Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 339 ไปตระกูลเฉิน

“องค์กร hidden killers นักฆ่าระดับพระกาฬในอันดับยมราช ยิวหมิน!”

แววตาของท่านหลงเต็มไปด้วยความสงสัย จากนั้นจึงพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม

ยิวหมิน ?

เฉินตงตัวสั่น จู่ๆ เขาก็แสดงท่าทีตกใจราวกับเห็นผีออกมาทันที

เป็นไปได้อย่างไร ?

“เป็นไปไม่ได้ อาทิตย์ก่อนยิวหมินมาที่นี่ เขาคือผู้ชายที่มีผ้าพันรอบตัวคนนั้น!”

เสียงของเฉินตงสั่นเครือ ด้วยนิสัยของเขาแล้ว เขาควบคุมอาการตกใจที่เกิดขึ้นไม่ได้ : “ท่านหลง พวกนายเองก็เคยเจอ อีกทั้งตอนนั้น หลังจากที่พวกนายถูกยิวหมินทำให้สลบแล้ว ลุงเต้าจูนเป็นคนทำให้เขาตกใจจนหนีไป แล้วเขาจะกลับมาลอบฆ่าคุณพ่อได้อย่างไร ?”

ความสงสัยผุดขึ้นในสมองของเฉินตงอย่างรวดเร็ว

ตระกูลหลี่แห่งเมืองหลวง ประกาศภารกิจลอบฆ่าในองค์กร hidden killers ในดาร์กเว็บ ล้วนแล้วแต่พุ่งเป้าโจมตีมาที่เขา

หลังจากที่ยิวหมินฆ่าเขาไม่สำเร็จ จึงย้อนกลับไปลอบฆ่าคุณพ่อแทนอย่างนั้นเหรอ?

นี่มันไร้สาระชัดๆ !

ต่อให้องค์กร hidden killers จะไร้สมอง ก็ไม่มีทางประกาศ “ภารกิจชดเชย” ที่ไร้สาระนี้ขึ้นในภารกิจบนดาร์กเว็บแน่นอน ?

“คุณชาย เรื่องนี้ตอนที่กระผมทราบเรื่อง ก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้ตระกูลกำลังสืบหาความจริง จึงยังไม่รู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัดนัก”

ท่านหลงหันมองเฉินตงด้วยความสับสนและหวาดกลัว

ตั้งแต่ที่องค์กร hidden killers มีการประกาศภารกิจลอบฆ่าเฉินตงออกมา การลอบฆ่าทุกครั้ง ล้วนแล้วแต่เป็นความลับ

บุคคลที่สามซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร พยายามชี้นำภารกิจการลอบฆ่าให้ออกจากดาร์กเว็บ ทำให้คนธรรมดาที่เห็นแก่เงินทองกลางร่างเป็นปีศาจ

ตอนนี้ยิงหมินที่เดิมทียอมละทิ้งการลอบฆ่าไปแล้ว กลับวกกลับมาลอบฆ่าเจ้าบ้านตระกูลเฉินอีก

ต่อให้เป็นท่านหลงที่ผ่านสนามรบมานับร้อยครั้ง และเข้าใจโลกเป็นอย่างดี ตอนนี้ก็ยังรู้สึกงุนงง ราวกับมีหมอกมาปกคลุมอยู่ตรงหน้า

แววตาของเฉินตงสั่นไหว เส้นเลือดบริเวณหางตาของเขากระตุกไม่หยุด

คิดอะไรไม่ออก

จู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า : “ใครฆ่ายิวหมิน ? พ่อให้ยอดฝีมือในทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างกาย มาคอยคุ้มกันฉันทั้งหมดแล้ว ทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เหลือ ไม่มีทางที่จะโจมตียิวหมินได้ !”

ความน่ากลัวของยิวหมิน วันนั้นเขาได้เห็นด้วยตาตัวเอง

แม้แต่ทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เก่งกาจที่สุด ที่อยู่ภายใต้การนำทีมของคนที่อยู่ในอันดับยมราชลำดับที่ 23 และ20 อย่างคุนหลุนและฟ่านลู่ ก็ยังหมดสติไปทั้งหมดอย่างไร้ร่องรอย

นักฆ่าระดับพระกาฬที่น่ากลัวขนาดนี้

ทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดาๆ ไม่มีทางที่จะโจมตีเขาได้เลย !

ต่อให้พ่อจะคัดเลือกทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับหัวกะทิขึ้นมาใหม่ หลังจากที่คัดเลือกทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกมาหมดแล้ว ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ !

ยิ่งไปกว่านั้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ พ่อได้รับบาดเจ็บ ส่วนยิวหมินนั้นถูกฆ่าตาย

เหตุการณ์ที่ดูเหมือนเป็นชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบนี้ เฉินตงกล้ารับประกันเลยว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทีมไหนบนโลกใบนี้สามารถทำได้ !

“ไม่รู้ครับ”

ท่านหลงส่ายหัว ในแววตาไม่อาจปิดบังความหวาดกลัวเอาไว้ได้ เขาหายใจหอบ แล้วค่อยๆ พูดว่า : “เดิมทีนายท่านบอกเรื่องนี้กับกระผมเท่านั้น และกำชับให้ผมดูแลคุณชายให้ดี แต่กระผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล คุณชายจึงควรตามกระผมกลับไปที่บ้านตระกูลเฉินสักครั้ง เพื่อสืบหาความจริงของเรื่องนี้”

“กลับตระกูลเฉิน?”

เฉินตงขมวดคิ้ว

“ฉันไม่เห็นด้วย!”

จู่ๆ กู้ชิงหยิ่งก็พูดเสียงดังขึ้นมา

เฉินตงและท่านหลงหันมองกู้ชิงหยิ่งด้วยความประหลาดใจพร้อมกัน

ใบหน้าอันงดงามของกู้ชิงหยิ่งเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด : “คนโง่ คุณกลับตระกูลเฉินตอนนี้ อันตรายเกินไป ! ในสายตาของคนตระกูลเฉิน คุณถือเป็นเสี้ยนหนามที่คอยทิ่มแทงพวกเขา กลับไปตอนนี้ มีแต่จะทำให้ทุกคนหันมาเล่นงานคุณ ทำให้คุณถูกทำร้ายจากรอบด้าน”

เฉินตงไม่ได้โต้แย้ง ความกังวลของกู้ชิงหยิ่งเป็นเรื่องจริง

ไม่สิ อาจจะหนักกว่าที่กู้ชิงหยิ่งพูดเสียอีก

ตอนนี้พ่อได้รับบาดเจ็บแล้ว ไม่อาจดูแลตระกูลเฉินได้เป็นการชั่วคราว ดังนั้นอำนาจในการปกครองตระกูลเฉินก็จะตกไปอยู่ในมือของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินในทันที หากไปตระกูลเฉินในตอนนี้ ก็เหมือนกับการยื่นเนื้อเข้าปากเสือโดยไม่ต้องสงสัย

“คุณชาย เรื่องนี้คุณต้องไปสืบหาความจริงด้วยตัวเอง” ท่านหลงค่อยๆ พูด

อันตรายในการกลับตระกูลเฉิน กู้ชิงหยิ่งยังมองออก แล้วทำไมท่านหลงจะมองไม่ออก ?

จู่ๆ บรรยากาศภายในลานก็เงียบสงัดลง

เฉินตงยืนอยู่ที่เดิม มือทั้งสองข้างค่อยๆ กำหมัดแน่น

ด้านหนึ่งเป็นการโต้แย้งของภรรยา ส่วนอีกด้านก็เป็นเรื่องของการลอบฆ่าที่ไม่ชอบมาพากล และการได้รับบาดเจ็บของผู้เป็นพ่อ

เขาควรจะเลือกเช่นไรดี ?

“ที่รัก คุณใจเย็นหน่อยนะคะ” กู้ชิงหยิ่งคล้องแขนของเฉินตงเอาไว้ “อีกทั้งตอนนี้ภารกิจการลอบฆ่าคุณในองค์กร hidden killers ก็ยังคงอยู่ หากคุณไปตอนนี้ ไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับตระกูลเฉินเท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญกับอันตรายที่อาจจะถูกลอบฆ่าได้ทุกเมื่อ”

เฉินตงตัวสั่น ความลังเลในแววตาของเขาหายไปทันที จากนั้นก็ปรากฏแววตาของความมุ่งมั่นขึ้นมา

“เฮ้อ~”

เฉินตงถอนหายใจหนึ่งครั้ง แล้วยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน : “ที่รัก ผมต้องไปสักครั้ง !”

อะไรนะ ? !

กู้ชิงหยิ่งผงะไป จากนั้นจึงตามมาด้วยใบหน้าของความโมโห

เธอพยายามตักเตือนด้วยความหวังดี ทำไมเฉินตงกลับมีความคิดที่แน่วแน่ที่จะไปตระกูลเฉินขึ้นมาได้ ?

“ลุงเต้าจูนเคยพูดไว้ว่า เรื่องบางเรื่อง จะต้องทำอย่างมุ่งมั่น!”

เฉินตงยิ้มอย่างนุ่มนวลพร้อมพูดอธิบาย แววตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยความมุ่งมั่น : “การหลบซ่อนตัว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ ตอนนี้ตระกูลเฉินเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ พ่อได้รับบาดเจ็บ ผมจึงจำเป็นต้องไปดูแลและสืบหาความจริงด้วยตัวเอง มีเพียงแค่สืบหาความจริงของเรื่องทุกอย่างจนกระจ่างเท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้ภารกิจลอบสังหารขององค์กร hidden killers เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้”

เขาในอดีต ไม่เข้าใจถึงหลักการของเหตุและผล คิดแค้นแต่เพียงเรื่องที่พ่อทอดทิ้งครอบครัวไปเท่านั้น จึงทำให้ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและโกรธแค้น

แต่หลังจากที่เขาค่อยๆ รู้ความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ความรู้สึกที่เขามีต่อเฉินเต้าหลินก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป

ความเจ็บปวดที่สุดในโลกมนุษย์ก็คือ การไม่ได้อยู่ร่วมกับครอบครัว

การจากไปของแม่ ถือเป็นฝันร้ายที่สุดสำหรับเฉินตง

ตอนนี้ เหลือเพียงแค่พ่อเท่านั้น ถ้าหากแม้แต่เรื่องนี้ เขายังไม่สนใจไยดี แล้วเขาจะมีหน้าไปพบใครได้อีก ?

เมื่อเห็นแววตาที่มุ่งมั่นของเฉินตง กู้ชิงหยิ่งก็ใจลอยไปพักใหญ่

ในที่สุด ก็ยิ้มออกมาอย่างหดหู่ : “นิสัยของคุณก็เป็นเสียอย่างนี้ เรื่องที่ตัดสินใจไปแล้วจะไม่ยอมเปลี่ยนใจเด็ดขาด ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ไปเถอะค่ะ”

“ขอบคุณนะ” เฉินตงพูดออกมาด้วยความซาบซึ้ง

“แต่คุณต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ!” กู้ชิงหยิ่งพูดด้วยท่าทีเข้มงวด “คุณต้องจำเอาไว้ว่า ตอนนี้คุณไม่ได้มีเพียงแค่พ่อเท่านั้น แต่คุณยังมีภรรยาด้วย”

“ผมรู้แล้ว”

เฉินตงยิ้ม : “ไม่เพียงแค่มีภรรยาเท่านั้น ต่อไปผมจะมีลูกชายลูกสาวด้วย”

ใบหน้าอันงดงามของกู้ชิงหยิ่งแดงก่ำ แล้วเหลือบมองอย่างตำหนิ : “ฝันไปเถอะ”

“กระผมจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้” เมื่อท่านหลงเห็นว่าทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ก็หันหลังเดินจากไป

เวลาบ่ายสามโมง

สนามบินในแถบชานเมือง หลังจากที่การสั่งหยุดการบินของเครื่องบินทุกลำ ก็มีเครื่องบินลำหนึ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างปลอดภัย

เฉินตงนั่งอยู่บนเครื่องบิน เขามองดูก้อนเมฆที่อยู่นอกหน้าต่าง และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าถึงแม้จะตัดสินใจแล้ว แต่เมื่อนึกถึงการไปตระกูลเฉินในครั้งนี้ ในใจของเขาก็ยากที่จะรู้สึกสงบได้

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไปตระกูลเฉิน !

ไปยังตระกูลที่เขาพยายามต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อให้ได้ครอบครอง !

ตระกูลเฉิน ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดบนยอดพีระมิด อยู่ในที่สูงส่ง และมองไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา

ในสายตาของตระกูลเฉิน ตระกูลมั่งคั่งตระกูลอื่นๆ ก็เป็นเพียงแค่มดเท่านั้น

แม้กระทั่งผู้ที่ยิ่งใหญ่อย่างกู้โก๋ฮั๋ว ต่อให้ทำงานหนักมาตลอดหลายปี ก็ยังต้องมานั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าตระกูลเฉินอย่างไร้ประโยชน์

และครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรก ที่เขาจะได้สัมผัสกับความรู้สึก ที่ได้ก้าวเท้าเข้าไปทางประตูใหญ่ของบ้านตระกูลเฉินจริงๆ

“คุณชาย ตื่นเต้นไหมครับ?” ท่านหลงถาม

ครั้งนี้ เฉินตงพามาเพียงแค่ท่านหลง คุนหลุนและฟ่านลู่เท่านั้น

การจัดการเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว !

การเดินทางครั้งนี้ ใช้เพียงแค่คนมีความสามารถเพียงไม่กี่คนก็พอ ยิ่งคนมาก จะยิ่งทำให้เกิดคำพูดว่าร้ายขึ้นในตระกูลเฉินมากขึ้น และจะยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน

อีกทั้ง หากคนในตระกูลเฉิน จงใจที่จะทำให้ลำบากใจจริงๆ พาคนมาเยอะจะมีประโยชน์อะไร ?

“ตื่นเต้นสิ”

เฉินตงตอบอย่างตรงไปตรงมา แล้วลูบจมูก

“คุณชายไม่ต้องกังวลไป มีกระผมกับท่านหลงอยู่ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยอย่างแน่นอน” คุนหลุนพูดเตือนเบาๆ

แต่เฉินตงกลับไม่สนใจ

เขายิ้มออกมาอย่างเรียบเฉย : “ฉันกำลังคิดว่า ตอนที่ก้าวเข้าประตูใหญ่ของตระกูลเฉิน ฉันควรจะก้าวขาซ้าย หรือควรจะก้าวขาขวาก่อนดี ?”

คำพูดนี้ ทำให้ท่านหลง คุนหลุน และฟ่านลู่ รู้สึกจนใจพร้อมกัน

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset