆ แล้วเปิดที่นั่งสำคัญญให้ “ขอโทษที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับๆ ท่านหลงเฉินตง เชิญนั่งลงก่อน”

“พี่เขย นี่ นี่……”

หลี่ต้าเป่าแทบบ้า ทำไมเขาคิดไม่ถึงเลย ว่าแขกที่พี่เขยบอกว่าน่าเคารพมากที่สุดคนหนึ่ง จะเป็นเฉินตง

“ตกใจมากใช่ไหม?”

เฉินตงเดินไปข้างหน้าหลี่ต้าเป่า ก่อนจะยิ้มเบาๆ

สีหน้าของหลี่ต้าเป่าซีดลง ก่อนจะมองพี่เขยสักพัก เขาพยายามอดทน และนั่งลงบนเก้าอี้ แต่ในใจกลับรู้สึกไม่ดีเลย

เพียงแวบเดียว เฉินตงที่ถูกเขามองเป็นหมาน้อยตัวหนึ่ง กลับกลายเป็นแขกคนสำคัญของพี่เขยเสียอย่างนั้น

ถ้าอย่างนั้นที่พึ่งพาของเขา ยังจะมีอะไรได้อีก?

สิ่งที่ยิ่งทำให้เขารู้สึกรังเกียจมากกว่า ก็คือพี่เขยนั้น พาเขามารับใช้เฉินตง!

“มีตาหามีแววไม่”

ชายวัยกลางคนปรายตามองหลี่ต้าเป่า ก่อนจะแอบขบปากเบาๆ

งานเลี้ยงในวันนี้ เขารู้ถึงที่ไปที่มาแล้ว

ในตอนแรกรู้ว่าท่านหลงช่วยเฉินตงซื้อไท่ติ่ง เขาก็ขายไท่ติ่งทิ้งอย่างไม่ลังเล ส่วนเหตุผลหลักๆ นั้น ก็คือไม่อยากจะมีเรื่องกับท่านหลง

ส่วนเรื่องกำไรหรือขาดทุนของไท่ติ่งนั้น เขาไม่ได้สนใจเลย

เพราะว่าบริษัทอสังหานี้เป็นสิ่งที่เขาใช้ในการฆ่าเวลาน้องชายของภรรยาที่ไร้ประโยชน์คนนี้

หลังจากขายไท่ติ่งทิ้ง เขาเองก็เคยบอกหลี่ต้าเป่ากลายๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ต้าเป่าจะไม่เข้าใจ แล้ววิ่งวุ่นไปมีเรื่องกับเฉินตง

มันเลยทำให้ท่านหลงมาถามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง!

ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าท่านหลงเป็นเพียงคนสำคัญของเฉินตง เพราะถึงอย่างไรความสามารถของเฉินตง ในสามปีนี้ เขาก็รู้จักเป็นอย่างดี

คนมีความสามารถแบบเฉินตง ไม่มีทางอยู่ที่บริษัทนาน ถ้าเกิดเจอคนที่ดีกว่า เขาก็คงจะไปแล้ว

แต่เพราะว่าอุปสรรคของการโยกย้ายทางภาคตะวันตกของเมือง เลยทำให้ท่านหลงมาถามด้วยตัวเอง นี่มันไม่ใช่การพึ่งพากันของคนสำคัญแล้ว แต่กลับเป็นเขามาช่วยเฉินตงทุกอย่าง มันมีความแตกต่างยังเห็นได้ชัดอีกด้วย!

คืนนี้ภายในห้องรับรองไท่ซาน เขาอยากจะปรับความเข้าใจ และให้หลี่ต้าเป่าขอโทษซะ

แต่เมื่อเฉินตงกับท่านหลงเดินเข้ามา หลี่ต้าเป่านั่งอยู่บนเก้าอี้เหมือนเป็นเจ้านายอย่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเลย

“ประธานโจว คุณเป็นคนยุ่งมากสินะ” ท่านหลงยิ้มเบาๆ

“ท่านหลงล้ออะไรเล่นเนี่ย เมื่อเทียบกับคุณแล้ว ฉันโจวเย่นชิวก็ไม่เท่าไหร่หรอก?” วัยกลางคนหยอกเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม

ในขณะนั้นเอง โจวเย่นชิวมองไปทางเฉินตง ก่อนจะยิ้มให้: “ไอน้อง!ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณเนี่ยอนาคตไกล สามารถซื้อไท่ติ่งได้ ฉันดีใจด้วยนะ!”

“ขอบคุณประธานโจว” เฉินตงพยักหน้าอย่างถ่อมตัว “ฉันมีวันนี้ได้ ก็เพราะการปลูกฝังของเจ้านายทั้งนั้นเลย”

สำหรับโจวเย่นชิว เขารู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ

ในสามปีนั้น สามารถทำให้เขาเปลี่ยนจากพนักงานธรรมดาให้มาเป็นรองผู้บริหารได้ เป็นเพราะความเห็นดีเห็นงามและการปลูกฝังของโจวเย่นชิวทั้งนั้น

มันไม่เหมือนกับการปลูกฝังให้ทำเรื่องไม่ดีเหมือนกันตอนที่เป็นผู้ช่วยให้กับหลี่ต้าเป่า นี่มันเป็นการนำพาของเจ้านายกับลูกน้องจริงๆ !

โจวเย่นชิวหัวเราะฮ่าๆ ก่อนจะเชิญท่านหลงกับเฉินตงมานั่ง

แต่ทว่า จริงๆ ด้วยฐานะของท่านหลงควรจะนั่งหัวโต๊ะหลัก แต่ตอนที่นั่งลง ท่านหลงย้ายไปอีกที่หนึ่ง แล้วให้เฉินตงนั่งตรงหัวโต๊ะ

ฉากนี้ มันทำให้โจวเย่นชิวม่านตาหดลง และหัวใจก็เต้นเร็วขึ้น

วินาทีต่อมาก เมื่อเขามองตาเฉินตง ก็มีแต่ความสงสัยและตกใจ

เมื่อนั่งลง โจวเย่นชิวมองหลี่ต้าเป่าด้วยสายตาเย็นชา: “หลี่ต้าเป่า เมื่อครู่ฉันพูดอะไรกับคุณ?”

หลี่ต้าเป่าแทบเป็นบ้า

ให้เขามารับใช้เฉินตง จะเป็นไปได้อย่างไร?

ที่บ้าน เขาหยิ่งจะตายไป ในตอนนี้มาเจอคำตำหนิของพี่เขย เลยเถียงกลับไป: “พูดอะไร?ให้ฉันมาเทเหล้าให้เฉินตงเหรอ?ทำไมต้องทำ?ก่อนหน้านี้ที่ไท่ติ่ง เขาตามตูดฉันมาติดๆ !”

เมื่อพูดออกไป ทั้งห้องรับรองก็เงียบสงัดลง

โจวเย่นชิวถลึงตา โกรธจนควันออกจมูก

ปัง!

โจวเย่นชิวตบโต๊ะเข้าอย่างจัง จนจานชามมันกระทบกันเสียงดัง

“หลี่ต้าเป่า ถ้าเก่งนักก็ทำอีกทีสิ ฉันเป็นพี่เขยคุณนะ!”

หลี่ต้าเป่าเถียงคอเป็นเอ็น: “คุณเป็นพี่เขยฉันแล้วยังไง?เชื่อไหมว่าฉันสามารถโทรไปหาพี่ฉันได้ตอนนี้เลย?”

โจวเย่นชิวหยุดการกระทำนั้นลง

หลายปีมานี้ เขาเป็นคนโดดเด่นภายนอก ในวงการธุรกิจก็รุ่งไม่น้อย

แต่ในบ้านนั้น เขากลับไม่กล้าปริปาก และยอมภรรยาตลอดเวลา หลี่ต้าเป่าเองก็อยู่ใต้การดูแลของภรรยาเขา อยู่ในบริษัทของเขากินๆ นอนๆ มาจนอายี่สิบกว่า

เพียงแต่ว่า วันนี้เขามาออกงานสำคัญแบบนี้ เพื่ออะไรกันนะ?

ไม่ใช่เพื่อให้หลี่ต้าเป่าได้ชดใช้และขอโทษหรอกเหรอ?

ท่านหลงไม่กล้ามีเรื่องด้วยด้วยซ้ำ คนไร้ประโยชน์อย่างหลี่ต้าเป่า จะมากล้าแบบนี้ได้อย่างไร?

เฉินตงนั่งตรงหัวโต๊ะอย่างนิ่งเฉย ปฏิกิริยาของหลี่ต้าเป่านั้นเป็นไปตามที่เขาคาด

แต่ทว่า เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงก่ำคอเป็นเอ็นของโจวเย่นชิว จู่ๆ เขาก็เห็นใจขึ้นมา

ดูๆ ไปแล้วประธานโจวอยู่ในบ้านคงจะเป็นรองน้องชายไม่น้อยเลย

ท่านหลง จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา: “ประธานโจว นี่เป็นวิธีแก้ไขปัญหา ที่คุณบอกในสายเหรอ?”

คำพูดหยอกนั้น มันทำให้ทุกอย่างผ่อนคลายลง

กลับทำให้คนนอบน้อมมากขึ้น

มันไม่เหมือนกับการเจอความสดใสจากเฉินตงเลย

“ท่านหลง ขอโทษ”

โจวเย่นชิวรีบขอโทษ ก่อนจะกัดฟันแล้วพูดกับหลี่ต้าเป่า: “หลี่ต้าเป่า ความจริงแล้ว ที่คืนนี้ฉันพาคุณมา ก็เพราะอยากให้คุณขอโทษเฉินตง แล้วฉันอยากให้คุณรีบจบเรื่องที่เกิดขึ้นทางภาคตะวันตกของเมืองที่คุณทำเอาไว้!”

“ไม่อย่างนั้น……”

“ไม่อย่างนั้นอะไร?” หลี่ต้าเป่าเอามือทั้งสองข้างรองหัวเอาไว้ด้านท้ายทอย โดยที่ไม่ได้มีท่าทีจะสนใจเฉินตงกับท่านหลงเลยด้วยซ้ำ

เขาพิงเก้าอี้ ก่อนจะหลับตาแล้วยิ้มเยาะ: “พี่เขย ฉันไม่สัญญา คุณจะมาทำร้ายฉันหรือเปล่านะ?”

“คุณ……”

โจวเย่นชิวโกรธเป็นอย่างมาก ฐานะของเขา ปกติต้องรักษาการกระทำเป็นอย่างมาก

อีกอย่าง ในฐานะนักธุรกิจ ต้องไม่แสดงสีหน้าท่าทาง

แต่ปฏิกิริยาของหลี่ต้าเป่า ทำให้เขาควบคุมต่อไปไม่ได้จริงๆ เขาพูดออกมาทั้งๆ ที่กัดฟันว่า: “คุณ คุณมันไร้ประโยชน์ ไม่มีอะไรมาช่วยคุณได้อีกแล้ว!”

เมื่อพูดจบภายใต้แววตาที่เต็มไปด้วยความตกใจของเฉินตงกับท่านหลง

จู่ๆ โจวเย่นชิวก็ลุกขึ้นมาปลดกระดุมคอเสื้อออก ก่อนจะหยิบเหล้าบนโต๊ะขึ้นมา แล้วสาวเท้าก้าวไปหาหลี่ต้าเป่า

ปัง!

ขวดเหล้าที่มีเหล้าอยู่เต็มถูกคว้ามา จากนั้นก็ฟาดไปที่หัวของหลี่ต้าเป่า

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset