Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 423 มากันครบ!

ท่านหลงกับคุนหลุนเองก็มองเห็นรายชื่อที่โทรเข้ามา

สีหน้าของคนทั้งสองแปรเปลี่ยน

พ่อตาโทรมาหาตอนนี้ สงสัยจะรู้เรื่องเลยโทรมาต่อว่างั้นหรือ?

“ครับ คุณพ่อ”

เฉินตงรับโทรศัพท์ ฝืนยิ้มทำเสียงสดใส

“ตงเอ๋อ โทรศัพท์เสี่ยวหยิ่งเป็นอะไร ทำไมโทรไม่ติด”

น้ำเสียงของกู้โก๋ฮั๋วเจือความสงสัย “พ่อโทรไปหลายรอบแล้ว ปิดเครื่องตลอดเลย”

“มือถือคงจะแบตหมดเลยปิดเครื่องมั้งครับ พ่อมีเรื่องอะไรรึเปล่า เดี๋ยวผมบอกเธอให้ครับ”

หัวใจของเฉินตงสงบนิ่ง กู้ชิงหยิ่งไม่ได้บอกกู้โก๋ฮั๋วถึงเรื่องราวของพวกเขาสองคน

ดังนั้นความรู้สึกผิดที่มีต่อกู้ชิงหยิ่งก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

เด็กโง่คนนี้ยังคงชอบเก็บเรื่องราวเอาไว้คนเดียวเสมอ!

“ฮ่าๆๆ… งั้นไม่เป็นไร อย่างแรกเลยขอแสดงความยินดีกับทั้งสองคนด้วยที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่” กู้โก๋ฮั๋วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เฉินตง “ต้องขอบคุณคุณพ่อด้วยที่คอยช่วยเหลือ”

“พ่อก็แค่ออกแรงนิดหน่อยเอง เจ้าเด็กฉินเย่นั่นกำลังดีมาก แถมยังได้รับการช่วยเหลือจากหงหุ้ย พ่อว่าการช่วยเหลือเทียบไม่ได้กับการที่เขาแบ่งกำไรจากลูกเขยพ่อไปด้วยซ้ำ”

กู้โก๋ฮั๋วกล่าวต่ออย่างอารมณ์ดี จากนั้นน้ำเสียงของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นตำหนิ “แต่ลูกกับเสี่ยวหยิ่งก็ปิดบังคนแก่อย่างพวกเราสองคนได้ดีจริงๆ ไม่ยอมรีบบอกข่าวใหญ่อย่างเรื่องท้องกับพวกเราสองคน พวกเธอรอก่อนเถอะ พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะไปสั่งสอนพวกเธอให้รู้เรื่องเลย”

มาพรุ่งนี้?

เฉินตงตาค้าง

ตอนนี้เรื่องเข้าใจผิดของเขากับกู้ชิงหยิ่งยังไม่ได้เคลียร์กันเรียบร้อยเลย

ถ้าพรุ่งนี้กู้โก๋ฮั๋วกับแม่บินมาที่นี่อีก นั่นจะไม่…ยิ่งทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่หรอกหรือ

แต่ไม่ทันรอให้เฉินตงได้ตอบ กู้โก๋ฮั๋วที่อยู่ปลายสายก็เอ่ยต่อว่า “เอาเท่านี้ละกันนะ พรุ่งนี้เดี๋ยวพ่อกับแม่ไปหา ลูกกับเสี่ยวหยิ่ง พวกเราจะเข้าไปที่บ้านเอง ไม่ต้องมารับหรอก ตอนนี้กลับไปอยู่ที่วิลล่าเขาเทียนซานแล้วใช่ไหม เห็นเสี่ยวหยิ่งเคยบอกเอาไว้”

กึก!

ปลายสายวางหูไป

เฉินตงเริ่มรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่

เมื่อวางมือถือลง เขาก็ทรุดนั่งลงบนโซฟาและเอามือลูบหน้าอย่างร้อนใจ

บทสนทนาเมื่อครู่นี้ ท่านหลงกับคุนหลุนได้ยินเต็มสองรูหูเช่นกัน

“คุณชาย ถ้ากู้โก๋ฮั๋วกับภรรยาเดินทางมาจะไม่เป็นเรื่องใหญ่หรอกหรือครับ”

ท่านหลงเอ่ยเตือนเสียงเครียด

เดิมทีเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน

ระหว่างเฉินตงกับภรรยาเท่านั้น

หากรีบหาเวลาคุยกัน สองสามีภรรยาจะต้องกลับมาคืนดีกันได้อย่างเดิมแน่

แต่หากกู้โก๋ฮั๋วกับภรรยารู้เรื่องนี้ เรื่องนี้คงกลายเป็นเรื่องใหญ่ระหว่างสองครอบครัวอย่างแน่นอน

เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน!

หากเรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูด จะต้องกระทบความสัมพันธ์ระหว่างเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งอย่างแน่นอน

เพราะเรื่องเมียน้อย ไม่ว่าใครได้ยินก็คงไม่สามารถวางเฉยได้

“พวกเขาตัดสินใจไปแล้ว ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง”

เฉินตงวุ่นวายใจ เขาเหลือบมองไปบนตึกอย่างไม่รู้ตัว “ไม่รู้ว่าตอนนี้เสี่ยวหยิ่งใจเย็นลงบ้างแล้วหรือยัง”

ท่านหลงเริ่มร้อนใจขึ้นมา “หรือว่าเราจะหาเหตุผลสักข้อ ถ่วงเวลากู้โก๋ฮั๋วกับภรรยาไปก่อนดีครับ”

“คงไม่ทันแล้วล่ะมั้ง” คุนหลุนกล่าว

บรรยากาศภายในห้องรับแขกเงียบลงในทันใด

ทั้งสามคนมองหน้ากันไปมาด้วยความมืดมน

ปัญหาในครอบครัวยากจะแก้ไข แม้ว่าท่านหลงจะผ่านศึกมากว่าร้อยศึก เดินทางไปทั่วทุกหนแห่ง และแม้ว่าคุนหลุนจะมีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องการสู้รบ แต่เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องยากเช่นนี้ก็อับจนหนทางเช่นกัน

“รอให้พรุ่งนี้พวกเขามาถึงก่อนแล้วค่อยว่ากัน พ่อตากับแม่ยายเป็นคนมีเหตุมีผล คงไม่โวยวายหรอก”

เฉินตงบิดขี้เกียจแล้วเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ “ไปพักผ่อนกันเถอะ”

……

ที่วิลล่าเขตชานเมือง

เย่หลิงหลงกระฟัดกระเฟียดนั่งลงบนโซฟา หน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงตามการสูดหายใจเข้าออกที่รุนแรง

เย่หยวนชิวนั่งอยู่ข้างๆ จึงเอ่ยแกมล้อเล่นขึ้น “เด็กโง่ ยังโกรธอยู่อีกหรือ หนูโกรธมาตั้งกี่ชั่วโมงแล้ว”

“ปู่คะ จะให้หนูไม่โกรธได้ไงคะ ไอ้เฉินตงนั่น น่าโมโหชะมัด!”

เย่หลิงหลงรีบเอ่ยตอบโต้ “เขาถึงขึ้นให้หนูนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าคนตั้งเยอะ พระเจ้า คนอย่างเย่หลิงหลงชีวิตนี้ไม่เคยต้องลำบากใจมากมายเท่านี้เลย”

“เดี๋ยวๆๆ แค่นี้ก็เรียกว่าลำบากใจมากแล้วหรอ” เย่หยวนชิวไม่ใส่ใจนัก

เย่หลิงหลงไม่อยากเชื่อ “นี่เป็นปู่หนูจริงๆ ใช่ไหมคะ ป้ายรุ่นหยวนปู่ก็เป็นคนให้เฉินตง แถมปู่กับหลงโถวยังตัดสินใจให้เขาเข้ามาอยู่ในหงหุ้ยด้วยอีก หนูต้องขายหน้าเพราะเขาแบบนี้เป็นเพราะปู่แท้ๆ เลย!”

“นี่ถ้าเขาไม่มีป้ายรุ่นหยวน หนูไม่มีทางสนใจเขาแน่!”

เย่หลิงหลงโกรธจนกัดฟันกรอด

แม้เธอจะกำลังอยู่ในอารมณ์ยัวะจัด แต่หน้าตาของเธอก็ยังคงดูน่ามองอยู่ ความโกรธทำให้เธอดูแปลกตาน่าสนใจไปอีกแบบ

“ต้องโทษคุณปู่ ทั้งหมดนี่เป็นเพราะคุณปู่”

เย่หยวนชิวยิ้มอย่างแปลกประหลาด “ถ้าหนูไม่สนใจเขา แล้วทำไมถึงต้องไปก่อกวนเขาทุกวันด้วยล่ะ?”

“คุณปู่ หนู…” ทันใดนั้นสีหน้าของเย่หลิงหลงกลายเป็นสีแดง คำพูดติดขัด

เย่หยวนชิวยิ้ม “เอาล่ะ นางฟ้าตัวน้อยของบ้านเราเริ่มมีหัวใจกับเขาบ้างแล้ว ลูกเล่นเด็กน้อยแค่นี้ มันโชว์อยู่บนหน้าหนูหมดแล้ว มีหรือที่ปู่จะดูไม่ออก”

ในหงหุ้ย เป็นเพราะฐานะของเขา ทำให้เย่หลิงหลงกลายเป็นคนที่ได้รับความใส่ใจมากที่สุดและเป็นที่รักของทุกคน

บวกกับนิสัยแข็งแกร่ง จึงทำให้อีโก้ของเธอย่อมสูงมากเป็นธรรมดา

จึงไม่แปลกที่ในหงหุ้ยจะมีชายหนุ่มหน้าตาดีมีความสามารถมาแอบชอบเธอ

แต่เย่หยวนชิวรู้ดีว่า เย่หลิงหลงไม่เคยสนใจใครทั้งนั้น

หรือแม้กระทั่งบรรดาผู้ชายที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในตระกูลร่ำรวยต่างๆ เย่หลิงหลงก็ไม่เคยหันไปเหลียวแลเช่นกัน

มีเพียงเฉินตงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เย่หลิงหลงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

เมื่อเห็นสีหน้าของเย่หลิงหลงเหมือนธาตุไฟจะแตก

เย่หยวนชิวจึงลูบเคราขาวของตัวเองแล้วยิ้ม “หลิงหลง พรหมลิขิตก็เป็นเช่นนี้ ถ้าพรหมลิขิตมาถึงก็แปลว่ามาถึง ถ้ายังมาไม่ถึงก็คือไม่ถึง ช้าหรือเร็วไปเพียงวินาทีเดียวก็ไม่ได้ มีเพียงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น”

“คุณปู่”

แววตาของเย่หลิงหลงวิบไหว แล้วมองไปที่เย่หยวนชิวอย่างไม่เต็มใจนัก

เย่หยวนชิวตบหัวเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู “เอาล่ะ ในเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เฉินตงก็เข้ามาอยู่ในหงหุ้ยแล้ว พรุ่งนี้พวกเราก็ควรกลับไปรายงานหลงโถวได้แล้ว”

“จะกลับกันเร็วขนาดนี้เลยหรือคะ” เย่หลิงหลงแปลกใจ ความโกรธมลายหายไป เธอรู้สึกผิดหวังอย่างไม่มีเหตุผล

เย่หยวนชิวอมยิ้มเบาๆ “ก่อนจะไป พวกเราไปหาเฉินตงที่บ้านสักครั้งก่อนเถอะ เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไปด้วย และเตรียมสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงรับรองไว้สำหรับล่ำลากับเฉินตง พวกเราจะได้ใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณเขา และให้ของขวัญเป็นการขอโทษ”

“ได้ค่ะปู่” แววตาของเย่หลิงหลงเป็นประกาย เธอพยักหน้าพลางอมยิ้ม

เย่หยวนชิวพยักหน้าอย่างจนปัญญา “จริงๆ เลย”

……

วันต่อมา

เฉินตงนอนไม่หลับตลอดคืนเพราะอารมณ์ของเขาแปรปรวนอยู่ตลอด

แม้กระทั่งตอนอยู่ที่บริษัทไท่ติ่ง จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวลจนไม่มีสมาธิทำงาน

ข้อแรกคือเรื่องที่เข้าใจผิดกับภรรยา

ข้อสองคือเรื่องที่พ่อตาแม่ยายกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้

เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของพ่อตา แม่ยายขึ้นมา จะเกิดเรื่องที่น่าสยองขวัญขนาดไหน

แม้ว่าเขาจะเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง และมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตคู่มาได้สามปีแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นบ้าง

เมื่อเห็นว่าถึงเวลาเลิกงานแล้ว

เฉินตงลองโทรหากู้ชิงหยิ่งก่อน แต่โทรศัพท์ยังถูกปิดไว้

เขาขมวดคิ้วแน่นอย่างจนปัญญา

เมื่อดูเวลาจนเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาที่กู้โก๋ฮั๋วกับภรรยากำลังจะบินมาถึงที่สนามบินแล้ว

เขาก็ขับรถมุ่งหน้าตรงไปยังสนามบิน

แม้ว่ากู้โก๋ฮั๋วจะบอกว่าไม่ต้องไปรับ แต่ในฐานะที่เขาเป็นลูกเขย พ่อตาแม่ยายมาถึงทั้งที จะไม่ไปรับได้อย่างไร

เมื่อไปถึงสนามบิน

ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว

เฉินตงตามหาคุนหลุนจนเจอและทั้งสองก็รอด้วยกันอยู่ที่สนามบิน

“คุณชาย มาแล้วครับ” คุนหลุนเอ่ยขึ้น

เฉินตงรีบหันไปมอง จึงเห็นกู้โก๋ฮั๋วกับแม่ยายเดินออกมาจากสนามบิน

ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไปรับ

ท่านหลงก็โทรเข้ามาหาเขาพอดี

“คุณชาย คืนนี้บ้านแตกแน่ๆ !”

คำพูดของท่านหลงทำเอาเฉินตงชะงักไปแล้วรีบถามขึ้นว่า “หมายความว่าไง”

“เย่หลิงหลงกับเย่หยวนชิวอยู่ที่บ้านแล้วตอนนี้ครับ” ท่านหลงเอ่ยอย่างหนักอึ้ง

ร่างของเฉินตงโงนเงน ตอนนั้นในหัวของเขาเกิดเสียงระเบิดสนั่นจึงโพล่งออกไปว่า “เวรแล้ว!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset