Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 362 ธุรกิจที่อยู่เบื้องหลัง

จากชื่อเสียงในการครอบครองทรัพย์สมบัติของตระกูลเฉินนั้น

การมอบของขวัญหรูหราราคาแพง ถือเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง

พันล้านหรือหมื่นล้านก็ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่อะไร

แต่อย่างไรก็ต้องมีเหตุมีผลในการให้

เงินเล็กน้อยเพียงหนึ่งพันล้าน พ่อยังสามารถใช้เหตุผลในการชดเชยความผิดมาเป็นข้ออ้างในการให้เงินก้นกระเป๋าได้

เงินหมื่นล้าน หากใช้ข้ออ้างเดียวกันนี้เกรงว่าจะต้องตกเป็นขี้ปากของคนในตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

แต่เมื่อกู้ชิงหยิ่งตั้งครรภ์ พ่อจึงสามารถใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างได้

แม้ว่าจะดูเว่อร์กว่าที่ควรจะเป็นไปบ้าง แต่หากเทียบกับข้ออ้างให้เป็นเงินก้นกระเป๋าแล้ว ข้ออ้างนี้ทำให้คนยากจะโต้แย้ง

หลังจากที่เคยไปบ้านตระกูลเฉินมาครั้งหนึ่งแล้ว เฉินตรงก็เข้าใจเรื่องศึกในตระกูลอย่างแจ่มแจ้ง

ระดับบนมีคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเป็นผู้ปกครองโดยใช้ความอาวุโสทำให้คนอื่นเกรงใจ

ส่วนระดับล่าง ผู้มีอำนาจระดับเดียวกันจะแบ่งแยกเป็นสำนักของตนก่อกวนให้เกิดคลื่นใต้น้ำ

ตระกูลเฉินไม่เหมือนอย่างตระกูลร่ำรวยอื่น ที่เจ้าของตระกูลจะมีอำนาจเพียงคนเดียว

ท่านหลงยิ้มด้วยความยินดีแล้วพยักหน้า “ถูกต้อง เวลาหนึ่งปีผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน ตอนเด็กคุณชายใช้ชีวิตลำบาก จึงสู้พวกผู้สืบทอดที่ร่ำรวยไม่ได้ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถให้เงินสนับสนุนคุณชายได้ คุณชายจะได้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น”

เงียบไปครู่หนึ่ง ท่านหลงก็เอ่ยขึ้นอีกว่า “อันที่จริงเมื่อวานตอนที่กระผมแจ้งข่าวดีกับคุณท่าน คุณท่านก็แอบบอกใบ้มาแล้ว เพียงแค่เรื่องนี้อาจจะทำให้คุณนายน้อยไม่สบายใจได้”

เฉินตงชะงักงันและแอบรู้สึกละอายใจ

แน่นอน การใช้เรื่องตั้งครรภ์ของกู้ชิงหยิ่งเป็นข้ออ้างเพื่อจะสนับสนุนเขา สำหรับกู้ชิงหยิ่งแล้วถือว่าไม่เป็นธรรมกับเธอนัก

“ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ”

กู้ชิงหยิ่งส่ายศีรษะแล้วยิ้มชวนมอง “ตอนแรกฉันกลัวของขวัญมูลค่าหมื่นล้านนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้พอรู้สาเหตุที่แท้จริงฉันกลับรู้สึกสบายใจขึ้นด้วยซ้ำ”

กู้ชิงหยิ่งกล่าวพลางเอนกายซบไหล่เฉินตง ก่อนจะเอ่ยต่ออย่างนุ่มนวลว่า “ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ แน่นอนว่าฉันต้องอยากเห็นคุณบินได้สูงขึ้น ถ้าคุณสามารถที่จะทำตามความใฝ่ฝันได้สำเร็จ แค่ฉันดีใจกับคุณยังน้อยเกินไปเลย ฉันจะรู้สึกไม่สบายใจได้ยังไงล่ะคะ”

“ขอบคุณนะ” เฉินตงยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม

ได้ภรรยาเช่นนี้ ชีวิตคู่จะยังต้องการอะไรอีก?

“คนโง่” กู้ชิงหยิ่งใช้สายตาตำหนิแล้วก้มลงเอามือลูบท้องตัวเองแล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน “แต่คุณต้องรับปากกับฉันก่อนว่าจะทุ่มเทให้มาก! นี่เป็นของขวัญที่ปู่ให้ลูกของเรา ขืนคุณยอมแพ้ ฉันไม่ปล่อยคุณแน่”

“วางใจได้เลย เพื่อคุณกับลูก ผมจะต้องคว้ามงกุฎของตระกูลเฉินมาใส่ให้ได้!”

แววตาของเฉินตงแน่วแน่

เมื่อเห็นภาพเช่นนี้

ท่านหลงเลยยิ้มแปลกๆ ก่อนจะออกจากห้องรับแขกไปอย่างรู้งาน

แถมยังปิดประตูห้องรับแขกให้ด้วย

เฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งชะงักไปพร้อมๆ กัน จากนั้นจึงสบตากันแล้วหัวเราะออกมา

“ท่านหลงต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ”

“นับวันก็ยิ่งแปลกขึ้นเรื่อยๆ” กู้ชิงหยิ่งบ่นออกมา

เฉินตงเลยกล่าวว่า “เขาก็ไม่เคยปกติอยู่แล้ว”

เวลาก่อนเที่ยงวัน

ฉินเย่พาฉินเสี่ยวเชียนมาที่ลานป่าไผ่ด้วยเช่นกัน

เมื่อรู้ว่ากู้ชิงหยิ่งตั้งครรภ์ ฉินเย่ก็รีบบังคับให้เฉินตงรับปากว่าจะให้ตนเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กคนนี้ด้วย เฉินตงจึงรับปากด้วยความยินดี

ข่าวดีทั้งสองเรื่องในตอนนี้

ข่าวแรกคือกู้ชิงหยิ่งตั้งครรภ์ ข่าวที่สองคือองค์กร Hidden Killers ล้มเลิกภารกิจลอบสังหารเฉินตง

ทุกคนจึงเตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองครั้งใหญ่ตามคำชักชวนของท่านหลงกับฉินเย่

เฉินตงจึงเชิญกูหลังมาด้วย เพื่อเตรียมดูแลการ์ดทุกคนที่มาร่วมงาน

ช่วงที่ผ่านมานี้ทุกคนต่างเก็บกดกันมานาน เพราะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องหวาดระแวงการลอบฆ่าตลอดเวลา

ตอนนี้ท้องฟ้าสดใสแล้ว ความเก็บกดทั้งหมดก็สมควรถูกปลดปล่อยออกมา

ช่วงเวลาโพล้เพล้ ลานป่าไผ่แห่งนี้สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ

เสียงหัวเราะสรวลเสเฮฮา

อาหารมากมาย ทุกคนชนแก้วกันอย่างครึกครื้น

ณ ห้องโถงด้านนอกลานป่าไผ่ ทุกที่นั่งถูกจับจอง บรรยากาศเต็มไปด้วยความครื้นเครงสนุกสนาน

เฉินตงดื่มเหล้าเข้าไปไม่น้อย กูชิงหยิ่งจึงนำน้ำผสมน้ำผึ้งมาให้เขาดื่ม จากนั้นเขาจึงเดินโอบไหล่ฉินเย่ออกไปที่สนาม

ลมเย็นพัดโชย ทำให้สร่างเมาไปได้มากทีเดียว

“ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้อย่างกับความฝันเลย” เฉินตงยิ้ม แต่น้ำเสียงของเขาเจือความเศร้าใจ

“จริงด้วย หนึ่งเดือนที่ผ่านมาต้องคอยระแวงว่าจะโดนฆ่าตายอยู่ตลอด ไม่ว่าใครก็คงทนไม่ไหวทั้งนั้น” ในมือของฉินเย่ถือขวดเบียร์อยู่ขวดหนึ่ง จากนั้นจึงกระดกเบียร์ดื่มเข้าไปหนึ่งอึก “จริงสิ พวกการ์ดที่ตายไปแล้ว พี่ตั้งใจว่าจะจัดการยังไง?”

“ท่านหลงเตรียมแผนการช่วยเหลือเอาไว้แล้ว แต่ฉันก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเอาเงินจากบัตรตัวเองชดเชยให้พวกพี่น้องที่เสียชีวิตไปด้วย”

เฉินตงเอ่ยตามตรง ดวงตาที่เป็นประกายเพราะฤทธิ์สุราเริ่มปรากฏไอน้ำอุ่นๆ

ในหัวของเขาปรากฏภาพการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในเขตวิลล่าเขาเทียนชานวันนั้น

การต่อสู้ครั้งนั้น พวกการ์ดต่างยอมสละชีวิตที่เหลือของตนเพื่อช่วยให้เขารอดออกมา!

“ดีเลย” ฉินเย่ยิ้มพลางพผงกศีรษะ “นี่แหละคือสไตล์ของคนเป็นพี่ใหญ่”

“ไสหัวไป!”

เฉินตงด่าออกมาคำหนึ่งแล้วทำท่าเงยหน้ามองท้องฟ้า แต่อันที่จริงแล้วทำไปเพื่อปิดบังน้ำตาของตน เขาแอบถอนใจแล้วเอ่ยว่า “ทุกคนมีพ่อมีแม่เลี้ยงมา ชีวิตจึงสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น แต่พวกเขายอมสละชีวิตเพื่อช่วยฉัน ดังนั้นสิ่งที่ฉันพอจะทำได้ก็คือเงินชดเชยเล็กๆ น้อยๆ ก้อนนี้”

ฉินเย่เหลือบมองเฉินตงด้วยแววตาซับซ้อน

ปากของเขากระอึกกระอัก แต่สุดท้ายก็กลืนคำพูดที่เตรียมจะพูดลงท้องไป

เงียบไปครู่หนึ่ง ฉินเย่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความสงสัย “อันที่จริงแล้วฉันยังมีอีกคำถาม”

“อะไรล่ะ” เฉินตงเอ่ย

ฉินเย่เงยหน้ากระดกเบียร์หมดเกลี้ยง เมื่อวางขวดเบียร์ลงแล้ว เขาจึงหันมามองเฉินตงด้วยแววตาเป็นประกาย “คนที่ฆ่าคุณท่านใหญ่หลี่!”

“อันที่จริงฉันก็สงสัยเหมือนกัน”

เฉินตงไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ สายตาของเขาอยู่ห่างไกลออกไป “คนที่ฆ่าคุณท่านใหญ่หลี่เป็นคนปล่อยภารกิจลอบสังหารขององค์กร Hidden Killers หลุดออกไปในดาร์กเว็บ และ…”

หยุดไปพักหนึ่ง ก่อนเฉินตงจะลดเสียงลง “และก็เหตุผลที่ยิวหมินล้มเลิกตามฆ่าฉัน แต่หันปืนไปที่พ่อของฉันแทน”

“จะฆ่าเจ้าบ้านตระกูลเฉินเลยหรอ?” สีหน้าของฉินเย่เปลี่ยนไป “สมควรตาย มันกินอะไรเข้าไปถึงได้บ้าบิ่นแบบนี้?”

“มันตายไปแล้วล่ะ”

เฉินตงหันไปหาฉินเย่แล้วผายมือออกด้านข้าง เพราะเรื่องราวพวกนี้เขาไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก

นิ่งไปพักใหญ่ เขากะพริบตาใช้เวลาครุ่นคิดเรื่องราว “แกไม่คิดหรือว่าเรื่องราวพวกนี้พอโยงเข้าด้วยกันแล้วอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ตั้งแต่เริ่มจนจบมีคนคอยบงการอยู่ คอยปั่นหัวพวกตระกูลหลี่หน้าโง่ให้เล่นไปตามเกม และหันปลายมีดทั้งหมดมาที่ฉันคนเดียว?”

“ไม่ว่าจะคิดยังไง เรื่องนี้ก็เป็นฝีมือของคนคนเดียว หรือไม่ก็มาจากกลุ่มอำนาจเดียวกัน”

ฉินเย่ขมวดคิ้วราวกับกำลังใช้ความคิด เขาเงียบไปสองสามวินาทีก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอีกว่า “จุดที่ยากจะเข้าใจคือเรื่องที่ยิวหมินจะฆ่าพ่อของพี่”

เฉินตงเงียบไม่ตอบ

อันที่จริงเขาไม่ได้เพิ่งจะมาคิดตอนนี้ ตั้งแต่ตอนที่ตระกูลหลี่ให้องค์กร Hidden Killers ปล่อยภารกิจลอบสังหาร เขาก็คิดมาตลอดว่าคนที่คอยบงการเรื่องนี้คือใครกันแน่

ตอนเขาไปที่ตระกูลเฉิน เขาก็พยายามหาคำตอบอยู่ตลอดว่ายิวหมินหันปืนมาโจมตีพ่อของเขาทำไม

แต่เรื่องราวหลายเรื่องที่เกิดขึ้นก็สามารถสรุปออกมาได้ว่าเป็นฝีมือของคนคนเดียวหรือกลุ่มอำนาจเดียวเท่านั้น

แต่เรื่องที่ยิวหมินเบนกระบอกปืนนั้น เป็นเรื่องที่ยังค้างคาอยู่อย่างไร้สาเหตุ

เมื่อสุราออกฤทธิ์ เฉินตงก็พยายามสะบัดหน้าเพื่อให้หายมึน ยิ่งคิดมากขึ้นเท่าไหร่ อาการมึนหัวก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น

“เอาล่ะ เลิกคิดก่อนเถอะ”

ฉินเย่เห็นเฉินตงเมาไม่น้อย จึงส่ายหน้า “ผมไปส่งพี่เอง พี่สะใภ้กำลังท้องกำลังไส้ พี่ก็อย่าดื่มหนักนักเลย งานเลี้ยงคืนนี้คงใกล้จะเลิกแล้วล่ะ ผมกับท่านหลงยังมีแผนต้องไปต่อกันอีก”

“แลกเปลี่ยนเทคนิคกันน่ะเหรอ?” เฉินตงลุกขึ้นเดินไปยังห้องรับแขก

ฉินเย่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “พวกเราอยู่กันสองคนจะอายอะไร เอาเรื่องแลกเปลี่ยนเทคนิคมาบังหน้าไปงั้น แต่เบื้องหลังก็คือการทำธุรกิจนั่นแหละ”

เฉินตงยิ้มอย่างอารมณ์ดี

แต่ก้าวไปข้างหน้าได้เพียงสองก้าว เขาก็ยิ้มไม่ออกและชะงักงันอยู่กับที่

ใช่แล้ว

เบื้องหลังก็แค่การทำธุรกิจ?

การตายของคุณท่านใหญ่หลี่ ภารกิจลอบสังหารที่ถูกปล่อยไปในดาร์กเว็บ ยิวหมินโจมตีพ่อของเขา ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องบังหน้าหรอกหรือ?

เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดนี้มีคนหรือกลุ่มอำนาจหนึ่งซ่อนอยู่เบื้องหลัง

เรื่องที่ยิวหมินโจมตีพ่อของเขา หากมองเพียงเบื้องหน้าอย่างเดียวคงคิดไม่ออก แต่หากเรื่องนี้เดิมทีมีการเล่นมืออยู่เบื้องหลังล่ะ?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset