Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 331 ส่งเต้าจูน

ภายในห้อง บรรยากาศเงียบสงัด

เฉินตงค่อยๆ เหลือบตาไปมองโทรศัพท์ที่ท่านหลงยื่นมาให้

บนหน้าดาร์กเว็บ ภารกิจลอบสังหารขององค์กร hidden killers

มีรูปเคียวมรณะเพิ่มขึ้นมาอีกสามเล่ม

ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งสัปดาห์ มีนักฆ่าระดับพระกาฬจากอันดับยมราชอีกสามคน ที่ให้ความสนใจภารกิจลอบสังหารนี้ !

เมื่อเทียบกับความหวาดกลัวก่อนหน้านี้

เฉินตงในตอนนี้ ดูสงบนิ่งอย่างน่าประหลาดใจ

เขาจ้องมองท่านหลง : “สืบค้นรายละเอียดของนักฆ่าระดับพระกาฬที่อยู่ในอันดับยมราชเหล่านี้ได้หรือยัง ?”

ทุกคนต่างผงะไปชั่วครู่

ท่าทีที่สงบนิ่งของเฉินตง อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน

“สืบ สืบออกมาได้แล้วครับ” แววตาของท่านหลงซับซ้อน ในขณะที่กำลังตกตะลึงอยู่นั้น เขาก็รีบพูดขึ้นในเวลาเดียวกัน: “สองในสามอยู่ในอันดับที่ไม่สูงนักในอันดับยมราช มีเพียงคนเดียวที่……”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ท่านหลงจงใจหยุดพูดไปครู่หนึ่ง

เขาสูดหายใจเข้าหนึ่งครั้ง แล้วจึงพูดต่อว่า : “คนคนนี้จัดอยู่ในอันดับที่ 10 ในอันดับยมราช ! สมญานามว่า ยิวหมิน !”

“ยิวหมิน? อันดับ 10 ? น่าสนใจดีนี่”

เฉินตงลูบคางแล้วยิ้มออกมาอย่างประหลาด

ภาพนี้ทำให้ท่านหลงและพวกของกู้ชิงหยิ่งตกใจจนอ้าปากค้าง

ปฏิกิริยาเช่นนี้คืออะไรกันแน่ ?

นักฆ่าระดับพระกาฬอันดับ 10 ในอันดับยมราช อยู่ในอันดับที่สูงกว่าชินโกะ โดโมโตะเมื่อสัปดาห์ก่อนถึงแปดอันดับ !

ทำไมถึงยังสงบนิ่งได้ถึงขนาดนี้ ?

“คุณชาย คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” คุนหลุนถามหยั่งเชิง

เขาและฟ่านลู่ต่างก็เป็นนักฆ่าระดับพระกาฬในอันดับยมราช จึงเข้าใจในการจัดอันดับนักฆ่าอันดับยมราชเป็นอย่างดี

ยิ่งอยู่ในอันดับต้นๆ ความสามารถยิ่งน่ากลัว

ชินโกะ โดโมโตะ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 18 ก็ทำให้เฉินตงและฟ่านลู่ไปยืนอยู่ตรงประตูนรกได้แล้ว

อันดับที่ 10……เท่ากับว่าความตายที่แท้จริงกำลังมาถึงแล้ว !

แต่ปฏิกิริยาของเฉินตง กลับทำให้ทุกคนคาดไม่ถึง !

“ไม่เป็นไร”

เฉินตงส่ายหัว แล้วอธิบายออกมาหนึ่งประโยคว่า : “ตอนนี้ฉันมีปัญหามากมายพออยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกต่อไป”

ได้ยินดังนั้น

สีหน้าของทุกคนก็ค่อยๆ เศร้าหมองลง

ภารกิจลอบสังหารขององค์กรhidden killers ประกาศออกมานานขนาดนี้ นอกจากจะมีการยกเลิกภารกิจ มิเช่นนั้นก็ไม่มีวิธีที่จะยุติทุกอย่างลงได้

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกจนใจ พร้อมทั้งอับอายและโกรธเคืองในเวลาเดียวกัน

ต่างก็รู้ดีว่า เบื้องหลังของเฉินตงคือตระกูลเฉินที่ยิ่งใหญ่และกว้างขวาง !

แต่ไหนแต่ไรมา ตระกูลเฉินไม่เคยอับจนหนทางเช่นนี้ !

กู้ชิงหยิ่งเดินก้าวเข้าไปหาเฉินตง แล้วตบหน้าอกเขาเบาๆ และพูดปลอบใจว่า : “ไม่เป็นไรนะคะ มีฉันอยู่ มีพวกเราทุกคนอยู่ ฉันขอให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยอีกแรงหนึ่งแล้ว”

เรื่องที่แม้แต่ตระกูลเฉินก็ทำอะไรไม่ได้

กู้โก๋ฮั๋วสองสามีภรรยาจะทำอะไรได้ ?

เฉินตงรู้สึกหดหู่ในใจ แต่ก็รู้ดีว่ากู้ชิงหยิ่งกำลังพยายามปลอบใจเขา จึงยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน : “ผมเข้าใจดี เพียงแต่ตอนนี้สถานการณ์อยู่เหนือการควบคุมของเรา ต่อให้กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์”

ขณะที่พูด เขาก็กวาดสายตามองทุกคน

คุนหลุนยังนั่งอยู่บนรถเข็น

ฟ่านลู่เองก็ยังบาดเจ็บอยู่

ทั้งสองคนล้วนแล้วแต่เป็นนักฆ่าระดับพระกาฬในอันดับยมราชทั้งสิ้น คนหนึ่งอยู่ฝนอันดับที่ 23 ส่วนอีกคนอยู่ในอันดับที่ 20 หากทั้งสองอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เขาก็คงนอนหลับได้อย่างไร้กังวล

แต่สภาพของทั้งสองในตอนนี้ มีความสามารถในการต่อสู้ลดลงอย่างมาก

ส่วนกูหลังและทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เฉินตงเองไม่กล้าคาดหวังไว้สูงนัก แค่ชินโกะ โดโมโตะ ก็ต้องต่อสู้กันอย่างสุดชีวิตแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยิวหมิน ซึ่งอยู่ในอันดับสิบของอันดับยมราช !

แต่ในใจของเฉินตงรู้ดีว่า ตัวเขาคือเสาหลัก ถ้าหากเขายอมแพ้เสียก่อน ในขณะที่ทุกคนยังไม่ยอมแพ้ ครั้งนี้ทุกอย่างคงต้องจบลงจริงๆ !

เฉินตงมองดูทุกคนที่อยู่ในอารมณ์หม่นหมอง จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“จริงสิ เสี่ยวหยิ่ง พี่เสี่ยวลู่ ทำไมพวกคุณถึงยังไม่ออกเดินทางไป? ตอนนั้นคุนหลุนเห็นพวกคุณเดินเข้าไปด้านในทางเดินขึ้นเครื่องแล้วนี่”

ได้ยินดังนั้น

คุนหลุนเองก็แสดงสีหน้าสงสัยออกมา แล้วหันมองฟ่านลู่เหมือนมีคำถาม

ฟ่านลู่ถอนหายใจออกมา : “ก็เสี่ยวหยิ่งน่ะสิ เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่าคุณมีเรื่องบางอย่างปิดบังเธอ จนถึงวินาทีสุดท้ายที่จะขึ้นเครื่อง เธอก็ตัดสินใจยกเลิกทุกอย่าง แล้วพาฉันกลับออกจากสนามบิน”

“เสี่ยวหยิ่งเกรงว่าคุณจะเป็นห่วง หลังจากออกจากสนามบินแล้วจึงไม่ได้ติดต่อคุณ และพาฉันไปเข้าพักที่โรงแรมไท่ซาน”

“เมื่อมีเวลาว่าง ฉันจึงล็อกอินเข้าไปในดาร์กเว็บ ผลปรากฏว่า ได้พบเข้ากับภารกิจลอบฆ่าคุณเฉินที่องค์กรhidden killersประกาศออกมา”

พูดถึงตรงนี้ ฟ่านลู่ก็เหลือบมองไปที่กู้ยิงหยิ่งอย่างมีนัย แล้วแสยะยิ้มออกมา

“เสี่ยวหยิ่ง ตอนนี้ฉันเชื่อในสัมผัสที่หกของเธอแล้ว สัมผัสที่หกที่เธอมีต่อสามีนั้นแม่นยำจริงๆ!”

“พี่ฟ่านลู่ อย่าล้อฉันเล่นสิคะ” กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอาย ใบหน้าอันงดงามแดงก่ำ

สัมผัสที่หก ? !

เฉินตงรู้สึกตกตะลึง และเหลือบมองกู้ชิงหยิ่งด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง ในใจรู้สึกถึงความอบอุ่นที่พลุ่งพล่านขึ้นมา

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า การพยายามปลอบใจแสนซาบซึ้ง จะจบลงด้วยสิ่งที่ใกล้เคียงกับคำว่า “ไร้สาระ”

แต่ทว่า สิ่งที่เรียกว่าสัมผัสที่หกนี้ ดูเหมือนเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น

ทุกสิ่งที่ภรรยาสงสัย คาดว่ามาจากการเฝ้าสังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อยู่ตลอดเวลา ดูเหมือนจะเป็นคนที่เข้าใจผมมากเกินไปแล้ว ?

ตอนนี้เอง

จู่ๆ ก็มีเสียงที่เคร่งขรึมดังขึ้นภายในห้อง

“เสี่ยวลู่ คุณไม่เคยบอกผมมาก่อนเลยว่า คุณคือยายเมิ่ง นักฆ่าอันดับที่ 20 ในอันดับยมราช คุณโกหกมาตลอดใช่ไหม?”

คำพูดเพียงประโยคเดียว ทำให้บรรยากาศภายในห้องหยุดนิ่งในทันที

พวกเฉินตงค่อยๆ หันมองคุนหลุน

ตอนนี้คุนหลุนซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่ จึงมองไม่เห็นสีหน้าชัดเจนนัก

แต่ทุกคนต่างฟังออกว่า ขณะที่คุนหลุนเอ่ยคำพูดประโยคนี้ออกมานั้น เขากำลังสะกดกลั้นอารมณ์โกรธอยู่

“พี่คุนหลุน……”

ฟ่านลู่หน้าถอดสีทันที ริมฝีปากของเธอขยับ คิดที่จะกล่าวอธิบาย

แต่ท่านหลงกลับพูดตัดบท : “เอาล่ะ เสี่ยวลู่ พาคุนหลุนออกไปข้างนอกเถอะ ไปอธิบายให้เข้าใจ”

ฟ่านลู่พยักหน้า จากนั้นจึงพาคุนหลุนออกไป

หลังจากทั้งสองออกไปแล้ว เฉินตงก็พูดขึ้นด้วยความสงสัย : “ท่านหลง ทำไมนายถึงไม่ให้พี่เสี่ยวลู่พูดที่นี่ ?”

“เกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วยล่ะ?”

ท่านหลงยักไหล่ แล้วยิ้มออกมาอย่างประหลาด : “เสี่ยวลู่ปิดบังฐานะ เพราะเธอมีเหตุผลส่วนตัวของเธอ ทำไมจะต้องซักไซ้ให้มากความด้วย อย่างไรเสียเธอก็จงรักภักดีต่อคุณชายมาโดยตลอด ครั้งนี้ยังช่วยชีวิตคุณชายเอาไว้อีก”

“เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายให้พวกเราฟัง คนเดียวที่เธอต้องอธิบายก็คือคุนหลุน ความสัมพันธ์ระหว่างเสี่ยวลู่กับคุนหลุน แตกต่างกับความสัมพันธ์กับพวกเราโดยสิ้นเชิง

เฉินตงยิ้มเล็กน้อย และเข้าใจทุกอย่างในทันที

จากนั้นจึงเหลือบมองเสี่ยวหยิ่งโดยไม่รู้ตัว

ไม่เหมือนกันจริงๆ

ในเวลาเดียวกันนี้

ตอนเหนือสุดซึ่งห่างออกไปไกล

พื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และสายลมอันหนาวเหน็บ

หิมะขาวราวกับขนห่านลอยพลิ้วไปตามสายลมหนาวทั่วท้องฟ้า

ความเงียบเหงาและรกร้าง ถือเป็นคำจำกัดความของดินแดนแห่งนี้

ภายใต้สายลมหนาวและหิมะ คุกมืดสูงตระหง่านตั้งอยู่ท่ามกลางธารน้ำแข็ง ดูราวกับสัตว์ป่าดุร้ายที่กำลังหลับใหลอยู่อย่างเงียบๆ และกำลังอดทนต่อความรกร้างว่างเปล่าของพื้นที่แห่งนี้

แต่ทว่า

วันนี้ กำลังเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นในคุกมืด

มีเสียงตะโกนกู่ร้องดังก้องกังวานอยู่ภายในคุกมืด

ทั้งนักโทษที่อยู่ด้านล่างและผู้คุมที่อยู่ด้านบน ทุกคนต่างตื่นเต้นยินดี ราวกับมีงานรื่นเริง

ด้านหน้าประตูใหญ่ของคุกมืด

มีรถจี๊ปทหารจอดเรียงกันอยู่จำนวนสามสิบคัน

ฝูงชนจำนวนมาก แต่ไม่มีใครส่งเสียง บรรยากาศเงียบสงัดอย่างน่าประหลาด

ฉากนี้ ทำให้เกิดบรรยากาศที่กดดันอย่างรุนแรง

ผู้คุมของคุกมืดทั้งหมดต่างยืนนิ่ง

“ต้องออกไปจริงๆเหรอ?”

ชายชราผมขาวหันมามองเฉินเต้าจูนด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง : “คุณไม่จำเป็นต้องออกไป”

“ยี่สิบปีแล้ว ต้องออกไปเดินเล่นสักหน่อยแล้ว”

เฉินเจ้าจูนหยิบรูปถ่ายสีเก่าซีดใบหนึ่งขึ้นมาจากหน้าอก บนรูปถ่ายพอจะมองออกอย่างเลือนรางว่าเป็นรูปของเด็กสองคนที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา

“มิฉะนั้น บนโลกใบนี้จะไม่มีตำนานของเต้าจูนคนนี้อยู่อีกต่อไป!”

เฉินเต้าจูนเก็บรูปถ่ายกลับเข้าไปไว้ในอกด้วยท่าทีจริงจัง จากนั้นจึงหันไปพูดกับชายชราผมขาวอย่างร่าเริงว่า : “ไปก่อนนะ !”

หลังจากเฉินเต้าจูนขึ้นรถไปแล้ว รถจี๊ปทหารจำนวนสามสิบคันก็เคลื่อนขบวนออกไปอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นจึงค่อยๆ แล่นไปบนธารน้ำแข็งที่อยู่ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา

ฮึมฮึมฮึม……

บนท้องฟ้าเหนือคุกมืด มีเฮลิคอปเตอร์อีกสิบลำบินขึ้นไปในเวลาเดียวกัน

เสียงดังกระหึ่ม คอยบินคุ้มกันตามหลังขบวนรถทหารไป

“น้อมส่งเต้าจูน!”

“น้อมส่งเต้าจูน!”

……

ด้านหน้าคุกมืด ผู้คุมทุกคนต่างกำหมัดขวาขึ้นมาทาบไว้ที่หน้าอก และคุกเข่าลงข้างหนึ่ง พร้อมทั้งตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังก้อง

ในเวลาเดียวกันนี้

“น้อมส่งเต้าจูน!”

ภายในคุกมืด นักโทษทุกคนต่างคุกเข่าลงข้างหนึ่ง และโกนด้วยเสียงอันดังก้องเช่นเดียวกัน

น้ำเสียงสะเทือนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ราวกับว่าสามารถหยุดลมและหิมะที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ได้

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset