Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 394 นายหญิงของวิลล่าเขาเทียนซาน แซ่กู้!

คืนฝนปรอย

จางซิ่วจือค่อมอยู่บนตัวหวางเต๋อ เธอตะโกนด่าพลางข่วนหน้าของเขาอย่างคลุ้มคลั่ง

หวางเต๋อยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตน ใบหน้าของเขาปรากฏรอยข่วนเลือดซิบ และร้องโหยหวนออกมาอยู่ตลอดเวลา

ส่วนหวางเห้านั้นอยู่ท่ามกลางสายฝน เขากอดขาทั้งสองข้างของตนเอาไว้ ใบหน้าของเขาขาวซีดและร้องไห้โอดครวญ

ภาพเหตุการณ์นี้ทำเอาการ์ดทั้งสองคนที่กำลังบูดบึ้งเตรียมจะลงมือหยุดชะงัก ดวงตาเหม่อลอยอ้าปากค้าง

นี่มัน…คนบ้าหรือ?

ทั้งสองหันมาสบตากันแล้วเตรียมจะเดินผละออกไป

ที่ตรงนี้ห่างจากประตูใหญ่ของเขตวิลล่าพอสมควร ถ้าคนบ้าสองสามคนจะอาละวาดอยู่ตรงนี้ เสียงเอะอะก็คงจะเข้าไปไม่ถึงเจ้าของบ้านในเขตวิลล่า ขอแค่ไม่เข้าใกล้ประตูใหญ่เขตวิลล่า พวกเขาก็คงไม่ต้องยุ่ง

และในตอนที่ทั้งสองกำลังหันหลังกลับไปนั้น

“พวกแกหยุดเดี๋ยวนี้!”

จางซิ่วจือที่กำลังคลุ้มคลั่งลุกพรวดยืนขึ้นอยู่ด้านบนตัวหวางเต๋อ เธอออกคำสั่งการ์ดทั้งสองคนราวคนเสียสติ “หมาเฝ้าประตูสองตัวจะไปไหนเหรอ ให้พวกเราเข้าไปเดี๋ยวนี้ พวกเราคือพ่อตา แม่ยาย ของเฉินตง แถมเขาคนนั้นก็คือน้องสะใภ้ของเฉินตง!” ระหว่างพูดจางซิ่วจือก็ชี้นิ้วไปที่หวางเห้าที่กำลังนอนอยู่บนพื้น

การ์ดทั้งสองคนหยุดชะงักลงอีกครั้ง

หวางเต๋อไม่สนใจความเจ็บปวดที่ใบหน้า เขารีบร้อนลุกขึ้นเพื่อห้ามจางซิ่วจือ “เธอเลิกวุ่นวายได้แล้ว ขอร้องล่ะ อย่าวุ่นวายอีก…”

น้ำเสียงของเขาเศร้าสลดจนแทบเป็นการอ้อนวอน

แต่จางซิ่วจือหันขวับกลับมาอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายฝน ดวงตาแดงฉานราวกับกำลังจะกินเลือดกินเนื้อของเธอจ้องเขม็งกลับไปที่หวางเต๋อ “หุบปากเดี๋ยวนี้! พวกเราไม่มีทางให้ถอยอีกแล้ว!”

หวางเต๋อชะงักไปด้วยความตกใจ

ทันใดนั้นในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความขมขื่น

ใช่แล้ว ไม่มีทางให้ถอยแล้ว!

เงินหลายล้านเสียพนันไปจนไม่เหลือ แถมจางซิ่วจือยังติดหนี้นอกระบบอยู่อีกหลายแสน

ครอบครัวที่สมบูรณ์ครอบครัวหนึ่ง มีชีวิตร่ำรวยเพียงไม่กี่วันก็กลับมามีสภาพอย่างเก่าแล้ว แถมยังแย่กว่าเก่าด้วยซ้ำ

หวางหนันหนันขอตัดสัมพันธ์ไปแล้ว หากไม่สามารถหาแหล่งเติมเงินล้านได้ คนทั้งสามคงจะต้องกระโดดตึกตายจริงๆ

เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หวางเต๋อก็รู้สึกราวกับตนเองกำลังฝันไป

จู่ๆ น้ำตาก็เอ่อล้นออกมาจากดวงตาของเขา

ไม่อย่างนั้นแล้วหลังจากที่เธอวางแผนทำร้ายเฉินตงแล้ว ทำไมเขาถึงไม่คิดจะแก้แค้น?

ขอแค่หาตัวเฉินตงให้พบ แล้วลงไปนอนดิ้นพล่านร้องไห้ร้องห่ม เธอแน่ใจว่าจะต้องรีดเอาเงินออกมาจากกระเป๋าของคนหัวอ่อนไร้ประโยชน์เช่นเฉินตง เพื่อเอามาใช้หนี้หลายแสนของตนได้ เผลอๆ อาจจะได้ถึงสิบล้านด้วยซ้ำ

ด้วยความมั่นใจนี้เอง จางซิ่วจือจึงไม่สนใจคำทักท้วงของหวางเต๋อและหวางเห้าและตรงมาที่วิลล่าเขาเทียนซานอย่างแน่วแน่

ในความคิดของเธอ เฉินตงเป็นคนรวย เงินแค่สิบล้านคงเป็นเงินเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น แค่กระตุกคนหัวอ่อนคนนี้ให้ได้ จะต้องสามารถขุดทองออกมาจากเหมืองทองคำได้อย่างแน่นอน

แต่คำตอบของการ์ดที่เอ่ยออกมานั้นเปรียบเสมือนหมัดหนักๆ ที่ทำให้ความฝันของเธอต้องพังทลาย

ถ้าไม่ได้คนเส็งเคร็งอย่างเฉินตงคอยช่วยเหลือ เมื่อคนทวงหนี้มาถึง…

ในหัวของจางซิ่วจือปรากฏภาพที่น่าสยดสยอง จนทำให้เธอตัวสั่น

ใบหน้าของเธอถมึงทึงขึ้น เธอกัดฟันแน่นมองไปที่การ์ดทั้งสองคนเตรียมจะระเบิดอารมณ์อีกครั้ง

หวางเต๋อดึงสติกลับมาได้จึงรีบเข้าไปรั้งจางซิ่วจือเอาไว้จากทางด้านหลัง

“พอได้แล้ว! จำเรื่องน่าอับอายที่นี่ในตอนนั้นไม่ได้หรือไง เขาย้ายหนีออกไปแล้ว เธอยังจะทำอะไรอีก?”

ตัวของจางซิ่วจือสั่น เธอเห็นภาพที่ตัวเองถูกจับมัดออกมาจากวิลล่าเขาเทียนซานแล้วโยนทิ้งลงเขาไป เธอจึงอดมองการ์ดทั้งสองคนด้วยความหวาดกลัวไม่ได้

ตอนนี้ไม่เหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้ว ตอนนั้นพวกการ์ดกล้าโยน ตอนนี้คงจะยิ่งกล้าทำเข้าไปใหญ่

ด้วยความพยายามทั้งห้ามทั้งเตือนของหวางเต๋อ ทำให้จางซิ่วจือยอมถอยออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก ส่วนหวางเห้าก็หยุดร้องโอดครวญไปแล้ว

เงาของคนทั้งสามเริ่มไกลออกไป

การ์ดทั้งสองคนถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กัน

“แม่งเอ๊ย คนบ้าสามคนนี้ก็เข้าใจเลือกสถานที่นะ จะไปก่อเรื่องที่อื่นก็ไม่ได้ จะต้องมาก่อเรื่องถึงที่นี่?”

“เฮ้อ คิดซะว่าดวงซวยละกัน ช่วงเวลาแบบนี้ใครไม่เคยผ่านกันบ้าง? แต่ยังโชคดีที่ตาแก่นั่นคอยห้ามยายบ้านั่นอยู่ ไม่อย่างนั้นแล้วฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะห้ามยังไงดี คู่มือการทำงานไม่ได้เขียนเรื่องนี้เอาไว้ซะด้วย”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset