Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 415 ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลัง

นัยน์ตาหมองหม่นของท่านหลง เป็นประกายขึ้นมาทันที

เขารีบไปยืนอยู่ด้านหลังของเฉินตง แล้วมองไปยังจุดที่เฉินตงกำลังชี้นิ้วอยู่

ส่วนเฉินตงเอง ก็เผยแววตาที่เฉียบคมขึ้นมา

ข้อมูลเพียงสั้นๆ ถ้าหากไม่ได้อ่านอย่างถี่ถ้วนทีละคำ ไม่มีทางสังเกตเห็นได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อความนี้เป็นข้อความที่ธรรมดามาก

เนื้อหาคือ จุนหลิน กรุ๊ปเคยร่วมมือกับบริษัทในเครือของตระกูลเฉิน เปิดเหมืองแร่ขนาดเล็กเป็นเวลาหนึ่งปี สุดท้ายความร่วมมือก็สิ้นสุดลงเพราะจำนวนแร่มีน้อยเกินไป

“เวลาหนึ่งปี นี่เป็นเพียงแค่รายงานความร่วมมือธรรมดาๆ” ท่านหลงขมวดคิ้วแน่น

หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ ข้อมูลนี้ไม่มีความสำคัญ

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างมีนัยแล้วพูดว่า “อันที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่รายงานความร่วมมือธรรมดาๆ ถึงขั้นไม่อาจกล่าวว่าเป็นความร่วมมือที่น่ายินดีสำหรับทั้งสองฝ่ายได้ แต่ตอนนี้จุนหลิน กรุ๊ปยื่นมือเข้ามา ท่านหลงไม่รู้สึกว่าข้อมูลนี้ดูแปลกประหลาดบ้างเลยหรือ?”

ใบหน้าของท่านหลงเคร่งขรึม ยังคงไม่เข้าใจ

“คุณชาย คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?”

เฉินตงไม่ได้รีบร้อน เขาค่อยๆ อธิบายทีละขั้นว่า “บริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง จะเอาเงินจำนวนมหาศาลจากที่ไหนมาเข้าร่วมโจมตีฉินเย่ในครั้งนี้? แล้วจะเอาความกล้ามาจากไหน ที่จะทำเรื่องที่แม้แต่ท่านหลงเองก็ยังไม่กล้าทำ?”

ขณะที่พูด เขาก็ชี้ไปที่เนื้อหาเรื่องนี้ที่อยู่ในข้อมูล

“ถ้าหากใช้การร่วมมือนี้เป็นแหล่งข้อมูล แล้วหยิบยกมาเป็นสถานการณ์สมมุติ แล้วค่อยใส่แรงจูงใจของจุนหลิน กรุ๊ปล่ะ?”

ท่านหลงตัวสั่น ด้วยประสบการณ์ของเขา การสมมุติสถานการณ์ของเฉินตงในครั้งนี้ ทำให้ปรากฏเส้นทางที่ชัดเจนขึ้นมาหนึ่งเส้นทาง อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้อีกด้วย

“นายท่าน?!”

ท่านหลงโพล่งออกมา

เฉินตงยิ้มร่าออกมา และพูดด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง “ไม่แน่ว่า รอให้เหตุการณ์ของฉินเย่สงบลงแล้ว พวกเราอาจจะไปโม่เป่ยกันสักครั้ง”

ถ้าหากหยิบยกเรื่องความร่วมมือขึ้นมาสมมุติเป็นเส้นทางหนึ่ง นี่ก็คงจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างจุนหลิน กรุ๊ป และตระกูลเฉิน

ตอนนี้พ่อหายตัวไป

ลำพังแค่จุนหลิน กรุ๊ป เฉินตงไม่เชื่อว่าพวกเขาจะกล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้

แต่ถ้าหากมีพ่อเข้าไปร่วมในนั้นด้วย ด้วยความชำนาญของพ่อ เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป

“ใช่ใช่ใช่ ต้องไป ต้องไปให้ได้”

แววตาของท่านหลงเป็นประกายเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ แววตาที่มองเฉินตงก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจยิ่งขึ้น “สถานการณ์สมมุติของคุณชายดูสมเหตุสมผลจริงๆ ถ้าหากใช้ความชำนาญของนายท่าน ทุกอย่างก็ดูจะเป็นไปได้ ต้อให้มีโอกาสเพียงแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ พวกเราก็ควรที่จะไปโม่เป่ยสักครั้งจริงๆ”

“ขอแค่ค้นหาตัวนายท่านกลับมาได้ ได้รับการคุ้มครองจากนายท่าน การพัฒนาของคุณชายก็ไม่ต้องติดขัดอีกต่อไป สามารถกำจัดสถานการณ์ที่ลำบากอยู่ในปัจจุบัน ออกไปได้จนหมดสิ้น”

แววตาของเฉินตงลึกซึ้ง และแสยะยิ้มออกมา

ถ้าหากหาพ่อเจอ ก็อาจทำให้รู้ได้ว่า ที่เขาหายตัวไปนั้น เป็นเพราะกลัวอะไรกันแน่

ในเวลาเดียวกันนี้

ที่ตระกูลเฉิน

ภายในลานเล็กแห่งหนึ่ง

สายน้ำไหลริน

เฉินเทียนหย่าง เฉินเทียนเซิงและเฉินหยู่เฟยนั่งรวมตัวกันอยู่

“ครั้งนี้ลูกสวะเฉินตง จะต้องจบเห่แน่ๆ”

เฉินเทียนหย่างนั่งอยู่บนรถเข็น ใบหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ “หรือพวกเราจะเติมเชื้อไฟลงไปอีกสักหน่อย ให้ลูกสวะนั่นแพ้อย่างราบคาบไปเลย?”

“สามพันล้านยังไม่พออีกหรือ?”

เฉินเทียนเซิงเลิกคิ้วพูดว่า “เทียนหย่าง นายมักประมาทอยู่เรื่อย นายรู้ไหมว่าการติดต่อกับเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวา ต้องอาศัยบุญคุณของพวกเรามากมายขนาดไหน? ยังมีRothschildอีก ครั้งนี้ฉันใช้หนี้บุญคุณครั้งสุดท้ายไปจนหมดสิ้นแล้ว”

เงินนั้นมีมูลค่า แต่บุญคุณนั้นประเมินค่าไม่ได้

แต่ระหว่างตระกูลมั่งคั่งด้วยกัน บุญคุณก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องตอบแทนซึ่งกันและกัน ทุกคนล้วนคิดบัญชีออกมาอย่างชัดเจน

“ใช้แล้วเทียนหย่าง พี่เทียนเซิงพูดถูก พวกเขาอยากเล่นงานบริษัทการเงินของเฉินตง จึงอัดฉีดเงินสามพันล้านเข้าไป ตอนที่เงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาดำเนินการ ก็ได้ลงทุนทรัพย์สินของพวกเขาลงไปด้วย หากพวกเราคิดจะลงทุนเพิ่ม คาดว่าพวกเขาคงจะไม่ยอมรับอีกแล้ว”

ใบหน้าอันงดงามของเฉินหยู่เฟยเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “พี่เทียนเซิงเองยังใช้หนี้บุญคุณที่มีต่อRothschild เพียงครั้งเดียวไปจนหมดสิ้นแล้ว หากลงทุนเพิ่มอีกล่ะก็ พวกเขาคงไม่สนใจพวกเราแล้ว”

“ไม่ได้ก็ไม่ได้สิ แต่สถานการณ์ในครั้งนี้ ต่อให้มีลูกอกตัญญูที่ฆ่าพ่อของตัวเองอย่างฉินเย่คอยควบคุมอยู่ ก็ไม่มีทางที่จะต้านเอาไว้ได้”

เฉินเทียนหย่างยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ เพียงแต่แววตาของเขากลับดูมืดหม่น และแสดงออกถึงความเกลียดชัง จ้องมองไปที่เท้าทั้งสองข้างของเขา

ได้รับบาดเจ็บมาเป็นเวลาร้อยวัน จนกระทั่งตอนนี้เขายังต้องนั่งอยู่บนรถเข็น

อีกทั้ง นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว!

“ครั้งนี้สวรรค์เข้าข้างเราแล้ว เดิมทีมีเพียงแค่สามมหาอำนาจที่โจมตีลูกสวะนั่น คิดไม่ถึงเลยว่าหงหุ้ยจะเข้าร่วมด้วย ดูเหมือนจะอยากได้เนื้อชิ้นใหญ่เช่นเดียวกัน แต่จุนหลิน กรุ๊ปที่อยู่โม่เป่ยเองก็น่าสนใจไม่น้อย ฝูงหมาป่ากำลังกินเนื้อ พวกเขาก็ยังกล้าที่จะเข้ามาแย่งซุป”

เฉินเทียนหย่างนั่งพิงรถเข็น “ดูเหมือนหลายวันนี้ลูกสวะเฉินตงนั่นคงจะปวดหัวน่าดู? ส่วนเจ้าอันธพาลฉินเย่เองก็ไม่อาจหาทางรับมือได้ วันนี้ฉันขี้เกียจจะเข้าไปดูในตลาดหุ้นเสียด้วยซ้ำ”

“ฉันเองก็ไม่ได้ดู”

“ฉันก็ด้วย”

เฉินเทียนเซิงและเฉินหยู่เฟยหันมองหน้ากันแล้วยิ้ม

สถานการณ์ที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว จึงมีเพียงแค่ช่วงสองวันก่อนเท่านั้น ที่ยังพอดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ แต่ตอนนี้ ตอนจบได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ดูไปก็เสียเวลาเปล่า

“แต่ว่า สิ่งที่พวกเราทำ จะทำให้คุณย่าและเหล่าบรรดาผู้อาวุโสรู้สึกไม่พอใจหรือไม่?”

ผู้หญิงมีความคิดที่ละเอียดอ่อน เฉินหยู่เฟยกล่าวตักเตือนเบาๆ “อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้สืบทอดมรดกนะ?”

เป็นเพราะเรื่องในคราวก่อน ตอนนี้เธอเป็นคนที่แย่ที่สุดในบรรดาทั้งสามคน ต้องสูญเสียรากฐานในวงการบันเทิงไป จึงหมดหวังแล้วในการแย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้านในอีกหนึ่งปีหลังจากนี้”

ถ้าหากยังประมาทอีกครั้ง อาจทำให้ทุกสิ่งที่มีอยู่ในมือตอนนี้ หายวับไปกับตา

“เชอะ หยู่เฟยกลัวจนหัวหดเสียแล้วหรือ?”

เฉินเทียนหย่างยักไหล่ “ช่วงนี้คุณย่ากำลังวุ่นอยู่กับการออกตรมหาเจ้าบ้าน เรื่องที่พวกเราสามคนทำ ถูกปิดเป็นความลับขนาดนี้ พวกเขาไม่มีทางรู้เด็ดขาด ต่อให้รู้ ไม่แน่ว่าพวกคุณย่าอาจเห็นดีเห็นงามด้วยก็เป็นได้ อย่าลืมสิว่านั่นคือลูกสวะ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าบ้านออกแรงปกป้องอย่างสุดชีวิต เขาจะมีค่าอะไรกัน”

เรื่องในครั้งนี้ พวกเขาทั้งสามลอบทำอย่างลับๆ ความลับในครั้งนี้ มีเพียงแค่พวกเขาสามคนและผู้นำของทั้งสามบริษัทเงินทุนเท่านั้นที่รู้

เฉินเทียนเซิงพยักหน้า และพูดเสริมว่า “หยู่เฟยอย่าคิดมากไปเลย นี่คือการต่อสู้ของผู้สืบทอดมรดกอย่างพวกเรา ไม่ได้ละเมิดกฎของตระกูลเสียหน่อย อีกอย่าง ลูกสวะนั่นยังแหกกฎของตระกูลได้ ทำไมพวกเราจะทำบ้างไม่ได้?”

“พี่ชายของฉันพูดถูก!”

เฉินเทียนหย่างยิ้มและพยักหน้า จากนั้นจึงเผยแววตาชั่วร้ายออกมา และกัดฟันพูดว่า “หยู่เฟยเอ๋ย ตอนนี้การขึ้นเป็นเจ้าบ้านของพวกเรานั้นหมดหวังแล้ว โอกาสของพี่ชายฉันยังเหลืออยู่มาก หากพวกเรากำจัดลูกสวะเฉินตงได้ แล้วร่วมมือกันช่วยพี่ชายฉันกำจัดผู้สืบทอดมรดกคนอื่นๆ แล้วทำให้พี่ชายของฉันได้ขึ้นเป็นเจ้าบ้าน ถึงตอนนั้นพวกเราจะไม่สุขสบายได้อย่างไร?”

เฉินหยู่เฟยแววตาเป็นประกาย

เธอพยักหน้าสนับสนุนเฉินเทียนหย่าง “ถูกต้อง ตระกูลเฉินนี้ ใครจะขึ้นเป็นเจ้าบ้านก็ได้ ยกเว้นลูกสวะเฉินตงที่จะขึ้นเป็นนั่งในตำแหน่งนี้ไม่ได้เด็ดขาด หากทำลายบริษัทเงินทุนของเขาได้ ก็เท่ากับตัดแขนข้างหนึ่งของเขา หนึ่งปีหลังจากนี้ ก็ปล่อยให้เขารอความตายไปเถอะ”

เมื่อได้ยิน

ทั้งสามคนก็หัวเราะออกมา

ใบหน้าของเฉินเทียนเซิงแดงก่ำ เต็มไปด้วยความสะใจ

เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ ถือเป็นหัวหน้าของบรรดาหัวกะทิในตระกูลเฉิน แผนการในครั้งนี้เขาเป็นคนวางขึ้นเช่นกัน

อย่างที่เฉินหยู่เฟยพูด ใครจะขึ้นเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉินก็ได้ ต่อให้ท้ายที่สุดคนที่ขึ้นเป็นเจ้าบ้านจะไม่ใช่เขา แต่เขาก็ไม่มีวันปล่อยให้ลูกสวะได้ขึ้นไปนั่งในตำแหน่งเจ้าบ้านเด็ดขาด

ทว่า

จู่ๆ ก็มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาหาเฉินเทียนเซิง

เมื่อเฉินเทียนเซิงรับโทรศัพท์ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

ไม่หลงเหลือความภูมิใจเมื่อครู่อีก มีเหลือก็เพียงความหมองหม่นเท่านั้น

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset