Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 390 หน้าด้านไร้ยางอาย

ระหว่างทางที่กลับคลับสี่ยิ่น

อารมณ์ของเฉินหดหู่มาตลอดทาง ใบหน้าเย็นชา

กูหลังที่อยู่ด้านข้างเหลือบมองเฉินตงเป็นครั้งคราว กลับอยู่ในความเงียบสงบ

ในฐานะผู้ชาย เขาเข้าใจความรู้สึกตอนนี้ของเฉินตงอย่างดี

“คืนนี้ก็ไปที่คลับสี่ยิ่นเถอะ”

เฉินตงพูดกับกูหลัง ทำลายความเงียบในรถ

“ครับผม” กูหลังตอบรับ

เฉินตงพูดขึ้นมาอีก “เรื่องนี้ ช่วยผมเก็บเป็นความลับ ผมไม่อยากให้เรื่องนี้กระทบความรู้สึกของเสี่ยวหยิ่ง”

ปัจจุบัน กู้ชิงหยิ่งถึงจะเป็นทุกอย่างของเขา

บวกกับตอนนี้กู้ชิงหยิ่งกำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เขาถึงได้ปิดบังกู้ชิงหยิ่ง

อดีตที่ผ่านไปแล้วพูดมันง่าย แต่ไม่ว่าจะเกิดกับใคร หากย้อนคิดขึ้นมา มันก็เหมือนหนามทิ่มแทงอยู่ในใจ

ฟ้ายิ่งอยู่ยิ่งมืด

เมื่อเฉินตงจอดรถแล้ว ก็กลับเข้าไปในลานป่าไผ่

เดิมวางแผนที่จะนอนบนเก้าอี้ในห้องโถง แต่เมื่อนึกถึงคำพูดกู้ชิงหยิ่งในวันนั้น เขาก็เดินเข้าไปในห้องนอนอย่างระมัดระวัง

ในห้องนอน ไฟหัวเตียงยังสว่างอยู่

เป็นกู้ชิงหยิ่งที่เปิดไว้ให้เขา

และกู้ชิงหยิ่ง เหมือนกับแมวน้อย ขดตัวนอนอยู่บนมุมเตียง ตัวห่อไว้ด้วยผ้าห่ม

เฉินตงเดินไปถึงข้างเตียงอย่างระมัดระวัง ก็ไม่ได้ถอดเสื้อ นอนลงบนเตียงพร้อมกับเสื้อผ้าบนตัว คลองพื้นที่ของเตียงไปเพียงนิดเดียว

กำลังจะหลับตาพักผ่อน

จู่ๆ ข้างกายก็มีความเคลื่อนไหว

เฉินตงลืมตาขึ้นมา ก็เห็นกู้ชิงหยิ่งได้เข้ามาใกล้เขาแล้ว ได้ลืมตาขึ้นมาด้วย

“กลับมาแล้วเหรอ?”

กู้ชิงหยิ่งยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาที่ง่วงนอนหาวไปหนึ่งที

“อืม” เฉินตงตอบรับไปหนึ่งคำ พลางกอดกู้ชิงหยิ่งเข้ามาในอ้อมแขน “ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องรอผมน่ะ เบาขนาดนี้แล้ว ยังทำให้คุณตื่น”

“แต่ฉันเต็มใจอยากจะนอนหลับในอ้อมแขนของคุณอะ”

กู้ชิงหยิ่งเงยหน้ามองเฉินตง กะพริบตา “คุณมีเรื่องไม่สบายใจ? ดูสีหน้าคุณไม่ค่อยจะดีเลย”

“ไม่มีอะไร เรื่องงานน่ะ”

เฉินตงตอบไปหนึ่งคำ เรื่องคืนนี้ ถือว่าได้จบลงแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญหน้ากับกู้ชิงหยิ่ง เขายังคงรู้สึกผิดอยู่ดี

โดยเฉพาะที่กู้ชิงหยิ่งเปิดไฟไว้รอเขา และคำพูดที่พูดว่าอยากจะนอนหลับในอ้อมแขนของเขา

เฉินตงลูบสันจมูกของกู้ชิงหยิ่ง “ต่อไปผมจะพยายามกลับมาให้เร็ว เพื่อกอดคุณนอน”

“รักนะคุณสามี” กู้ชิงหยิ่งหลับตาลง เธอนั้นง่วงนอนจนไม่ไหวแล้ว

เฉินตงยิ้มอย่างอ่อนโยน หลับไปพร้อมกับกู้ชิงหยิ่ง

ทั้งตลอดทั้งสัปดาห์ คลื่นลมเงียบสงบ

ไท่ติ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเฉินตง ได้ที่ดินมาอย่างต่อเนื่อง และได้เริ่มโครงการแล้ว

และทางด้านตระกูลฉิน ฉินเย่ก็ได้ส่งข่าวมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทการเงินของตระกูลฉิน เปรียบเสมือนยักษ์ใหญ่ในวงการการเงิน อาศัยสิ่งนี้ ฉินเย่และฉินเสี่ยวเชียนอยู่ในวงการการเงิน ทำอะไรที่ไหนล้วนราบรื่นไปหมด

เดิมทั้งสองก็ไม่ใช่คนอ่อนแออยู่แล้ว ตอนแรกฉินเย่ได้เอาเงินหลายหมื่นล้านตั้งบริษัทการเงินจนกลายเป็นธุรกิจหลักของตระกูล ฉินเสี่ยวเชียนอาศัยความสามารถของตัวเอง ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย

เหตุที่ทั้งสองคนอยู่ในตระกูลฉินมานานแต่ชื่อเสียงไม่โดดเด่น ก็เพราะพวกเขาถูกตระกูลฉินที่กินเลือดกินเนื้อกดขี่เอาไว้

วันนี้เมื่อออกมาจากตระกูลเฉิน พลิกกลับมาเป็นฝ่ายที่ควบคุมธรุกิจครึ่งหนึ่งของตระกูลเฉิน ทั้งสองเหมือนกับอยู่ในโลกอันกว้างใหญ่ที่สามารถแสดงความสามารถของตัวเองได้อย่างอิสรเสรี

บริษัทบันเทิงได้เริ่มโปรโมทความคืบหน้าของโปรเจ็กต์แล้ว และทำกำไรได้มากมาย

ข่าวดีที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเชื่อมั่นของเฉินตงเพิ่มขึ้นเท่าตัว

เมื่อไฟมันติดแล้ว หลังจากนี้หนึ่งปี ในวันที่ตัดสินว่าใครจะได้เป็นเจ้าบ้าน เขาเชื่อมั่นว่า ผลงานของตัวเอง จะทำให้ทุกคนต้องเหงื่อตกและอับอาย

สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ

ในหนึ่งสัปดาห์นี้ เฉินตงแน่ใจไปแล้วเรื่องหนึ่ง

นั่นก็คือเรื่องท่าทีที่คนตระกูลเฉินมีต่อเฉินตง!

การหายตัวไปของคุณพ่อ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องคุณพ่อ ยังกังวลตระกูลเฉินที่ไม่มีคุณพ่อคอยควบคุม คนที่เห็นว่าเขาเป็นหนามตำตา จะหาเรื่องเขาทุกอย่าง

เผชิญหน้ากับตระกูลเฉิน มันยังยากเกินไปสำหรับเขาที่จะต่อต้านในตอนนี้

หากคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินให้คนตระกูลเฉินมาเล่นงานเขา สำหรับเขาแล้ว มันก็คือการถูกภูเขาไท่ซานทับอย่างไม่ต้องสงสัย

ในเวลาหนึ่งปี จะจะถูกกดขี่จนแทบจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย

ยังดีที่ตระกูลเฉินไม่ได้ทำแบบนั้น!

ความสุขความทุกข์เป็นเรื่องไม่เที่ยง

ในขณะที่เฉินตงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดีใจ รวบรวมพลังทั้งหมดในการพัฒนาโครงการของเขานั้น

ที่เมืองหลิ่งตง กลับมีบางอย่างเกิดขึ้น

“แฟนของหลินหลิ่งตงเป็นผู้หญิงมือสอง ราชาใต้ดินผู้สง่างามในเมืองหลิ่งตง กลับรับของเหลือเดนของคนอื่น!”

ข่าวตามท้องถนน เหมือนกับข่าวสุดฮอตในผัง สร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองหลิ่งตง

ทันทีที่มีข่าวออกมา ทำให้หลินหลิ่งตงถูกนินทาว่าร้ายอย่างดุเดือด

และอดีตของราชาใต้ดินของเมืองหลิ่งตง ก็ได้กลายเป็นคนที่ชาวบ้านเอามาพูดคุยในยามว่าง ในคำพูด ต่างก็เยาะเย้ยและแดกดัน

คฤหาสน์ในหมู่ตึกหลิ่งตง

สีหน้าของหลินหลิ่งตงมืดมนถึงขีดสุด

ช่วงระยะเวลานี้ เขาถูกข่าวลือทำให้หัวโต

ด้วยนิสัยของเขา เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องชื่อเสียง

มิเช่นนั้นตอนแรกก็คงไม่ทนต่อแรงกดดันของข่าวลือ ยอมให้ที่ดินกับเฉินตงจากนั้นก็ยังพยายามในการเชิญเฉินตงอีก

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เขาทนต่อไปไม่ได้แล้ว!

ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือที่ด่าว่าดูถูกหวางหนันหนันเป็นของมือสอง หรือเหยียบหยามที่เขารับของเหลือเดน

หวานหนันหนันนั่งอยู่ด้านข้าง สีหน้าก็แย่ถึงขีดสุดเหมือนกัน

ข่าวลือที่จู่ๆ ก็โผล่มาในเมือง เสมือนมีดคม แทงไปที่แผลเป็นของเธออย่างไร้ความปรานี เปิดแผลอย่างไร้ความปรานี จากนั้นมีดคมก็แทงเข้าไปในบาดแผล

เพียงแต่ หวางหนันหนันในตอนนี้กลับเอาแต่ก้มหัวครุ่นคิด อารมณ์สับสน

ก๊อก ก๊อก!

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

ไม่ทันที่หลินหลิ่งตงเอ่ยปาก อู๋จุนหาวก็ผลักประตูเข้ามาแล้ว

“เจ้านาย สืบได้เรื่องแล้วครับ”

อู๋จุนหาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ สายตาเหมือนจะกวาดมองไปทางหวางหนันหนัน

หวางหนันหนันเงยหน้าขึ้น แววตามีความกระวนกระวายเล็กน้อย

หลินหลิ่งตงกัดฟัน สายตาดุร้าย “ใครเป็นคนทำ?”

น้ำเสียงเฉียบขาด เย็นดั่งน้ำแข็ง

ทำให้สีหน้าของหวางหนันหนันซีดขาวเล็กน้อย

อู๋จุนหนาวก็มีสีหน้าที่หนักใจ

เขาติดตามหลินหลิ่งตงมาหลายปี รู้ว่าครั้งนี้หลินหลิ่งตงโกรธแล้ว!

สายตาที่ซับซ้อนเหลือบมองไปที่หวางหนันหนัน อู๋จุนหาวพูด “เป็นพ่อแม่และน้องชายของอาซ้อครับ”

คำพูดนี้ออกมา

หลินหลิ่งตงอึ้งไปทันที

ดวงตาที่สวยงามของหวางหนันหนันก็เอ้อล้นไปด้วยน้ำตา ทำให้ตาแดงขึ้นมาทันที

“หนันหนัน เรื่องมันยังไงกัน? คุณไม่เคยเอ่ยถึงพ่อแม่น้องชายของคุณเลย”

หลินหลิ่งตงเห็นปฏิกิริยาของหวางหนันหนัน ทันใดนั้นในใจก็มั่นใจคำพูดของอู๋จุนหาวทันที

“ฉัน ฉัน……..”

หัวใจของหวางหนันหนันเหมือนถูกมีดเฉือน สับสนว้าวุ่น พูดไม่ออกทันที

หลินหลิ่งตงมีสีหน้าที่เฉียบขาด

เขาลุกขึ้นอย่างโกรธเคือง และจับไหล่ทั้งสองข้างของหวังหนันหนันเอาไว้ “ผมเคารพคุณ ไม่สืบประวัติของคุณของคุณ ทำไมอดีตของคุณถึงได้ทำให้ผมเสียงชื่อ?”

เขาคือราชาใต้ดินในเมืองหลิ่งตง เขามีความทะนงตนในแบบฉบับของตัวเอง

เพื่อบางเรื่องแล้ว เขาสามารถทนได้ สามารถวางความทะนงตนลงได้

แต่ทนจนไม่สามารถที่จะทนอีกไป ก็ไม่จำเป็นต้องทนแล้ว!

ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงจะไม่ระเบิดอารมณ์ใส่หวางหนันหนันขนาดนี้

แต่ครั้งนี้คนที่มาทำให้เขาเสียชื่อ กลับเป็นพ่อแม่และน้องชายของหวางหนันหนัน!

นี่มันเป็นเรื่องที่น้ำเน่าแค่ไหน?

“หลิ่งตง คุณใจเย็นๆ ”

หวางหนันหนันลนลาน เขารีบลุกขึ้นและลูบหน้าอกให้หลินหลิ่งตง พลางร้องไห้อย่างน่าสงสาร “ฉันกับพวกเขาได้ตัดขาดความสัมพันธ์กันไปแล้ว ฉันได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเขาไปนานแล้ว แต่ฉันคิดไม่ถึง……..คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะทำ……..”

“หน้าด้านไร้ยางอาย?”

หลินหลิ่งตงพูดตัวอักษรห้าตัวนี้ออกมาอย่างเย็นช

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset