Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 324 ได้โปรดไปตายซะ

สายตาที่เปล่งแสงของเฉินตง ก็ได้มองไปที่ประตูด้านขวามือด้วยความตกใจ

ประตูของลานป่าไผ่ เป็นประตูไม้สองบานแบบโบราณ

แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ประตูก็ถูกสลักตัวอักษรไว้หนึ่งบรรทัด

นี่คือเรือนที่พักอาศัยระดับสูงสุดของคลับสี่ยิ่น โดยปกติได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสลักตัวอักษรที่ประตู

และ ในเนื้อหาคือ นักฆ่าอันดับยมราชลำดับที่สิบแปด ชินโกะ โดโมโตะ

เมื่อมองอย่างละเอียด เฉินตงรู้สึกคุ้นเคยกับอักษรบรรทัดนี้

ทันใดนั้น ในสมองของเขาก็ดังขึ้นด้วยเสียงโครม

ยายเมิ่ง!

เมื่อกี้ยายเมิ่งอยู่ข้างนอก สลักตัวอักษรบรรทัดนี้?

“คุณชาย รีบหนีไปกับพวกเรา!”

เห็นเฉินตงที่ตะลึงอยู่ บอดี้การ์ดข้างกายอดไม่ได้ที่จะกระชากเขาไปหนึ่งที

เมื่อเฉินตงรู้สึกตัว ก็วิ่งตามบอดี้การ์ดออกไปข้างนอก วิ่งไปอีกทางหนึ่งของป่าไผ่

แต่ในเวลานี้ สมองของเขาได้ถูกคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำไปนานแล้ว อารมณ์กำลังเดือดพล่าน

ชินโกะ โดโมโตะอันดับยมราชลำดับที่สิบแปด มิน่าล่ะพวกกูหลังที่เยอะขนาดนั้นยังขวางเขาไม่อยู่!

นักฆ่ามือพระกาฬระดับนี้ ต่อให้สร้างความคุ้มกันอย่างแน่นหนา ก็ยังคงสามารถเข้ามาได้โดยตรง

ก็เหมือนกับในตอนนั้นคุนหลุนพวกเขาสามคนที่เป็นนักฆ่ามือพระกาฬ ที่ลอบสังหารRothschild

แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่เข้าใจก็คือ ทำไมยายเมิ่งถึงได้จงใจเขียนอักษรบรรทัดนั้นเตือนเขา มีจุดประสงค์อะไร?

ผู้หญิงหยิ่งผยองคนนี้ อยู่ในเวลานี้ยังคงความหยิ่งผยองที่เป็นของเธอโดยเฉพาะอยู่อีกเหรอ?

เพื่อที่จะเตือนฉัน ทำให้ฉันรอดพ้นจากการลอบสังหารของชินโกะ โดโมโตะ แล้วสู้กับเธอเพื่อดูว่าใครจะแน่กว่ากัน?

เฉินตงที่ใจลอย แต่ฝีเท้าของเขากลับเร็วมาก

คิดถึงลูกธนูที่ยายเมิ่งยิงมาเมื่อกี้ จู่ๆเฉินตงเหมือนจะเข้าใจบ้างแล้ว

ใช่แล้ว ธนูนัดเมื่อกี้หากยิงเพื่อจะเอาชีวิตคนจริง หลบยังไงก็หลบไม่พ้น

พอมาคิดดู ธนูนัดนั้นน่าจะมีความหมายมากกว่าการเตือน!

หลังจากที่คิดออก ทันใดนั้นเฉินตงก็รู้สึกตลกเล็กน้อย

ความปลอดภัยของชีวิตตัวเอง กูหลังพาบอดี้การ์ดฝีมือดีหลายสิบคนและยังมีบอดี้การ์ดทั้งหมดของคลับสี่ยิ่นยังคุ้มกันเขาไม่ได้

สุดท้ายกลับต้องมาอาศัยนักฆ่ามือพระกาฬคนหนึ่งที่ต้องการฆ่าเขา มาเตือนเขา?

ซาซาซา………

สายลมยามค่ำคืน พัดจนต้นไผ่ในป่าไผ่แกว่งไปมา ใบไผ่ร่วงลอยเต็มท้องฟ้า

บริเวณโดยรอบเย็นมาก

ฝีเท้าที่เหยียบบนใบไผ่ ยังทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบ

เสียงปืนที่ด้านหลัง ค่อยๆเบาลง

“คุณชาย น่าจะจัดการเรียบร้อยแล้ว!”

เมื่อได้ยินเสียงปืนที่เบาลง บอดี้การ์ดข้างกายก็หัวเราะอย่างโล่งใจ

และแล้ว

ฉึก!

ในความมืด จู่ๆ ก็มีแสงเย็นวาบวาบขึ้นมา

เสียงหัวเราะของบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆหยุดทันที ทันใดนั้นร่างของเขาก็หยุดอยู่กับที่

“ระวังตัว!”

บอดี้การ์ดเจ็ดคนที่เหลือก็เหมือนกับกำลังเผชิญกับศัตรูที่ทรงพลัง ทยอยกันหันกลับมา มาล้อมเฉินตงไว้ตรงกลาง

เฉินตงตกใจจนปากอ้าตาค้าง มองบอดี้การ์ดตรงหน้าอย่างไม่กล้าจะเชื่อ

รอยเลือดสด ไหลออกมาจากปากของเขาอย่างช้าๆ

ตามมาด้วย

เสียงพรึบหนึ่งที บอดี้การ์ดได้ล้มลงไปบนพื้น

ม่านตาของเฉินตงหดเกร็ง หนังหัวชา

เขาเห็น ลูกดอกคุไนของนินจา เสียบอยู่ที่หลังคอของบอดี้การ์ดพอดี ลึกจนสามารถมองเห็นกระดูก!

ภาพที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เฉินตงเย็นไปทั้งตัว เหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง

ลมกลางคืนพัดมา ร่างกายของเฉินตงก็สั่นสะท้านทันที

เขาหรี่ตาลง และกวาดมองไปรอบๆ ด้วยความกลัว

แต่บริเวณโดยรอบ นอกจากเสียงใบไผ่ที่สั่นไหวในสายลม ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นใดเลย

แต่ในเวลานี้ เสียงปืนที่ดังมาจากลานป่าข้างหลัง ก็หยุดลงทันที

อากาศที่เงียบ เสมือนกับมือไร้รูปขนาดใหญ่ได้บีบคอของคนเอาไว้ ทำให้คนหายใจไม่ออก

ในความเงียบ แผ่นหลังของเฉินตงเปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่เย็นยะเยือก

และบอดี้การ์ดทั้งเจ็ด แต่ละคนต่างก็ดูตื่นตระหนก และมีเหงื่อออกเต็มหัว

หากไม่ใช่เพราะความเป็นมืออาชีพ เกรงว่าพวกเขาจะรักษาความสงบไว้ได้ยาก

ซาซา……

ใบไผ่บนหัวก็ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง

เฉินตงเงยหน้าขึ้นอย่างไม่รู้ตัว หรี่ตาลง มองผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยใบไผ่ เขาเห็นเงามืดที่เลือนราง บินผ่านหัวและท้องฟ้า

“อยู่ด้านบน!” เขาตะโกนอย่างเสียงดังไปหนึ่งที

เกือบในเวลาเดียวกัน เงาดำนั้นได้วาดพาราโบลากลางอากาศ และตกลงไปตรงหน้าทิศทางด้านหน้าที่พวกเขาวิ่งหนี

“ตามฉันมา!”

แรงแห่งการฆ่าได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบอดี้การ์ดหนึ่งในนั้น ชักปืนออกมา พาบอดี้การ์ดสามคนบุกเข้าไปโดยตรง

บอดี้การ์ดอีกสามคนที่เหลือถอยกลับมาพร้อมกัน ล้อมเฉินตงไว้ตรงกลางอย่างแน่นหนา

“กลับมา!”

เฉินตงตะโกนอย่างเสียงดัง

สำหรับความเก่งกาจของนักฆ่าอันดับยมราช เขาได้เห็นความเก่งเพียงนิดเดียวของคุนหลุนและยายเมิ่ง ก็รู้ถึงความเก่งกาจของมัน

ยิ่งไปกว่านั้น เงาดำตรงหน้า คืออันดับยมราชลำดับที่สิบแปด

แม้ว่าทีมบอดี้การ์ดของพ่อทุกคนจะเก่งการต่อสู้ ทั้งหมดจะเป็นทหารที่เก่งกาจแข็งแกร่ง

แต่เมื่อเทียบกับนักฆ่ามือพระกาฬอย่างอันดับยมราช สุดท้ายก็เทียบไม่ได้

แต่

ป้าง ป้าง ป้าง………

บอดี้การ์ดสี่คนยิงปืนพร้อมกัน

กระสุนพุ่งข้ามท้องฟ้า และตกลงไปบนเงาดำตรงหน้าป่าไผ่ได้อย่างแม่นยำ

“ยิงโดนแล้ว!”

บอดี้การ์ดสี่คนรู้สึกดีใจตื่นเต้นทันที

“เป็นไปไม่ได้ มันไม่ง่ายขนาดนั้น รีบกลับมา!”

หนังหัวของเฉินตงชา ขุนบนร่างกายก็ลุกซู่ขึ้นมา ใช้แรงทั้งหมดในการตะโกน

แต่ในเวลานี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหน้าสุดก็หยุดฝีเท้าทันที ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากและอุทานออกมา

“ไม่ใช่คน มันเป็นคนกระดาษ!”

เกือบในเวลาเดียวกัน

เฉินตงก็เห็นร่างสีดำ ดิ่งลงมาจากฟ้า

แสงเยือกเย็นนั้น ขยายออกเป็นวงกว้าง

แสงแทงเข้าที่ตาจนต้องหรี่ตาลง

และได้หายไปในพริบตา

ร่างที่ดิ่งลงมาจากฟากฟ้าโบกดาบยาวในมือของเขา ทำให้เกิดประกายแสงอันเยือกเย็นขึ้น

ดังติดต่อกันสี่ที เสียงที่คมดาบเฉือนผิวเนื้อ

ทั้งหมดนี้ ราวกับว่าขึ้นขึ้นภายในหนึ่งวินาที

ร่างสีดำที่เหมือนภูตผี มันได้แกว่งไกวดาบผ่านบอดี้การ์ดสี่คน คมดาบตั้งอยู่ท่ามกลางบอดี้การ์ดสี่คน

ฉึก!

เกือบจะในเวลาเดียวกัน เลือดสี่สายก็ได้พุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ พุ่งออกมาจากคอของบอดี้การ์ดทั้งสี่คน

ตามมาด้วย ทั้งสี่คนก็ล้มลงไปบนพื้นพร้อมกัน

ภาพนี้ มันสะเทือนขวัญอย่างมาก

ใครมันจะไปคิดถึง ว่าภาพเหตุการณ์ในหนัง กลับเกิดขึ้นในชีวิตจริง?

ร่างกายเฉินตงเต็มไปด้วยความหนาวเย็น ดวงตาของเขาหรี่ลงจนเป็นรอยตะเข็บ ฉายความเย็นอย่างไม่รู้จบ

เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน บอดี้การ์ดสามคนรอบตัวเขากำลังตัวสั่นพร้อมกัน

ความหวาดกลัว ที่กระโจนออกมานั้น ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าเหตุผล ความสงบ หรือความเป็นมืออาชีพจะสามารถปกปิดได้

เหมือนภูตผีปีศาจ เห็นเลือดก็สิ้นใจทันที

ความโหดร้ายแบบนี้ ใครจะไม่กลัว?

เวลานี้

เสียงแหบและงุ่มง่ามเสียงหนึ่ง เปล่งออกมาจากปากของร่างที่ถือดาบ

“ชินโกะ โดโมโตะ ได้โปรดไปตายซะ”

คำพูดประโยคง่ายๆ เผยให้ถึงความเย็นยะเยือกอย่างไม่สิ้นสุด

ในความเผด็จการและมั่นใจ ยิ่งทำให้คนหนังหัวจะระเบิด เหมือนตกลงไปในเหวลึก

เสมือนเสียงสวดไล่ล่าชีวิต

และศพของบอดี้การ์ดสี่คนที่อยู่บนพื้น เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าคำพูดประโยคนี้ของเขามีน้ำหนักมากแค่ไหน

“คุณชาย รีบหนีเร็ว!”

ทันใดนั้น บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหน้าจู่ๆก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

อารมณ์ความรู้สึกของเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างมาก หัวใจกระตุกด้วยความแรงไปหนึ่งที

ความรู้สึกแบบนี้อีกแล้ว!

ช่างเป็นความรู้สึกที่น่ารำคาญมาก!

“ไป ไปพร้อมกัน ! หนีไปข้างหลัง ยังพอมีโอกาสอยู่!”

เฉินตงพูดอย่างคาใจ

“พวกเราเต็มใจไปตายเพื่อตระกูลเฉิน!”

บอดี้การ์ดทั้งสามคนพูดประโยคนี้พร้อมกัน จากนั้นบุกเข้าไปหาชินโกะ โดโมโตะซึ่งอยู่ไม่ไกลอย่างไม่กลัวความตาย

“กลับมาเดี๋ยวนี้!”

ตาของเฉินตงก็แดงขึ้นมาทันที เดิมอยากจะคว้าตัวบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหน้าสุดคนนั้นเอาไว้

แต่ว่าทั้งสามคนนั้นว่องไวมาก ไม่สามารถที่จะคว้าได้เลย!

ตอนที่พุ่งตัวออกไปนั้น ทั้งสามคนก็ชักปืนออกมาพร้อมกัน

“เห่อ!”

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ปากของชินโกะ โดโมโตะก็ได้เปล่งเสียงหัวเราะที่ดูถูกออกมา

ฉูบ ฉูบ ฉูบ………

ในความมืดมิด แสงอันเย็นยะเยือก ที่เหมือนกับแสงเลเซอร์ ไขว้กันปรากฏตรงหน้าบอดี้การ์ดทั้งสามคน

เหมือนกับถูกเฉือนเนื้อยังไงอย่างงั้น บาดแผลเกิดขึ้นบนร่างของบอดี้การ์ดทั้งสามในทันที และเลือดก็กระเซ็นออกมาราวกับฝนตก

“เซอร์คัมเฟลกซา?!”

หัวสมองของเฉินตงดังระเบิดขึ้นด้วยเสียง “โครม” ลูกตาของเขาแทบจะถลนออกมา

กับดักที่ติดตั้งอยู่บนเขาเทียนซานวันนั้น ก็ฝีมือของชินโกะ โดโมโตะ?

เสียงลมพัด มันหายวับไปในพริบตา

บอดี้การ์ดทั้งสามคนหยุดอยู่กับที่พร้อมกัน โดยไม่ได้ยิงปืนแม้แต่นัดเดียว แต่ร่างของพวกเขาได้นองเต็มด้วยเลือดนานแล้ว กลายเป็นชายสามคนที่เปื้อนเลือด แล้วล้มลงกับพื้นพร้อมๆกัน

น้ำเสียงที่เย็นยะเยือก ดังสะท้อนอยู่ในป่าไผ่อีกครั้ง

“ชินโกะ โดโมโตะ ได้โปรดไปตายซะ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset