Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 418 ช่วงเวลาออกล่า

หลังอาหารเย็น

เฉินตงยังคงไปเดินเล่นเป็นเพื่อนกู้ชิงหยิ่งเหมือนอย่างเคย

เพียงแต่ เฉินตงรู้สึกสงสัยว่า

กู้ชิงหยิ่งพูดคุยน้อยลง เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เหมือนมีเรื่องทุกข์ใจ

“มีเรื่องอะไรในใจหรือ?” เฉินตงทำลายความเงียบลง

“เปล่านี่” กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว ยังคงไม่มองหน้าเฉินตง

เฉินตงหยุดเดิน

“เวลาที่ผมโกหก ไม่สามารถปิดบังคุณได้ เวลาที่คุณโกหก ก็ไม่อาจปิดบังได้เช่นกัน”

กู้ชิงหยิ่งเดินไปด้านหน้าสองก้าว แล้วจึงหยุดลง

เธอพูดด้วยท่าทีที่สงบว่า “ขอโทษค่ะ พวกเรากลับเข้าบ้านกันเถอะ ฉันรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”

พูดจบ เธอก็หันหลัง แล้วเดินผ่านเฉินตง มุ่งหน้าไปที่บ้าน

เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

เฉินตงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม การแสดงออกของกู้ชิงหยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่ามีเรื่องไม่สบายใจ

แต่ปฏิกิริยาเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่เคยเห็น!

“หรือฉันทำอะไรผิดไป จนทำให้เสี่ยวหยิ่งโกรธเข้า?”

เฉินตงลูบจมูก แล้วคิดทบทวนดูอย่างละเอียด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำผิดอะไร?

“เรื่องรถหรือ?”

จู่ๆ เฉินตงก็นึกถึงเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้ขึ้นมา

กลับไปถึงห้องนอน

กู้ชิงหยิ่งก็นอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว ท่าทางเหมือนกลับเมื่อคืนไม่มีผิด คงเตรียมที่จะนอนหันหลังให้กับเขาอีกครั้ง

เฉินตงรู้สึกจนใจเล็กน้อย เขาล้างเนื้อล้างตัวสักครู่ จากนั้นจึงนอนลงบนเตียง แล้วกอดกู้ชิงหยิ่งจากทางด้านหลัง

ด้วยการกระทำนี้ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ากู้ชิงหยิ่งมีท่าทีขัดขืนเล็กน้อย

แต่เขาก็ออกแรงที่มือทั้งสองข้างเล็กน้อย แล้วพยายามข่มแรงที่ขัดขืนนี้ไว้

“ที่รัก คุณเป็นแบบนี้เพราะรถที่ผมขับกลับมาเมื่อวานใช่ไหม?” เฉินตงถาม

กู้ชิงหยิ่งนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร

น่าจะใช่!

เฉินตงเข้าใจในทันที จึงพูดอธิบายว่า “นั่งเป็นรถที่ผมยืมคนอื่นมา เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ผมรับรองว่า ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดอย่างแน่นอน”

เวลาที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ ห้ามอารมณ์เสียเด็ดขาด

เฉินตงไม่อยากให้เรื่องนี้ทำร้ายกู้ชิงหยิ่ง ดังนั้นจึงพูดทุกอย่างออกมาตามตรง

“อืม นอนเถอะ”

กู้ชิงหยิ่งพยักหน้า แล้วส่งเสียงตอบรับเบาๆ หนึ่งคำ

เฉินตงผงะไปทันที ปฏิกิริยาเช่นนี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เขาปล่อยกู้ชิงหยิ่งโดยไม่รู้ตัว แต่กู้ชิงหยิ่งยังคงหันหลังให้เขา และไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย

หรือจะไม่ใช่เรื่องรถ?

ในใจของเฉินตงยิ่งเกิดความสงสัยขึ้นมากมาย

อีกทางด้านหนึ่ง

ตระกูลเฉิน

ภายในลานเล็ก เฉินเทียนเซิง เฉินเทียนหย่าง และเฉินหยู่เฟยนั่งรวมตัวกัน ยังไม่ได้เข้านอน

“พี่ พวกเราเดาถูกแล้ว วันนี้รับเก็บเกี่ยวกำไรมาจากเฉินตงได้หนึ่งพันล้านหยวน!”

เฉินเทียนหย่างยกแก้วไวน์ขึ้นมา แล้วยิ้มด้วยความพึงพอใจ “Rothschildเองก็โง่จริงๆ เห็นสถานการณ์แย่เข้าหน่อยก็รีบหนี ทำให้พลาดเนื้อชิ้นโตไป”

เฉินเทียนเซิงยิ้มเล็กน้อย แสดงออกว่าเห็นด้วยกับความคิดของเฉินเทียนหย่าง

แต่ว่า เขาก็พอเข้าใจRothschildได้

ภาพที่ปรากฏขึ้นในตอนกลางวัน หากเป็นตัวเขาเองก็คงนั่งไม่ติดเช่นเดียวกัน และคงจะระเบิดอารมณ์ออกมา

Rothschildถอนตัวไป ก็ยังถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลและเข้าใจได้

“ตอนนี้พวกเราลุงทุนเพิ่มอีกห้าพันล้าน พรุ่งนี้เมื่อเปิดตลาด เกรงว่าคงจะทำให้เฉินตงและฉินเย่ต้องรู้สึกสิ้นหวังอย่าแน่นอน?”

เฉินอยู่เฟยเขย่าแก้วไวน์ที่อยู่ในมือ แล้วหัวเราะด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความเมา

ตอนนี้ เธอรู้สึกราวกับมีความโกรธถูกระบายออกมา

เพราะเฉินตง ทำให่เธอต้องสูญเสียรากฐานในวงการบันเทิงที่สั่งสมมาอย่างยากลำบาก ต้องสูญเสียคุณสมบัติที่จะช่วงชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน ก็เพียงแค่สามารถกำจัดเฉินตงได้ ใจของเธอก็คงรู้สึกสงบขึ้นไม่น้อย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า……หยู่เฟย สิ่งที่เธอพูดมันยังน้อยเกินไป เกรงว่าพรุ่งนี้เฉินตงกับฉินเย่อาจต้องกระโดดตึกฆ่าตัวตายก็ได้?”

ใบหน้าของเฉินเทียนหย่างเต็มไปด้วยความสะใจ เขากะพริบตาปริบๆ แล้วหัวเราะด้วยท่าทีแปลกๆ พลางพูดว่า “ลูกสวะเฉินตง ดูเหมือนว่าคงคิดไม่ถึงแน่นอน ว่าพวกเราสามคนร่วมมือกัน ทำให้เกิดการโจมตีเขาในครั้งนี้ เกรงว่าจนกระทั่งวันตาย เขาคงคิดว่าเป็นเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวา ที่ร่วมมือกันจัดการกับเขาจนหมดเนื้อหมดตัว?”

เมื่อได้ยิน

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินเทียนเซิงและเฉินหยู่เฟยก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

นี่คือความมั่นใจที่ถ่ายทอดมาจากตระกูลเฉิน!

ทรัพย์สินหมื่นล้าน เป็นทรัพย์สินทั้งหมดที่บริษัทการเงินของเฉินตงและฉินเย่ถือครองอยู่

แต่สำหรับพวกเขาแล้ว พวกเขาเป็นผู้สืบทอดมรดกตระกูลเฉิน ยังคงพึ่งพาความมั่งคั่งของตระกูลเฉิน เงินหมื่นล้านในสายตาของพวกเขานั้น เป็นเพียงแค่เศษเงินเท่านั้น!

พวกเขาเพียงแค่ใช้เศษเงิน ก็สามารถทำให้เฉินตง “ตาย” ได้ จะมีอะไรที่น่ายินดีกว่านี้อีก?

“ลูกสวะนั่น ไม่มีวันมองสถานการณ์ออกเป็นอันขาด สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่โต สำหรับพวกเราแล้วก็เป็นเพียงแค่เงินค่าขนมเล็กน้อยเท่านั้น”

เฉินเทียนเซิงแสดงความคิดของตัวเองที่เห็นได้ยากยิ่งออกมา ในคำพูดเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส “นี่คือความแตกต่างระหว่างหัวกะทิอย่างพวกเรากับลูกสวะนั่น ลูกสวะนั่นไม่มีทางไล่ตามเราได้ทันตลอดชีวิต!”

เฉินเทียนหย่างและเฉินหยู่เฟยหัวเราะร่าออกมาพร้อมกัน

เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วลาน ยินดีเกินจะหาที่เปรียบได้

ทั้งสามเคยต้องสูญเสียภายใต้เงื้อมมือของเฉินตง ตอนนี้ได้ร่วมมือกัน ก็ถือว่าได้ระบายความแค้นออกมาในที่สุด

ถึงขั้นว่า ทั้งสามได้คาดการณ์ถึงสภาพตอนที่เฉินตงต้องเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่เรียบร้อยแล้ว สิ่งนี้ทำให้พวกเขายิ่งหัวเราะออกมาเสียงดังยิ่งขึ้น

……

ฟ้าเริ่มสาง

เฉินตงลุกขึ้นแต่เช้า แล้วมุ่งหน้าไปยังบริษัทไท่ติ่ง

วันนี้ เป็นวันที่ฉินเย่จะลงดาบเพื่อจบเกม

ไปถึงบริษัท

เฉินตงไม่ได้จัดการงานของบริษัท แต่กลับชงชา แล้วนั่งนิ่งอยู่ริมหน้าต่าง มองดูเมฆคล้อยไปมา

ความกดดันตลอดหลายวันมานี้ ในที่สุดวันนี้ก็จะได้ผ่อนคลายลงเสียที

ไม่เพียงเท่านี้ เป็นเพราะเรื่องนี้ ทำให้เขาค้นหาเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับพ่อได้

เฉินตงตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า หลังจากเรื่องของฉินเย่จบลง จะเดินทางไปยังโม่เป่ยสักครั้งทันที

ถ้าเหมือนกับที่เขาคาดเดาเอาไว้ การไปครั้งนี้ก็คงจะค้นหาพ่อได้เจอ จากนั้นความสงสัยต่างๆ ในใจก็คงได้รับการคลี่คลาย

ทำไมพ่อถึงได้หายตัวไป?

และกลัวอะไรกันแน่ ถึงได้เอาแต่หลบซ่อนตัวอย่างยาก

เก้าโมงเช้า

เฉินตงยกแก้วชาขึ้น แล้วจิบลงไปหนึ่งคำ

ท่าทีที่นิ่งสงบ ค่อยๆ ดูดุดันขึ้นมา แววตาเผยเจตนาฆ่าออกมา “ตอนนี้ ถึงเวลาเริ่มต้นการล่าแล้ว!”

เขาไม่ได้เปิดคอมพิวเตอร์

เพราะเขารู้ดีว่า เมื่อฉินเย่ หงหุ้ย และบริษัทชิงหยิ่งร่วมมือกัน จะมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดไหน

ยิ่งไปกว่านั้น ในนั้นยังแฝงไปด้วย “ตัวแปร” —— จุนหลิน กรุ๊ป

Rothschildถอนเงินทุนออกไปแล้ว

เหลือเพียงแค่เงินทุนของบริษัทเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวา ซึ่งไม่สามารถรับมือกับสภานการณ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ เหมือนกับที่เขาเป็นกังวลใจเมื่อหลายวันก่อน อีกเดี๋ยวก็คงถึงตาที่เงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาจะต้องเป็นกังวลบ้าง

ตอนนี้ไม่มีอะไรที่น่ากังวลไปกว่าการจบเกมในครั้งนี้ สุดท้ายแล้วจะทำกำไรได้เท่าไหร่กันแน่?

คนที่มีความคิดเช่นเดียวกับเฉินตง ยังมีพวกของเฉินเทียนเซิงอีกสามคนที่บ้านตระกูลเฉิน

ตั้งแต่เช้าตรู่

เฉินเทียนเซิง เฉินเทียนหย่าง และเฉินหยู่เฟย ตื่นแต่เช้าตรู่

หลังจากดื่มเหล้ามาตลอดคืน ก็นอนหลับไปสักครู่ แต่ทั้งสามกลับไม่รู้สึกอ่อนล้าเลยแม้แต่น้อย

สำหรับพวกเขาแล้ว สามารถมองเฉินตงสิ้นหวังจากในมุมมืดได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง

เฉินเทียนเซิงซึ่งมีนิสัยใจร้อนก็เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาตั้งแต่เช้า

จนกระทั่งถึงเวลาเก้าโมง เป็นเวลาที่ตลาดหุ้นเปิดทำการ

เฉินเทียนเซิงและเฉินหยู่เฟยนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์

เฉินเทียนหย่างอดไม่ได้ที่จะถูมือ “พี่ หยู่เฟย ตื่นเต้นกันไหม? ดีใจหรือเปล่า? เดี๋ยวพวกเราก็จะได้เห็นเฉินตงถูกตัดแขนแล้ว”

“ฉันเตรียมสถานที่จัดฉลองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” เฉินเทียนเซิงยิ้มเล็กน้อย แววตาเป็นประกายออกมา

เฉินหยู่เฟยเองก็ยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน “ขอเพียงแค่จัดการกับบริษัทการเงินของฉินเย่ได้ ฉันจะดูซิว่า ลูกสวะอย่างเฉินตง จะกระโดดขึ้นมาได้อีกไหม? ยิ่งเขาตายอย่าทรมาน ฉันก็ยิ่งมีความสุข!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset