Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 343 เชิญแขกกลับไปให้หมด (เรียงแถวต้อนรับ)

เฉินเทียนเซิงสีหน้าชั่วร้าย

เมื่อมองดูร่างอ่อนแอที่อยู่ในห้องพระ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกลำพองใจ

ในตระกูลเฉิน คนที่ทำให้คุณย่าโกรธเป็นไฟ ต่อให้เทวดาก็คุ้มครองไม่อยู่!

แกบุกเข้ามาในตระกูลเฉิน ตอนที่ทำร้ายเฉินเทียนหย่าง ก็น่าจะรู้แล้ว วันนี้พ่อของแกนอนรักษาตัวอยู่ ตระกูลเฉินในตอนนี้ อยู่ในความดูแลของคุณย่า!

“เทียนเซิง!” คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเรียกด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

เฉินเทียนเซิงรีบก้มตัว “ครับคุณย่า”

“เชิญแขกกลับไปให้หมด!”

น้ำเสียงที่เย็นชา คมเหมือนกับมีด

แววตาของเฉินเทียนเซิงก็เปล่งแสงเจ้าเล่ห์ รับปากเสียงดัง แล้วจากไปอย่างรวดเร็ว

ในห้องพระ

แววตาที่เย็นเยือกของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ฉายแววที่ทำให้คนรู้สึกกลัว

เธอก้มหน้ากวาดมองลูกปัดที่หล่นอยู่บนพื้น เงยหน้ามองไปที่พระพุทธรูปทองคำ บ่นพึมพำอย่างรู้สึกผิด

“พระพุทธองค์ ไม่ใช่ฉันโหดร้าย แต่เป็นเฉินตงที่โหดเหี้ยม หลังจากวันนี้ ฉันค่อยเข้าห้องพระ ชำระล้างสิ่งสกปรก”

พูดจบ เธอก็โบกมือ

สาวใช้สองคนก็รีบเดินมาข้างหน้า พยุงคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินลุกขึ้น หันหลังเดินออกไปข้างนอก

และในเวลาเดียวกัน

ตระกูลเฉินร้อนเหมือนไฟไปแล้ว!

ตระกูลเฉินที่มากไปด้วยอำนาจบารมี แต่ไหนแต่ไรก็มีแต่คนมาเคารพถึงที่บ้านจนเคยชินไปแล้ว ยังไม่เคยมีใครที่กล้าโอหังในคฤหาสน์ตระกูลเฉินแบบนี้มาก่อน!

ต่อให้คุณจะยิ่งใหญ่อยู่ข้างนอกยังไง มีอำนาจขนาดไหน เมื่อมาถึงตระกูลเฉิน ไม่ว่าคุณเป็นใครก็ต้องก้มหัวอันสูงส่งของคุณ เคารพอย่างถ่อมตน

นี่คือกฎของการมาเยือนตระกูลเฉิน!

เคยอยู่สูงจนชินแล้ว จู่ๆก็ถูกคนตบหน้า ดังนั้นไม่ว่าคนตระกูลเฉินที่จะสูงส่งขนาดไหน ก็เกือบจะบ้ากันไปแล้ว

จากซุ้มประตูสู่คฤหาสน์ตระกูลเฉิน มีทางเดินระเบียงสีเขียวยาวหลายร้อยเมตร

และในเวลานี้ ถูกคนรับใช้ของตระกูลเฉิน ล้อมรอบระเบียงทั้งสองข้างทางไปแล้ว

แน่นอน ผู้ที่เรียกกันว่าสมาชิกในตระกูลเฉิน ล้วนเป็นสมาชิกระดับต่ำ ด้อยกว่าคนรุ่นหัวกะทิที่เก่งกาจมาก และไม่มีคนที่มีอำนาจ

ทุกคนเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองโดยชอบธรรม และบางคนถึงกับมีแววตาที่อยากจะฆ่าคน

ยิ่งกว่านั้น คนใช้ในบ้านที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งถืออาวุธ เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์

ศักดิ์ศรีของตระกูลเฉิน ยอมให้ละเมิดไม่ได้

ความภาคภูมิใจของตระกูลเฉิน ยอมให้ดูหมิ่นไม่ได้

กลุ่มอารมณ์ที่เดือดพล่าน สถานการณ์ตึงเครียดอย่างมาก

ขอเพียงมีคำสั่ง ก็สามารถออกมาต่อสู้อย่างดุเดือด

เสียงคนเหมือนดั่งคลื่น สะเทือนจนหูเกือบหนวก

“เกินไปแล้ว นี่มันเกินไปแล้วจริงๆ! ตระกูลเฉิน เคยได้รับความอับอายขายหน้าเช่นนี้ที่ไหนกัน?”

“คุณชายเทียนหย่างเป็นผู้สืบทอดของพวกเราตระกูลเฉิน เป็นหัวกะทิในหัวกะทิ กล้าทำร้ายคุณชายเทียนหย่าง ก็เท่ากับตบหน้าตระกูลเฉินของเรา!”

“ไม่รู้จักตระกูลเฉินเสียแล้ว คิดว่าตระกูลเฉินของเราอ่อนแอรังแกกันได้ง่ายๆเหรอ?”

……

รอบทางเดินสีเขียว มีนักธุรกิจที่มาขอพบตระกูลเฉินอย่างไม่ขาดสาย

เวลานี้เห็นภาพนี้ แม้ว่าจะเคยเห็นเรื่องราวแบบนี้จนเคยชิน พวกเขายังคงตกตะลึงและหวาดกลัว

ใครกันแน่ที่กล้าท้าทายจนตระกูลเฉินจนเดือดเป็นฟืนเป็นไฟเช่นนี้?

ในขณะที่ตกใจ นักธุรกิจเหล่านี้ก็มีความอยากรู้อยากเห็น ต่างก็หยุดฝีเท้ามองดู

ก็ในเวลานี้

เสียงที่เย็นชาเสียงหนึ่ง ราวกับเสียงสวดจากสวรรค์ ดังมาจากปลายทางเดินสีเขียว

“วันนี้ตระกูลเฉินมีเรื่องต้องจัดการ ไม่ต้อนรับแขก ผู้ที่ไม่ใช่คนในตระกูลเฉิน ขอให้ออกไปทันที!”

โครม!

นักธุรกิจที่อยากรู้อยากเห็นต่างตกตะลึงในทันใด

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? ผม ผมเพิ่งจะเข้ามาในคฤหาสน์เองนะ!”

“ขอร้องพวกท่านโปรดเมตตาด้วย ผมใช้เวลาสามปี จึงจะสามารถเข้ามาในตระกูลเฉิน ตอนนี้ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ขอร้องพวกท่านอยากไล่ผมไปเลย!”

“ผมต้องการพบเจ้าบ้านตระกูลเฉิน หรือว่าให้ผมพบกับคนที่มีอำนาจในคฤหาสน์ก็ยังดี เพื่อวันนี้แล้ว ผม ผมรอมาแปดปีเต็มๆ!”

……

กลุ่มนักธุรกิจสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก แทบจะขอร้องอ้อนวอน

แต่ ตามมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส

สมาชิกทุกคนในตระกูลเฉิน ต่างก็ไล่คนด้วยสีหน้าที่ดุดัน

คำสั่งของตระกูล ก็คือ”ราชโองการ!”

ตระกูลเฉิน ยังไม่จำเป็นต้องให้เกียรติดใครทั้งนั้น

ไม่ว่าจะรอมาสามปีหรือแปดปี คำสั่งจะข้างบนลงมา ก็ต้องออกไปทันที!

กลุ่มนักธุรกิจต่างก็สิ้นหวัง หงุดหงิด เสียใจ หากเมื่อกี้ไม่อยากรู้อยากเห็นจนหยุดมองดู จัดการเรื่องของตัวเองก่อน บางทีเรื่องที่ตัวเองคาดหวังมาโดยตลอดก็คงจะมีผลสรุปไปแล้ว

ทำไมถึงถูกสกัดกลางคัน ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉินด้วยนะ?

……

เฉินตงมีสีหน้าที่เคร่งขรึม เดือดไปด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เดินเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลเฉินอย่างสบายๆ

ด้านหลัง ท่านหลง คุนหลุนกับฟ่านลู่ติดตามไปอย่างเงียบๆ

ได้ยินเพียงเสียงที่ดังและบาดหูจากระยะไกล สีหน้าของท่านหลงกับคุนหลุนก็มืดมนอย่างมาก ความกังวลที่อยู่ลึกๆในแววตาไม่สามารถซ่อนได้อีกแล้ว

ในไม่ช้า เสียงที่สะเทือนหูยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

ในสายตา เต็มไปด้วยกลุ่มคน รวมตัวอยู่ระเบียงสีเขียวสองข้างทาง ให้ความรู้สึกเหมือนว่ากับมากดดัน

เมื่อเฉินตงพาท่านหลงกับคุนหลุนเดินเข้าไปในทางเดินสีเขียว

กลุ่มคนก็ส่งเสียงคำรามออกมาทันที

“เด็กๆ!”

ลุย!

สายตาทั้งหมด มองมาทางด้านเฉินตงอย่างดุเดือดในทันที

เพียงชั่วขณะที่พวกเขาเห็นเฉินตง สมาชิกตระกูลเฉินที่โกรธอย่างมหาศาล กลับเงียบไปพร้อมกัน

ในขณะนี้ พลังอันยิ่งใหญ่ที่กระจายออกมาจากร่างกายของเฉินตง ทำให้หัวใจของทุกคนสั่นสะท้าน และหลังเย็นวาบ

ราวกับว่ากำลังอยู่ใต้ภูเขา มองไปที่ยอดเขา มีความรู้สึกที่แปลกประหลาดเหมือนต่ำต้อยอย่างบอกไม่ถูก

เฉินตงหยุดฝีเท้าลง ใช้สายตาที่เย็นชากวาดมองกลุ่มคนสองข้างทาง

ทุกที่ที่เขาจ้องมอง สายตาแต่ละคู่ก็จะหลบตา ไม่กล้าที่จะสบตาด้วย

นี่ก็คือความยิ่งใหญ่ตระกูลเฉิน?

เฉินตงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะในใจ

ท่านหลงกับคุนหลุนและฟ่านลู่เมื่อเห็นกลุ่มคนสองข้างทางนั้น ก็หนักใจในเวลาเดียวกัน ระมัดระวังตัวขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม ท่านหลงกับคุนหลุนก็ได้กวาดมองทุกคน แล้วแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ยังดี ล้วนเป็นสมาชิกที่ไม่มีอำนาจและพวกคนรับใช้ คนที่มีอำนาจของตระกูลเฉิน ไม่ได้ร่วมอยู่ด้วย

และแล้ว

“ทำไม? ฉันกลับมาตระกูลเฉินครั้งแรก ทุกคนถึงได้กระตือรือร้นเช่นนี้ ถึงกับต้องมาเรียงแถวต้อนรับเลยเหรอ?”

เสียงเยาะเย้ยขี้เล่น ดังขึ้นทันที

อยู่ในทางเดินสีเขียวที่เงียบเหมือนป่าช้า เหมือนดั่งเสียงฟ้าผ่า

โครม!

ทุกคนในตระกูลเฉินล้วนตะลึงกันไปแล้ว

เด็กคนนี้…..ทำไมถึงได้สามหาวถึงเพียงนี้

ต้องไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำขนาดไหน?

ท่านหลงกับคุนหลุนตกใจพร้อมกัน มองเฉินตงอย่างไม่กล้าจะเชื่อ

คุณชาย……..ต้องสามหาวขนาดนี้เลยเหรอ?

เยาะเย้ยคนตระกูลเฉินแบบนี้ กับการเยาะเย้ยคนทั้งตระกูลเฉิน มันต่างกันยังไง?

อย่างไรก็ตาม สายตาของทั้งสองคนหยุดอยู่บนร่างของเฉินตง แทบหายใจไม่ออก

เฉินตงในเวลานี้ แววตาที่ดูแคลน พลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้เห็นคนเหล่านี้อยู่ในสายตาเลย

กลับค่อยๆเดินไปข้างหน้า

ถึงขั้นใบหน้ายังได้แฝงไปด้วยรอยยิ้ม ยกมือคารวะ

“ฉัน ขอบคุณทุกคนที่มาเรียงแถวต้อนรับ”

ท่านหลงกับคุนหลุนตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความขมขื่น

พร้อมกับฟ่านลู่ รีบเดินตามไป

ความเงียบในกลุ่มคน สายตาที่ตกตะลึง

เฉินตงกลายเป็นจุดสนใจ ราวกับเข็มแหลมที่ไร้รูป แทงเข้าไปในหัวใจของทุกคนอย่างดุเดือด

คำพูดง่ายๆไม่กี่คำ ดูเหมือนเป็นการตบหน้าทุกคนที่อยู่ในนี้อย่างแรง

นี่คือการไม่เห็นหัว? เยาะเย้ย? ดูถูกดูแคลน?

“ซ้อมมันให้ตาย!”

ทันใดนั้น ในกลุ่มคน เสียงที่ราวกับว่าได้ใช้พลังไปทั้งหมด ก็ดังขึ้นมาในทันใด

ราวกับน้ำที่เทลงในกระทะน้ำมันเดือด ทำให้ทุกคนที่นิ่งเงียบ เดือดพล่านขึ้นมาทันที

“ตีมันให้ตาย หยามตระกูลเฉินของเรา เด็กคนนี้ควรตาย!”

“ตระกูลเฉินที่สง่างาม ทำไมถึงถูกคนมาหยาบถึงที่? สมควรตาย สมควรตายชัดๆ!”

……

อารมณ์ของกลุ่มคนที่ดุเดือด

ท่านหลงกับคุนหลุนที่กังวลต่างก็หนักใจในเวลาเดียวกัน

“คุนหลุน!”

ท่านหลงตะโกนอย่างจริงจัง

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ประกบที่ด้านซ้ายด้านขวาของเฉินตง

สีหน้าของท่านหลงแดงก่ำ เต็มไปด้วยพลังข่มขู่ กล่าวด้วยความโกรธ

“เขาเป็นลูกชายแท้ๆของเจ้าบ้าน หนึ่งในผู้สืบทอดของตระกูลเฉิน คุณชายเฉินตง ฉันก็อยากจะดูเหมือนกัน ว่าพวกแกใครจะกล้า?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset