Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 395 ไปแล้วย้อนกลับ

เช้าวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส

เฉินตงทำตัวว่างหนึ่งวัน โดยไม่ยอมไปบริษัท

เขาใช้ข้ออ้างที่ฟังดูดีว่าจะย้ายบ้าน

แต่อันที่จริงแล้วเขาต้องการอยู่เป็นเพื่อนกู้ชิงหยิ่ง

เวลาตั้งครรภ์ หากสามีมีเวลาอยู่เป็นเพื่อนได้จะช่วยลดอาการโรคซึมเศร้าของสตรีที่ตั้งท้องได้

เฉินตงไม่รู้ว่าคำพูดนี้เป็นจริงหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับความต้องการที่จะอยู่เป็นเพื่อนภรรยาของเขา

ในความคิดของเขา หากสามารถเฝ้ามองท้องของกู้ชิงหยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวันๆ ได้ และสัมผัสถึงร่องรอยของอีกชีวิตที่อยู่ในครรภ์ นั่นถือเป็นเรื่องที่สวยงามและมีความสุขมากสำหรับเขา

ตอนเช้าตรู่

ท่านหลงกับคุนหลุนได้จัดเตรียมรถเอาไว้เรียบร้อยแล้ว คนกลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้าเดินทางกลับไปที่เขตวิลล่าเขาเทียนซาน

บางทีอาจจะเป็นเพราะไม่ได้กลับมาที่เขตวิลล่าเขาเทียนซานนานแล้ว ทุกคนจึงต่างพากันอารมณ์ดี

เป็นความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน

แม้ว่าการอาศัยอยู่ที่คลับสี่ยิ่นจะสะดวกสบาย เพราะท่านเมิ่งดูแลทุกอย่างอย่างเรียบร้อยก็ตาม

แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงความเป็น “บ้าน”

อาจจะมีเพียงคนที่เคยมีบ้านเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าบ้านมีคุณค่ามากขนาดไหน

ขบวนรถยาวเหยียดได้เคลื่อนตัวมาถึงเขตวิลล่าเขาเทียนซาน

เมื่อเห็นภาพบรรยากาศรอบๆ ที่กลับมามีสภาพเหมือนอย่างในตอนแรก เฉินตงพลันรู้สึกจิตใจล่องลอย

“คุนหลุน ยังจำเหตุการณ์คืนนั้นได้ไหม”

คุนหลุนพยักหน้า “หากไม่ได้คุณชาย พวกเราทั้งกลุ่มคงจบเห่กันไปหมดแล้วแน่ๆ”

จบเห่กันทั้งกลุ่ม ไม่ได้เป็นคำที่ตั้งใจเอ่ยออกมาเพื่อยกยอเฉินตง

แต่มาจากประสบการณ์การต่อสู้จริงที่เคยเป็นแม่ทัพทหารมาหลายปีในสนามรบนับครั้งไม่ถ้วน

เหตุการณ์ในวันนั้น กองกำลังการ์ดทั้งหมดถูกการโจมตีของทหารรับจ้างเดดพูลห้อมล้อมเอาไว้ทั้งหมด

หากไม่ใช่เพราะเฉินตงขับรถฝ่าโจมตีขบวนของเหล่าทหารรับจ้างเดดพูล คนที่อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นทั้งหมดคงจะไม่เหลือรอดเลยสักชีวิต!

“อย่าชมผมเยอะเลย คืนนั้นผมก็แค่อยากช่วยพวกคุณเท่านั้น” เฉินตงขำตัวเอง “ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น”

“ถึงคุณชายไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ประสบความสำเร็จมาก สามารถช่วยการ์ดคนอื่นๆ ที่เหลือเอาไว้ได้” คุนหลุนยิ้มตาม

เฉินตงขยี้จมูกก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “โจวเย่นชิวจัดการทุกอย่างได้ละเอียดรอบคอบมาก ของทุกอย่างที่โดนทำลายกลับคืนเหมือนอย่างในตอนแรก ดูเหมือนว่าไม่เคยเกิดการต่อสู้ขึ้นที่นี่เลย”

ระหว่างที่พูดคุยกัน

ขบวนรถก็ขับมาถึงประตูใหญ่ของเขตวิลล่าเขาเทียนซาน และการ์ดของเขตวิลล่าก็ออกมาขวางเอาไว้

การ์ดทั้งสองคนเดินเข้ามาสอบถามด้วยท่าทางสุภาพและเป็นมิตรอย่างยิ่ง

เพราะขบวนรถที่มีรถมากกว่าสิบคัน ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามอย่างยิ่ง

“ท่านผู้นี้คือคุณชายเฉินตงของพวกเรา พวกเราคือเจ้าของเขตวิลล่าแห่งนี้”

ท่านหลงเอ่ยมาดนิ่ง

หลังจากผ่านเหตุการณ์ทหารรับจ้างมาแล้ว การที่เขตวิลล่ายกระดับการรักษาความปลอดภัยของการ์ดขึ้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

หากถามการ์ดคนอื่นที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ อาจจะไม่เข้าใจคำพูดของท่านหลง

แต่โชคดีที่การ์ดสองคนนี้คือการ์ดคนเดียวกับการ์ดที่เข้าเวรเมื่อคืน

เมื่อได้ยินคำว่า “เฉินตง” สองคำนี้

อากัปกิริยาของทั้งสองก็เปลี่ยนไปทันที หัวใจของพวกเขาเต้นกระหน่ำ

สายตาของพวกเขาแอบเหลือบมองไปยังเฉินตงที่นั่งอยู่เบาะแถวหลัง

“เอ๊ะ?”

ท่านหลงเริ่มแสดงท่าทีไม่พอใจ จากนั้นเอ่ยเสียงแข็ง “คุณชายของตระกูลเราใช่คนที่พวกแกอยากจะมองก็มองได้งั้นรึ?”

การ์ดทั้งสองตกใจกลัว รีบหลบสายตาไปทางอื่นทันที

จากนั้นจึงปล่อยขบวนรถเข้าไปโดยไม่มีพิธีรีตองใดๆ ต่อจากนนั้นอีก

เพราะว่าพวกเขารู้ดี ตัวตนของบุคคลที่เป็นรายชื่อลับในเขตวิลล่าแห่งนี้ เบื้องหลังจะต้องมีเส้นสายที่ใหญ่โตอย่างแน่นอน

มดปลวกอย่างพวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องให้พวกเขาทำตามขั้นตอนที่ยุ่งยากอย่างแน่นอน

เมื่อขบวนรถเข้าไปด้านใน

เฉินตงขยี้จมูกแล้วยิ้ม “ท่านหลง พวกการ์ดเขาก็ลำบากนะ ท่านจะขู่พวกเขาทำไม สองคนนั้นหน้าตาไม่คุ้น คงจะเพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน”

“ก็เพราะว่าหน้าไม่คุ้น กระผมจึงต้องทำแบบนี้”

ท่านหลงยิ้มอย่างเมตตา แววตาของเขาวับไหว “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่วิลล่าเขาเทียนซานร้ายแรงขนาดนั้น คุณชายรอดพ้นจากความตายมาได้ แต่ก็เปรียบเหมือนเป็นการเปิดสัญญาณเตือนภัย ดังนั้นจะไม่ป้องกันเลยไม่ได้”

เฉินตงยิ้มแล้วไม่เอ่ยอย่างอื่นต่ออีก

ความสำเร็จอย่างยาวนานที่เกิดมาจากความรอบคอบ จำเป็นต้องจัดการเช่นนี้

ประตูใหญ่เขตวิลล่า

การ์ดทั้งสองมองตามขบวนรถที่แล่นเข้าไปอยู่พักใหญ่กว่าจะหลุดจากภวังค์

“นี่คือคุณเฉินที่ลูกพี่บอกใช่ไหม? ยังวัยรุ่นอยู่เลย!”

“ใช่ๆ!”

การ์ดอีกคนสมทบพลันนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วถามขึ้นว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวาน ต้องเล่าให้คุณเฉินฟังด้วยไหม?”

“เกี่ยวอะไรกับพวกเราล่ะ พวกเขากลับไปแล้ว ต่อไปคงไม่มาที่นี่อีก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ ไม่ต้องใส่ใจมากจะดีกว่า”

วิลล่าได้ถูกฟื้นฟูกลับมาดังเดิมแล้ว

ทุกซอกทุกมุมถูกซ่อมแซมอย่างประณีต ไม่เพียงไร้จุดแตกต่าง แต่ยังดีกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ

“คุณชายครับ โจวเย่นชิวจัดการได้ดีมาก คราวนี้นอกจากจะปรับปรุงซ่อมแซมวิลล่าอย่างดีแล้ว ยังเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้นด้วย” ท่านหลงกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม

“เขาค่อยๆ กลายเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาแล้ว” เฉินตงพูดคำพูดแปลกประหลาดออกมา และนึกถึงเรื่องในตอนนั้นที่โจวเย่นชิวเอ่ยยกยอเฉินเทียนเซิง

คนทั้งหมดลงรถและเริ่มขนของ

แน่นอนว่า งานงานนี้เป็นงานของคุนหลุนกับฟ่านลู่

เฉินตงยืนอยู่ด้านข้าง เขาโอบเอวของกู้ชิงหยิ่งเอาไว้แล้วมองดูรอบตัวอย่างเงียบๆ

แต่สายตาของเขาดันเหลือบไปเห็นเสื้อตัวน้อยที่อยู่ตรงอกของกู้ชิงหยิ่งจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “มันก็แค่ไหมกองหนึ่ง เสื้อผ้ายังไม่ทันจะถักเสร็จ คุณจะทะนุถนอมขนาดนี้ไปทำไม?”

“ไร้สาระ!”

กู้ชิงหยิ่งหันไปค้อนใส่เฉินตงอย่างไม่สบอารมณ์ “นี่คือเสื้อผ้าของลูกเรานะ แถมเป็นชุดตัวแรกที่ฉันถักได้ใหญ่ขนาดนี้ ต้องทะนุถนอมเป็นธรรมดา”

“ได้ๆๆ คุณทะนุถนอมเสื้อผ้า ผมทะนุถนอมคุณ” เฉินตงฉีกยิ้ม

ใบหน้าเรียวของกู้ชิงหยิ่งเริ่มแดงระเรื่อ เธอลดเสียงลง “คนเยอะแยะอยู่แถวนี้ ไม่รู้จักอาย”

“ผมจะพูดจาหวานๆ กับเมีย พวกเขาจะมีปัญหาอะไร?”

เฉินตงยืดอกอย่างภาคภูมิแล้วกล่าวต่ออย่างได้ใจว่า “คุนหลุนกับฟ่านลู่กำลังวุ่นวายเรื่องย้ายของ ท่านหลงก็คอยสั่งการอยู่ เขาอายุเยอะขนาดนี้แล้ว หูของเขาคงใช้งานได้ไม่ดีเท่าไหร่ คงจะไม่ได้ยินหรอก”

“อะแฮ่ม…”

สิ้นเสียงพูดไม่นาน ท่านหลงที่กำลังออกคำสั่งอยู่ก็กระแอมออกมาแล้วหันไปเอ่ยอย่างเศร้าๆ ว่า “ขอโทษด้วยครับ กระผมได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจน”

เฉินตง “…”

เพี๊ยะ!

กู้ชิงหยิ่งอายจนก้มหน้างุด เธอแอบสอดมือด้านขวาของเธอเข้าไปตรงเอวของเฉินตงแล้วหยิกอย่างแรง

และในเวลาเดียวกันนี้

บนถนนรอบเขา

รถแท๊กซี่คันหนึ่งกำลังขับมุ่งหน้าไปทางเขตวิลล่าเขาเทียนซานด้วยความเร็วจี๋

บนรถ

สายตาของหวางเต๋อมืดมน ท่าทางของเขากำลังคล้ายตกอยู่ในภวังค์

ข้างกายเขา

จางซิ่วจือกำลังบ่นด่าไม่หยุด

“ฉันว่าเมื่อคืนพวกเราสองคนต้องถูกหมาเฝ้าประตูสองตัวนั่นหลอกแน่ๆ วิลล่าเขาเทียนซานราคาแพงเป็นร้อยล้าน คนเส็งเคร็งอย่างเฉินตงจะย้ายออกไปดื้อๆ ได้ยังไง”

“เป็นเพราะเศษสวะทึมทื่อไร้ความรู้สึกอย่างแก ถ้าตอนนั้นแกไม่ห้ามฉัน ฉันคงบุกเข้าไปรื้อบ้านแล้ว”

“แกมันไม่ได้เรื่อง เศษสวะ ชีวิตจางซิ่วจือช่างโชคร้ายจริงๆ ถึงต้องมาเจอเรื่องราวเฮงซวยแบบนี้ วันนี้จะต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตาให้ได้!”

เสียงพูดไม่ขาดสายทำเอาคนขับแท๊กซี่ขมวดคิ้ว

เขามองหวางเต๋อผ่านกระจกหลัง และพูดแซวเล่นว่า

“พี่ชายใจเย็นมากเลย จะต้องเป็นคนรักเมียมากแน่ๆ”

“แล้วมาเสือกอะไรด้วย?” จางซิ่วจือถลึงตาตวาดด่าออกไป

คนขับรถหัวเราะ แล้วไม่ต่อปากต่อคำอีก

“เขาก็แค่ล้อเล่นเฉยๆ เธอจะอะไรนักหนา?”

สายตาของหวางเต๋อเริ่มกลับมามีโฟกัสขึ้นบ้าง “เขาก็บอกว่าย้ายไปแล้ว ทำไมเธอจะต้องทำแบบนี้ด้วย และอีกอย่าง พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาแล้ว!”

เพี๊ยะ!

จางซิ่วจือตบหน้าหวางเต๋อเต็มแรง “มันเรื่องของฉัน แกมาเกี่ยวอะไรด้วย? แกพูดอย่างนี้ แสดงว่าแกมีวิธีทำให้พวกทวงหนี้ไม่มาทวงเงินคืนได้งั้นเหรอ ต้องหาเงินมาใช้หนี้อีกตั้งหลายแสน ถ้าฉันต้องกระโดดตึกตาย ฉันจะลากแกกระโดดลงไปด้วย!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset