Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 403 น้ำเสียงอันอบอุ่น เอาชนะความงดงามอื่นใดได้ทั้งหมด

ฝนตกลงมาอย่างหนัก

ฟ้าร้องและลมพัดแรง

ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าในค่ำคืนนี้

ขณะที่พวกของเฉินตงทั้งสามคนกลับเข้าไปภายในรถ ท่านหลงก็หันกลับไปมอง เห็นหลินหลิ่งตงและอู๋จุนหาวลงมาจากเขาพอดี และกำลังเดินตรงไปที่รถ

“คุณชาย หลินหลิ่งตงไม่สนใจหวางหนันหนันแล้วครับ”

ท่านหลงพูดเบาๆ

“เขาไม่โง่” เฉินตงพูด

ท่านหลงพยักหน้า

คนที่จะขึ้นมาอยู่ในระดับเช่นเดียวกับหลินหลิ่งตงได้ ก็คงไม่ใช่คนดีอะไรนัก ทั้งความเจ้าเล่ห์และการวางแผนต่างก็ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังประเมิยสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและถูกต้อง

ไม่ต้องพูดถึงอิทธิพลของเฉินตง เพียงแค่ให้หลินหลิ่งตงต้องตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ผลลัพธ์ก็คงต้องออกมาเช่นนี้อยู่ดี

ไม่มีใครที่จะทนเห็นคนรักของตัวเอง ไปช่วยเหลือญาติพี่น้องโดยไม่สนใจผิดชอบชั่วดีได้

เมื่อเลือกที่จะช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดี ก็เท่ากับเป็นการเลือกที่จะทำผิดโดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม

ความจริงก็เป็นเช่นนี้

หลินหลิ่งตงเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเฉินตงด้วยตาตัวเอง จึงยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้รู้สึกเศร้าใจได้

หากตอนนี้เขาไม่ตัดสินใจเลือก ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าเฉินตงในตอนนี้ จะไม่กลายเป็นภัยต่อเขาในอนาคต

รถโรลส์-รอยซ์ค่อยๆ มุ่งหน้าไปยังเขาเทียนซาน

ระหว่างทาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เป็นเหมือนกับพายุฝนที่กำลังพัดกระหน่ำอยู่ภายนอก

ท่านหลงและคุนหลุนเข้าใจความรู้สึกของเฉินตงในตอนนี้เป็นอย่างดี แม้แต่พวกเขาเอง ก็ยังรู้สึกตื่นตระหนกในใจ

ผู้ตายนั้นยิ่งใหญ่ และต้องถูกฝังเอาไว้อย่างสงบสุข นี่คือการแสดงออกถึงความเคารพและระลึกถึงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ผู้ยังมีชีวิตอยู่สามารถทำให้แก่ผู้ตายได้

อีกทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็ต้องมีใจอาฆาตด้วยกันทั้งนั้น

“เสี่ยวหยิ่ง ดึกมากแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”

ฟ่านลู่หยิบเสื้อคลุมออกมา แล้วคลุมลงไปบนตัวของกู้ชิงหยิ่ง เมื่อมองดูฟ้าผ่าและฝนที่ตกกระหน่ำอยู่ด้านนอก จึงพูดขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง “ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องเจ้าตัวเล็กอยู่ อากาศหนาว หากอยู่นานจะเป็นหวัดได้ แล้วเจ้าตัวเล็กจะเป็นเช่นไร?”

ตั้งแต่ที่พวกของเฉินตงทั้งสามคนออกไป กู้ชิงหยิ่งก็เริ่มเป็นกังวล นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นตลอดเวลา และไม่ยอมกลับไปที่ห้องนอน สายตาเอาแต่จับจ้องไปที่ประตูของวิลล่าอย่างไม่วางตา

เธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

แต่แววตาของเฉินตงทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจและหวาดกลัวอย่างมาก

“พี่เสี่ยวลู่ เขาเกิดเรื่องอะไรไหม?” กู้ชิงหยิ่งหันกลับไปถามฟ่านลู่ จนแทบจะอ้อนวอน “พี่ออกไปตามหาเขาเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม? ฉันโทรศัพท์หาเขาไม่ติดเลย ปิดเครื่องไปแล้ว”

ฟ่านลู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่สามารถปิดบังความกังวลใจที่ซ่อนอยู่ในแววตาได้อีกต่อไป

เจตนาฆ่าของเฉินตงที่ปรากฏขึ้นก่อนที่จะออกไป เธอรับรู้ได้อย่างถูกต้องแน่นอน

ถึงขั้นว่า เธอมั่นใจยิ่งกว่ากู้ชิงหยิ่ง ว่าเฉินตงจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน

เพราะกู้ชิงหยิ่งอาศัยความเข้าใจที่ตนเองมีต่อเฉินตง

ส่วนเธอ อาศัยสัญชาตญาณของนักฆ่า ทำให้รับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่าที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเฉินตง

แต่เธอไม่กล้าพูดความจริง เพราะจะยิ่งทำให้กู้ชิงหยิ่งหวาดกลัวและวิตกกังวลมากขึ้น

ลังเลอยู่สักพัก ฟ่านลู่ก็พูดขึ้นว่า “เธออย่าร้อนใจไปเลย ฉันจะลองโทรหาพี่คุนหลุนดู”

หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดโทรหาคุนหลุน ภายใต้การเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อของกู้ชิงหยิ่ง

แต่กลับได้ยินเพียงเสียงตอบรับอัตโนมัติของระบบ ทำให้แววตาที่เต็มไปด้วยความหวังของกู้ชิงหยิ่งหม่นหมองลงทันที

ปิดเครื่อง!

กู้ชิงหยิ่งประสานมือทั้งสองข้างไว้แน่นทันที และเม้มริมฝีปากแดงระเรื่อของเธอ

“อย่าเพิ่งกังวลไป ยังมีโทรศัพท์ของท่านหลงอีกคน” ฟ่านลู่รู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย

เธอไม่กลัวว่ากู้ชิงหยิ่งจะลากเธอออกไปตามหาคนข้างนอก แต่เธอเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพวกเฉินตงทั้งสามคน

สามคนออกไปข้างนอก สองคนปิดโทรศัพท์ จะต้องเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นอย่างแน่นอน!

“ดี” กู้ชิงหยิ่งระงับความกลัวภายในจิตใจเอาไว้ แล้วพยักหน้า

ในขณะที่ฟ่านลู่กำลังเตรียมต่อสายหาท่านหลงอยู่นั้น

แอ๊ด!

ประตูใหญ่ของวิลล่าเปิดออก

พวกของเฉินตงทั้งสามคนที่เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยฝน เดินเข้ามา

กู้ชิงหยิ่งและฟ่านลู่รู้สึกดีใจในทันที

แต่เมื่อเห็นสภาพที่เปียกปอนไปด้วยฝนของทั้งสามคน ทั้งสองก็อึ้งไปพร้อมกันทันที

“พวกคุณไปไหนกันมา?”

กู้ชิงหยิ่งหน้าถอดสี เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเฉินตงด้วยความร้อนใจ และพุ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเฉินตง โดยไม่สนใจว่าเนื้อตัวของเขากำลังเปียกปอนอยู่ “คุณไม่บอกฉัน ฉันยังพอจะเข้าใจได้ แต่ทำไมต้องปิดโทรศัพท์ด้วย คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงคุณแค่ไหน?”

ใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งของเฉินตง ในที่สุดก็ค่อยๆ กลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง

สัมผัสได้ถึงมือทั้งสองข้างที่โอบเอวของเขาเอาไว้แน่น เฉินตงก็รีบกล่าวขอโทษ “ขอโทษด้วย ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว ผม……”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ

กู้ชิงหยิ่งก็ผละตัวออกมาจากอ้อมกอดของเฉินตง แล้วรีบตะโกนเรียกให้ฟ่านลู่นำผ้าขนหนูมา เพื่อให้ทั้งสามคนเช็ดน้ำฝนที่เปียกอยู่บนตัว

“คุณไม่ต้องรีบอธิบายอะไรกับฉันทั้งนั้น คุณรีบกลับไปถอดเสื้อผ้าที่ห้องนอนเสียก่อน แล้วอาบน้ำร้อนสักหน่อย สวมใส่เสื้อผ้าเปียกชื้นเช่นนี้ จะทำให้เป็นหวัดเอาได้ง่ายๆ”

กู้ชิงหยิ่งพูดอย่างจริงจัง

เฉินตงผงะไป ตอนนี้ ในใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที

เขาพยักหน้าแล้วขึ้นไปชั้นบน

กู้ชิงหยิ่งหันไปกำชับกับท่านหลงและคุณหลุนอีกครั้ง ให้ฟ่านลู่เป็นคนดูแลพวกเขา หลังจากนั้นเธอก็รีบตามเฉินตงขึ้นไปชั้นบน

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

ฟ่านลู่ช่วยเช็ดน้ำฝนบนตัวของท่านหลงและคุนหลุนไปพลาง และเอ่ยถามไปพลางด้วยความเป็นห่วง “เมื่อครู่ตอนที่คุณเฉินตงไปข้างนอก มีเจตนาฆ่าที่รุนแรงแผ่ซ่านออกมาทั่วตัว ทำให้ฉันรู้สึกตกใจจริงๆ”

ท่านหลงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นจึงหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดตัว แล้วเดินขึ้นชั้นบนไป “ฉันขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”

คุนหลุนยืนนิ่ง ปล่อยให้ฟ่านลู่เช็ดน้ำฝนที่อยู่บนตัว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “หลุมศพของคุณนายถูกคนขุดทำลาย แล้วยังนำเอาเถ้ากระดูกของคุณนายขึ้นมาอีก”

เปรี้ยง!

ฟ่านลู่ยืนอึ้งไป ราวกับถูกฟ้าผ่า

หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว

เธอก็พูดออกมาอย่างดุดันว่า “ใครกันที่สมควรตายเช่นนี้?”

“อดีตแม่ยายของคุณชาย”

แววตาของคุนหลุนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและขุ่นเคืองใจ “ฆ่าตายไปแล้ว”

“สมควรฆ่า!” ฟ่านลู่กัดฟันพูด

ภายในห้องนอน

เสียงน้ำไหลอยู่ภายในห้องอาบน้ำ

เฉินตงยืนอยู่ใต้ฝักบัวโดยไม่ถอดเสื้อผ้าออก ปล่อยให้น้ำไหลผ่านชำระร่างกาย

เขาเงยหน้าขึ้น ปิดตา และสัมผัสถึงอุณหภูมิอุ่นๆ ของน้ำที่ไหลผ่านแก้มลงมา และเปียกไปทั่วร่างกาย

แม้กระทั่งตอนนี้ ก็ยังยากที่จะสงบจิตใจได้ ราวกับมีคลื่นลูกใหญ่ถาโถมเข้ามา

ความรู้สึกอัดแน่นอยู่ภายในอกอย่างรุนแรง

รู้สึกผิด จนแทบจะหายใจไม่ออก

แอ๊ด!

กู้ชิงหยิ่งผลักประตูห้องน้ำเข้ามา และมองดูเฉินตงที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัวด้วยความประหลาดใจ

“ที่รักคะ คุณเป็นอะไรกันแน่?”

“ไม่เป็นไร คุณออกไปก่อนเถอะ อย่าทำให้ตัวต้องเปียก อีกเดี๋ยวผมก็ออกไปแล้ว”

เฉินตงหันหน้าไปมองกู้ชิงหยิ่งหนึ่งครั้ง ไม่ต้องการให้กู้ชิงหยิ่งเป็นกังวล และกลัวว่ากู้ชิงหยิ่งจะอารมณ์เสีย จึงจงใจฝืนยิ้มออกมา

กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้ว ไม่เพียงแต่ไม่ยอมถอยออกมา แต่เธอกลับเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ

เธอกอดเฉินตง โดยไม่สนใจว่าเขาเปียกไปทั้งตัว ซบหัวของเธอลงไปบนอกของเฉินตง “คุณลืมที่ฉันพูดแล้วหรือ? เวลาที่คุณโกหกฉัน ในแววตาของคุณเต็มไปด้วยพิรุธ!”

เฉินตงผงะไป

กำลังจะอ้าปากพูด

กู้ชิงหยิ่งก็พูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “ฉันรู้ว่าเมื่อครู่ต้องเกิดเรื่องใหญ่กับคุณแน่นอน และฉันก็รู้ด้วยว่าตอนนี้คุณรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก คุณไม่ต้องบอกฉันก็ได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่คุณสามารถกอดภรรยาของคุณสักพักแล้วร้องไห้ออกมาได้ ฉันไม่อยากให้คุณต้องข่มความรู้สึกของตัวเองเอาไว้เพราะฉัน”

น้ำเสียงอันอบอุ่น เอาชนะความงดงามอื่นใดได้ทั้งหมด

โจมตีเข้าที่หัวใจของเฉินตง ราวกับถูกค้อนทุบเข้าอย่างจัง

กู้ชิงหยิ่งเงยหน้า ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านใบหน้า และยังคงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วางใจเถอะ เปิดฝักบัวอยู่ ต่อให้คุณร้องไห้ออกมา พวกเขาก็ไม่มีทางได้ยิน ภรรยาของคุณจะช่วยเก็เป็นความลับให้เอง”

เฉินตงสบตากับกู้ชิงหยิ่งแล้วยิ้มออกมา

แต่ในขณะที่ยิ้ม ก็มีน้ำตาไหลรินออกมาจากหางตาในเวลาเดียวกัน

ตัวของเขาสั่นเทา ในที่สุด เอาก็ซบลงไปในอ้อมกอดของกู้ชิงหยิ่ง

เสียงน้ำไหลช่วยอำพรางเสียงร้องเอาไว้จนหมดสิ้น

มีเพียงกู้ชิงหยิ่ง ที่ค่อยๆ ลูบหลังเฉินตงเบาๆ และพูดปลอบใจเขา……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset