Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 405 เป็นศัตรูหรือเป็นมิตร? ยากที่จะแยกแยะได้ชัดเจน

นี่คือเรื่องที่พ่อต้องการเตือนให้ฉันระวังอย่างนั้นหรือ?

เฉินตงตระหนักขึ้นมาได้ทันที

การสูญเสียเงินกว่าพันล้านหยวน ถึงแม้จะไม่ได้ส่งผลเสียอย่างร้ายแรงนัก ต่อบริษัทการเงินของตระกูลฉินที่ฉินเย่รับผิดชอบดูแลอยู่ แต่ก็ถือว่าได้รับผลกระทบไม่น้อย

การสูญเสียเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย!

ยิ่งไปกว่านั้น ภูมิหลังของเขาในตอนนี้เพิ่งจะยิ่งใหญ่แค่ไหนกัน?

“ใครเป็นคนทำ?” เฉินตงรีบถามขึ้นทันที

ถ้าหากรู้ว่าใครเป็นคนเล่นงานฉินเย่กันแน่ ไม่แน่อาจได้รู้ว่า ที่พ่อคอยหลบซ่อนตัวอยู่ตลอดนั้นเพราะกลัวอะไรกันแน่

“มีด้วยกันทั้งหมดห้าบริษัทเงินทุน”

ในสาย น้ำเสียงของฉินเย่เคร่งขรึมลงเล็กน้อย “เป็นบริษัทเงินทุนในประเทศสามแห่ง และยังมีบริษัทเงินทุนจากต่างประเทศอีกสองแห่ง”

ฉินเย่หยุดพูดไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเฉินตงยังเป็นปกติ จึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ในนั้นไม่มีร่องรอยของตระกูลเฉินเลย”

ไม่ใช่ตระกูลเฉิน?

เฉินตงขมวดคิ้วแน่นจนบีบกัน อารมณ์เต็มไปด้วยความซับซ้อน

ตอนที่เขาเอ่ยถาม เขาก็คิดเอาไว้แล้วว่าตระกูลเฉินน่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย

แต่คำพูดของฉินเย่ ทำให้ความสงสัยที่อยู่ในหัวของเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เฉินตงสูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้ง บีบจมูกของตัวเองสักครู่ แล้วถามขึ้นว่า “สืบหาที่มาที่ไปของบริษัทเงินทุนทั้งห้าแห่งอย่างชัดเจนแล้วหรือยัง?”

“บริษัทเงินทุนภายในประเทศสามแห่ง แบ่งออกเป็นเงินทุนจงเคอแห่งเมืองโมตู และการลงทุนซื่อหวา ส่วนบริษัทที่สาม……เป็นกลุ่มการลงทุนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ”

เมื่อพูดถึงที่สุดท้าย เสียงของฉินเย่ก็ชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นจึงรีบพูดเสริมต่อว่า “ส่วนบริษัทการลงทุนจากต่างประเทศอีกสองบริษัท ยังไม่ได้สืบหาข้อมูลอย่างชัดเจน แต่เมื่อตรวจสอบจากเบาะแสเบื้องต้นก็พอจะคาดเดาได้ว่า บริษัทเงินทุนทั้งสองบริษัทนั้น น่าจะมีความซับซ้อนและอันตรายเป็นอย่างมาก”

“ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ?”

แววตาของเฉินตงเผยประกายของความฉลาดหลักแหลมออกมา

ในพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลทั้งหมด เป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด ทุกเมืองต่างก็มีทั้งเสือและมังกรหลบซ่อนตัวอยู่

ส่วนภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ว่ากันตามตรงก็คือ ทะเลทรายกว้างๆ ผืนหนึ่ง นอกจากจะมีประชากรอยู่น้อยนิดแล้ว ถือว่าน้อยนักที่จะมีบริษัทเงินทุนที่แข็งแกร่งเข้าไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น

นี่คือสาเหตุที่ฉินเย่ชะงักไป อย่าว่าแต่ฉินเย่เลย แม้แต่เฉินตงเองก็ยังรู้สึกว่าไร้สาระ

ส่วนบริษัทเงินทุนในต่างประเทศสองแห่ง ตอนนี้เฉินตงยังไม่ให้ความสนใจนัก ก่อนที่จะได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด ก็ยากที่จะสรุปออกมาได้

เขาวางมือขวาที่บีบจมูกอยู่ลง แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันว่าควรจะตรวจสอบบริษัทลงทุนที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือนั่นสักหน่อย บริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ที่ไปก่อตั้งอยู่ที่นั่น หากคิดที่จะตรวจสอบให้แน่ชัด ก็คงไม่ใช่เรื่องยากนัก”

“ฉันให้เสี่ยวเชียนจัดการแล้ว” ฉินเย่กล่าว

ฉินเย่เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกว่า “จริงสิ ทางพ่อนายมีข่าวคราวอะไรบ้างไหม?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้

เฉินตงก็หัวเราะตัวเองขึ้นมาทันที “จะบอกให้นะว่า เมื่อเช้าพ่อเพิ่งจะส่งข้อความมาว่าให้ฉันระวัง ฉันคิดมาทั้งวันก็คิดไม่ออกว่าให้ระวังเรื่องอะไร จนกระทั่งนายโทรศัพท์มานี่ล่ะ”

ฉินเย่ที่อยู่ปลายสายเงียบไป

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ฉินเย่ก็พูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม “เรื่องใหญ่แล้ว! ฉันจะให้เสี่ยวเชียนรีบตรวจสอบบริษัทเงินทุนทั้งห้าแห่งอย่างชัดเจน และหลังจากนี้ไปอีกสองสามวัน ฉันจะพยายามควบคุมทุกสิ่งอย่างระมัดระวัง”

“นายรีบจัดการเถอะ เรื่องการเงินนายเก่งกว่าฉัน”

เฉินตงวางสายโทรศัพท์ ท่าทางของเขาเคร่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด แววตาไม่อาจเก็บซ่อนความสงสัยเอาไว้ได้

ฉินเย่พูดถูก ครั้งนี้คงเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ!

หากแผนการในครั้งนี้ มีตระกูลเฉินอยู่เบื้องหลัง ก็คงไม่ต้องกังวลใจมากนัก เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่าตระกูลเฉินต้องการจัดการกับเขา

แต่ตอนนี้ เป็นบริษัทที่แข็งแกร่งห้าแห่ง และที่อยู่ในประเทศทั้งสามแห่งก็ไม่มีร่องรอยของตระกูลเฉินเลย

นี่แสดงให้เห็นว่า……อาจมีมหาอำนาจอื่น ที่กำลังจับตามองเขาอยู่!

ถึงแม้มหาอำนาจเหล่านี้ อาจไม่ยิ่งใหญ่เท่าตระกูลเฉิน แต่ก็ถือเป็นยักษ์ใหญ่ ที่สามารถกำจัดเขาได้จริงๆ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินตงก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที

จู่ๆ ก็ถูกคนอื่นจับตามองอย่างไร้เหตุผล อีกทั้งยังกวาดเงินไปกว่าพันล้านหยวน เรื่องแบบนี้ เป็นใครก็ต้องรู้สึกโมโหด้วยกันทั้งนั้น

หลังจากถูใบหน้าของเขา เฉินตงก็สตาร์ทรถ และมุ่งหน้ากลับบ้านในเขาเทียนซาน

เมื่อกลับถึงบ้าน กู้ชิงหยิ่งก็กำลังนั่งดูโทรทัศน์และถักเสื้ออยู่ในห้องนั่งเล่น

ส่วนท่านหลงกำลังจิบชา คุนหลุนและฟ่านลู่กำลังง่วนอยู่กับงานในครัว

ทุกอย่างดูเป็นปกติ

แต่ทว่า ท่านหลงยังคงมองออกว่าท่าทีของเฉินตงนั้นไม่ปกติ

“คุณชาย มีปัญหาหรือครับ?”

เฉินตงพยักหน้า เพื่อส่งสัญญาณให้ท่านหลงเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า

หลังจากขึ้นไปถึงดาดฟ้า

เฉินตงก็นั่งลงบนเก้าอี้นอน แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “วันนี้พวกของฉินเย่ถูกบริษัทเงินทุนห้าแห่งเล่นงาน ขาดทุนไปกว่าพันล้านหยวน!”

“พันล้านหยวน?!”

ท่านหลงหน้าถอดสี และอุทานออกมาด้วยความตกใจ

เฉินตงเลิกคิ้วแล้วหันมองท่านหลง “ท่านหลง คุณมีประสบการณ์โชกโชน พอจะรู้ไหมว่าทางแถบภาคตะวันตกเฉียงเหนือ พอจะมีบริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่อะไรตั้งอยู่บ้าง?”

เขาไม่กังวลเกี่ยวกับบริษัทเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวา ทั้งสองบริษัทนี้เป็นบริษัททางการเงินยักษ์ใหญ่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หากคิดจะกวาดล้างโลกการเงิน ก็แทบจะไร้คู่ต่อสู้

การแข่งขันกับบริษัทการเงินของฉินเย่นั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

จะเหลือก็แต่บริษัทที่อยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือบริษัทเดียวเท่านั้น!

การปรากฏตัวขึ้นอย่างแปลกประหลาด และสาเหตุในการเข้าร่วมโจมตีก็น่าประหลาดใจเช่นกัน

ทว่า

ที่น่าประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ

ท่านหลงขมวดคิ้วเป็นเวลาเกือบจะหนึ่งนาทีแล้ว

จากนั้นจึงส่ายหัวแล้วพูดว่า “อาศัยจากความรู้ที่ผมมี ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือไม่มีบริษัทการลงทุนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ที่นั่นไม่เหมาะสำหรับบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่จะไปตั้งรกรากอยู่ หากเป็น “บริษัทเงินทุนเล็กๆ” ทั่วๆ ไป ก็ไม่น่าจะศักยภาพพอที่จะเข้าร่วมการโจมตีได้”

“เช่นนี้ก็น่าสนใจแล้ว”

เฉินตงลูบจมูก แล้วยิ้มออกมาอย่างมีนัย

สถานที่ที่ไม่มีบริษัทเงินทุนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ จู่ๆ กลับเกิดการลงทุนขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ และยังเข้าร่วมการโจมตีอีก และท้ายที่สุดยังโจมตีได้สำเร็จอีกด้วย

บริษัทนี้ ช่างน่าสงสัยจริงๆ!

“คุณชาย เจ้าหนูฉินจะต้องจัดการได้เรียบร้อยแน่นอน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินหรือเปล่าครับ?”

ม่านหลงพูดปลอบใจ จากนั้นจึงได้พูดความคิดแรกที่อยู่ในหัวของเฉินตงตอนที่รู้ว่าถูกโจมตีออกมา

เฉินตงส่ายหัว แล้วยิ้มอย่างหดหู่ “ไม่มีร่องรอยของตระกูลเฉินเลยแม้แต่น้อย นอกจากบริษัทที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียบเหนือนั่นแล้ว ยังมีเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาอีก นอกจากนี้ยังมีบริษัทการลงทุนยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในต่างประเทศอีกสองบริษัทอีก

ใบหน้าของท่านหลงเคร่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด เขาใช้มือขวาบิดนิ้วหัวแม่มือเบาๆ แล้วพึมพำออกมา “บริษัทยักษ์ใหญ่ห้าบริษัทรุมโจมตีเราพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมการกันมา แต่ถ้าหากไม่มีร่องรอยของตระกูลเฉิน เช่นนั้นเป็นเพราะอำนาจใดกันแน่ ที่ทำให้บริษัทเงินทุนทั้งห้าบริษัทร่วมมือกันได้?”

ทันทีที่พูดจบ

เสียงโทรศัพท์ของเฉินตงก็ดังขึ้น

เฉินตงหยิบขึ้นมาดูแล้วพูดว่า “ฉินเย่โทรมา”

เขากดรับสายโทรศัพท์ และกดปุ่มเปิดลำโพง

“พี่ตง ผมลองทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่หลายครั้ง จึงพบเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมากเรื่องหนึ่ง” น้ำเสียงของฉินเย่แสดงออกถึงความสับสนอย่างมาก

“อะไร?” เฉินตงถาม

ในสายโทรศัพท์ ฉินเย่ค่อยๆ พูด “ตอนที่บริษัทเงินทุนทั้งห้าโจมตีเรา ระหว่างนั้น บริษัทในภาคตะวันตกเฉียงเหนือบริษัทนั้น ได้มีการโต้กลับไปหนึ่งครั้ง นั้นก็คือ ในขณะที่ทั้งสี่บริษัทการลงทุนกำลังโจมตีเราอยู่นั้น บริษัททางภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี้ได้เข้ามาในตลาด และช่วยพวกเราดันราคาหุ้นขึ้นหนึ่งระลอก จากนั้นจึงรีบทุบราคาลงทันที”

หลังจากที่ได้ยิน

สีหน้าของเฉินตงและท่านหลงก็เปลี่ยนไปทันที

ทั้งสองหันมองหน้ากัน แล้วเผยสีหน้าของความสับสนและงุนงงออกมา

“ดันราคาหุ้นขึ้นหนึ่งระลอก นี่มันคือพฤติกรรมอะไรกันแน่?” ท่านหลงโพล่งออกมา “เข้ามาอย่างกะทันหัน และดันราคาหุ้นขึ้น ดูเหมือนจะเป็นการช่วยเหลือพวกเรา แต่สุดท้ายกลับร่วมมือกับอีกสี่บริษัทรุมเข้าโจมตี บริษัทนี่เป็นศัตรูหรือเป็นมิตรกันแน่?”

เฉินตงเองก็รู้สึกสับสนไม่น้อย

ตามที่ท่านหลงกล่าวมา หากต้องการเข้าโจมตีจริง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเข้ามาช่วยดันราคาหุ้นขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งห้าบริษัทกลับรุมเล่นงานพวกฉินเย่อยู่ดี

พฤติกรรมเช่นนี้ ทำให้เรื่องทั้งหมดยากที่จะคาดเดาได้

ทว่า สิ่งที่ทำให้เฉินตงยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ

ในสายโทรศัพท์ ฉินเย่ค่อยๆ พูดข้อเท็จจริงที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นออกมา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset