Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 396 ร้ายกาจไม่เคยเปลี่ยน

ตลอดทาง ในรถเต็มไปด้วยเสียงก่นด่าของจางซิ่วจือ

แววตาของหวางเต๋อกลับไปมืดมนอีกครั้ง เขาจมอยู่ในภวังค์ คล้ายวิญญาณได้ออกจากร่างไปแล้ว

คนขับแท็กซี่เองก็รีบเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็วขึ้น หูของเขาจะได้เงียบสงบลงเสียที

เอี๊ยด!

รถแท๊กซี่หยุดลงหน้าประตูใหญ่ของเขตวิลล่า

จางซิ่วจือลากหวางเต๋อลงมาจากรถแล้วหันไปบอกคนขับรถว่า “แกรอพวกเราอยู่ตรงนี้ก่อน อีกเดี๋ยวค่อยคิดเงินทีเดียว พวกเราต้องนั่งรถกลับด้วย”

“เจ๊จ่ายของเที่ยวนี้มาก่อนดีกว่า ส่วนขากลับค่อยว่ากันใหม่” คนขับรถแท๊กซี่ตอบ

“ถุย! ไอ้ประสาท เมื่อคืนฉันเพิ่งโดนหลอกมา เห็นว่าฉันเป็นคนโง่หรือไง ไอ้พวกคนขับรถใจดำถึงเอาแต่หลอกฉันอยู่เรื่อย?”

จางซิ่วจือถ่มน้ำลายใส่พื้น “ถ้าฉันให้เงินแก แกก็คงไสหัวไปทันที รออยู่ที่นี่แหละ ฉันอยู่ที่เขตวิลล่านี้ได้ จะมีปัญหาอะไรกับเงินเล็กน้อยแค่นี้”

คนขับรถแท็กซี่เอือมระอา จึงไม่โต้ตอบ

เพราะเขาคิดจะรับเงินแล้วหนีไปให้พ้นจริงๆ

ส่วนคำพูดของจางซิ่วจือนั้น เขาไม่ใส่ใจเลยสักนิด

คนที่อยู่ในเขตวิลล่านี้มีหรือที่จะนั่งรถแท๊กซี่?

ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องราวที่จางซิ่วจือบ่นด่ามาตอนอยู่บนรถ เขาก็ได้ยินทุกอย่างเต็มสองรูหู

ตอนนี้เขาจึงหวังอยากจะเคลียร์ค่ารถเที่ยวที่แล้วให้จบๆ

จางซิ่วจือลากหวางเต๋อเดินไปยังประตูใหญ่ของเขตวิลล่า

เธอเชิดหน้าก้าวอาดๆ เข้าไปอย่างรวดเร็ว

ราวกับไม่เห็นหัวการ์ดของวิลล่า

“คุณผู้หญิง หยุดก่อน!”

การ์ดรีบเดินออกมารับและขวางทางจางซิ่วจือกับหวางเต๋อเอาไว้

เพี๊ยะ!

ดวงตาของจางซิ่วจือแดงก่ำขึ้นแล้วยกมือขึ้นตบหน้าการ์ด “ไอ้หมาเฝ้าประตู คิดจะขวางเจ้าของบ้านของแกหรือไง? ไสหัวไป!”

ฝ่ามือนั้นทำให้การ์ดมึนงง เริ่มงานมาได้ไม่กี่วัน ได้พบเจอเจ้าของบ้านในวิลล่ามาก็ไม่น้อย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เจอคนแบบนี้

“ขอโทษด้วยครับคุณผู้หญิง ผมแค่ทำตามหน้าที่”

การ์ดพยายามฝืนกลั้นความรู้สึกและก้มหน้าขอโทษ

“เก็บไว้พูดกับแม่แกเถอะ!”

จางซิ่วจือยกมือเท้าเอว “วันนี้ฉันจะต้องเข้าไปข้างในให้ได้ เทวดาหน้าไหนก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้น!”

หยาบคาย ไร้มารยาท ไม่สนใครหน้าไหน

แต่ยังไม่ทันจะลงมือตบอีกครั้ง หวางเต๋อก็เข้ามาขวางเอาไว้

“เธอพูดดีๆ ไม่ได้เลยหรือไง ทำไมนับวันนิสัยยิ่งน่ารังเกียจแบบนี้?”

จางซิ่วจือเลิกคิ้วหันกลับไปถลึงตามองหวางเต๋อ “แกห้ามฉันอีกแล้วหรอ”

เสียงโหวกเหวกโวยวาย ทำให้เจ้าของบ้านในวิลล่าที่ผ่านเข้าออก และการ์ดคนอื่นๆ เริ่มได้ยิน

และหนึ่งในนั้นก็คือการ์ดที่เข้าเวรเมื่อคืน

“ดวงซวยจริงๆ ไปแล้วแล้วจะกลับมาทำไมอีก?”

การ์ดบ่นพึมพำและรีบสาวเท้าออกไปด้านหน้าแล้วโบกมืออย่างไม่สบอารมณ์ “พวกคุณมาอีกทำไม รีบไปซะ คิดว่าวิลล่าของพวกเรา ใครคิดอยากจะเข้าก็เข้ามาได้งั้นเหรอ?”

เมื่อคืนเขาพอรู้เรื่องคร่าวๆ มาจากลูกพี่บ้างแล้ว

ดังนั้นตอนนี้ การ์ดผู้นี้จึงไม่ไว้หน้าจางซิ่วจืออีก

มนุษย์ป้าที่ท่าทางเหมือนคนบ้า แค่เขาไม่ลงไม้ลงมือก็ถือว่ามีมารยาทมากแล้วสำหรับเขา

ทว่า

จางซิ่วจือกลับไม่แยแส แผดเสียงออกไปอีก “นี่หมาเฝ้าประตูอย่างแกเริ่มนิสัยเสียขึ้นแล้วหรอ เมื่อคืนก็เป็นแกใช่ไหม ฉันก็รู้สึกว่าเมื่อคืนมันมีอะไรแปลกๆ ที่แท้หมาเฝ้าประตูอย่างแกรู้จักหลอกเจ้านายด้วยเหรอ?”

“คุณ…” การ์ดโมโหจนหน้าแดงก่ำ

ไม่รอให้ทันได้ตอบโต้ จางซิ่วจือก็แสยะยิ้มออกมาอย่างน่าสยดสยอง “เอาล่ะ ถ้าแกไม่ยอมให้เจ้านายเข้าไป อย่างนั้นแกก็เข้าไปลากไอคนเส็งเคร็งเฉินตงออกมา! มันนอนกับลูกสาวฉันฟรีๆ มาสามปี วันนี้ฉันจะให้มันชดใช้!”

นอนฟรี?!

หวางเต๋อถลึงตาด้วยความเดือดดาล

คำพูดเช่นนี้ เป็นคำพูดที่คนเป็นแม่ใช้พูดถึงลูกสาวตัวเองหรือ?

“มัวแต่ยืนงงอะไร ยังไม่รีบเข้าไปอีก?”

จางซิ่วจือเห็นการ์ดไม่ยอมขยับเขยื้อน ตอนนั้นเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่ตนสังหรณ์ใจนั้นถูกต้อง

ด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดของเธอ จึงยกมือตบหน้าการ์ดอีกครั้ง

เพี๊ยะ!

การ์ดรีบยกมือขึ้นมาคว้าข้อมือของจางซิ่วจือเอาไว้ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพลางเอ่ยเสียงแข็ง “นายหญิงของเขตวิลล่าเขาเทียนซานแซ่กู้ และไม่มีความข้องเกี่ยวใดกับลูกสาวคนบ้าอย่างคุณ!”

“แซ่กู้?”

ท่าทีของจางซิ่วจือแปรเปลี่ยน ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอโดนกระซวกเข้าอย่างรุนแรง

เมื่อย้อนนึกถึงอดีต หากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง นายหญิงของเขตวิลล่าแห่งนี้จะต้องแซ่หวาง จางซิ่วจือรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ

ยิ่งเจ็บใจ เธอก็ยิ่งโกรธจัด

โดยไม่ทันตั้งตัวมาก่อน

จู่ๆ จางซิ่วจือพลันนั่งลงไปบนพื้น ดิ้นไปดิ้นมา ร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้น

“โธ่เอ๊ย ฟ้าดินไม่เป็นใจ คนเลวทรามนั่นสมควรตาย นอนกับลูกสาวฉันมาฟรีๆ ตั้งสามปี ถึงตอนนี้ก็ไม่รู้จักรับผิดชอบ”

“ถีบหัวส่งเมียหลวงเพื่อเมียน้อย ทำไมใจดำอำมหิตแบบนี้”

“ลูกสาวของฉันน่าสมเพชจริงๆ ต้องนอนกับเขาฟรีๆ ตั้งสามปี ตอนนี้ก็เป็นแค่นางฟ้าตกสวรรค์ แถมยังไม่ได้รับการชดเชยอะไรสักอย่าง”

……

เสียงโวยวายทำเอาคนในวิลล่าที่กำลังเข้าออกพากันกระอักกระอ่วน

“พระเจ้า! ในวิลล่าของพวกเรา มีคนไร้ศีลธรรมแบบนี้เข้ามาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เป็นไปไม่ได้หรอก! ดูท่าทางผู้หญิงคนนี้คลุ้มคลั่งพูดไม่รู้เรื่อง พยายามใส่ร้ายใครอยู่รึเปล่า?”

“คนเราร้อยพ่อพันแม่ ถ้าเป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูดจริงๆ คนคนนั้นก็เลวทรามจริงๆ”

เมื่อได้ยินเสียงวิจารณ์ของคนรอบๆ จางซิ่วจือก็นึกดีใจ และยิ่งร้องโวยวายดังขึ้น

เธอรู้ดีว่า ยิ่งสร้างเรื่องให้วุ่นวายมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีโอกาสได้เจอเฉินตงมากขึ้นเท่านั้น

นิสัยกดขี่ หยาบคายไร้เหตุผลเป็นสิ่งที่ทำจนเคยชิน แถมจางซิ่วจือยังเอาวิธีการนี้มาเป็นอาวุธเด็ดของตนเองอีกด้วย! คิ้วของการ์ดเริ่มขมวดแน่นอย่างไร้หนทาง

คำพูดที่ลูกพี่ให้พูดก็พูดออกไปแล้ว ทำไมเรื่องยังไม่จบอีก?

และในขณะที่มีการปะทะกันอยู่ด้านหน้าประตูใหญ่นั้น

ผู้จัดการนิติบุคคลก็รีบร้อนขับรถไปที่วิลล่าของเฉินตง

อันที่จริงแล้ว ตอนที่เฉินตงนำขบวนกลับเข้ามาในวิลล่า ผู้จัดการนิติบุคคลก็รู้เรื่องแล้ว

“คุณเฉิน แย่แล้วครับ”

สีหน้าของผู้จัดการนิติบุคคลหมองคล้ำ มีคนมาก่อเรื่องอยู่หน้าเขตวิลล่าเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับเขาจริงๆ

“มีอะไร?”

ตอนนั้นเฉินตงกำลังโอบกู้ชิงหยิ่งอยู่ จึงมองไปที่ผู้จัดการนิติบุคคลด้วยความข้องใจ

ผู้จัดการนิติบุคคลถือเป็นคนฉลาด จึงเหลือบมองไปที่กู้ชิงหยิ่ง เพื่อส่งสัญญาณให้เฉินตงปลีกตัวออกมาอีกด้าน

เมื่อออกมาห่างกู้ชิงหยิ่งแล้ว เขาถึงจะรายงานเฉินตง “ที่ประตูใหญ่มีคนสองคนกำลังก่อเรื่องวุ่นวาย บอกว่าคุณนอนกับลูกสาวของพวกเขาฟรีๆ มาสามปี และยังบอกว่าไม่เคยรับผิดชอบ ไม่เคยได้เงินชดใช้ ตอนนี้พวกเราเองก็ไม่รู้ว่าต้องจัดการเรื่องนี้ยังไง เลยจะมาขอถามความเห็นของคุณเฉินครับ”

จางซิ่วจือ หวางเต๋อ?!

สีหน้าของเฉินตงเย็นชาขึ้นมา ความเดือดดาลพลุ่งพล่านขึ้นมาแทนที่

ร้ายกาจไม่เคยเปลี่ยน!

หวางหนันหนันกลับมาแล้ว ครอบครัวเสื่อมทรามนี้ก็ตามกลับมาด้วย!

เมื่อโกรธจนถึงขีดสุด เขากลับหัวเราะออกมา “หน้าไม่อายจริงๆ คนที่กล้าพูดว่าฉันนอนกับลูกสาวพวกเขาฟรีๆ มาสามปี คงจะไม่สนใจศักดิ์ศรี และคงจะไม่เห็นว่าลูกสาวของตัวเองเป็นคนแล้ว”

แม้ว่าจะกำลังยิ้ม แต่ผู้จัดการนิติบุคคลก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความหนาวสะท้านเข้ากระดูก

ต่อจากนั้น

เฉินตงหันไปจ้องผู้จัดการนิติบุคคลเขม็ง “วัชพืชพวกนี้ แค่เฉดหัวไล่ออกไปก็จบแล้วนี่? คุณมาถามผม จะให้ผมไปเป็นผู้จัดการนิติบุคคลแทนหรือยังไง”

ผู้จัดการนิติบุคคลพยักหน้าแล้วจากไป

หลังจากนั้นสิบนาที

บริเวณประตูใหญ่ของเขตวิลล่า

การ์ดสิบกว่าคนก็ปรากฏตัวออกมาแล้วจับจางซิ่วจือที่กำลังร้องโวยวายกับหวางเต๋อที่กำลังเหม่อลอยมามัดมือมัดเท้าเอาไว้ แล้วโยนเข้าไปในรถแท๊กซี่

เหตุการณ์นี้ ทำให้คนขับรถแท็กซี่หวาดกลัวจนทำอะไรต่อไม่ถูก

จนกระทั่ง

เสียงตึ้งดังขึ้น ธนบัตรสีแดงปึกหนึ่งถูกนำมาวางลงบนด้านหน้าคนขับ คนขับรถถึงจะได้สติกลับมาในตอนนั้น

“เอาพวกเขาไปส่ง ยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดี!”

“ได้ครับ!”

คนขับรถแท็กซี่ยินดีอย่างยิ่ง จึงไม่สนใจคำด่าของจางซิ่วจืออีก และขับรถอย่างสบายใจลงจากเขาไปด้วยความเร็ว

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset