Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 34 คนที่มาจากตระกูลเฉิน เฉินเทียนหย่าง

บทที่ 34 คนที่มาจากตระกูลเฉิน เฉินเทียนหย่าง

หลังจากที่ลาท่านหลงแล้ว

เฉินตงและคุนหลุนกลับไปถึงห้องเช่า

ภาพในห้อง ทำให้คุนหลุนตกตะลึง

“รู้สึกคับแคบ?” เฉินตงถาม

คุนหลุนส่ายหัวและพูด: “หลายปีมานี้คุณชายคงเหนื่อยยากลำบากมาก”

เฉินตงยิ้ม เขาชอบนิสัยเช่นนี้ของคุนหลุน สิ่งที่ควรพูดก็พูด สิ่งที่ไม่ควรพูดก็ไม่พูด

ตามความคิดของท่านหลงแล้ว หลังจากนี้อีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง คุนหลุนต้องคอยอยู่ข้างกายของเขา ถ้านิสัยทำให้เขาไม่ชอบใจ จะยุ่งยากจริงๆ

“ในบ้านมีคนเพิ่มมากขึ้น ผมหาบ้านพักใหม่แล้ว เดือนหน้าย้ายเข้าไปอยู่ได้เลย”

เฉินตงยิ้มและพูดขึ้นมาคำหนึ่ง เขตวิลล่าเขาเทียนซานมีราคาที่แพงมาก คือสาเหตุหนึ่ง ก็เพราะการตกแต่งภายในบ้านตอนก่อสร้างเริ่มแรก เป็นนักออกแบบที่มีความสามารถมีชื่อเสียงมาร่วมกันออกแบบตกแต่ง จุดมุ่งหมายก็เพื่อจะให้การออกแบบมีสไตล์ที่เหมือนกันทั้งหมด จะทำให้เจ้าของรู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้น

หรือพูดได้อีกแง่มุมหนึ่งคือ เขาแค่ใช้เวลาวันเดียว ก็สามารถซื้อเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ให้เสร็จ แล้วย้ายเข้าไปอยู่ได้อย่างราบรื่น

คุนหลุนพยักหน้า เขาไม่สนใจกับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเลยสักนิด

หลังจากที่ติดตามตระกูลเฉินแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาได้เปลี่ยนไปมากจริงๆ

แต่ตอนที่อยู่ในสนามรบ อยู่กับชีวิตที่เต็มไปด้วยมีดอาบเลือด เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะมีชีวิตอยู่เลย ระหว่างอยู่หรือตาย ขอแค่ได้มีชีวิตรอด

สภาพแวดล้อมจะแย่ยังไงก็ตาม เขาก็เคยผ่านมาแล้ว

หลังจากที่ท่านหลงตักเตือนแล้ว เหมือนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก

เฉินตงก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมากนัก เพียงแค่ในตารางชีวิตประจำวัน เพิ่มแผนการออกกำลังกายช่วงเช้า

หลายปีที่ผ่านมา เขายุ่งกับการงาน ดิ้นรนหาทางรักษาอาการป่วยของแม่ ออกกำลังกายก็ทำได้เพียงบางครั้งที่ว่าง ไม่เข้มงวดถึงขนาดต้องทำทุกวัน

แต่ว่า คำพูดคำหนึ่งของท่านหลง “การอบรมขั้นพิเศษ” ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีก้างปลาที่ติดอยู่ในคออย่างนั้น

พลาดไปแล้ว ก็จะเป็นยอดคนไม่ได้หรือ?

หรือว่า…..เทียบกับยอดคนไม่ได้?

เขาไม่เชื่อ!

ตั้งแต่เล็กจนโต เฉินตงถูกด่าว่าเป็นเด็กไม่มีพ่อมาตลอด ค่อยๆก้าวมาทีละก้าวอย่างทุกข์ยากลำบากจนถึงวันนี้ ความกดดันที่เคยได้รับทั้งหมด นอกจากตัวเขาเองแล้ว ก็มีเพียงแต่หลี่หลานแม่ของเขาที่รู้

ชีวิตของเขา ไม่ใช่ใครๆก็จะสามารถตัดสินได้

ฟ้าเพิ่งจะสว่างนิดๆ

เฉินตงก็เปลี่ยนชุดกีฬา ออกไปวิ่งในสวนสาธารณะข้างๆ

เวลาเช้าตรู่ อากาศสดชื่น

เพียงแค่ไม่นาน เฉินตงก็เหงื่อไหลจนเปียกไปทั้งตัว หายใจอย่างเหนื่อยหอบ

แต่เขาไม่หยุดวิ่ง เพราะมันยังไม่เพียงพอ

เวลายังเช้าอยู่ ในสวนสาธารณะยังไม่มีคนแก่ที่มาออกกำลังกายตอนเช้าเลยสักคน

เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเวลาทำงาน เขาจึงต้องเลื่อนเวลาออกกำลังกายตอนเช้าให้เช้ากว่าปกติ แน่นอนว่าต้องเสียสละเวลานอนพักผ่อนเล็กน้อย แต่เขาไม่แคร์

บนทางเดินเท้าของสวนสาธารณะ โคมไฟทางเท้าส่องแสงสีเหลืองสลัวๆ

ตอนที่เฉินตงวิ่งไปถึงตรงที่มืดๆ สายตาของเขามัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ตรงด้านหน้าของเขา มีเงาของคนๆหนึ่งโผล่มา

เงาของคนๆนั้นโผล่มาปุ๊บ ก็มุ่งตรงเข้ามาหาเขา

“ใคร?”

เฉินตงตะโกนดังๆหนึ่งเสียง

ในเวลานี้ คนที่มาวิ่งออกกำลังกายเช้าก็ยังไม่มีใครมา ในสวนสาธารณะที่มืดๆมีคนมุ่งเป้ามาที่เขาอย่างกะทันหัน เขานึกว่าพวกโจรขโมยวิ่งราวทรัพย์

แต่กลับมีเสียงที่เยือกเย็นหัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ให้ฉันประเดิมความสามารถของลูกสวะอย่างแกดูหน่อยซิ!”

คนตระกูลเฉิน!

ในใจของเฉินตงตกตะลึง มาได้ไวจริงๆนะ!

เงาของคนพุ่งมาถึงตรงหน้า กระโดดขึ้นสูงๆ ถีบเข้าหาเขาทันที

เฉินตงแค่ออกกำลังกาย ไม่เคยฝึกต่อสู้เลยสักนิด

แต่ตามสัญชาตญาณ เขาก็รีบยกสองมือขึ้นมากันไว้ด้านหน้าอก

ปั้ง!

เสียงหนึ่งดังขึ้น

เฉินตงร้องโอยหนึ่งเสียง รู้สึกเจ็บจนแขนจนจะหัก พุ่งตัวออกไปและล้มลงบนพื้นอย่างแรง

“ไอ้ลูกสวะก็คือลูกสวะ ขยะแบบนี้เหรอ เขาคิดยังไงให้แกมาควบคุมดูแลวงศ์ตระกูล?”

พอเงาลงพื้นแล้ว ยังไม่หยุดยั้ง พุ่งไปที่เฉินตงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

แสงไฟมือสลัว เงาคนยิ่งดุร้ายรวดเร็วมาก

ทำให้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เฉินตงก็ยังมองหน้าของเขาไม่ชัด

เห็นเงาคนพุ่งตรงเข้ามา เฉินตงนึกถึงคำพูดที่คุยกับท่านหลงเมื่อคืนนี้

คนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้……กล้าฆ่าคน!

ความเยือกเย็นที่ทิ่มแทงกระดูกพุ่งขึ้นมาจากฝ่าเท้าไปจนถึงหัวกะโหลก

ในเวลานี้ คนนั้นได้พุ่งมาจนถึงตรงหน้าของเขาและกำลังยกเท้าขึ้นมาอย่างสูง เหมือนขวานศึก เหวี่ยงมาด้วยเสียงวูบๆ กำลังฟาดมาบนหัวของเขา

จะฆ่าผมจริงเหรอ?!

เฉินตงกระพริบตา เมื่อกี้ต่อสู้กันแป๊บเดียว เขาก็รู้สึกได้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีพละกำลังแรงมาก ซึ่งต่างกับตัวเขามาก

แค่ใช้แรงเบาๆนิดเดียวก็ฆ่าเขาให้ตายได้

ทันใดนั้น เฉินตงเห็นมีเงาดำหนึ่งโผล่มาขวางไว้ตรงหน้าของเขา

มีเงาดำโผล่มากะทันหัน ก้มตัวลงมาอย่างรวดเร็ว ใช้ไหล่ขวางเงาของขาด้านขวานั่นที่กำลังถีบมาอย่างแรง

“ไปให้พ้นจากที่ซะ อย่าให้กูเห็นหน้าแกอีก!”

เงาดำที่รูปร่างใหญ่นั้นจับขาขวานั่นไว้ แล้วเหวี่ยงออกไปอย่างแรง

ใช้วิธีการเหวี่ยงที่รุนแรงมาก จนคนบินออกไปไกลๆ

ล้มลงกับพื้นแล้ว เงาคนยังกลิ้งไปหลายตลบ ถึงจะหยุดในที่สุด

“คุนหลุน!”

เฉินตงเห็นหน้าตาคนที่ขวางอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว

รูปร่างตัวใหญ่ดั่งขุนเขาของคุนหลุนแข็งแรงเหมือนหอไอเฟล ที่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง แต่ไม่ตอบรับเฉินตง

แต่หันไปด่าคนที่ถูกเหวี่ยงจนบินไปไกลคนนั้น

“เฉินเทียนหย่าง กล้าแตะต้องคุณชายเฉินตงของข้า นายอยากตายรึไง?”

“คุนหลุน? นายแน่มาก เห็นทีนายท่านเห็นไอ้ลูกสวะนี่เป็นหัวแก้วหัวแหวนจริงๆ ถึงกับจัดให้นายมาปกป้องเขา”

เฉินเทียนหย่างลุกขึ้นยืน ถูกคุนหลุนเหวี่ยงกระแทกอย่างแรงเมื่อสักครู่นี้ ไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บเท่าไหร่นัก

ภาพนี้ เฉินตงดูจนตะลึงอ้าปากค้าง

รูปร่างของเฉินตงกับเขาไม่ต่างกันมากนัก

แต่ถ้าเมื่อกี้คนที่ถูกคุนหลุนเหวี่ยงคือเขา ต้องลุกขึ้นยืนไม่ไหวแน่นอน

เฉินเทียนหย่างเดินมาถึงใต้แสงไฟแล้ว ทำให้เฉินตงมองเห็นหน้าของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจน

โครงหน้าที่แหลมคม ผิวขาวจนเหมือนโรคจิต มุมปากยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างมาก

คนๆนี้เป็นผู้ชายเจ้าเล่ห์ที่มีอารมณ์รุนแรง

เฉินตงเข้ามาอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ สายตาที่มองคนก็ไม่เบานะ

แน่นอน

เฉินเทียนหย่างเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พูดกับคุนหลุนอย่างเย่อหยิ่งผยอง: “แต่ว่า นายกล้าฆ่าผมเหรอ? นายก็แค่บอดี้การ์ดที่ตระกูลเฉินว่าจ้างมาทำงานเท่านั้น ส่วนผมเป็นถึงหนึ่งในทายาทผู้สืบทอดตระกูลเฉินในอนาคต!”

“ผมเป็นบอดี้การ์ดของนายท่าน ไม่ใช่บอดี้การ์ดของตระกูลเฉิน ถ้านายไม่เชื่อ ลองดูได้”

คำพูดของคุนหลุน เยือกเย็นจนเข้ากระดูก: “อย่าลืม เทคนิคการต่อสู้ของนาย ผมเป็นคนสอนนาย”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินเทียนหย่างหยุดชะงัก ดวงตาดั่งเม็ดพลอยสีดำกระพริบๆ ส่งไอแห่งความเยือกเย็นออกมา

“นาย จะปกป้องมันจริงๆเหรอ?”

“นายท่านให้ปกป้อง คุนหลุนตายก็ต้องปกป้อง!”

“นายซื่อสัตย์พอนิ!”

เฉินเทียนหย่างยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และยกนิ้วโป้งให้คุนหลุน: “ไอ้ขยะลูกสวะคนนี้ แม้แต่ขาของผมยังรับไม่ได้ ถึงว่าต้องให้นายมาปกป้องดูแล แต่ว่า นายอย่าเข้าใจผิด วันนี้ผมยังไม่ฆ่าเขาหรอก”

“ผมแค่อยากมาดู ไอ้ลูกสวะที่สามารถทำให้นายท่านสั่งให้บริษัทยี่เคอกรุ๊ปประกาศข่าวช่วยเหลือไอ้นี่ จะมีหน้าตายังไง มีความสามารถอะไร”

พูดแล้ว เขาหันไปมองเฉินตง ปิดปากแล้วส่ายหัว พูดอย่างผิดหวังว่า: “ตอนนี้ดูๆแล้ว ก็แค่นี้ ไม่เห็นจะเก่งอะไรเลย นายท่านคงถูกน้ำมันหมูบังใจ(หมายความว่าตอบสนองช้า)แล้วจริงๆ”

“นายหวาดกลัวไปแล้วเหรอ?”

เฉินตงลุกขึ้นยืน เช็ดเลือดตรงมุมปาก ยิ้มแล้วมองหน้าเฉินเทียนหย่าง: “ถ้าขยะที่ไม่เอาไหนอย่างนายมีความสามารถหน่อย ทำไมเขาจะต้องหาไอ้ลูกสวะอย่างผมกลับไปรับช่วงต่อตระกูลเฉินล่ะ?”

เสียงหัวเราะที่ประชดประชัน เหมือนมีดและธนู

ทิ่มลงไปตรงกลางใจของเฉินเทียนหย่าง

ทำให้เฉินเทียนหย่างเงียบขรึมจนพูดอะไรไม่ออก

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset