Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 333 ความรู้สึก

กูหลังกับฟ่านลู่ทำหน้าตาสงสัย

แต่ท่านหลงที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับนั้นกลับตกตะลึงไปเรียบร้อยแล้ว

เต้าจูน

ลุง

ท่านหลงพยายามใช้สมองทั้งหมดที่มีคิดทบทวน แต่เขากลับนึกออกเพียงแค่ชายที่รูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ที่ดูแล้วพอจะมีความเชื่อมโยงกับสองสิ่งนี้ได้

เขา……กลับมาแล้วจริงๆเหรอ?

ทันใดนั้น ท่านหลงก็สีหน้าซีดเผือด

เขาสูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้ง แล้วพูดออกมาด้วยความโล่งใจ : “ไม่แน่ว่า ภารกิจปกป้องคุณชายในครั้งนี้ อาจจะสำเร็จแล้ว !”

กูหลังและฟ่านลู่หน้าถอดสีพร้อมกัน

การคุ้มกันของคุนหลุนและฟ่านลู่ รวมไปถึงทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเฉินเต้าหลิน และทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคลับสี่ยิ่น ยังไม่อาจวางใจได้

แต่คนเพียงคนเดียว กลับทำให้ท่านหลงพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ ?

ทันใดนั้น บรรยากาศภายในรถก็ดูแปลกไปทันที

ขบวนรถที่แล่นมาอย่างทรงพลัง มุ่งหน้าไปยังสุสานที่แม่ของเฉินตงถูกฝังอยู่

ซึ่งถือว่าสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนที่อยู่ระหว่างทางได้เป็นอย่างดี และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ถ่ายรูปลงอินเทอร์เน็ต

เรื่องนี้ เฉินตงเองก็ขี้เกียจสนใจ

เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ หากต้องทำอะไรที่เกินกว่าเหตุก็จำเป็นต้องทำ

หลังจากเฉินตงพาขบวนรถออกจากคลับสี่ยิ่น

ก็มีคลื่นลูกใหญ่ ที่สั่นสะเทือนไปถึงตระกูลใหญ่ๆ ทุกตระกูลทันที

เมืองหลวง ในบ้านตระกูลหลี่

หลี่เต๋อซานนั่งมองจอคอมพิวเตอร์ด้วยความโมโห

ในคอมพิวเตอร์ เป็นคลิปวิดีโอในขณะที่เฉินตงกำลังพาขบวนรถแล่นออกจากคลับสี่ยิ่น

“เขาเสียสติไปแล้วเหรอ? เขาไม่กลัวตายหรือยังไง ? เขาจะไปไหนกันแน่ ?”

คำถามเกิดขึ้นในสมองของหลี่เต๋อซานไม่หยุด ทำให้ตัวของเขาสั่นเทาอยู่ตลอดเวลา

เขาปรารถนาให้เฉินตงตาย หลังจากประกาศภารกิจลอบสังหารเฉินตงในดาร์กเว็บแล้ว ตระกูลหลี่ก็ตั้งตารอฟังข่าวดีเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเฉินตง

สำหรับหลี่เต๋อซานแล้ว ในขณะที่เขาตั้งตารอให้เฉินตงตาย เขาก็เสพสุขอยู่กับการที่เฉินตงต้องคอยใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ในทุกๆ วันอีกด้วย

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ระบายความแค้น !

ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะให้เฉินตงเข้ามาดูแลตระกูลหลี่ ถึงขนาดดึงตระกูลหลี่ทั้งตระกูลลงไปก้มหัวให้กับเฉินตง

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลี่ หรือตัวเขาเอง หลี่เต๋อซาน ไม่เคยต้องรู้สึกคับข้องใจเช่นนี้มาก่อน

ตอนนี้พ่อได้จากโลกนี้ไปแล้ว หลี่เต๋อซานเป็นคนดูแลตระกูลหลี่ จึงให้คำมั่นว่าจะต้องฆ่าเฉินตงให้ได้

เขาชอบความรู้สึกที่ถือไพ่เหนือกว่า และคอยเฝ้าดูเฉินตงเข้าใกล้ความตายทีละนิดๆ

ถึงต้องมีจุดจบเช่นนี้ ตระกูลเฉินทั้งตระกูล และหลี่เต๋อซานเอง ก็ไม่รู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้ เฉินตงซึ่งปกติแล้วเอาแต่หดหัวอยู่ในคลับสี่ยิ่นด้วยความหวาดกลัว จู่ๆ กลับออกไปข้างนอกพร้อมด้วยขบวนรถที่ขับออกมาอย่างเปิดเผยและสง่างามอย่างนั้นเหรอ?

สิ่งนี้ทำให้ความสุขที่หลี่เต๋อซานสั่งสมเอาไว้ หายไปต่อหน้าต่อตาทันที

“เขาไม่ควรเป็นเช่นนี้! เขาควรจะหลบซ่อนตัวในคลับสี่ยิ่นด้วยความหวาดกลัว ได้รับการคุ้มกันจากคนพวกนั้น จากนั้นก็เฝ้ารอนักฆ่าเหล่านั้นไปฆ่าเข้าอย่างขวัญหนีดีฝ่อ !”

หลี่เต๋อซานดวงตาแดงก่ำด้วยความแค้น เขากัดฟันกรอด

เพล้ง !

เขาทุบแจกันโบราณในยุคเฉียนหลงที่วางอยู่ข้างๆ เขาจนแตก แล้วพูดด้วยความโมโหว่า : “ก็ดี แกรนหาที่ตายเองนะ พวกนักฆ่าที่คอยซุ่มดูอยู่พวกนั้น จะต้องช่วยสงเคราะห์แกแน่นอน ! ขอเพียงแค่แกตาย ก็ถือว่าฉันแก้แค้นให้กับพ่อได้สำเร็จแล้ว !”

เมืองหลวง ในตระกูลจางและตระกูลฉู่

หลังจากที่เฉินตงพาคนออกจากคลับสี่ยิ่นแล้ว

เจ้าบ้านของทั้งสองตระกูลและคนที่เป็นเสาหลักภายในตระกูล ก็มารวมตัวกันทันที

“เจียนเจีย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? คุณเฉิน ทำไมจู่ๆ ถึงออกมาจากคลับสี่ยิ่น ?”

ใบหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลฉู่เต็มไปด้วยความตื่นตกใจ และเอ่ยถามฉู่เจียนเจียเสียงดัง

ส่วนคุณท่านใหญ่ตระกูลจางนั้น สีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่สุด

ก่อนหน้านี้ทั้งสองตระกูลเป็นเหมือนไฟกับน้ำมัน แต่เป็นเพราะเฉินตง ถึงมีวันนี้ได้ ตอนนี้ทั้งสองตระกูลเป็นเหมือนตั๊กแตนที่ถูกผูกติดไว้กับเชือก

และอีกด้านหนึ่งของเชือกก็คือเฉินตง !

เมื่อถูกผูกติดอยู่กับเฉินตง หากเฉินตงได้ขึ้นเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน ตระกูลจางและตระกูลฉู่ก็จะพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย

แต่ถ้าหากเฉินตงตาย ก็เท่ากับว่าแผนการที่ตระกูลจางและตระกูลฉู่วางเอาไว้ทั้งหมด ต้องพังลงอย่างไม่เป็นท่า

ภารกิจบอลสังหารขององค์กรhidden killers ทำให้ตระกูลจางและตระกูลฉู่รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

อีกทั้งตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องปกป้องเฉินตงเอาไว้ให้ได้ !

ขอแค่เฉินตงรอด ความหวังของทั้งสองตระกูลก็ยังคงอยู่ หากเฉินตงตาย ตระกูลจางและตระกูลฉู่ก็ต้องตกที่นั่งลำบาก

ตอนนี้เฉินตงออกจากคลับสี่ยิ่น เห็นได้ชัดว่าเป็นการรนหาที่ตาย

แล้วจะไม่ให้ทั้งสองตระกูลร้อนใจได้อย่างไร ?

ใบหน้าอันงดงามของฉู่เจียนเจียเรียบเฉย เธอก้มหน้าก้มตาแล้วพูดว่า : “หนูเองก็ไม่รู้ ไม่มีใครส่งข่าวให้หนูเลย !”

คุณท่านใหญ่ของตระกูลจางและตระกูลฉู่หันมองจางหยู่หลันพร้อมกัน

“หยู่หลัน ฉินเย่พูดอะไรบ้าง?” คุณท่านใหญ่ตระกูลจางถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

จางหยู่หลันพูดอย่างจนใจว่า : “คุณปู่ค่ะ ตอนที่เกิดเรื่องขึ้น หนูก็ติดต่อฉินเย่ทันที แต่เขาเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน”

“นี่มัน……”

คุณท่านใหญ่ทั้งสองรู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมาพร้อมกัน และรู้สึกเหมือนมีเสียงดังอื้ออึงอยู่ภายในหัว

ตระกูลฉินแห่งซีสู่

ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในความสงบ

หลังจากที่คุณท่านใหญ่ตระกูลเฉินถือดาบไปตายต่อหน้าเฉินตง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในซีสู่อย่างตระกูลฉิน ก็พลอยสิ้นอำนาจไปด้วยเช่นกัน

ฉินเย่และฉินเสี่ยวเชียนเป็นคนควบคุมกิจการครึ่งหนึ่งของตระกูลฉิน โดยมีเฉินตงคอยให้การสนับสนุน และกลายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ขาดในตระกูลฉิน

ต่อให้ฉินเย่และฉินเสี่ยวเชียนไม่อยู่ในซีสู่ ก็ยังคงสามารถควบคุมตระกูลฉินเอาไว้ได้

ภายในห้องที่มีแสงไฟสลัวๆ

ฉินเห้อเหนียนวางขวดเหล้าลง จากนั้นจึงหันมองหน้าจอโทรศัพท์ แล้วแสยะยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ

“แกคิดจะรนหาที่ตายอย่างนั้นเหรอ? ตายไปซะก็ดี หากแกตายแล้ว ก็ถึงเวลาที่ฉันจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเสียที ฉันจะฆ่าฉินเย่และฉินเสี่ยวเชียนทิ้งซะ หลังจากนั้น ตระกูลฉินก็จะกลับมาเป็นตระกูลฉินดังเดิม !”

ขณะที่พูด ฉินเห้อเหนียนก็น้ำตาไหลรินออกมา เขายกขวดเหล้าขึ้นดื่ม จากนั้นจึงโยนขวดเหล้าลงบนพื้น : “พ่อครับ พ่อพักผ่อนให้สบายได้แล้วนะครับ !”

ตระกูลจูเก่อ

เจ้าบ้านตระกูลจูเก่อตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยความโมโห

“จูเก่อชิง! ฉันไม่สนว่าทำไมจู่ๆ เฉินตงถึงได้เดินทางออกจากคลับสี่ยิ่น ! ฉันต้องการให้นายตามคุ้มกันเขาให้ถึงที่สุด ถ้าหากเกิดเรื่องร้ายขึ้นในการเดินทางของคุณเฉินครั้งนี้แล้วล่ะก็ นายเตรียมตัวตายกลับมาได้เลย !”

ภาพเหตุการณ์เดียวกัน เกิดขึ้นซ้ำๆ ในตระกูลมั่งคั่งที่เกี่ยวพันกันทุกตระกูล

พายุลูกใหญ่ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนตื่นตระหนก

ตอนนี้ทุกคนต่างไม่เข้าใจว่า ทำไมเฉินตงซึ่งกำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ ถึงได้พาตัวเองออกจากคลับสี่ยิ่นโดยไม่เกรงกลัวความตาย ?

นี่มัน รนหาที่ตายชัดๆ !

ขบวนรถเคลื่อนไปด้านหน้าอย่างทรงพลัง

ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างอุทานออกมาด้วยความตะลึง

แต่ ขบวนรถที่แต่เดิมมียี่สิบคัน ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่มีจำนวนรถเพิ่มขึ้นมาในขบวนมากขึ้น จนทำให้ขบวนรถยาวออกไปไกลจนสุดลูกหูลูกตา

และดูเหมือนความแข็งแกร่งนี้จะไม่ลดน้อยถอยลงเลย

ทรงพลัง

น่าทึ่ง

“พี่ตง พี่เสียสติไปแล้วหรือยังไง? รีบกลับไปเร็วเข้า ! กลับไปที่คลับสี่ยิ่นเดี๋ยวนี้ !”

เมื่อได้ยินเสียงของฉินเย่ที่ดูเหมือนกำลังสติแตกที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ เฉินตงก็ตอบกลับอย่างเรียบเฉย : “ถ้านายไม่พาคนมาตอนนี้ ก็รีบไสหัวไปซะ”

ตู้ด !

โทรศัพท์ถูกตัดสาย

เฉินตงนั่งนิ่งด้วยความจนใจอยู่ครู่หนึ่ง นี่เป็นเพียงแค่การเดินทางเท่านั้น

เดิมทีคิดว่าขบวนรถของตัวเองนั้นก็ดูจะเกินกว่าเหตุไปหน่อยแล้ว ใครจะไปรู้ว่าฉินเย่และฉินเสี่ยวเชียน จะพาทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาสมทบอีก ?

การต่อสู้ครั้งนี้ เกรงว่าหากไม่ใช่นักฆ่าที่อยู่ในอันดับยมราชขององค์การ hidden killers แล้วล่ะก็ เมื่อเห็นคงจะต้องตกใจจนรีบวิ่งหนีอย่างแน่นอน ?

ขณะที่กำลังรู้สึกจนใจอยู่นั้น จู่ๆ ท่านหลงซึ่งนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับก็พูดขึ้นว่า

“คุณชาย ดูเหมือนทานโน้นจะมีขบวนรถของตระกูลจูเก่อกำลังมุ่งหน้ามา!”

อะไรนะ ? !

เฉินตงรู้สึกประหลาดใจ : “นายรู้ได้อย่างไร ?”

ท่านหลงชี้นิ้วไปทางด้านหนึ่ง : “นายจูเก่อชิงคนนั้น นั่งมาบนหลังคารถครับ ดูรีบร้อนน่าดู !”

เฉินตงรีบหันมองทางที่ท่านหลงชี้นิ้วไป

ตรงที่ไกลๆ มีขบวนรถกำลังเคลื่อนมาจากถนนอีกสายหนึ่ง แล้วมาหยุดอยู่ตรงทางแยก

ส่วนเรื่องจำนวนรถว่ามีกี่คันนั้น เขาเองก็ไม่แน่ชัด

แต่จูเก่อชิงที่นั่งอยู่บนหลังคานั้น เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน !

และเหมือนที่ท่านหลงกล่าวจริงๆ ว่า ตอนนี้ใบหน้าอันหล่อเหลาของจูเก่อชิง ดูคร่ำเครียดจนถึงขีดสุดจริงๆ

ดูราวกับเห็นความตายมารออยู่ตรงหน้า……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset