Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 349 ทางราชา ทางเผด็จการ ทางของผู้มีมนุษยธรรม

ความเย็นที่ไม่สิ้นสุด ทำให้คนขนลุก

ใบหน้าของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินถอดสี หน้าตาบูดบึ้ง

คำพูดของเฉินเต้าหลิน เห็นได้ชัดว่ากำลังว่าเธอ

เฉกเช่นเดียวกันกับตอนนั้นที่อยู่ในลานป่าไผ่คลับสี่ยิ่น ได้บอกให้เธอไปตาย

เฉินเทียนเซิงกับเฉินเทียนฟ่างตกใจกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรนานแล้ว รู้สึกไม่ปลอดภัย ยืนแทบจะไม่อยู่

หวาดกลัวเหมือนคลื่นทะเล

เจ้าบ้านกล้าพูดเช่นนี้กับคุณหญิงใหญ่ แล้วพวกเขาสองคน อยู่ในสายตาของเจ้าบ้านจะเหลืออะไร?

ท่านหลงกับคุนหลุนตื่นเต้นดีใจมาก พวกเขาแอบกำหมัดอย่างลับๆ

เฉินตงยิ้มที่มุมปากของเขา และมองไปที่เฉินเต้าหลิน

ความรู้สึกที่มีพ่อคอยหนุนหลัง มันดีมากเลย

ความรู้สึกแบบนี้ เป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

“ลูกผมเฉินตง ยอมไม่ได้ที่จะให้ใครมาดูถูกรังแกทั้งนั้น”

เฉินเต้าหลินกล่าวด้วยคำพูดที่เย็นชา เหลือบมองอย่างเผด็จการ “ไม่ว่าใครก็มีความโกรธทั้งนั้น ลูกฉันต่อต้าน มันผิดตรงไหน? คุณน้าสาม หากคุณถูกประณามเหยียบหยามขนาดนี้ ยังจะยื่นคอให้คนอื่นฆ่าเหรอ?”

คำพูดทรงพลัง แสดงความสามารถที่มีออกมาให้เห็น

คุณหญิงใหญ่กัดฟันแน่น มีความรู้สึกเหมือนอยากจะกระอักเลือด

น้อยนักที่เธอจะถูกคนพูดจาแดกดันถึงขั้นนี้

ในฐานะผู้อาวุโสของตระกูลเฉิน ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็อยู่อย่างสูงส่ง มีคนคอยล้อมหน้าล้อมหลัง

แม้แต่เฉินเต้าหลินในอดีต ก็ปฏิบัติกับเธอด้วยความเคารพ

ตอนนี้กลับเพราะเฉินตง มันจึงได้กลายเป็นแบบนี้

ริมฝีปากขยับไปมา คุณหญิงใหญ่ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

ก็เท่ากับยอมรับอย่างนัยๆ

เฉินเต้าหลินยิ้มเล็กน้อย “ดูเหมือนคุณน้าสามก็ทนไม่ได้แล้ว ลูกชายผมไม่ได้ทำผิดเลย ทำถูกเสียด้วยซ้ำ!”

“เฉินเต้าหลิน!”

ในที่สุดคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็ทนไม่ได้แล้ว “แก ที่แกพูดแบบนี้ เพราะจะลบล้างความผิดของไอ้ลูกสวะคนนี้ให้หมดจด แกในฐานะเจ้าบ้าน ในใจยังมีกฎระเบียบของตระกูลเฉินอยู่อีกหรือเปล่า?”

ตู๊ม!

เสียงดังขึ้นมาทันที

เฉินเต้าหลินตบฝ่ามือลงไปที่ราวจับวีลแชร์อย่างอุกอาจ “กฎระเบียบคนเป็นคนตั้งขึ้นมา ผมเฉินเต้าหลินเป็นเจ้าบ้าน แต่ผมไม่ใช่เต่าหัวหด คุณน้าสามเหยียบย่ำลูกผมจมดินขนาดนี้ ผมยังจะต้องเป็นเสือร้ายที่กินลูกอีกเหรอ?”

“วันนี้ ผมว่าลูกชายผมทำถูกต้อง มันก็คือถูก! คุณน้าสามมีอะไรไม่พอใจ อย่าไปลงที่เด็ก มาลงที่ผมให้หมด นานแล้วที่ไม่ได้ไหว้บรรพชน!”

“ไหว้บรรพชน” คำพูดประโยชน์ออกมา ทำให้ในเรือนเงียบเหมือนป่าช้าทันที

คำขู่ที่รุนแรง สาดออกมาโดยตรง

ทำให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเงียบไปจนได้

จากนั้น

เฉินเต้าหลินก็กวักมือ ตะโกนไปทางเฉินตง “ไอ้เด็กน้อย ยังอึ้งอยู่ทำไม? ไปกับพ่อ ครั้งต่อไปหากจะแก้แค้น อย่าลืมเรียกพ่อด้วย!”

“เข้าใจแล้วครับ คุณพ่อ”

เฉินตงยิ้มเยาะ ความเย็นชาบนใบหน้าของเขาหายไป เหลือเพียงรอยยิ้มอันอบอุ่น

ขณะที่ตอบรับ เขากับท่านหลงและคุนหลุนก็รีบเดินตามเฉินเต้าหลินไป

หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว

ในเรือน ยังคงเงียบเหมือนป่าช้า

เฉินเต้าหลินมาเร็ว และก็จากไปอย่างรวดเร็ว

แต่ได้แสดงพลังอำนาจที่น่ากลัวออกมา เผด็จการไม่มีใครเหมือน

กลับกดดันจนทุกคนหายใจไม่ออก ไม่มีคำพูดในการโต้เถียง

ครู่ใหญ่ๆ

“พันธุ์เลว! พ่อก็พันธุ์เลว ลูกชายก็พันธุ์เลว!”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินกำหมัดแน่น ร่างกายสั่นอย่างรุนแรง คำพูดได้ถูกบีบออกมาจากซอกฟัน “ตระกูลเฉิน ช้าหรือเร็วต้องพังย่อยยับอยู่ในมือของพันธุ์เลวสองคนนี้”

“คุณย่าใจเย็นๆครับ!”

เฉินเทียนเซิงรีบพูดปลอบ

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉนหันสายตาที่ดุร้ายมองไปทางเฉินเทียนฟ่าง “เทียนฟ่าง แกมันโง่ เมื่อกี้หากแกลั่นไกรเร็วหน่อย ฉันจะถูกไอ้พันธุ์เลวคนนี้กดขี่ถึงเพียงนี้หรือ?”

เฉินเทียนฟ่าง:“……”

เขาไม่ได้ตอบคำถามของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน แต่ได้ก้มหน้าให้ต่ำลง

คำตำหนิของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ทำให้เขากลัว แต่เขาเข้าใจดี หากเมื่อกี้เขาลั่นไกรเร็วกว่านี้ ตอนนี้เขาคงได้กลายเป็นศพไปแล้ว

เจ้าบ้านที่เผชิญหน้ากับใหญ่ยังกล้าพูดคำว่าไหว้บรรพชนออกมาได้ ซึ่งเป็นการข่มขู่อย่างเปิดเผย

เขาก็แค่คนตระกูลเฉิน แม้แต่ตำแหน่งผู้สืบทอดก็ไม่มี เจ้าบ้านอยากฆ่าเขา ก็ง่ายเหมือนกับการบดขยี้มด

ไปจากเรือนจิ้นซิน

เฉินตงรับวีลแชร์มาต่อจากฟ่านลู่ ค่อยๆเข็นเฉินเต้าหลินไปข้างหน้า

ตลอดทาง ไม่มีใครพูดเลย

ท่านหลงกับคุนหลุนเดินตามอยู่ข้างหลังอย่างเงียบๆ

“ฟ่านลู่ เธอตามหาเจ้าบ้านเจอได้ยังไง?” คุนหลุนกระซิบถาม

คฤหาสน์ตระกูลเฉินที่กว้างใหญ่ไพศาล คนที่มาครั้งแรก ไม่หลงทางก็นับว่าดีแล้ว อย่าว่าแต่จะตามหาเจ้าบ้านที่กำลังนอนรักษาอาการบาดเจ็บอยู่เลย

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ตระกูลเฉินเพิ่งจะถูกโจมตี แม้ว่าตระกูลเฉินยังคงต้อนรับแขก แต่ระดับความปลอดภัยได้เพิ่มไปในระดับที่สูงที่สุด คนที่เข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลเฉิน ไม่สามารถที่จะเดินตามอำเภอใจได้เลย

“มีคนพาฉันไป” ฟ่านลู่กะพริบตา ยิ้มอย่างมีลับลมคมใน

“ใคร?” คุนหลุนตกตะลึง

ท่านหลงเหลือบตามามอง “คุนหลุน ฟ่านลู่ไม่สะดวกจะพูด นายก็อย่าถามให้มากความ ตระกูลเฉินผู้มากไปด้วยอำนาจบารมี คนส่วนใหญ่จะรังเกียจคุณชาย แต่ก็มีคนที่จิตใจดี อดไม่ได้ที่จะช่วยเหลืออย่างลับๆ”

คุนหลุนจึงเงียบ

และคำสนทนาสั้นๆนี้ ก็ได้เข้าไปในหูของเฉินตง

เขายิ้มอย่างเรียบเฉย

เคยได้ยินท่านหลงพูดนานแล้ว ความสัมพันธ์ในตระกูลเฉินมันซับซ้อน ดูผิวผืนเหมือนมีแต่เจ้าบ้านกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินต่อสู้กัน เกรงว่าในที่ลับยังมีหลายพรรคหลายพวก

มีคนที่ช่วยคุณหญิงใหญ่ งั้นก็ต้องมีคนที่ช่วยคุณพ่อ

แม้กระทั่ง ต่อให้เป็นพวกตัวคนเดียว ไม่สนับสนุนฝ่ายใด ได้เข้ามาแทรกแซงในสถานการณ์เมื่อกี้ มันก็สมเหตุสมผล

เพียงแต่ การมาของคุณพ่อ สุดท้ายก็ได้คลี่คลายปัญหาที่ใหญ่หลวงของเมื่อกี้

ทันใดนั้น

“ตงเอ๋อ หากพ่อมาช้ากว่านี้ ดาบเมื่อกี้ นายจะฟันมันลงไปมั้ย?”

เฉินตาหลินที่แววตาลึกๆ ราวกับครุ่นคิด เอ่ยปากถาม

เฉินตงลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าว “เมื่อก่อนไม่ฟัน ตอนนี้ทำฟัน”

เมื่อก่อน? ตอนนี้? เฉินเต้าหลินสงสัย

เฉินตงยิ้มๆ “เมื่อก่อนผมแค่อยากจะก้าวเข้ามาในตระกูลเฉินอย่างสง่าผ่าเผย ผมมองโลกในแง่ดีเกินไป หากเป็นผมในอดีต บางทีวันนี้แม้แต่ประตูของตระกูลเฉินผมก็คงไม่เข้ามา!”

“ตอนนี้…….มีคนบอกเหตุผลกับผม คนรวยล้วนเป็นปีศาจร้ายที่อยู่ใต้ผิวหนังมนุษย์ หากต้องการเอาชนะพวกมัน ก็ต้องชั่วร้ายกว่าพวกเขา หรือพูดว่าต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ”

ความเย็น แทรกซึมเข้าสู่กระดูกโดยตรง

ได้ยินเช่นนี้

เฉินเต้าหลินกลับยกมุมปากขึ้น เผยรอยยิ้มที่โล่งใจออกมา

หลายวินาทีต่อมา เขาเลิกคิ้วถาม “ลุงเต้าจูนเป็นคนสอนลูกเหรอ?”

โครม!

ร่างกายของเฉินตงกระตุกไปหนึ่งที เอ่ยปากถาม “คุณพ่อรู้ได้อย่างไรครับ?”

เฉินเต้าหลินยกมือขึ้น ถูไปที่จมูกของเขา รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งอยู่ยิ่งลึกขึ้น

“มันคือหลักการปฏิบัติของลุงเต้าจูนของลูก คงจะบรรยายถึงตระกูลเศรษฐีได้เหมาะเจาะมาก แต่มันก็สุดโต่งเกินไป อย่างไรก็ตามการมองสุดโต่งแบบนี้ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของลูก มันเหมาะสมที่สุด จุดนี้ พ่อเทียบลุงเต้าจูนของลูกไม่ได้เลย”

เฉินตงลังเลไปหลายวินาที กลอกตาไปหนึ่งที

ก็ถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น “แล้วคุณรู้สึกว่าผมควรจะทำอย่างไร?”

“ในใจต้องมีความชอบธรรม ต้องมีความทะเยอทะยานที่ไม่แสดงออกมา มีแสงสว่างในดวงตา เมื่อเดินในเส้นทางราชา(คือการปกครองด้วยความมีเมตตากรุณา) ก็ต้องมีความเผด็จการ และต้องไม่ทิ้งทางมนุษยธรรม(มีเมตตากรุณา)” เฉินเต้าหลินกล่าวอย่างจริงจัง

เฉินตงขมวดคิ้ว ครุ่นคิดแล้วก็ยังมีค่อยเข้าใจอยู่ดี

“คุณพ่อครับ อะไรคือเส้นทางราชา? อะไรคือเผด็จการ? อะไรคือทางของผู้มีมนุษยธรรม?”

เฉินเต้าหลินยิ้มเล็กน้อย

เขาพูดอย่างลึกซึ้ง “หากคู่ต่อไม่สู้ซื่อสัตย์ ก็เหยียบข้ามจากตัวเขา คือเส้นทางของราชา หากคู่ต่อสู้ซื่อสัตย์ ก็ต้องเหยียบข้ามไป คือเส้นทางความเผด็จการ ก่อนที่จะเหยียบข้าม ก็พูดก่อน มันเป็นหนทางของผู้มีมนุษยธรรม!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset