Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 414 บริษัทเล็กที่แปลกประหลาด

คืนนี้เฉินตงไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อย

ด้านหนึ่งก็เป็นห่วงเรื่องของหงหุ้ยและฉินเย่ ส่วนอีกด้านหนึ่ง……

เป็นเพราะภรรยาไม่ยอมเข้ามาในอ้อมแขนให้กอดนอนแล้ว

หลังจากแต่งงาน เฉินตงรู้สึกคุ้นชินกับการกอดกู้ชิงหยิ่งนอน

นี่เป็นครั้งแรกที่กู้ชิงหยิ่งหันหลังให้กับเขา

“หรือว่าเสี่ยวหยิ่งจะเข้าใจอะไรผิด?”

เฉินตงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

เมื่อฟ้าสว่าง กู้ชิงหยิ่งก็ลุกออกจากเตียงนานแล้ว ซึ่งไม่เหมือนกับปกติ

เฉินตงไม่อาจขจัดความสงสัยในใจของเขาออกไปได้

หลังจากทานข้าวเช้าแล้ว เฉินตงก็ขับรถไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งตั้งแต่เช้า

วันนี้ ต้องรอดูว่าหงหุ้ยจะทำเช่นไร!

ไม่มีแรงกดดันจากยักษ์ใหญ่อย่างหงหุ้ย ก็เชื่อได้ว่าฉินเย่จะสามารถรับมือได้ง่ายมากขึ้น

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เฉินตงจะสามารถควบคุมได้ เฉินตงใช้เวลาสักพักในการระงับความวิตกกังวลในใจ แล้วจดจ่อกับการทำงาน

ไม่นาน ก็ถึงเวลาเก้าโมงครึ่ง

ขณะที่เฉินตงกำลังตรวจสอบเอกสารอยู่นั้น ฉินเย่ก็โทรศัพท์เข้ามา

“พี่ตง ข่าวดี!”

ทันทีที่รับโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นดีใจของฉินเย่ดังออกมาจากปลายสาย

ดูเหมือนว่าเย่หยวนชิวจะรักษาสัญญา

เฉินตงยิ้มอย่างพึงพอใจ “ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…..เป็นข่าวดีจริงๆ แม้แต่ตัวฉันเองก็คิดไม่ถึง”

เสียงของฉินเย่ตื่นเต้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ การแสดงออกที่อยู่เหนือการควบคุมนี้ เป็นสิ่งที่เห็นได้ยากมากจากตัวเขา “เมื่อครู่ตอนเปิดตลาด จู่ๆ หงหุ้ยก็กลับลำทันที ไม่เพียงแต่จะไม่ร่วมมือเป็นห้ามหาอำนาจในการโจมตีเท่านั้น ถึงขึ้น……ช่วยดันราคาของเราด้วย!”

“ให้ความช่วยเหลือ?”

เฉินตงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เย่หยวนชิวรับปากเพียงว่าหากเขาเข้าร่วมหงหุ้ย จะยอมละเว้นฉินเย่สักครั้ง

ทว่าตอนนี้ไม่เพียงแต่ละเว้นเท่านั้น แต่ยังกลับลำมาช่วยเหลือฉินเย่ นี่มันเป็นเรื่องน่ายินดีที่เหนือความคาดหมายจริงๆ!

“พี่ตง ตอนนี้พวกเรามั่นคงแล้ว ได้รับการช่วยเหลือจากหงหุ้ย บวกกับแผนการของพวกเรา อย่างน้อยเหตุการณ์ในครั้งนี้ ฉันก็มีความมั่นใจสักสามสิบเปอร์เซ็นต์ว่า จะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้”

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนด้วยความตื่นเต้นยินดีของฉินเย่ เฉินตงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

โอกาสสามสิบเปอร์เซ็นต์!

ถือว่ามากแล้วจริงๆ!

เมื่อเทียบกับสถานการณ์ก่อนหน้าที่ “ไม่มีทางรอด” ก็นับว่าดีกว่ามาก

หลายวันมานี้ เป็นเพราะเรื่องที่ฉินเย่ถูกเล่นงาน ทำให้เขารู้สึกกดดันไม่น้อย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลูกลูกใหญ่จากการร่วมมือกันของห้ามหาอำนาจ ต่อให้ฉินเย่ยังคงรับมืออยู่อย่างแข็งขัน แต่เฉินตงก็รู้ดีว่า เท้าข้างหนึ่งได้ก้าวลงไปในนรกเรียบร้อยแล้ว

อีกทั้งทรัพย์สินหมื่นล้านหยวนที่ฉินเย่ดูแลอยู่นี้ ก็เป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งในกระดาษคำตอบที่เขาต้องส่งให้ตระกูลเฉินในอีกหนึ่งปีให้หลัง!

หากทุกอย่างกลับกลายเป็นศูนย์ นั้นหมายความว่าหนึ่งปีให้หลัง กระดาษคำตอบที่เขาส่ง จะต้องไม่สมบูรณ์อย่างแน่นอน

ทรัพย์สินมูลค่าหมื่นล้านหยวน อาจดูเหมือนง่าย แต่ถ้าหากถูกนำมาเป็น “ผลการประเมินในการทดสอบ” แล้วล่ะก็ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!

“เดี๋ยวก่อน!”

จู่ๆ ฉินเย่ก็ส่งเสียงอุทานขึ้นมาในโทรศัพท์ “มีบางอย่างผิดปกติ!”

เฉินตงขมวดคิ้ว และเกิดความวิตกกังวลในใจขึ้นมาอีกครั้ง

ปลายสายโทรศัพท์ มีเสียงเคาะแป้นคีย์บอร์ดดังติดต่อกันขึ้นมา

“มีบางอย่างผิดปกติ จะเป็นไปได้อย่างไร”

“นี่มันเป็นเรื่องน่ายินดี หรือเป็นเรื่องน่าตกใจกันแน่?”

“บริษัทเล็กๆ นี่ ทำไมถึงกลายร่างเป็นปีศาจได้?”

เมื่อได้ยินเสียงที่พูดด้วยความตกใจของฉินเย่ดังขึ้นต่อเนื่อง

เฉินตงก็รีบจับประเด็นสำคัญอย่างรวดเร็ว——บริษัทเล็ก

ในมหาอำนาจทั้งห้า บริษัทที่พอจะนับว่าเป็นบริษัทเล็กได้ ก็เห็นจะมีแต่จุนหลิน กรุ๊ปแล้ว!

“ฉินเย่ จุนหลิน กรุ๊ปทำอะไร?” เฉินตงรีบเอ่ยถาม ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้ฉินเย่สงบสติอารมณ์ลง

เรื่องการลงทุนทางด้านการเงินเงิน สวรรค์และนรกอยู่ห่างกันเพียงแค่เสี้ยววินาที ยิ่งอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ ยิ่งไม่อาจสับสนได้

เสียงในสายโทรศัพท์เงียบไปครู่หนึ่ง

จู่ๆ ฉินเย่ก็พูดขึ้นด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อว่า “พี่ตง จุนหลิน กรุ๊ปเองก็ช่วยดันราคาของเราแล้ว เรื่องนี้พี่กล้าเชื่อหรือไม่?”

คำพูดประโยคเดียว ทำให้เส้นเลือดที่ปลายหางตาของเฉินตงปูดโปนขึ้นทันที

หงหุ้ยช่วยเหลือ เป็นเพราะเขาเข้าร่วมหงหุ้ย ยอมรับเงื่อนไขของเย่หยวนชิว

แต่จุนหลิน กรุ๊ปคืออะไรกันแน่?

“กลายเป็นปีศาจไปแล้วจริงๆ!”

เฉินตงพึมพำขึ้นมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมอย่างยิ่ง “เขาช่วยนาย ก็ปล่อยให้เขาช่วยไป ตอนนี้นายควบคุมเรื่องนี้ก่อน ฉันจะต้องไปตรวจสอบจุนหลิน กรุ๊ปให้ละเอียดแล้ว”

บริษัทเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จักในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ จู่ๆ ก็เข้าร่วมโจมตีใน “ศึกของเทพเจ้า” ครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจอย่างมาก

ตอนนี้กลับลำ และเริ่มช่วยเหลือฉินเย่แล้ว?

หากจะเบนเข็มตามทิศทางลม ก็ไม่น่าจะทำเช่นนี้ได้!

ตั้งแต่ต้นจนจบ พฤติกรรมของจุนหลิน กรุ๊ป สำหรับเฉินตงแล้ว เกิดเป็นความสงสัยขึ้นมากมายในใจ และแสดงออกให้เห็นถึงความแปลกประหลาด

หลังจากวางสายโทรศัพท์

เฉินตงโทรหาท่านหลงอีกครั้ง

“ท่านหลง นายช่วยรวบรวมข้อมูลของจุนหลิน กรุ๊ปที่สืบมาได้ในครั้งที่แล้ว และส่งมาที่บริษัทให้ฉันทั้งหมด”

“คุณชาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือครับ?” ท่านหลงประหลาดใจเล็กน้อย

เฉินตงหรี่ตาลง “ดูเหมือนจุนหลิน กรุ๊ปนี่จะเป็นปีศาจ!”

วางสายโทรศัพท์

เฉินตงพิงลงบนเก้าอี้ แล้วลูบดั้งจมูกที่โด่งของเขา

เดิมทีเขารู้สึกโล่งใจแล้ว แต่ตอนนี้กลับกังวลใจขึ้นมาอีกครั้ง

พฤติกรรมของจุนหลิน กรุ๊ปทำให้คนรู้สึกงงจริงๆ พอจะฝืนใช้คำว่า “เบนเข็มตามทิศทางลม” มาอธิบายได้

แต่ที่สำคัญก็คือ ลมในตอนนี้ ต่อให้มีหงหุ้ยคอยช่วยเหลือ แต่สำหรับฉินเย่แล้ว ก็ยังอันตรายอยู่ดี

บริษัทเล็กๆ บริษัทหนึ่ง เอาความกล้าขนาดนี้มาจากไหนกัน?

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

ข้อมูลเกี่ยวกับจุนหลิน กรุ๊ป ถูกท่านหลงรวบรวมและส่งมายังโต๊ะทำงานของเฉินตง

“คุณชาย จุนหลิน กรุ๊ปนี้ไม่มีอะไรให้สืบหา ครั้งก่อนสืบจนกระจ่างหมดแล้ว” ท่านหลงเห็นสีหน้าของเฉินตงไม่น่าดูนัก ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น

“เหอะ!”

เฉินตงหัวเราะออกมาด้วยท่าทีประหลาด เขาพลิกข้อมูลดูพลางพูดออกมา “จู่ๆ บริษัทแห่งนี้ก็เข้าร่วมการโจมตี ช่วยฉินเย่ดันราคาขึ้นก่อน จากนั้นจึงร่วมมือเข้าจัดการกับอีกสี่บริษัท นี่ก็ประหลาดมากพออยู่แล้ว แต่เมื่อครู่ นายลองเดาดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“อะไรครับ?” ท่านหลงเอ่ยถาม เขาไม่รู้สถานการณ์ของฉินเย่

“หงหุ้ยกลับลำ เริ่มดันราคาให้ฉินเย่ ยังไม่ถึงสิบนาที จุนหลิน กรุ๊ปเองก็กลับลำ และดันราคาให้ฉินเย่เช่นกัน”

เฉินตงพลิกข้อมูลดู แล้วหันมองท่านหลงด้วยท่าทีเคร่งขรึม “ท่านหลง ด้วยประสบการณ์และทักษะที่คุณมี เวลาเช่นนี้ ถ้าคุณเป็นคนบริหารจุนหลิน กรุ๊ป คุณกล้าที่จะทำแบบนี้หรือไม่?”

ท่านหลงตกใจจนถึงขีดสุด และนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

แต่ความเงียบก็ถือเป็นคำตอบแล้ว

เขาไม่กล้า!

การลงทุนคือการแสวงหาผลกำไร ในขณะที่พยายามหลบเลี่ยงความเสี่ยง ก็ต้องมุ่งมั่นที่จะเพิ่มผลกำไรในเวลาเดียวกัน นี่ถึงจะเป็นพฤติกรรมโดยปกติ

ถึงแม้สถานการณ์ของฉินเย่ในตอนนี้ จะมีหงหุ้ยคอยช่วยเหลือ แต่ก็ยังอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายอยู่ดี

แต่การ “กลับลำ” ของจุนหลิน กรุ๊ป กลับไม่ใช่การหลบเลี่ยงความเสี่ยงและพยายามทำกำไรไปพร้อมกัน แต่เป็นการ……ร้องขอชีวิต!

นี่ถือว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการลงทุนตามปกติ

เมื่อพระเจ้าต่อสู้กัน มนุษย์ก็ต้องได้รับความเดือดร้อน

จุนหลิน กรุ๊ปเป็นมนุษย์ธรรมดา ไม่เพียงแต่เข้าร่วมในการต่อสู้ของเทพเจ้าเท่านั้น แต่ตอนนี้ยังช่วยเหลือเทพที่อ่อนแอ ในการต่อสู้กับเทพที่แข็งแกร่งอีกด้วย!

“กระผมจะสืบหาร่วมกับคุณชาย”

ท่านหลงตั้งสติได้ แล้วถอนหายใจแรงออกมาหนึ่งครั้ง จากนั้นจึงเปิดอ่านข้อมูลร่วมกับเฉินตง

บรรยากาศในห้องทำงานเงียบสงัด

เกี่ยวกับจุนหลิน กรุ๊ป ท่านหลงได้สืบหาจนกระจ่างแล้ว ได้ข้อมูลมาสองกองใหญ่ๆ

สิ่งที่ทำให้เฉินตงคิ้วขมวดก็คือ ทุกๆ ข้อมูล แสดงให้เห็นว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทธรรมดาๆ ไม่มีความผิดปกติ และไม่มีอะไรที่พิเศษ

ข้อมูลตรงหน้าน้อยลงเรื่อยๆ

ความสงสัยในใจของเฉินตงยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สีหน้าของท่านหลงยิ่งเคร่งเครียดขึ้น

ในขณะที่เฉินตงหยิบข้อมูลฉบับสุดท้ายขึ้นมาอ่าน

จู่ๆ ดวงตาของเขาก็หยุดนิ่ง

สายตาของเขาจับจ้องไปที่ข้อมูลเรียบง่ายที่อยู่ระหว่างบรรทัดหนึ่ง

เผียะ!

เฉินตงทุบฝ่ามือลงบนโต๊ะ แล้วพูดผ่านไรฟันออกมา “ท่านหลง ดูเหมือนฉันจะหาเจอแล้ว”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset