Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 413 ท่านหลงร้องไห้

บนโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ

หงหุ้ยดำรงอยู่มากว่าสองร้อยปี ไม่มีทางที่จะโง่เขลาถึงขนาด จู่ๆ จะเชิญบรรพบุรุษจากที่อื่นเข้ามากราบไหว้ได้ง่ายๆ

แน่นอนว่าจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน

ไม่ว่าจะมาช้าหรือเร็ว เพียงแต่ต้องรอดูว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนเช่นไรเท่านั้น

เรื่องนี้ เฉินตงรู้ดีแก่ใจ

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เขาไม่เลือกก็คงไม่ได้

ฉินเย่เป็นพี่น้องของเขา และเป็นคนที่ควบคุมดูแลเงินหมื่นล้านหยวนของเขา

มหาอำนาจทั้งห้าแห่งร่วมมือกันเล่นงาน ถ้าปล่อยให้หงหุ้ยใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี ฉินเย่ไม่มีทางที่จะรับมือได้แน่นอน

นี่เกี่ยวพันถึงฉินเย่ และเกี่ยวพันถึงการส่งกระดาษคำตอบของเขาให้ตระกูลเฉิน ในอีกหนึ่งปีให้หลังนี้ด้วย

เขาไม่กล้าเดิมพัน หากเดิมพันแพ้ ทุกอย่างก็ต้องจบสิ้นทั้งหมด

ดังนั้น จึงเลือกได้เพียงแค่ยอมเข้าร่วม เพื่อหาหนทางรอดให้กับฉินเย่

หากมมีการโจมตีจากหงหุ้ย โอกาสที่ฉินเย่จะพลิกสถานการณ์นั้น ก็จะยิ่งมากขึ้น

เมื่อกลับไปถึงเขตวิลล่าเขาเทียนซาน ก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว

หลังจากเฉินตงจอดรถเสร็จเรียบร้อย และเดินเข้าไปในการ ก็พบเข้ากับกู้ชิงหยิ่ง

“เปลี่ยนรถตั้งแต่เมื่อไหร่?”

กู้ชิงหยิ่งขยับจมูก และเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

“ยืมคนอื่นมา เมื่อครู่เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย” เฉินตงกำลังกังวลเรื่องหงหุ้ย จึงพูดอธิบายผ่านๆ ออกมาหนึ่งประโยค จากนั้นจึงเรียกท่านหลงขึ้นไปบนดาดฟ้า

กู้ชิงหยิ่งหยุดยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าดูซับซ้อน แล้วพึมพำด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “กลิ่นของผู้หญิง……เป็นกลิ่นหอมธรรมชาติที่ละเอียดอ่อนมาก”

ในขณะที่พึมพำอยู่นั้น เธอก็ค่อยๆ เหลือบตาไปมองรถบีเอ็มดับเบิลยู i8 ที่อยู่ในโรงจอดรถด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง

ความอ่อนไหวของผู้หญิง ทำให้เธอวิเคราะห์ออกมาได้ทันที

ด้วยภูมิหลังทางครอบครัวของเธอ ทำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า กลิ่นหอมที่ติดอยู่บนตัวของเฉินตงนั้น หมายถึงอะไร

น้ำหอมธรรมดาๆ ไม่มีทางส่งกลิ่นหอมในลักษณะนี้ได้

ต่อให้เป็นน้ำหอมชั้นดี ก็ไม่มีทางเป็นไปได้

มีเพียงอย่างเดียวคือการผสมผสานกลิ่นของธรรมชาติที่พิถีพิถันเท่านั้น

บนดาดฟ้า

ตุ้บ!

เฉินตงโยนป้ายหงหุ้ยลงบนโต๊ะ

เมื่อท่านหลงเห็นป้าย ก็แสดงสีหน้าตกตะลึงในทันที

“คุณชาย นี่คือป้ายหงหุ้ย! คุณ คุณมีมันได้อย่างไร?”

“หงหุ้ยมอบป้ายให้คุณหรือ?” ท่านหลงตกใจเป็นอย่างมาก

เฉินตงบุ้ยปาก “นายลองดูอีกด้านหนึ่งสิ”

ท่านหลงสูดหายใจเข้าเพื่อระงับความตกใจ แล้วค่อยๆ หยิบป้ายขึ้นมา พลิกดูอีกด้านหนึ่ง

เปรี้ยง!

ปรากฏคำว่า “หยวน” ขึ้นอย่างชัดเจน ราวกับค้อนที่ทุบเข้ามาที่ดวงตาของเขาอย่างจังในทันที

ทันใดนั้น ท่านหลงก็เหม่อลอยและยืนนิ่งไป

“หยวน ป้ายหยวน……นี่หมายถึงรุ่นหยวนของหงหุ้ย”

ท่านหลงตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง เขาพูดด้วยปากที่สั่นเทา “เป็นไปไม่ได้ หงหุ้ยไม่มีทางมอบป้ายรุ่นหยวนให้คุณชายเป็นอันขาด พวกเขามีการรับสมาชิกใหม่อย่างเป็นระบบ อีกทั้งไม่ใช่ด้วยความสมัครใจ ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางมอบให้เด็ดขาด ยิ่งเป็นป้ายหยวนด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางมอบให้”

“หงหุ้ยมีอักษรรุ่นแรกยี่สิบสี่ตัว และอักษรรุ่นหลังอีกยี่สิบสี่ตัว รวมแล้วมีทั้งหมดสี่สิบแปดตัว ด้วยกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของพวกเขา อาจมีการข้ามรุ่นได้หนึ่งขั้นในการจัดอันดับรุ่น แต่นั่นก็ต้องเป็นผู้ที่ทำประโยชน์อย่างมากให้แก่หงหุ้ย”

“รุ่นหยวน ตอนนี้ในหงหุ้ยมีเพียงแค่คนเดียว และนั่นถือเป็นบุคคลที่เป็นผู้อาวุโสของหงหุ้ยจริงๆ แม้แต่หลงโถวของหงหุ้ย ยังต้องยอมก้มหัวให้”

คำพูดที่ร่ายยาวออกมาเป็นชุด แสดงให้เห็นชัดเจนว่าในใจของท่านหลงตอนนี้ เต็มไปด้วยความตื่นตกใจ

เฉินตงหัวเราะตัวเอง และยักไหล่ “ถ้าเช่นนั้นท่านหลงก็โชคดีมากทีเดียว เพราะตอนนี้ได้เห็นจู่เหลารุ่นหยวนคนที่สองของหงหุ้ยแล้ว”

เกิดเสียงดัง “เปรี้ยง” ขึ้นในหัวของท่านหลง

ตอนนี้ เขาถึงขั้นรู้สึกตกใจจนเจ็บแก้วหู

ดวงตาของเขาเบิกโพลงราวกับเห็นผี และมองเฉินตงด้วยท่าทีหวาดกลัว

“คุณ คุณชายไม่เพียงแต่เข้าร่วมในหงหุ้ย แต่ยังถูกพวกเขาจัดอันดับอยู่ในรุ่นหยวนด้วย?”

เฉินตงพยักหน้า “เหมือนความฝันใช่หรือไม่?”

จากคำบอกเล่าของเย่หยวนชิวและเย่หลิงหลง เขารู้ดีว่ารุ่นหยวนนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน

เป็นตำแหน่งที่สูงส่งเหนือใคร

มีเพียงคนเดียวก็คือ เย่หยวนชิวเท่านั้น เมื่อเทียบกับคุณรุ่นเดียวกัน สิ่งที่แตกต่างก็คือคุณสมบัติ

อีกทั้งตำแหน่งที่สูงส่งนั้น หมายถึงการอยู่เหนือหงหุ้ยทั้งสามพันหกร้อยแห่ง รวมไปถึงหลงโถวด้วย

ท่านหลงไม่คิดที่จะปิดบังความตื่นตระหนกเอาไว้ ไม่สิ ต้องพูดว่าไม่อาจปิดบังเอาไว้ได้

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? คนของหงหุ้ยเสียสติไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”

“ป้ายรุ่นหยวน หงหุ้ยไม่มีทางมอบให้เด็ดขาด หลงโถวไม่มีทางยอมเด็ดขาด ชายชรารุ่นหยวนคนนั้นก็ไม่มีวันยอมเด็ดขาด หงหุ้ยอีกสามพันหกร้อยแห่งก็ไม่มีทางยอมเด็ดขาด”

สติสัมปชัญญะที่ท่านหลงมีอยู่ในตอนนี้ เพียงพอแค่ควบคุมสติของตนเองไม่ให้กรีดร้องออกมาเท่านั้น

“แต่พวกเขาก็มอบให้แล้ว เมื่อครู่นี่เอง”

ใบหน้าของเฉินตงเต็มไปด้วยความสงสัยและช่วยไม่ได้ “อีกทั้ง คนที่มองป้ายนี้ให้กับฉัน คือชายชรารุ่นหยวนที่ท่านหลงพูดถึง เย่หยวนชิว”

ท่านหลงอึ้งไป

อึ้งอย่างถึงที่สึกจริงๆ

เฉินตงคาดเดาปฏิกิริยาของท่านหลงเอาไว้แล้ว

อันที่จริงแล้ว เรื่องนี้ หากให้ใครสักคนในหงหุ้ยรู้เข้า ก็คงมีปฏิกิริยาไม่ต่างไปจากท่านหลงในตอนนี้นัก

เขาพูดต่อว่า “อีกทั้ง นายเชื่อไหมว่า ฉันไม่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนใดๆ ก็ให้ฉันเข้าร่วมได้แล้ว อีกทั้งยังยกย่องให้ฉันเป็นบรรพชนอีกด้วย”

“เป็นไปไม่ได้! เรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ผลตอบแทนเช่นนี้หาที่ไหนไม่ได้ในโลก ที่หงหุ้ยทำเช่นนี้ จะต้องมีแผนการอย่างแน่นอน”

ท่านหลงโยนป้ายกลับลงไปบนโต๊ะ “คุณชาย ข้อแลกเปลี่ยนนี้พวกเราไม่อาจรับไหว จะเข้าร่วมหงหุ้ยไม่ได้ และจะรับป้ายเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด”

“ฉันเองก็คิดเช่นนี้”

เฉินตงยิ้มอย่างหดหู่ “แต่พวกเขาหยิบยกฉินเย่ขึ้นมาข่มขู่ ถ้าหากไม่เข้าร่วม ไม่รับป้าย หงหุ้ยจะใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีในการเล่นงานฉินเย่ ข้อต่อรองที่อยู่ตรงหน้านี้ ฉันเองก็ไม่อาจรับไหวเช่นกัน ดังนั้นจึงได้เก็บเรื่องข้อแลกเปลี่ยนเอไว้คิดทีหลัง”

ท่านหลงตัวสั่น โซเซไปด้านหลังหนึ่งก้าวด้วยความหวาดกลัว

คำพูดของเฉินตง ทำให้ตัวเขาเองรู้สึกว่างเปล่าและเกิดความลังเลขึ้นมา

ตัวเขาอ่อนปวกเปียก และทรุดตัวลงบนเก้าอี้

ภายใต้แสงไฟสลัวๆ

เฉินตงเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ดวงตาของท่านหลงนั้นแดงก่ำ

ความหวาดกลัว ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยว

เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจ กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา

อย่าว่าแต่ท่านหลงเลย แม้แต่ตัวเขาเองในตอนนี้ ก็เต็มไปด้วยไฟโกรธที่สุมทรวงอยู่

ถูกกดดันจากทุกด้าน ถูกบีบบังเข้าให้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ฉินเย่ต้องสูญเสียในการถูกโจมตีในตอนนี้ หรือข้อแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ล้วนแล้วแต่ไม่อาจรับได้ไหวทั้งนั้น

ความรู้สึกอึดอัดเช่นนี้ สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธที่สามารถเผาท้องฟ้าให้วอดวายได้

พักใหญ่

จู่ๆ ท่านหลงก็ยิ้มออกมา

แต่รอยยิ้มนี้ เต็มไปด้วยความหดหู่ ดวงตาที่แดงก่ำ ฉาบไปด้วยความหมองหม่น

เฉินตงเกรงว่าท่านหลงจะรับไม่ไหว จึงลุกขึ้นกล่าวปลอบใจ

“ท่านหลง นายทำใจให้สบายหน่อย ทุกอย่างอาจจะไม่แย่อย่างที่เราคิดก็ได้นะ? อย่างน้อยตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายของฉินเย่ก็สามารถแก้ไขได้ อีกทั้งตอนนี้ฉันก็สามารถอาศัยป้ายนี้ อาศัยฐานะจู่เหลาในการออกคำสั่งกับหงหุ้ยทั้งสามพันหกร้อยแห่งได้ เป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งเหนือใครเลยนะ”

“กระผมรู้ดี กระผมเข้าใจ”

ดวงตาของท่านหลงฉาบไปด้วยน้ำตา ยิ้มด้วยความขมขื่นแล้วส่ายหน้า “โทษที่กระผมไม่ได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทำให้คุณชายต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นความผิดของกระผมเอง”

พูดจบ ท่านหลงก็เดินลงไปชั้นล่าง

เพียงแต่ร่างกายของเขา ไม่ยืดตรงอย่างเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว กลับดูโก่งเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความอ่อนล้าของวัยชรา

เฉินตงยิ้มออกมาอย่าช่วยไม่ได้

แล้วหันมองพระจันทร์และดวงดาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า

แววตาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ

แล้วพึมพำกับตัวเองว่า “แสร้งคิดว่าเป็นเรื่องดีเถอะ อย่างน้อยก็ดีสำหรับฉินเย่ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับฉินเย่บ้าง เมื่อมีการเปิดตลาดในวันพรุ่งนี้?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset