Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 375 เจ้านายของแกเป็นใครกัน ?

น้ำเสียงเย็นชาและน่าเกรงขาม

คนที่อยู่ในห้องวีไอพี แสดงความไม่พอใจออกมาทันที

สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่คนคนเดียว

นั่นคือชายหนุ่มเพียงคนเดียวในห้องวีไอพี ที่ยังคงโอบกอดหญิงสาวเอาไว้อยู่

ชายหนุ่มมีใบหน้าที่เหี้ยมโหด แสดงให้เห็นถึงความดุร้ายและหยิ่งผยอง ในปากของเขาคาบซิการ์เอาไว้ และเอนกายอย่างสบายอยู่บนโซฟา และโอบกอดหญิงสาวเอาไว้

เขาแสยะยิ้มแล้วเหลือบมองผู้จัดการล็อบบี้ “มัวแต่ทำอะไรอยู่ ? ถึงปล่อยให้หมาแมวเข้ามาเดินเพ่นพ่านอยู่ที่นี่ได้ ?”

ผู้จัดการล็อบบี้มีสีหน้าตื่นตระหนกในทันที “ประธานอู๋ ผมไม่ได้ปล่อยเข้ามา แต่พวกเขาดึงดันที่จะเข้ามา เป็นโจวเย่นชิว คนที่ถูกคุณสั่งสอนไปเมื่อช่วงบ่ายคนนั้น !”

อู๋จุนหาวหัวเราะออกมา เขาทำเสียงกระแอมและถ่มน้ำลายลงบนพื้น และพูดอย่างดุดันว่า “วันๆ ฉันสั่งสอนคนไปตั้งมากมาย จะต้องคอยจดจำชื่อด้วยหรือยังไง ?”

ผู้จัดการล็อบบี้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เขารีบหลบไปอยู่อีกด้านหนึ่ง

เฉินตงค่อยๆ ยกมือขึ้น และชี้ไปที่อ๋จุนหาว “แก ออกมาเดี๋ยวนี้ !”

“ถุย !”

อู๋จุนหาวนั่งพิงอยู่บนโซฟาอย่างเย่อหยิ่ง ในปากคาบซิการ์ ด้วยท่าทีที่ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา “แกเป็นใคร ? มาเห่าอะไรในที่ของฉัน ถ้าฉันออกไปจริงๆ วันนี้แกจบเห่แน่ !”

กูหลังซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของเฉินตงโมโหขึ้นมาทันที

ขณะที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้า กับถูกเฉินตงรั้งเอาไว้

“ไม่ใช่ว่าแกบอกให้คนของฉัน ไปบอกฉันว่าให้ยกเหล้ามาขอโทษหรอกหรือ ?”

เฉินตงหรี่ตาลง และมีแววตาที่โหดเหี้ยม “ตอนนี้ฉัน เฉินตง มาแล้ว”

“เฉินตง ? ไม่เคยได้ยินมาก่อน ในหลิ่งตงนี้ ยิ่งใหญ่กว่าหลินหลิ่งตงเจ้านายของฉันไหม ?”

ใบหน้าของอู๋จุนหาวเต็มไปด้วยความดูถูก เขาถูขมับ แล้วจู่ๆ ก็ส่งเสียงหัวเราะที่ดังกังวานออกมา “อ้ออ้ออ้อ ฉันนึกออกแล้ว พวกแกคือคนที่มาขอพบพี่ใหญ่ของฉันเมื่อตอนบ่าย เป็นสุนัขที่อยากจะแย่งชิงที่ดินไปจากมือของพี่ใหญ่ฉันใช่ไหม ?”

ปัง !

ลูกสมุนที่นั่งอยู่ข้างๆ อู๋จุนหาวตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น จากนั้นจึงชี้นิ้วด่าเฉินตง “ไอ้พวกสวะ พวกแกไม่รู้หรือว่าพวกแกกำลังพูดอยู่กับใคร ? พวกขยะอย่างพวกแก ไม่รู้ว่าวันวันหนึ่งประธานอู๋ต้องจัดการไปกี่ราย ?”

“ให้ตายเถอะ ปีนี้น้ำคงจะตื้นเขิน เศษสวะจึงลอยอยู่เยอะ ถึงได้มีพี่ใหญ่อยู่ทุกหนทุกแห่ง”

“ประธานอู๋ คุณพูดอะไรหน่อยสิ แค่เพียงประโยคเดียว วันนี้พวกมันทั้งสามคนก็คงต้องถูกหามออกไปจากที่นี่ !”

“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ ตอนบ่ายเพิ่งจะถูกต่อยไป กลางคืนยังจะกล้ามาอีก ประธานอู๋ ในเมื่อพวกเขายืนข้อเสนอที่ยากเกินรับได้เช่นนี้ คุณก็ช่วยใช้ความเมตตาสนองให้พวกเขาหน่อยเถอะ !”

ภายในห้อง มีเสียงพูดด้วยความโมโหดังขึ้นอย่าต่อเนื่อง พร้อมกับใบหน้าที่ขึงขัง

สีหน้าของโจวเย่นชิงและกูหลังเคร่งขรึมลงทันที

คนพวกนี้ ไม่รู้จักจบจักสิ้นจริงๆ !

กูหลังเดินเข้าไปยืนข้างๆ เฉินตงด้วยใบหน้าที่ดุดัน และกำลังจะเอ่ยปากพูด

ทันใดนั้น

“ฮ่าๆ !”

จู่ๆ เฉินตงก็หลุดขำออกมา

เพียงแต่ในเสียงหัวเราะฉาบไปด้วยความโหดเหี้ยม เขาหรี่ตาทั้งสองข้างลง และปรากฏเจตนาฆ่าที่รุนแรงขึ้น

ตอนนี้ แววตาของเฉินตงดูเหมือนนักฆ่ามือพระกาฬ !

ภาพนี้ ทำให้คนที่กำลังพูดจาด้วยความหยิ่งยโสอยู่ภายในห้อง หุบปากลงทันที

แม้กระทั่งอู๋จุนหาวเองก็รู้สึกตกใจกลัว

“ในเมื่อแกไม่ออกมา ฉันก็จะเข้าไปเอง”

เฉินตงค่อยๆ เดินเข้าไปอย่างสบายๆ พร้อมทั้งแสยะยิ้มมุมปากด้วยท่าทีเย็นชาและเคร่งขรึม “ในเมื่อแกไม่รู้จักฉัน เฉินตง ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอแนะนำตัวเองสักหน่อย”

“บ้าเอ๊ย ลงมือ !”

จู่ๆ อู๋จุนหาวก็มีท่าทีดุดันขึ้น เขาขว้างซิการ์ลงบนพื้นอย่างแรงทันที

ทันใดนั้น คนที่อยู่ในห้องวีไอพีสิบกว่าคน ก็รีบวิ่งเข้ามาล้อมเฉินตงไว้ทันที

“ตัวตลก!”

เฉินตงส่ายหัวอย่างดูถูก ทันใดนั้น เขาก็พุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว ราวกับเสือที่กระโจนลงจากภูเขา

ตุบตุบตุบ !

มีเสียงดังติดต่อกันสามครั้ง

ลูกสมุนสามคนร้องโหยหวนออกมา แล้วล้มลงไปบนพื้น

การเคลื่อนไหวของทุกคนชะงักลง และแสดงความหวาดกลัวออกมา

คนโหดเหี้ยม !

ทันใดนั้น คนในห้องวีไอพีต่างมีความคิดเช่นเดียวกันออกมา รวมไปถึงอู๋จุนหาวด้วย

จู่ ๆ เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง

กลับกลายเป็นแววตาของโจวเย่นชิวที่ยังคงเคลื่อนไหวด้วยความตื่นเต้น

ส่วนกูหลัง กลับรีบวิ่งเข้าไปหาเฉินตงอย่างรวดเร็ว และยืนเคียงบ่าเคียงไหล่

“ถอยไป !”

เฉินตงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย

กูหลังยังคงดึงดัน “คุณเฉิน ผม……”

“แค่ฝูงหมาฝูงแมว ฉันคนเดียวก็พอแล้ว” น้ำเสียงของเฉินตงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ทำให้กูหลังไม่อาจโต้แย้งได้อีก

แต่ประโยคที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งนี้ กลับเหมือนเข็มแหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วน ที่เข้ามาทิ่มแทงเส้นประสาทของพวกอู๋จุนหาวในทันที

“บ้าเอ๊ย มัวยืนนิ่งอยู่ทำไม ? เข้าไปเร็วสิ !”

อู๋จุนหาวออกคำสั่ง

ลูกสมุนที่กำลังอยู่ในอาการหวาดกลัว ต่างหันมองหน้ากันในทันที จากนั้นจึงพุ่งเข้าโจมตีเฉินตงอย่างรุนแรง

เฉินตงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทั้งหมัดและเท้าถูกปล่อยออกมาอย่างทรงพลัง

เคยเห็นมานักต่อนักแล้ว

พวกอันธพาลที่พบได้ตามท้องถนนพวกนี้ ไม่ได้อยู่ในสายตาของเฉินตงเลยแม้แต่น้อย

บางทีคนพวกนี้อาจดูน่ากลัวสำหรับคนธรรมดาทั่วไป

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แม้กระทั่งเป็นรองเท้าก็ยังเทียบไม่ติด

ตุ้บตุ้บตุ้บ……

เหมือนมเสียงกระสอบทรายดังก้องกังวานทั่วห้อง

และมีเสียงสิ่งของแตกกระจายอย่างต่อเนื่อง

หลังจากเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ลูกสมุนก็ค่อยๆ ลงไปนอนอยู่บนพื้นทีละคนๆ

การโจมตีของเฉินตง ตรงไปตรงมาและรุนแรง ทุกครั้งที่ปล่อยหมัดหรือเตะออกไป จะต้องมีคนล้มลงไปนอนบนพื้น ไม่ปล่อยให้มีโอกาสได้ปล่อยหมัดครั้งที่สอง

เพียงแค่สิบวินาที

ทุกคนก็ลงไปนอนอยู่กับพื้น และกรีดร้องโหยหวน

เฉินตงยืนอยู่ที่เดิมด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ ใบหน้าของเขาแสดงความดุดันออกมา

เขาดูเด็ดขาดราวกับเป็นนักฆ่ามือพระกาฬ

จากนั้นจึงค่อยๆ เหลือบไปมองอู๋จุนหาว

เมื่อสัมผัสได้ถึงแววตาของเฉินตงที่มองมา อู๋จุนหาวก็ตัวสั่น เขารู้สึกเหมือนน่ากลัวกำลังคืบคลานเข้ามาด้านหลังของเขา ทำให้เขานั่งไม่ติดอีกต่อไป

รวดเร็วเกินไปแล้ว !

เร็วจนเขาไม่อาจตั้งสติได้ทัน

คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นลูกน้องฝีมือดีของเขา ปกติแล้วคนเดียวต่อสู้กับคนหลายคนก็ไม่ใช่ปัญหา แต่คืนนี้ ทำไมจึงไร้น้ำยาเช่นนี้ได้ ?

ตอนนี้อู๋จุนหาวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาจ้องมองไปที่เฉินตง และรู้สึกเหมือนตนเองตกลงไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง

กูหลังแอบตกใจจนอ้าปากค้าง ส่วนโจวเย่นชิวกลับตื่นเต้นดีใจ

ปฏิกิริยาของทั้งสองคน แตกต่างกับอู๋จุนหาวที่อยู่ในห้องวีไอพีอย่างสิ้นเชิง

ภายในห้องวีไอพี เมไปด้วยบรรยากาศที่น่ากลัว

เฉินตงค่อยๆ เดินเข้าไปหาอู๋จุนหาวอย่างสบายๆ แล้วใช้สายตาจ้องมองลงมายังอู๋จุนหาวอย่างเหยียดหยาม “แกทำร้ายคนของฉัน ฉันทำร้ายแก คงไม่ถือว่าเกินไปหรอกใช่ไหม ?”

น้ำเสียงเย็นชา แต่แฝงไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง

สีหน้าของอู๋จุนหาวซีดเผือด และโพล่งถามออกมา “แก แกเป็นใครกันแน่ ? ทั้งทั้งเมืองหลิ่งตง ไม่มีทางที่จะมีคนอย่างแกอยู่แน่นอน”

“แซ่เฉิน ส่วนชื่อคือคำว่าตง !”

เฉินตงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ตอนนี้ พาฉันไปพบเจ้านายของแก หลินหลิ่งตง”

พบเจ้านาย ? !

อู๋จุนหาวตกใจเป็นอย่างมาก ในใจของเขานั้น หลินหลิ่งตง ก็เปรียบเสมือนพระราชาแห่งเมืองหลิ่งตง ทั้งสูงส่ง และเปรียบเสมือนมังกรที่ยิ่งใหญ่

หากไม่ได้รับคำสั่งจากหลินหลิ่งตง ใครก็ไม่อาจเข้าพบหลินหลิ่งตงได้ !

“แก แกคิดว่าแกเป็นใคร ? เจ้านายของฉัน หลินหลิ่งตง……”

อู๋จุนหาวตะคอกออกมาเสียงดัง

เพียงแต่ ยังไม่ทันจะพูดจบ

ตุ้บ !

เฉินตงคว้าศีรษะของอู๋จุนหาว แล้วฟาดลงไปบนโต๊ะกระจกที่วางอยู่ตรงหน้าทันที

เพล้ง……

หลังจากเสียงร้องโหยหวนของอู๋จุนหาวดังขึ้น ก็เกิดเสียงของกระจกที่แตกออก และกระจัดกระจายลงบนพื้น

เมื่อดึงศีรษะของอู๋จุนหาวขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของเขาก็เปียดโชกไปด้วยเลือดเรียบร้อยแล้ว

เฉินตงค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปหาอู๋จุนหาว แววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย น้ำเสียงฟังดูเยือกเย็นราวกับลมหนาวที่พัดออกมาจากในนรก

“แกคิดว่า เจ้านายของแกเป็นใครกัน ?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset