Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 401 ไม่สมควรที่จะได้กินข้าวมื้อสุดท้าย!

น้ำเสียงที่ดังก้องและเชือดเฉือนราวกับมีด

มีเสียงตบมือดังขึ้น ใกล้เข้ามาทุกทีๆ ร่างทั้งสามค่อยๆ เดินออกมาจากในความมืด

เฉินตงซึ่งกำลังก้มศีรษะลง ก็หยุดนิ่ง และเผยรอยยิ้มอำมหิตขึ้นที่มุมปากทันที

จางซิ่วจือที่กำลังมีท่าทีหยิ่งผยอง กลับแปลเปลี่ยนเป็นตกใจในทันที

เธอหันไปมองร่างทั้งสามที่เดินออกมาจากความมืดด้วยความโมโห และตะโกนด่าทอ “ใคร? ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”

“แม่……”

หวางหนันหนันตะโกนออกมาด้วยความโศกเศร้า

จางซิ่วจือผงะไป จากนั้นจึงยิ้มร่าออกมา

“หวางหนันหนัน พวกเราตัดสัมพันธ์กันแล้ว แกยังเรียกฉันว่าแม่อีก หมายความว่าอย่างไรกัน?”

ขณะที่พูด

หลินหลิ่งตงพาอู๋จุนหาวและหวางหนันหนันเดินเข้าไปหาเฉินตง

ใบหน้าของหวางหนันหนันเปียกปอนไปด้วยคราบน้ำตา เอามือปิดปากพร้อมจ้องมองไปยังจางซิ่วจือ และส่ายหัวไม่หยุด

หลินหลิ่งตนกลับไม่ได้สนใจ และช่วยประคองเฉินตงขึ้นมา

“ขอโทษด้วยครับคุณเฉิน ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยด้วยตัวเอง”

“ดีมาก”

เฉินตงพยักหน้าอย่างเฉยเมย สายตาหันไปมองถุงใบใหญ่ที่อู๋จุนหาวถืออยู่ ซึ่งเต็มไปด้วยกระดาษเงินกระดาษทอง

ตอนนี้เอง เขาจึงหันไปหัวเราะกับหลินหลิ่งตง แล้วพูดว่า “ฉันพอใจมาก”

ทันทีที่พูดจบ

หวางหนันหนันที่ใบหน้าเปียกปอนไปด้วยน้ำตา ก็วิ่งเข้าไปหาจางซิ่วจือทันที

“แม่ รีบวางลงเร็วเข้า!”

ถึงจะไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว แต่ก็ไม่อาจตัดขาดความสัมพันธ์ทางสายเลือดได้อยู่ดี

เมื่อตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว ตอนนี้หวางหนันหนันยิ่งร้อนใจกว่าใคร

เธอรู้ดีว่าหลินหลิ่งตงพาเธอมาด้วยจุดประสงค์อะไร แต่เธอหวังว่าสิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้น เธอหวังว่าเรื่องนี้จะยังคงพอมีหนทางแก้ไขได้!

ทว่า

“นังเด็กโง่ หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันไม่ใช่แม่ของแก!”

ใบหน้าของจางซิ่วจือดูดุร้าย เธอแผดเสียงออกมา “ฉันรู้แผนกระจอกๆ ที่แกร่วมมือกับเจ้าหลินนี่ คิดที่จะช่วยพวกมันขัดขวางฉัน ยังดีที่สามีใหม่ของแกคนนี้มีเครดิตดี ไม่อย่างนั้นฉันจะบอกแกให้นะว่า ไม่มีทาง!”

ทันทีที่พูดจบ

จู่ๆ จางซิ่วจือก็ปล่อยมือด้านขวา ขี้เถ้าที่อยู่ในมือของเธอ ปลิวกระจัดกระจายไปทั่วบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

ฉากนี้ไร้ซึ่งเสียงใดๆ

แต่ดูราวกับมีฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ ลงไปยังร่างของทุกคน

“แม่……”

หวางหนันหนันร้องไห้ออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บปวด เธอรู้สึกเวียนหัว พลันทุกเข่าลงไปบนพื้น แล้วเริ่มร้องไห้ออกมาดังลั่นด้วยเสียงที่แหบพร่า

“แม่!”

เฉินตงจ้องมองด้วยความโกรธ ราวกับว่าดวงตาจะถลนออกมา อารมณ์ที่กำลังสงบอยู่ แปรเปลี่ยนเป็นปั่นป่วนราวกับคลื่นลูกใหญ่ทันที

ภาพของเถ้ากระดูกที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศตรงหน้า ดูเหมือนจะลอยช้าลงอย่างมาก ระยะที่ลอยห่างออกไปเพียงเล็กน้อย แต่กลับไม่สามารถนำกลับคืนมาได้อีก!

“คุณนาย!”

ท่านหลงและคุนหลุนตะโกนเสียงดัง และคุกเข่าลงไปบนพื้น

มีเพียงหลินหลิ่งตง ที่แสดงสีหน้าเย็นชาออกมาในทันที

“ในเมื่อทำผิด ก็ต้องได้รับโทษอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ คนโง่เขลาเบาปัญญา แม้แต่เทวดาก็ไม่อาจช่วยได้!”

คำพูดหนึ่งประโยคซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

ในสายตาของทุกคนแล้ว การกระทำของหวางหนันหนันเมื่อครู่ ก็เพื่อต้องการเตือนจางซิ่วจือ และพยายามช่วยชีวิตเธอเอาไว้

แต่ในสายตาของผู้หญิงโง่เขลาที่กำลังเสียสติคนนี้ กลับกลายเป็น…… “แรงกระตุ้น”?!

หลินหลิ่งตงเหลือบมองอู๋จุนหาว จากนั้นจึงจุดบุหรี่ขึ้นอย่างเงียบๆ

“จุนหาว ส่งเธอไปตายได้แล้ว”

คำพูดประโยคนี้ พูดด้วยน้ำเสียงที่เบา แต่ก็เพียงพอที่ทุกคนจะสามารถได้ยิน

“ฆ่าฉัน? พวกแกกล้า!”

ใบหน้าของจางซิ่วจือเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและดุร้าย เธอชูโกศที่อยู่ในมือขึ้นมาทันที “ถ้าวันนี้ฉันเป็นอะไรไปแม้เพียงสักนิดแล้วละก็ เถ้ากระดูกของนังแพศยาคนนี้ จะไม่หลงเหลืออีกเลย ฉันจะดูซิว่าพวกแก มีใครกล้าบ้าง!”

ทว่า

หลังจากเสียงพูดที่เย่อหยิ่งของจางซิ่วจือสิ้นสุดลง ก็มีเสียง “คลิก” ของไกปืนดังขึ้นทันที

อู๋จุนหาวค่อยๆ ยกมือขวาขึ้น และหันปลายกระบอกปืนสีดำ เล็งเป้าไปยังจางซิ่วจือ

หัวใจของจางซิ่วจือเต้นระส่ำ

หากเป็นการเข้ามาแย่ง เธอมั่นใจอย่างยิ่งว่าเธอจะสามารถโยนโกศให้แตกเสียหายได้

แต่ถ้าหากเป็นปืน……

ตอนนี้ เธอซึ่งกำลังอยู่ในอาการบ้าคลั่ง ในที่สุดก็ค่อยๆ เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาภายในจิตใจ!

ตุ้บ!

อู๋จุนหาวโยนถุงใบใหญ่ที่อยู่ในมือลงไปตรงหน้าหวางหนันหนัน “พี่สะใภ้ ให้เวลาคุณสามนาที!”

เกิดเสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้นในสมองของหวางหนันหนัน เธอก้มลงมองถุงใบใหญ่ที่อยู่บนพื้นทั้งน้ำตาทันที

เมื่อเปิดซิปออก ก็สามารถมองเห็นกระดาษเงินกระดาษทองที่บรรจุอยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน รวมถึงถ้วยและอาหารที่ยังอุ่นๆ อยู่

อาหารถ้วยนั้นคือ……อาหารมื้อสุดท้าย ที่เธอเตรียมให้แก่จางซิ่วจือ

แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงหน้า เธอก็เหม่อลอยไป

หลังจากนั้นเพียงไม่นาน

จู่ๆ แววตาที่ฉาบไปด้วยคราบน้ำตาของหวางหนันหนัน ก็แปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นขึ้นทันที

จู่ๆ เธอก็หันกลับมาและคุกเข่าให้กับเฉินตง พร้อมทั้งร้องไห้ และโขกหัวกับพื้นอย่างรุนแรง

“เฉินตง ขอร้องคุณปล่อยแม่ของฉันสักครั้ง ขอร้องคุณช่วยปล่อยเธอด้วย เธอไม่ได้ตั้งใจ เธอเองก็ถูกบีบบังคับ เห็นแก่ความเป็นสามีภรรยาตลอดสามปีของเรา ฉันขอร้องคุณล่ะ……”

ไม่ได้ตั้งใจ?

ถูกบีบบังคับ?

ดวงตาที่แดงก่ำของเฉินตงปรากฏเจตนาฆ่าขึ้นมาทันที และหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ

ทันใดนั้น เขาก็หันมองหวางหนันหนันด้วยแววตาที่ดูราวสัตว์ร้ายที่กำลังกระหายเลือด

แววตาอำมหิต ทำให้หวางหนันหนันตกใจจนสีหน้าซีดเผือดทันที

“ปล่อยแม่ของเธอ? แล้วใครปล่อยแม่ของฉัน? ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาตลอดสามปี ที่ถูกตระกูลหวางของพวกคุณเอาเปรียบมาโดยตลอด คอยบงการชีวิตของผมและแม่ รวมทั้งไม่สนใจว่าผมและแม่ของผมจะเป็นหรือตายอย่างนั้นหรือ?”

คำถามที่ถูกถามออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หวางหนันหนันพูดอะไรไม่ออก

ตอนนี้ เธอนึกถึงช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกับเฉินตงตลอดสามปีขึ้นมาได้ทันที

หากจะพูดเรื่องของความรัก ดูเหมือนตระกูลหวางขอพวกเธอ จะไม่มีให้กับเฉินตงจริงๆ!

“พูดมาสิ! ไหนเธอลองพูดมา!”

เฉินตงแทบจะบ้าคลั่ง เขากัดฟัน แววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย

ส่วนหลินหลิ่งตงที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นแววตาของหวางหนันหนันในตอนนี้ ก็แสดงความรังเกียจที่เห็นได้ยากยิ่งออกมา!

“ฉัน……” หวางหนันหนันร้องไห้อย่างหนัก น้ำตาไหลรินลงมาราวกับสายฝน “แต่เธอเป็นแม่ของฉันนะ หรือว่า……หรือว่า……ที่ฉันนอนข้างๆ คุณมาตลอดสามปี จะแลกกับการปล่อยชีวิตเธอไปไม่ได้เลยหรือ?”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา เท่ากับว่าเธอได้ทำลายเกียรติของตนเองไปหมดสิ้นแล้ว

ความรังเกียจที่ปรากฏอยู่ในสายตาของหลินหลิ่งตงยิ่งรุนแรงขึ้น

อู๋จุนหาวเองก็ขมวดคิ้วแน่น

แววตาของเฉินตงสั่นคลอดเล็กน้อย จากนั้นจึงส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า

“นอนด้วยกันมาสามปี? เหอะๆ……นี่เป็นสิ่งที่เธอควรหยิบยกมาเป็นข้อต่อรองอย่างนั้นหรือ? มันช่าง……น่ารังเกียจจริงๆ!”

หวางหนันหนันตัวสั่น เธอรู้สึกอ่อนแรงราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างทันที

เธอคุกเข่าลงไปบนพื้น เมื่อนึกถึงจางซิ่วจือที่ยืนอยู่ด้านหลัง แววตาของเธอก็กลับแน่วแน่ขึ้นมาอีกครั้ง

เธอต้องการช่วย!

ที่ยืนอยู่ด้านหลังคือแม่ของเธอเอง ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ต้องช่วยให้ได้!

ทว่า

ตุ้บ!

มีหินก้อนหนึ่ง กระแทกลงบนหลังของหวางหนันหนัน

กระแทกเสียจนหวางหนันหนันฟุบลงไปบนพื้น

จากนั้น

จางซิ่วจือก็กรีดร้องออกมาและก่นด่าสาปแช่ง “หวางหนันหนัน แกเลิกแสดงละครได้แล้ว แกมันก็แค่ผู้หญิงไร่ค่า ตัดสัมพันธ์กับฉันแล้ว ตอนนี้ยังจะมาเสแสร้งแกล้งมีเมตตาอีกทำไม? ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนจริงๆ!”

เปรี้ยง!

หวางหนันหนันรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ในขณะที่ฟุบอยู่นั้น ก็รู้สึกไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะกลับขึ้นมานั่งได้ใหม่

ตอนนี้เอง

เฉินตงค่อยๆ เดินเข้ามาหาหวางหนันหนันทีละก้าวๆ

จากนั้นจึงหยุดยืนอยู่ด้านหน้าถุงใบใหญ่ ที่อยู่ตรงหน้าของหวางหนันหนัน

ภาพนี้ ทำให้จางซิ่วจือตกใจจนใบหน้าบิดเบี้ยว

“อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาอีกฉันจะทำให้แกไม่ได้เห็นเถ้ากระดูกของแม่อีกเลย เงินล่ะ? เงินหนึ่งร้อยล้านที่ฉันต้องการล่ะ? เอามาให้ฉัน! ไม่อย่างนั้น เถ้ากระดูกของแม่แก จะไม่มีเหลืออีกเลย!”

“สกปรกจริงๆ!”

เฉินตงข่มความเจ็บปวดและโศกเศร้าเอาไว้ ทันใดนั้น เขายกมือขวาของเขาขึ้น แล้วหยิบถ้วยข้าวที่อยู่ในถุงใบใหญ่ขึ้นมาโยนลงบนพื้นอย่างแรง

เพล้ง!

เสียงถ้วยข้าวแตกกระจัดกระจาย

หวางหนันหนันที่ฟุบอยู่บนพื้นตัวสั่นเทา

หลังจากถ้วยข้าวแตกกระจาย เฉินตงก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับลมหนาวที่พัดขึ้นมาจากขุมนรก

“สัตว์ร้ายเช่นนี้ ไม่สมควรที่จะได้กินข้าวมื้อสุดท้าย!”

ปัง!

หลังจากพูดจบ เสียงปืนก็ดังขึ้น

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset