Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 409 ทำไมถึงเสียมารยาทกับคุณเฉินเช่นนี้?

ภายในลาน

สายลมในฤดูใบไม้ร่วงช่างเยือกเย็น

เสียงใบไม้ดังกรอบแกรบ

บรรยากาศคุกรุ่นไปด้วยแรงอาฆาตที่มองไม่เห็น

เฉินตงโค้งตัว แสดงท่าทีพร้อมต่อสู้ออกมา ราวกับคันธนูที่พร้อมจะยิงลูกศรที่แข็งแกร่งออกไป

ดวงตาทั้งสองข้างดุดัน จ้องเขม็งไปที่เย่หลิงหลงที่นั่งอยู่บนรถ

เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินตง เย่หลิงหลงก็หุบยิ้ม ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นได้ยากยิ่ง แม้กระทั่งร่องรอยของความโกรธที่ระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อครู่ ก็จางหายไป

“คุณคิดว่าฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงกร้านโลกที่เหลาะแหละคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่ใช่หรืออย่างไร?”

เฉินตงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เย่หลิงหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย และค่อยๆ ลุกขึ้น แต่ยังคงเอนตัวอยู่บนหลังคารถ

ท่าทางแบบนี้ ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ

“เช่นนั้นก็มาต่อสู้กันสักตั้ง!”

หลังจากเสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดของเย่หลิงหลง

มือแทะเท้าของเธอก็กระแทกลงกับหลังคารถทันที ราวกับเสือชีตาร์ที่กำลังจะออกล่าเหยื่อ และกระโจนเข้าใส่เฉินตง

เฉินตงจ้องเขม็งในทันที

เขาปล่อยหมัดขวาออกไปอย่าเต็มแรงโดยไม่หลบเลี่ยง

แรงของหมัดทำให้เกิดลมปะทะที่รุนแรง

วินาทีถัดมา

เย่หลิงหลงทรุดลงไปกับพื้นทันที ด้วยแรงหมัดของเฉินตง

แย่แล้ว!

เฉินตงหน้าถอดสี ยังไม่ทันจะได้ดึงหมัดกลับ

ก็รู้สึกมีลมปะทะมาจากด้านล่าง หางตาเหลือบไปเห็นเย่หลิงหลงกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เธอหมุนรอบเอวเขาเป็นครึ่งวงกลมและกวาดไปด้านหลัง

ในเวลาเดียวกันนี้

แคว่ก!

มีเสียงขาดดังขึ้น

เฉินตงเคลื่อนตัวออกโดยสัญชาตญาณ แล้วก้มหน้าดู พบว่าตรงบริเวณเอวเสื้อขาดเป็นรอยกว้าง บนกล้ามท้องของเขา ปรากฏแผลสีแดงสามเส้น และมีเลือดไหลออกมา และมีผิวหนังถลอก

เล็บคมขนาดนี้เลยหรือ?!

เฉินตงตกใจเป็นอย่างมาก และเงยหน้าขึ้นมองเย่หลิงหลงที่อยู่ตรงข้าม

ในการลงมือโจมตี เย่หลิงหลงไม่ได้อาศัยจังหวะที่ได้เปรียบในการไล่ตาม

แต่กลับยืนอยู่ที่เดิม ราวกับกำลังอวดดี และมองตามสายตาของเฉินตงไป ใช้มือขวาโยนเศษผ้าบางๆ ที่ติดอยู่ในมือลงไปที่พื้น ในขณะเดียวกัน เธอก็แลบลิ้นสีแดงออกมา แล้วเลียไปที่เล็บคมกริบที่เปื้อนเลือดของเธอ

เธอค่อยๆ ยื่นนิ้วชี้เข้าไปในปากแล้วรูดเบาๆ

แล้วพูดอย่างยั่วยวนว่า “เลือดเนื้อของคุณเฉิน ช่างหอมหวานจริงๆ”

ภาพนี้ ช่างยั่วยวนใจอย่างยิ่ง

ราวกับนิ้วมือที่เรียวงามนั้น แฝงไปด้วยความหมายอื่น

แต่ท่าทางของเฉินตงกลับเย็นชาถึงขีดสุด เมื่อเผชิญหน้ากับการ “ยั่วยวน” ของเย่หลิงหลง เขาก็พูดออกมาอย่างเย็นชาหนึ่งประโยคว่า

“เธอไม่กลัวว่าฉันจะเป็นโรคเอดส์หรืออย่างไร?”

เย่หลิงหลง “……”

นิ้วชี้ขวาที่อมอยู่ในปากหยุดเคลื่อนไหวทันที ราวกับถูกไฟดูด และรีบถูกดึงออกมาอย่างรวดเร็ว

“ทำไมคุณถึงสกปรกอย่างนี้?” เย่หลิงหลงตะโกนด้วยความโกรธจัด

เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างดูถูก “ผมเพียงแค่เตือนคุณ ผู้หญิงออกไปข้างนอกต้องรู้จักรักนวลสงวนตัว ห้ามอมอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า”

“คุณ……”

จู่ๆ ไปหน้าอันงดงามของเย่หลิงหลง ก็เย็นชาราวกับถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งทันที

เกิดความเกลียดชังขึ้นในดวงตาของเธอ ทันใดนั้น เท้าขวาของเธอก็เตะดินที่อยู่ตรงหน้าไปใส่เฉินตง ราวกับลูกศรที่พุ่งออกไป

เฉินตงมีท่าทีดุดันขึ้นทันที แววตาของเขาฉาบไปด้วยความอำมหิต

เมื่อครู่เขาประมาทไปหน่อย เป็นเพราะมั่นใจในทักษะการต่อสู้ของตนเองเกินไป จนทำให้ดูถูกเย่หลิงหลง “หงกุ้น” คนนี้ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ถูกโจมตีได้สำเร็จ

การประมือกันหนึ่งครั้ง ทำให้เขาได้รู้จักเย่หลิงหลงใหม่อีกครั้ง

ตอนนี้เขาต้องเก็บความประมาทเอาไว้ ละต้องระมัดระวังให้มากขึ้น

หงหุ้ยที่พัฒนามาอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาสองร้อยปี หงกุ้นทุกคนคงไม่ได้อาศัยหน้าตาในการไต่เต้าแน่นอน!

ฟิ้ว!

ลมพัดแรงมาจากกรงเล็บด้านขวาของเย่หลิงหลง และตะปบเข้าไปที่ใบหน้าของเฉินตง

อย่างไรก็ตามเฉินตงไม่ได้ถอยหลบ แต่กลับก้าวไปข้างหน้า และปล่อยหมัดทั้งสองข้างออกไปอย่างแรง

ใช้จุดแข็งของตนเอง เอาชนะจุดอ่อนของศัตรู หาโอกาส แล้วรีบจัดการกับศัตรูในคราวเดียว!

นี่ถึงจะเป็นแก่นแท้ของการต่อสู้อย่างแท้จริง

ร่างกายของเฉินตงผ่านการฝึกฝนอย่างหนักจากคุนหลุน และความมุมานะฝึกฝนของตนเอง ทำให้แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป และอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

เย่หลิงหลงเป็นหงกุ้นก็จริง แต่อย่างไรเสียเธอก็คือผู้หญิง

ผู้ชายปะทะกับผู้หญิง หากไม่อาศัยความแข็งแกร่งของพละกำลังเข้าโจมตี ยังคิดที่จะเล่นสนุกอยู่อีกหรือ?

หมัดและเท้ารวดเร็วเหมือนกับลม ทิ้งร่องรอยของความเจ็บปวดที่รุนแรงเอาไว้

ความเร็วของเฉินตงราวกับสายฟ้า ใช้หมัดและเท้าพุ่งตรงเข้าโจมตีเย่หลิงหลงอย่างหนักหน่วง

เหมือนกับที่เฉินตงคาดเดาเอาไว้ ร่างกายของเย่หลิงหลงนั้นเคลื่อนไหวว่องไว แต่อย่างไรเสียก็เสียเปรียบเรื่องพละกำลัง

ด้วยการต่อสู้ที่ซับซ้อน เมื่อต้องเผชิญกับหมัดที่รุนแรงที่ปะทะเข้ามาบนตัว ทำให้ต้องรับมืออย่างอ่อนล้าโดยไม่มีทางเลือก

ตุ้บ!

หมัดต่อยลงไป ทำให้เย่หลิงหลงเดินโซเซถอยหลัง

จู่ๆ ใบหน้าที่งดงามราวกับหยาดน้ำค้าง ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำขึ้นทันที

หลังจากกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่ง เย่หลิงหลงก็พ่นลมหายใจออกมาทางปากอย่างแรง

หมัดนี้ เกือบทำให้เธอต้องจุกตาย!

“อ่อนแอขนาดนี้เลยหรือ?”

เฉินตงขยับไหล่ทั้งสองข้าง แล้วยิ้มเยาะ “คุณเก่งกาจนักไม่ใช่หรือ? นี่ผมแค่อุ่นเครื่องเองนะ”

อุ่นเครื่อง?

เย่หลิงหลงขมวดคิ้วแน่น เธอรับรู้ได้ถึงการดูถูกอย่างรุนแรง!

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในหงกุ้นของหงหุ้ย นั่นหมายความว่าต้องอาศัยทักษะในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงตำแหน่งมา

ตอนนี้กลับถูกคนอื่นเห็นเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการ……อุ่นเครื่อง?

“ดีมาก ฉันเองก็กำลังอุ่นเครื่องเหมือนกัน” เย่หลิงหลงเลิกคิ้วด้วยท่าทีดื้อรั้น และยิ้มร่าออกมา

ยังไม่ทันจะพูดจบ

เธอก็พุ่งเข้าใส่เฉินตงอย่างรวดเร็ว

“อืม?!”

เฉินตงตกใจอย่างมาก

จู่ๆ ก็เปลี่ยนวิธีการอย่างนั้นหรือ?

ก่อนหน้านี้ วิธีการต่อสู้ของเย่หลิงหลงอ่อนโยนเกินไป อาศัยเทคนิคเสียเป็นส่วนใหญ่

แต่เย่หลิงหลงในตอนนี้ กลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เย่หลิงหลงพุ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าเฉินตง

“มือผูกมังกร!”

ตุ้บ!

เฉินตงรู้สึกมีเสียงดังก้องขึ้นในหู ภาพที่เห็น คือ ฝ่ามือข้างขวาของเย่หลิงหลงกำลังพุ่งเข้าโจมตีอย่างทรงพลังและรวดเร็ว

ทันใดนั้นเอง การแสดงออกของเฉินตงเคร่งขรึมลง เขาไม่หลบหลีก ยังคงใช้หมัดขวาในการโจมตีอย่างรุนแรง

มีข้อได้เปรียบด้านพละกำลัง ทำให้เขามีความมั่นใจในการปล่อยหมัดที่ทรงพลัง

ตูม!

เกิดเสียงดังสนั่น

ในขณะที่เขาปล่อยหมัดออกไปนั้น ในแววตาของเฉินตงก็เกิดความประหลาดใจขึ้นมา

เขารับรู้ได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผ่านมาทางแขนขวาของเขา ตรงขึ้นไปจนถึงสะบัก กระเทือนจนทำให้รู้สึกชาตรงบริเวณข้อต่อ

และในขณะที่กำลังประหลาดใจอยู่นั้น

ก็มีเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง ฝ่ามือข้างซ้ายของเย่หลิงหลงซึ่งมาพร้อมกับลม พุ่งเข้าใส่เฉินตงอีกครั้ง

เฉินตงทำท่าทีดูถูก และตะโกนออกมา

และปล่อยหมัดซ้ายออกไปอีกครั้ง

ตุ้บ!

ความรู้สึกชาเกิดขึ้นอีกครั้ง

จู่ๆ เย่หลิงหลงก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “ผู้ชายตัวใหญ่โต แต่กลับไร้น้ำยาจริงๆ”

เฉินตงที่กำลังอยู่ในอาการตกตะลึง ก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที

ทันใดนั้น เขาก้มลงและตะโกนเสียงดังออกมา และใช้ไหล่กระแทกเข้าใส่เย่หลิงหลงอย่างหนัก

ใบหน้าอันงดงามของเย่หลิงหลงเผยสีหน้าตื่นตระหนกออกมา

ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน

เธอรีบโบกมือทั้งสองข้างทันที “สี่ตำลึงปาดพันชั่ง!”

ตุ้บ!

ไหล่ของเฉินตง กระทบเข้ากับฝ่ามือของทั้งสองข้างของเย่หลิงหลงอย่างแรง

ทั้งสองโซเซถอยหลังไปพร้อมกัน

หลังจากตั้งหลักได้แล้ว เฉินตงก็ขมวดคิ้วแน่น แล้วสะบัดแขนสองครั้งโดยไม่รู้ตัว เพื่อขจัดอาการชา

ส่วนเย่หลิงหลงนั้นมีเลือดสีแดงไหลออกมาจากมุมปาก มือทั้งสองข้างร่วงลง และตัวสั่นอยู่ตลอดเวลา

แววตาที่มองเฉินตง ไม่นิ่งสงบเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป แต่กลับมีความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย

“พละกำลังของคุณ แข็งแกร่งจริงๆ!”

ดวงตาของเย่หลิงหลงเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของการต่อสู้ที่ดุเดือด “ไม่มีใครที่อยู่ต่อหน้ามือผูกมังกรของฉัน และบีบบังคับให้ฉันต้องใช้กระบวนท่าป้องกันตัวได้ คุณ……ทำให้ฉันรู้สึกสนใจจริงๆ”

ขณะที่พูด

เจนตาฆ่าของเย่หลิงหลง ก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่เธอกำลังก้าวออกไป

จู่ๆ ก็มีเสียงปรบมือดังก้องไปทั่วลาน

และในขณะเดียวกันนั้น ก็มีเสียงตะโกนห้ามปรามดังขึ้น

“หลิงหลงหยุดเดี๋ยวนี้ ทำไมถึงเสียมารยาทกับคุณเฉินเช่นนี้?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset