Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 342 ตระกูลเฉินลุกเป็นไฟแล้ว!

ตู๊ม!!

เสียงของใบหน้าที่กระแทกกับเสาหิน เหมือนดั่งเสียงฟ้าร้อง

ทุกคนที่อยู่ในนั้นตัวสั่นในเวลาเดียวกัน

โหดเหี้ยม เด็ดขาดไม่ลังเล

เฉินตงในเวลานี้ ทำให้ทุกคนหลังเย็นวาบ เหมือนกับอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง

แม้แต่นักธุรกิจรายใหญ่ที่มองดูอยู่ ที่เคยเห็นเรื่องแบบนี้จนชิน ก็ยังถูกเฉินตงทำให้ตกใจจนกลัว

นี่……….ก็โหดเกินไป บ้าเกินไปแล้วมั้ง?

หน้าบ้านตระกูลเฉิน ไม่เกรงใจผู้สืบทอดตระกูลเฉินขนาดนี้เลยหรือ?

“ของปลอมที่ไร้ประโยชน์”

มือขวาของเฉินตงได้ปล่อยคอของเฉินเทียนหย่างออก

เมื่อไร้การดึงกระชาก เฉินเทียนหย่างก็ทรุดตัวลงไปกับพื้น ราวกับกุ้งนิ่ม

บนใบหน้าที่ชั่วร้ายและหล่อเหลา เต็มไปด้วยเลือด สันจมูกยุบ เห็นได้ชัดว่ามันถูกชนจนหัก

ช่างน่าสงสารและสังเวชนัก

เฉินเทียนหย่างในเวลานี้ แววตาล่องลอย ตกใจจนอึ้งไปแล้ว

นี่มันใช่เฉินตงคนเดิมหรือเปล่า?

เฉินตงที่ไร้ประโยชน์คนนั้นในตอนแรก ยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือของคุนหลุนนะ!

ด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนใบหน้า เฉินเทียนหย่างก็รู้สึกตัวในที่สุด

“อ้า!”

หน้าซุ้มประตูตระกูลเฉิน เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวช ทำเอาหูเกือบหนวก

มันคือเสียงร้องของเฉินเทียนหย่าง!

แฝงไปด้วยความไม่พอใจ ความโกรธ ความคับแค้นใจที่ไม่สิ้นสุด

“เฉินตง แกมันใจกล้ามากนัก!”

เฉินเทียนหย่างที่นอนอยู่บนพื้น โกรธถึงขีดสุด ร่างกายสั่นเทา “ฉันเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเฉิน แก แกกล้ามาวางอำนาจบาตรใหญ่ในคฤหาสน์ตระกูลเฉิน ก็รอบทลงโทษของตระกูลได้เลย!”

ได้ยินเช่นนี้

สีหน้าของท่านหลงกับคุนหลุนเปลี่ยนไปมากทีเดียว

ตอนแรกที่เฉินเทียนหย่างวางแผนทำร้ายเฉินตง อยากได้กู้ชิงหยิ่ง ก็เพราะกลัวกฎของตระกูล สุดท้ายเฉินตงจึงให้คุนหลุนทุบขาของเฉินเทียนหย่างให้หัก

ถึงกระนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงกฎของตระกูล เฉินตงก็ได้ใช้สมองของเขาอย่างถึงที่สุด

แต่ตอนนี้ เฉินตงอยู่ในตระกูลเฉิน ทำร้ายเฉินเทียนหย่างจนมีสภาพแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าได้ชนกฎของตระกูลที่เป็นปากกระบอกปืนไปโดยตรงแล้ว

“วางอำนาจบาตรใหญ่?”

เฉินตงยิ้มขึ้นมาทันที รอยยิ้มทำให้คนที่มองอยู่ใจสั่นระทึก “ฉันก็วางอำนาจบาตรใหญ่ไปแล้ว ยังจะกลัวกฎของตระกูล?”

ปัง!

ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงพูด

เฉินตงก็ยกเท้าขึ้นมาอย่างอุกอาจ ราวกับค้อนหนัก กระทืบลงไปที่ขาขวาของเฉินเทียนหย่างอย่างเต็มกำลัง

แกระ!

เสียงกระดูกหักที่คมชัด ทำให้ทุกคนสูดลมหายใจเข้า

ภายใต้สายตาที่จ้องมองอยู่มากมาย ในขณะที่เฉินเทียนหย่างกรีดร้องเหมือนหมูถูกเชือด น่องขวาของเขาโค้งงอแปลกๆเป็นส่วนโค้งที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กระดูกสีขาวทะลุออกมา ถูกย้อมไปด้วยเลือด สัมผัสกับอากาศ

ในเวลานี้ อากาศดูเหมือนจะหยุดนิ่ง

สายตาแต่ละคู่ราวกับกำลังมองวิญญาณชั่วร้ายที่น่าขยะแขยง มาหยุดอยู่บนตัวของเฉินตง

แต่เฉินตง กลับไม่รู้สึกอะไร

เขาที่ยืนอยู่เหลือบตามองเฉินเทียนหย่างที่นอนอยู่บนอย่างหมาที่ตายแล้ว

สายตาเย่อหยิ่ง ทะนงตนอย่างเผด็จการ

“จำประโยคนี้เอาไว้! การไม่ได้เจอกันเพียงไม่กี่วันจะต้องทำให้คนอื่นมองด้วยสายตาที่น่าทึ่ง แกมันคนไร้ประโยชน์ที่ไม่รู้จักฝ่ายหาความก้าวหน้า ไม่ได้หมายความว่าฉันเฉินตงก็จะเป็นแบบแก!

เฉินเทียนหย่างอึ้งไปโดยสิ้นเชิง

ในเวลานี้ เผชิญหน้ากับเฉินตง เขาน้อยมากที่จะรู้สึกกลัวกลับกลัวขึ้นมา

มันก็คือคนบ้าคนหนึ่ง!

ก็คือคนบ้าที่ไร้กฎหมายกระทำชั่วโดยไร้ยางอาย หยิ่งทะนงและดุร้าย!

เฉินตงกลับไม่สนใจเฉินเทียนหย่างอีก หันหน้าไปมองเหล่าคนรับใช้ที่ตกตะลึงไปนานแล้ว

“เจ้านายของพวกแกก็เป็นแบบนี้แล้ว พวกแกจะไม่แสดงอะไรหน่อยเลยเหรอ?”

“ห๊า!”

เหล่าคนใช้ในบ้านตื่นตระหนกทันที ในขณะเดียวกันก็ปรับทิศทาง วิ่งเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลเฉิน

“มาซ้อมคนเร็ว! คุณชายเทียนหย่างถูกคนซ้อม!”

น้ำเสียงที่แสบหู ดังกังวานไปทั่วซุ้มประตู และผ่านไปยังคฤหาสน์

เฉินตงยิ้มอย่างเย็นชา

ท่านหลงเดินนำขึ้นมาก่อน “คุณชาย เราไปกันเถอะ”

“ไป?”

เฉินตงมองท่านหลง

สีหน้าของท่านหลงนั้นแย่มาก สายตามัวหมอง

คุนหลุนปรับโทนเสียงของเขาและกล่าวว่า “คุณชายละเมิดกฎของตระกูลอย่างโจ่งแจ้ง คราวนี้ตระกูลเฉินนั้นเข้าไปไม่ได้แล้ว สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ก็ถือเป็นเรื่องดีแล้ว”

ฟ่านลู่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ปฏิกิริยาของท่านหลงกับคุนหลุน ก็ทำให้เธอรู้ว่าเรื่องมันใหญ่โตแล้ว!

“ในเมื่อมาแล้ว ทำไมต้องกลับ?”

เฉินตงหัวเราะด้วยความโกรธ “เฉินเทียนหย่างหยามว่าฉันเป็นลูกสวะ ไม่ให้ฉันเข้าคฤหาสน์ตระกูลเฉิน รังแกฉันขนาดนี้ ฉันไม่ควรตอบโต้? เขาไม่ให้ฉันเข้าบ้านตระกูลเฉิน งั้นฉันก็จะเข้าประตูตระกูลเฉินให้ได้!”

พูดจบ เฉินตงก็หันกายอย่างจริงจังดูน่ากลัว เดินไปที่คฤหาสน์ตระกูลเฉินอย่างหยิ่งผยอง

ท่านหลงกับคุนหลุนมองสบตากัน แล้วตามติดไปพร้อมกัน

ฟ่านลู่เหลือบมองไปโดยรอบ กำลังจะตามไป แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นบางสิ่งจากหางตาของเธอ และใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที

“ที่ฉันมาครั้งนี้ ข้อแรกคือมาเยี่ยมคุณพ่อ เพื่อความกตัญญู ข้อสองเพื่อต้องการสืบหาความจริง เพื่อตัวเอง ต่อให้ตระกูลเฉินจะเป็นสวรรค์ ฉันก็จะหาทาง เข้าไปโดยตรง!”

เฉินตงที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ ราวกับดึงภูเขาในพื้นที่ราบ ทำให้คนใจสั่นระทึก

ก้าวเดินไปทีละก้าว ไม่ช้าไม่เร็ว คล้ายกำลังเดินเล่น โดยไม่ตื่นตระหนก

ท่านหลงกับคุนหลุนตามมาอย่างใกล้ชิด เหงื่อหยดหนาๆหลั่งออกมาจากหน้าผากของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว แผ่นหลังก็มีความเย็นโชยเข้ามาเป็นระยะ

การเปลี่ยนแปลงของเฉินตง ทำให้ทั้งสองคนตื่นตระหนกและทำอะไรไม่ถูก

ทั้งสองคนก็หวังที่อยากจะให้เฉินตงมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เพราะพวกเขานั้นเข้าใจดี แบบนี้ถึงจะเป็นลักษณะที่แท้จริงของการแย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน ก็ควรมีพลังอำนาจของเจ้าบ้านของตระกูลเฉิน

ทว่า ความมีอำนาจแบบนี้ ดันไปยังถึงตระกูลเฉินไปเสีย!

“คุณเฉิน!”

ทันใดนั้น ด้านหลังก็ด้านขึ้นด้วยเสียงเรียกของฟ่านลู่

เฉินตงหยุดฝีเท้าลง หันหน้าไปถาม “มีเรื่องอะไร?”

ใบหน้าที่สวยงามของฟ่านลู่ซีดเผือด ชี้ไปที่ยอดซุ้มประตู

เฉินตงเงยหน้ามอง ทันใดนั้นม่านตาก็หดเกร็ง เอ็นตรงหางตาก็นูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

บนซุ้มประตูที่สูงตระหง่าน

กลับแขวนไว้ด้วย……..หัวของมนุษย์หนึ่งหัว!

ภายใต้แสงแดดอันอบอุ่น ศีรษะมนุษย์ถูกแขวนไว้สูงสุดเหนือซุ้มประตู เป็นศีรษะมนุษย์ที่เปื้อนเลือด พันด้วยเทป และเผยให้เห็นเพียงดวงตาเท่านั้น

เพียงแต่ตอนนี้ ตาที่เปื้อนเลือด ได้ปิดแน่นไปแล้ว

“ยิวหมิน?!”

เฉินตงอดไม่ได้ที่จะอุทานเบาๆ

เมื่อกี้เฉินตงกวาดมองซุ้มประตูไปแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้มองละเอียด อีกอย่างหัวมนุษย์หัวเล็กๆเมื่อเทียบกับซุ้มประตูที่ใหญ่สูงตระหง่าน มันไม่เด่นชัดเลย

แต่เวลานี้ เมื่อถูกฟ่านลู่เตือน หลังจากที่เห็น ก็อดไม่ได้ที่ทำให้ใจของเฉินตงรู้สึกขยะแขยง

“นี่ถือเป็นการเตือนมั้ย? สมกับที่เป็นตระกูลเฉินจริงๆ เรียกได้ว่าเผด็จการไม่มีใครเหนือ!”

เฉินตงถูจมูกของเขา แววตาเกิดความกระจ่าง ยิ้มเล็กน้อย หันหลังเดินเข้าไปในตระกูลเฉิน

ตระกูลเฉินที่มากไปด้วยอำนาจบารมี เจ้าบ้านถูกลอบสังหาร แล้วนำหัวของฆาตกรไปแขวนไว้ข้างบน ไม่เพียงแต่จะทำให้คนสะเทือนขวัญ แต่ยังได้แจ้งเตือนให้ผู้ที่เป็นนักฆ่าทราบถึงผลตอบแทนในการลอบสังหารตระกูลเฉินอีกด้วย!

ในตระกูลผู้ร่ำรวย ก็คงมีแต่ตระกูลเฉินที่กล้าทำเช่นนี้!

และในเวลาเดียวกัน

ตามมาด้วยเหล่าคนรับใช้ที่เอะอะโวยวายวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์

ราวกับดาวหางได้ชนเข้ากับโลก ตระกูลเฉินลุกเป็นไฟแล้ว!

ทุกคนล้วนตกตะลึงกันไปแล้ว

คุณชายเทียนหย่างถูกซ้อมเหรอ?

ยังอยู่หน้าประตู?

พระเจ้า!

มันเป็นนักฆ่าคนไหนกัน กินดีหมีดีเสือเข้าไปหรือ ถึงได้กล้ามาโดนหาที่ตายแบบนี้?

ตระกูลเฉิน…….กลายเป็นคนอ่อนแอรังแกได้ง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่?

ขณะนี้ พี่ๆน้องๆในคฤหาสน์ก็รีบพาคนใช้บุกไปที่หน้าซุ้มประตู

และในเรือนที่ไม่ไกลนัก

ในลานสวน

ไม้จันทน์หอม ในสไตล์โบราณ

ก้องกังวานไปด้วยเสียงสวดมนต์ เปี่ยมไปด้วยความปีติสุข

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินคุกเข่าอยู่ในห้องพระ เผชิญหน้ากับพระพุทธรูปทองคำ ใบหน้าสงบมีเมตตา ปัดลูกปัดพร้อมกับสวดมนต์

พรึ่บ!

ประตูห้องพระถูกผลักออก

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินในห้องพระก็ขมวดคิ้ว มือสั่นไปหนึ่งที อดไม่ได้ที่จะใช้แรงเพิ่มขึ้น

จากนั้น ลูกปัดหินอาเกตในมือก็ขาด ร่วงกระจายเต็มพื้น

“คุณย่า แย่แล้ว ไอ้ลูกสวะอย่างเฉินตงมันมาที่ตระกูลเฉินแล้ว แถมยังทำร้ายเฉินเทียนหย่างจนพิการ!”

ทันใดนั้น คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็ลืมตาด้วยความโกรธ เดือดพล่านไปด้วยแรงแห่งการฆ่า พร้อมกับไฟโกรธ

“ไอ้ลูกสวะ คงจะคิดว่าตระกูลคิดรังแกได้ง่าย? คงจะคิดว่าตัวเองมีเก้าชีวิต?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset