Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 322 การลอบสังหารที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

กลางคืนที่เย็นเหมือนน้ำ

พระจันทร์ก็ถูกเมฆดำบดบังไปเกือบครึ่ง

เมื่อมองผ่านป่าไผ่ จะมองเห็นหินผาที่ยื่นออกมาเลือนราง

แต่ว่าบนนั้นมีอะไร เฉินตงมองเห็นไม่ชัดเจน

“เธอ ยังอยู่ตรงนั้นมั้ย?”

เฉินตงรู้สึกสับสน บ่นพึมพำคนเดียว

การยิงของยายเมิ่งเมื่อกี้ ทั้งๆที่สามารถฆ่าเขาได้ด้วยลูกธนูเพียงนัดเดียว แต่กลับจงใจส่งจดหมายเตือนเขา

มันแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในความแข็งแกร่งในการลอบสังหารของเธอ

เนื้อหาในจดหมาย เมื่อเปลี่ยนวิธีพูด ก็คือต่อให้หลังเขาของหินผามีการป้องกัน ยายเมิ่งยังคงสามารถฆ่าเขาได้

มีความแตกต่างเพียงอย่างเดียว ก็คือความยากเพิ่มขึ้น!

ราวกับกำลังพูดว่า ป้องกันให้แน่นหนา ถึงจะคู่ควรกับฐานะนักฆ่ามือพระกาฬของเธอ

ลูกธนูที่ยิงมาเมื่อกี้ นับเป็นความปรานีแล้ว

เฉินตงกลับยิ้มไม่ออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว ในทางกลับกันกลับมีความรู้สึกขุ่นเคืองมาก

เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ดังนั้นเขาจึงได้เปิดหน้าต่างออก

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด

ฉูบ!

ในความมืด ก็มีเสียงลมแตกบางเบาดังขึ้นมาอีก

ในความเลือนราง เฉินตงสามารถรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังมาอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่ครั้งนี้ เขาไม่ได้หลบ

ตูบ!

เสียงที่บางเบา ลูกธนูถูกตอกไปที่ผนังด้านนอกถัดจากหน้าต่าง และด้ามลูกธนูก็สั่น

และด้านบนยังคงมีจดหมายอยู่

เฉินตงหยิบจดหมายลงมาอย่างสงบใจเย็น

หลังจากเปิดออก มีเพียงตัวอักษรง่ายๆสองตัว

“แน่จริง!”

เขายิ้มเล็กน้อย ในรอยยิ้มแฝงไว้ด้วยความขมขื่นและทำอะไรไม่ได้

ตอนที่เปิดหน้าต่าง เขาก็มั่นใจแล้วว่ายายเมิ่งจะไม่ฆ่าเขาในคืนนี้

ไม่อย่างนั้น จดหมายเตือนเมื่อกี้ ก็จะไร้ความหมาย

มันคือจิตวิทยาของผู้แข็งแกร่ง

ดูถูกเพื่อลดความยากในการโจมตีฆ่ามด

ในทำนองเดียวกัน เฉินตงก็มีจิตวิทยาแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาถึงมั่นใจความคิดของยายเมิ่ง

อย่างไรก็ตามครั้งต่อไป อาจจะไม่เป็นแบบนี้แล้ว

เฉินตงส่ายหัว ขยำจดหมายเป็นก้อน โยนออกไปนอกหน้าต่าง แล้วปิดหน้าต่างอีกครั้ง

เงียบมาตลอดทั้งคืน

เมื่อฟ้าสาง

เฉินตงก็ตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เรียกหาท่านหลงกับกูหลังแต่เช้า เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

หลังจากฟังแล้ว สีหน้าของท่านหลงกับกูหลังก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

ต้องรู้ว่า ก่อนที่จะเข้ามาพักในคลับสี่ยิ่นนั้น

ระบบความปลอดภัยของคลับสี่ยิ่นได้เพิ่มมาถึงระดับที่สูงที่สุดแล้ว

และในขณะที่กูหลังพาทีมบอดี้การ์ดไปติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เขายังได้กวาดป่าไผ่ไปหนึ่งรอบราวกับไถนา

ถึงจะเป็นแบบนี้ ก็ยังมีช่องโว่?

“ขอโทษด้วยครับ คุณเฉิน บริเวณหลังเขา หินผาสูงชัน ภูเขาที่อันตราย ดังนั้นเมื่อวานตอนที่เข้ามาอยู่ ผมและทีมงานต่างคิดว่าคงไม่มีใครมาจากตรงนั้น แต่กลับคิดไม่ถึง ……..”

ใบหน้าของกูหลังเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ เนื่องจากการละเลยนี้ เมื่อคืนหากไม่ใช่ยายเมิ่งจงใจออมมือ บางทีตอนเช้าที่พวกเขาเปิดประตูเข้ามาสิ่งที่เห็นก็คือศพของเฉินตงแล้ว

“ไม่ต้องโทษตัวเอง อย่าว่าแต่พวกนายเลย ต่อให้เป็นฉันก่อนหน้านี้ก็คิดไม่ถึงว่าตรงนั้นคนก็สามารถไปได้”

เฉินตงโบกมือเพื่อขัดคำพูดของกูหลัง ความชันของภูเขาด้านหลัง มองออกไปแทบไม่มีที่ให้ยืนเลย มีเพียงหินผาที่ยื่นออกมาเท่านั้นที่สามารถยืนบนนั้นได้ แต่ถ้าหากอยากจะปีนจากยอดเขาด้านหลังเพื่อไปบนหินผา เป็นเรื่องที่มีความอันตรายต่อชีวิตอย่างมาก

ไม่โทษพวกนายที่ไม่ระวัง ต้องโทษที่นักฆ่าทุ่มสุดชีวิต!

“กูหลัง ก็รีบพาคนไปสร้างแนวป้องกัน ข้อผิดพลาดและช่องโหว่ที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อ จะไม่มีครั้งที่สองเด็ดขาด”

ท่านหลงออกคำสั่งด้วยเสียงขรึม สายตากลับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่

หลังจากที่กูหลังจากไป

ท่านหลงจึงได้พูดขึ้น “คุณชายสามารถรอดพ้นจากการลอบทำร้ายเมื่อคืน ถือว่าสวรรค์เมตตาแล้ว”

“เธอรู้สึกว่าเมื่อคืนฆ่าผมมันง่ายเกินไป ดังนั้นไม่คุ้มค่าที่จะฆ่าผม เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น “แต่หลังจากที่วางแนวป้องกันภูเขาด้านหลังเสร็จ เธอก็จะฆ่าผมอย่างไม่มีความปรานีแล้ว”

ท่านหลงถอนหายใจอย่างหวาดกลัว “คิดไม่ถึงจริงๆ ยายเมิ่งจะมาได้เร็วขนาดนี้ หากยืดเยื้อต่อไป บางทีอาจจะมีคนที่ต้องการแข่งขันต่อสู้กับมัน”

ม่านตาของเฉินตงค่อยๆหดเกร็ง แล้วก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ

หลังจากคลายออก เขาก็ถามขึ้น “ทางฝั่งพ่อผม ตรวจสอบคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินไปถึงไหนแล้ว?”

ท่านหลงส่ายหัว “ยังไม่รู้เลย แต่ตามที่กระผมติดต่อกับสายสืบที่อยู่ในบ้านบางส่วน ผลจากการสันนิษฐานขั้นแรก เรื่องนี้น่าจะไม่เกี่ยวข้องกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน”

“ไม่เกี่ยวข้อง?” เฉินตงตกตะลึง

ท่านหลงพูด “ช่วงนี้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินอยู่แต่ห้องพระ สวดมนต์ ทานเจนั่งสมาธิ ไม่ได้ติดต่อกับใครเลย คนสนิทข้างกายก็ไม่ได้ไปห้องพระพร้อมกับเธอ เหมือนได้ตัดขาดจากคนทางโลกไปเลย”

เฉินตงขยี้จมูก สายตาลึกๆ “หากไม่ใช่เธอ แล้วจะเป็นใครที่จะสามารถเป็นผู้นำการลอบสังหารนี้ได้?”

“ตระกูลหลี่? ตระกลูฉิน? หรือคุณชายยังมีศัตรูอื่นๆอีก?” ท่านหลงหยั่งเชิญถาม

เฉินตงส่ายหัว “พวกโง่อย่างตระกูลหลี่ทำเรื่องแบบนี้ไม่เป็น ตระกูลฉินยิ่งอยู่ยิ่งถดถอยอีกทั้งยังมีฉินเย่ฉินเสี่ยวเชียนเป็นผู้ควบคุมชะตาชีวิต ตระกูลฉินไม่กล้าทำเช่นนี้ สำหรับศัตรูคนอื่น……..”

เฉินตงมองท่านหลงอย่างตาละห้อย พูดอย่างไม่รู้จะทำยังไง “คุณก็รู้ ผมนั้นดีกับคนอื่นมาโดยตลอด จะเอาศัตรูมากมายมาจากไหน”

ท่านหลงนิ่งไปหลายวินาที ส่ายหัว “เรื่องนี้รอให้นายท่านตรวจสอบชัดเจนแล้วค่อยมาสรุปเถอะ”

……

ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

เฉินตงอยู่แต่ในลานป่าไผ่ไม่ได้ออกไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว

ภายใต้การเฝ้าระวังความปลอดภัยที่เข้มงวด นักฆ่าจะถูกพบเห็นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการตอบสนองอย่างรวดเร็วของกูหลังและทีมบอดี้การ์ด ก็ได้กำจัดนักฆ่าที่ยังไม่ทันจะได้ลงมือไปคนแล้วคนเล่า

เวลาสั้นๆเพียงหนึ่งสัปดาห์ ก็เกิดเรื่องลอบสังหารไปถึงสิบแปดครั้ง

ความถี่แบบนี้ รุนแรงมากทีเดียว

อีกอย่าง ตามเวลาที่ผ่าน นักฆ่าที่ปรากฏตัวในแต่ละวันยิ่งอยู่ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น

มันเหมือนกับสิ่งที่ท่านหลงคาดการณ์ไว้แต่แรก เรื่องราวที่เกิดขึ้น การลอบสังหารก็ค่อยๆ กลายไปเป็นสู่การไล่ล่าแบบแข่งขัน

ตามเวลาที่ผ่านไป หากไม่จัดการกับคนที่สั่งการภารกิจครั้งนี้ การปรากฏตัวของนักฆ่ามีเพียงแต่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เฉินตงแปลกใจก็คือ

จูเก่อชิงนำพาเครือข่ายข่าวกรองของตระกูลจูเก่อ รวมกับกำลังแรงที่แข็งแกร่งของโจวเย่นชิวและโจวจุนหลง ค้นหาไปทั่วเมือง กลับพบนักฆ่าที่น่าสงสัยหลายคน

แต่ไม่มีร่องรอยของทหารรับจ้างเดดพูลที่หลบหนีไปได้เลย!

ราวกับว่าหลังจากการต่อสู้กันที่เขาเทียนซาน ทหารรับจ้างเดดพูลที่หนีไปได้เกิดความกลัว เลยยอมแพ้เฉินตงไปโดยตรง เหมือนได้หนีไปไกลแสนไกล

กลางดึก

เฉินตงมองดูเอกสารการลอบสังหารในคลับสี่ยิ่นที่รวบรวมมาในหลายวันนี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้น สีหน้ามืดมนเหมือนน้ำ

“คุณชาย ดึกแล้ว พักผ่อนเถอะ” ท่านหลงยกน้ำขิงมาหนึ่งถ้วย “ดื่มน้ำขิงหน่อยให้ความกับอุ่นร่างกาย”

“ยังไม่มีข่าวคราวของทหารรับจ้างเดดพูลเลยเหรอ?”

เฉินตงวางเอกสารลง พูดด้วยเสียงขรึม “พวกเขาที่เป็นกลุ่มนักฆ่าที่โหดเหี้ยมอันตรายมากและไม่เอาชีวิตเลย เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมแพ้แบบนี้ ตามหาพวกเขาไม่เจอ ใจของผมก็ไม่สามารถที่จะสงบลงมาได้ และความถี่ในการลอบสังหาร แค่เมื่อวานวันเดียว พวกกูหลังก็พบเห็นนักฆ่าสี่คน ฆ่าไปแล้วสามคน หนีรอดไปหนึ่งคน”

ท่านหลงพูดไม่ออก และไม่รู้จะทำยังไงดี

สถานการณ์แบบนี้ ถูกรุกหนักเกินไปแล้ว

แต่นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับการลอบสังหาร นอกจากนี้ ก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว

พอดีในเวลานี้

ประตูห้องถูกผลักออกอีกครั้ง

กูหลังที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่รีบร้อน พูดอย่างระมัดระวัง

“คุณชาย เห็นคนที่หลังเขาแล้ว กล้องวงจรปิดจับภาพได้แล้ว ขอให้คุณชายกับท่านหลงออกไปจากห้องนี้!”

เฉินตงกับท่านหลงสบตากันแวบหนึ่ง

ยายเมิ่ง……..มาอีกแล้วเหรอ?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset