Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 344 แม้จะเป็นลูกสวะ แกก็เทียบไม่ได้

เหมือนเสียงฟ้าผ่า

ครอบงำคนได้ทันที

คนตระกูลเฉินที่สีหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ก็ตกตะลึงในทันที

ในฐานะสมาชิกธรรมดาและคนใช้ในบ้าน เฉินตงสำหรับพวกเขาแล้ว ดูเหมือนจะเป็นความลับที่แตะต้องไม่ได้

ลูกชายของเจ้าบ้าน และเป็นหนึ่งในผู้สืบทอด?!

จะเป็นไปได้อย่างไร?

รายชื่อผู้สืบทอดตระกูลเฉินถูกเขียนไว้ในสมุดนานแล้ว แต่ไหนแต่ไรเจ้าบ้านเป็นคนที่สงบมีความปรารถนาน้อย และตัวเดียว

นี่มันลูกชายที่มาจากไหน? ผู้สืบทอดอะไรกัน?

อย่างไรก็ตาม คำพูดนี้ท่านหลงเป็นคนพูด ในฐานะที่เป็นคนสนิทของเจ้าบ้าน ไม่มีทางที่จะพูดโกหกในเรื่องแบบนี้

ในความเป็นจริง ตอนที่เฉินตงพาท่านหลงกับคุนหลุนเดินมาพร้อมกัน

ก็มีคนไม่น้อยที่สังเกตเห็นท่านหลงกับคุนหลุน ต่างหวาดกลัวและลังเล

เพียงแต่คำพูดและท่าทางของเฉินตง ช่างหยิ่งผยอง ได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คนเหล่านี้ละเลยการมีตัวตนอยู่ของท่านหลงและคุนหลุนโดยไม่รู้ตัว

ตอนนี้ท่านหลงก้าวไปข้างหน้า ตำหนิทุกคนด้วยความโกรธ

พริบตาเดียว ก็ทำให้ทุกคนตื่นตระหนกตกใจ

สายตาที่มองเฉินตงอย่างโกรธแค้น ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ

ตกใจ ประหลาดใจ ไม่อยากจะเชื่อ ถึงขนาดมีบางคนแววตาลุกไปด้วยไฟ

หากเป็นลูกชายของเจ้าบ้าน หนึ่งในผู้สืบทอดของตระกูลเฉิน คำพูดเมื่อกี้ ก็ไม่ใช่คำพูดที่หยิ่งผยองอะไร

แต่ถือได้ว่า…….เป็นกันเองและสุภาพแล้ว

ระเบียงทางเดินสีเขียวที่วุ่นวายเสียงดัง กลับเข้าสู่ความเงียบสงัดอีกครั้งในทันที

สายตาแต่ละคู่ยังคงกวาดมองอยู่ที่ตัวของท่านหลงกับคุนหลุนอย่างต่อเนื่อง

ท่านหลงเป็นคนรับใช้คนสนิทของเจ้าบ้าน

คุนหลุนคือบอดี้การ์ดข้างกายของเจ้าบ้าน

เขาทั้งสองเป็นที่รู้จักกันดีของสมาชิกธรรมดาและคนรับใช้ในบ้านเป็นอย่างดี

และตอนนี้ ทั้งสองนั้นประกบซ้ายขวาของเฉินตง มันเพียงพอที่จะทำให้สมาชิกธรรมดากับคนรับใช้ เงียบสงบลง

“หืม?”

เฉินตงยิ้มอย่างขี้เล่น และพูดติดตลกกับท่านหลง “ท่านหลง ที่แท้ฐานะท่านที่อยู่ในตระกูลเฉินก็มีความสำคัญไม่เบาเลยนะ”

ท่านหลงยิ้มเจื่อนๆ กล่าวด้วยเสียงต่ำ “มันก็ใช้ได้กับพวกสมาชิกธรรมดาและคนรับใช้เท่านั้น คุณชายก็อย่าล้อกระผมเลย ไปเถอะ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินตงหายไป กลับสู่ใบหน้าที่เคร่งขรึม “วันนี้ฉันก็อยากจะดูเหมือนกัน ใครจะสามารถขวางฉันได้!”

ก้าวเดินไปทีละก้าว ไม่ช้าไม่เร็ว ค่อยๆเดินไปข้างหน้า

สมาชิกคนธรรมดาในตระกูลและคนรับใช้ ไม่กล้าที่จะตามไปเลย

พลังที่ยิ่งใหญ่ ถึงขนาดทำให้บางคนหายใจไม่ออก

มันไม่เหมือนพวกคนรับใช้ที่อยู่ตรงหน้าซุ้มประตู ที่ถูกเฉินเทียนหย่างแอบสั่งการ

ตอนนี้สมาชิกทั้งหมดของตระกูลเฉิน คนที่สามารถจะสั่งการอย่างลับๆมีเพียงแต่สมาชิกระดับสูง

เฉินเต้าหลิน หรือไม่ก็คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน!

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

เสียงที่ดุดัน ดังขึ้นมา

เฉินตงหยุดฝีเท้าในทันที มองตามเสียงไป

และในเวลาเดียวกัน ทุกคนต่างทยอยมองไปปลายทางเดินระเบียงสีเขียว

ที่ตรงนั้น ร่างร่างหนึ่งหนึ่งค่อยๆเดินมาออกจากที่ตรงนั้น

ดวงตาที่อยู่ใต้แว่นขอบทองเปล่งแสงที่ขุ่นมัว

ใบหน้าเคร่งขรึมเย็นเยียบ ราวกับเกล็ดน้ำค้าง

เฉินเทียนเซิงค่อยๆเดินเข้ามา สายตาเหลือบมองไปที่สมาชิกและคนรับใช้ของตระกูลที่อยู่สองข้างทาง

“พวกแกมันไร้ประโยชน์จริงๆ ไม่รู้หรือว่าตระกูลเฉินไม่อนุญาตให้ลูกสวะเข้ามา?”

ลูกสวะ?!

หัวสมองของทุกคนดังขึ้นด้วยเสียงโครม สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

เฉินตงหรี่ตาลง ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่แปลกประหลาด

แต่ท่านหลงกับคุนหลุนและฟ่านลู่กลับขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

ตรงหน้าซุ้มประตูตระกูลเฉิน เฉินเทียนหย่างที่คำหนึ่งก็ลูกสวะสองคำก็ลูกสวะก็ช่างมันไปแล้ว

แต่เฉินเทียนเซิงที่อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินตั้งมากมาย ยังคงพูดคำว่าลูกสวะ แบบนี้คือต้องการให้คนในตระกูลรู้กันให้ทั่วใช่มั้ย?

ไม่ว่ากับเฉินตง หรือเฉินเต้าหลิน มันถือเป็นการดูหมิ่นอย่างโจ่งแจ้ง!!

เฉินเทียนเซิงเต็มไปด้วยความโกรธ และขยับแว่นตาที่สันจมูกของเขาอย่างใจเย็น

“ลูกสวะ ก็ควรมีสามัญสำนึกของลูกสวะ เทียนหย่างขัดขวางไม่ให้แกเข้ามา ก็เพราะหวังดีกับแก ลูกสวะอย่างแกมันช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ยังละเมิดกฎของตระกูลอย่างเปิดเผย หนทางที่แกเดินวันนี้ มันเป็นทางตันของแกแล้ว!”

คำพูดที่โน้มน้าวใจมีเหตุผล น้ำเสียงทรงพลังมีจังหวะจะโคน

ทำให้ทุกคนที่อยู่เหตุการณ์ได้ยินมีสีหน้าที่หวาดกลัว

และแล้ว

“ไปกันเถอะ”

เฉินตงยิ้มอย่างดูแคลน

ก้าวเท้าออกไปอีกครั้ง และเดินไปที่ปลายทางเดินสีเขียว เพียงแต่ดวงตาได้หรี่ลงมามากกว่าเดิมแล้ว

ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเหรอ?!

ม่านตาของเฉินเทียนเซิงหดเกร็ง เส้นเอ็นตรงหางตากระตุกอย่างแรง

เมื่อเห็นเฉินตงเดินตรงไปข้างหน้า เขาก็ก้าวเดินไปข้างหน้า ยกมือกดลงไปที่หน้าอกของเฉินตง

“หากก้าวเดินไปข้างหน้าอีกก้าวเดียว ฉันจะทำให้แกเสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้!”

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด

ตรงปลายทางเดินสีเขียว คนใช้ในบ้านที่ดุดันวหลายสิบคนก็รุมล้อมเข้ามาทันที

เดือดพล่านไปด้วยแรงแห่งการฆ่า!

ภาพนี้ได้ดึงดูดให้สมาชิกและคนรับใช้ในตระกูลที่อยู่ข้างทาง เกิดความโกลาหล

ท่านหลงส่งสัญญาณให้กับคุนหลุนและฟ่านลู่ในเวลาเดียวกัน ก้าวเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เข้าไปประกบ ล้อมเฉินเทียนเซิงไว้ตรงกลาง แล้วเผชิญกับคนรับใช้สิบกว่าคนในเวลาเดียวกัน

“ท่านหลง คุนหลุน ฉันขอเตือนให้พวกแกตัดสินใจให้ดีๆ!” เฉินเทียนเซิงกล่าวอย่างเย็นชา

พรึบ!

ทันใดนั้น เฉินตงยกมือขวาขึ้น ตบไปที่มือขวาของเฉินเทียนเซิงที่กดอยู่บนหน้าอก

ใบหน้าของเฉินเทียนเซิงบึ้งตึงว่าเดิม แววตามีความตกตะลึง

ไม่ทันที่เขาจะแสดงความโกรธ

เฉินตงก็ได้ขยับริมฝีปาก กล่าวอย่างเย็นชา “แก ก็อยากจะนอนคว่ำอยู่บนพื้น?

ความเย็นของแรงแห่งการฆ่า พุ่งใส่หน้าเขา

ราวกับลมหนาวที่พัดมาจากส่วนลึกของนรก เฉินเทียนเซิงยิ้มเยาะอย่างโกรธจัด

“ลูกสวะ แก……..”

โครม!

พูดไปได้เพียงครึ่งเดียว ลมกระโชกก็ดังขึ้น

ดวงตาที่หรี่ตาลงจนกลายเป็นเส้นตะเข็บของเฉินตงจู่ๆก็เปล่งแสงออกมา เขาขยับร่างกาย เร็วปานสายฟ้า ไปโผล่ตรงหน้าของเฉินเทียนเซิงโดยตรง

พลังที่หนักเหมือนภูเขา ทุบลงไปที่หน้าอกของเฉินเทียนเซิงอย่างอุกอาจ

เฉินเทียนเซิงส่งเสียงในลำคอ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก มีความรู้สึกเหมือนถูกค้อนหนักทุบ ก็แน่นหนักอกขึ้นมาทันที

ไม่ทันที่เขาจะเซถอยหลัง สองมือของเฉินตงราวกับงู ก็ไปเกาะรัดอยู่บนคอของเฉินเทียนเซิงในทันที

จากนั้น

จับแน่น แล้วกดลงไป

บู๊ม!

เสียงที่หน้าชนกับพื้น ดังเหมือนเสียงฟ้าผ่า

ทุกคนตกใจจนตัวสั่นไปพร้อมๆกัน

“อ้า!”

บนพื้น ดังขึ้นด้วยเสียงกรีดร้องของเฉินเทียนเซิง

บนพื้นหินอ่อน กระจัดกระจายไปด้วยเลือดสีแดง

ตามมาด้วยเสียงกรีดร้อง และการต่อต้านของเฉินเทียนเซิง

ร่างกายกึ่งนั่งกึ่งยืนของเฉินตง มือขวาเหมือนคีม ล็อกคอของเขาอย่างแน่น ไม่สามารถที่จะดิ้นหลุดไปได้เลย

ในขณะ แรงฆ่าของเฉินตงกำลังโหมกระหน่ำ สายตาคมกริบ

ราวกับดาบคมที่ดึงออกมาจากฝัก เหมือนจะแทงทะลุท้องฟ้า

ทำให้ทุกคนมองอย่างหวาดกลัว

แม้แต่คนรับใช้สิบกว่าคนที่บุกมาด้วยความดุดัน ก็ยังอุทานอย่างโกลาหล พวกเขาหยุดฝีเท้ากะทันหัน

น้ำเสียงที่เย็นชา ดังสนั่นไปทั่วทางเดิน

“คำก็ลูกสวะ สองคำก็ลูกสวะ การอบรมสั่งสอนของหัวกะทิในตระกูลเฉิน สั่งสอนให้แกเป็นคนปากหมาแบบนี้เหรอ?”

“ต่อให้ฉันจะเป็นลูกสวะในสายตาพวกแก แต่ก็เป็นลูกแท้ๆของเจ้าบ้าน และเป็นหนึ่งในผู้สืบทอด ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหรือสายเลือด คนหมาๆอย่างแกก็เทียบไม่ได้”

“แกจะเทียบกับฉัน? แกจะเอาอะไรมาเทียบ?”

พูดจบ เฉินตงก็ปล่อยเฉินเทียนเซิงออก แล้วลุกขึ้น เดินเไปทางคนรับใช้สิบกว่าคน

“พวกแกลงมือให้เต็มที่เลย หากตีฉันไม่ตาย ฉันจะตีพวกแกให้ตายทั้งหมด!”

พลังที่กดขี่ ดุจดาบที่ทลายท้องฟ้า

พลังที่ยิ่งใหญ่ บีบบังคับจนคนรับใช้หวาดกลัว ถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ไม่กล้าก้าวขึ้นมา

เฉินเทียนเซิงกลัวอย่างบอกไม่ถูก

ลุกขึ้นมาอย่างเจ็บปวด ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด

ภาพเมื่อกี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนฝัน

ไอ้หมอนี่ แข็งแกร่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เขาในตอนแรก ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้นะ!

มองดูเฉินตงที่เดินไปยังเป้าหมายโดยตรง ด้วยท่าทางที่หยิ่งผยอง เฉินเทียนเซิงนั้นโกรธอย่างมาก

เขาคำราม “ลงมือสิ พวกไร้ประโยชน์ ตระกูลเฉินเลี้ยงพวกแกไว้ให้ดูแลบ้าน ตอนนี้พวกแกมาถอยทำไม?”

เท้าของคนรับใช้หลายสิบคนยังคงหยุดอยู่กับที่ ยังคงมีความลังเลอยู่

เฉินตงในขณะนี้ ที่อยู่ในสายตาของพวกเขา ราวกับนักฆ่า!

ในเวลานี้

จู่ๆดังขึ้นด้วยเสียงของหญิงชรา

“คำสั่งของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ให้เฉินตงไปที่เรือนจิ้งซิน สมาชิกในตระกูลและคนรับใช้ ให้แยกย้ายกันทันที”

คำสั่งนี้ ทำให้คนรับใช้หลายสิบคนที่ต้องเผชิญหน้ากับเฉินตงโล่งอกไปพร้อมๆกัน

เรือนจิ้งซิน?!

เฉินเทียนเซิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือดได้อึ้งไปก่อน จากนั้นก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย

เรือนจิ้งซินเป็นเรือนของคุณย่า รอให้แกไปถึงตรงนั้น ก็จะสามารถปิดประตูตีแมว!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset