Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 427 พังจนได้

คุนหลุนชะงักไป

ยังไม่ทันได้ขยับตัวทำอะไรต่อ

“ดีจริง! สมกับฤดูนี้จริงๆ!”

กู้โก๋ฮั๋วยังไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของกู้ชิงหยิ่ง จึงเอ่ยปากชมออกมา

และก็เพราะคำชมนี้เองที่ทำให้เย่หยวนชิวกับเย่หลิงหลงที่หยุดยืนอยู่ท่ามกลางพุ่มดอกไม้หันตัวกลับมา

นาทีนั้น

ราวกับเวลาหยุดเดิน

กู้ชิงหยิ่งกำลังจ้องมองเย่หยวนชิวกับใบหน้าสวยหมดจดของเย่หลิงหลง ในใจของเธอรู้สึกโต้แย้งกันอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดความเจ็บปวดขมขื่น

เธอจับมือของกู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงเอาไว้โดยสัญชาตญาณ แล้วจิกเสื้อของคนทั้งสองเอาไว้แน่น

กู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงรับรู้ได้ถึงแรงที่กดลงบนแขนของตน สองสามีภรรยาพากันตกใจแล้วส่งสายตาสงสัยไปที่กู้ชิงหยิ่ง

ทว่าตอนนี้ เย่หยวนชิวยังคงมองไปที่กู้ชิงหยิ่งและคนอื่นๆ ด้วยสีหน้าปกติเหมือนเก่า

เขารู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมา นี่มันจะ…บังเอิญเกินไปหน่อยไหม?

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันทีต่อจากนั้นคือ เย่หลิงหลงขวางฟ่านลู่เอาไว้ “จริงอย่างที่เขาว่า ยิ่งไม่อยากเจอก็ยิ่งได้เจอ เมื่อวานแกไม่ได้ลงมือกับฉัน วันนี้เลยตามมาถึงที่นี่เลยหรอ”

“นี่คุณ…” ฟ่านลู่เริ่มฉุนเฉียว

คุนหลุนแอบดึงตัวฟ่านลู่เอาไว้ให้หยุด

เขารู้ดีว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่แน่!

เขารู้จักหงหุ้ยรุ่นหยวนดี

และยังรู้ด้วยว่า การมาบังเอิญเจอกันครั้งนี้ มันจะทำให้เกิดอะไรตามมา

แต่คุนหลุนยังคงก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วประสานมือคารวะ “คุนหลุนทำความเคารพท่านเย่”

รอให้เย่หยวนชิวพยักหน้าตอบรับก่อน คุนหลุนถึงจะมองไปที่เย่หลิงหลงด้วยสายตาคับแค้น

“คุณหนูเย่ กรุณารักษาความสงบด้วย การบังเอิญเจอกันในครั้งนี้ คงไม่มีใครตั้งใจให้เกิดขึ้น”

เย่หลิงหลงเลิกคิ้วขึ้นทันที ในใจของเธอเต็มไปด้วยโทสะเดือดพล่าน

ในคำพูดของคุนหลุนมีความหมายแฝงอยู่ มีหรือที่เธอจะฟังไม่เข้าใจ?

ในหัวของเธอเริ่มปรากฏภาพเรื่องราวเมื่อวาน ความเดือดดาลในอกของเย่หลิงหลง กำลังจะทำให้เรื่องราวบานปลาย

“พวกคุณรู้จักกันหรือ”

กู้โก๋ฮั๋วกล่าวออกมาอย่างแปลกใจ

สิ้นเสียงพูด

กู้ชิงหยิ่งแอบดึงแขนของกู้โก๋ฮั๋วเบาๆ “พ่อคะ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ หนูไม่อยากดูดอกไม้แล้ว”

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

เย่หลิงหลงตวาดออกมา

ร่างของกู้ชิงหยิ่งเริ่มสั่นโงนเงน ดวงตาของเธอปรากฏความขุ่นเคือง

เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บงำเอาไว้ ตอนนี้คงปิดบังไม่ได้อีกแล้ว?

“แม่หนู ไม่เห็นต้องทำกันแบบนี้เลย”

สีหน้าของกู้โก๋ฮั๋วเข้มขึ้น เขาไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัวสาวน้อยที่บังเอิญเจอคนนี้

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้สาวน้อยคนนี้กำลังตวาดใส่ลูกสาวของตนอีกด้วย

“ไม่เห็นต้องทำกันแบบนี้หมายความว่ายังไง”

เย่หลิงหลงก้าวขึ้นไปข้างหน้าด้วยท่าทางก้าวร้าว “เมื่อวานฉันกับปู่อุตส่าห์ไปขอโทษขอโพยถึงที่บ้านตามธรรมเนียม ตอนที่พวกแกบังคับข่มขู่ไล่พวกเราออกจากบ้าน เคยคิดบ้างไหมว่าไม่เห็นต้องทำกันแบบนี้เลย?”

“หลิงหลง!”

สีหน้าของเย่หยวนชิวเปลี่ยนไป เขารีบแผดเสียงออกมาห้าม

ทว่าสีหน้าของกู้โก๋ฮั๋วกลับยิ่งเครียดขึ้น “ขอโทษขอโพย? แม่หนู ไม่ทราบว่าหนูคือใคร แต่ฉันเชื่อว่าลูกสาวของเราได้รับการอบรมมาดี คงไม่มีทางทำเรื่องเสียมารยาทกับใครได้แน่”

“อะไรนะ? หมายความว่ายังไง”

ตอนนั้นเย่หลิงหลงเดือดดาลขึ้นมาทันที เธอยกมือขึ้นชี้ฟ่านลู่ “ก็นางนี่ไงที่ขู่พวกเราว่าจะทำร้ายพวกเรา หล่อนก็อยู่ตรงนี้ด้วย ทำไมไม่รู้จักถามดูล่ะ”

ฟ่านลู่หรี่ตาเล็กอย่างที่สุด

เธอกำหมัดขึ้นทั้งสองข้างตามสัญชาตญาณ

เมื่อต้องเผชิญกับการข่มเหงของเย่หลิงหลงอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้ เธอก็เริ่มจัดการตัวเองไม่ถูก

ส่วนคุนหลุนตอนนี้สีหน้าเริ่มเคร่งเครียดขึ้น

เขาหันไปมองเย่หยวนชิว “ท่านเย่ ท่านสอนหลานสาวอย่างนี้หรือ”

เย่หยวนชิวยิ้มอย่างหนักใจ และเตรียมจะเอ่ยตอบ

“สั่งสอน? แกกำลังจะบอกว่าฉันไม่ได้รับการสั่งสอนงั้นเหรอ”

เย่หลิงหลงยืดอกขึ้น เธอเอ่ยกับคุนหลุนอย่างไม่สบอารมณ์ “แกเกี่ยวข้องอะไรกับเฉินตงมิทราบ ขนาดเฉินตงเองยังไม่เคยบอกว่าฉันไม่ได้รับการสั่งสอนเลย!”

เปรี้ยง!

คำพูดเช่นนี้ราวกับเสียงฟ้าผ่าเข้าไปในหูของกู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิง

สองสามีภรรยารู้ดีว่าเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นระหว่างเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่ง แต่เมื่อกู้ชิงหยิ่งไม่พูด คนทั้งสองจึงไม่อยากถาม

แต่คำพูดเมื่อกี้ของเย่หลิงหลง ทำให้สองสามีภรรยานึกโยงไปถึงสถานการณ์ที่น่ากลัวขึ้นทันที

“พอได้แล้ว!”

กู้ชิงหยิ่งหันขวับมาแล้วแผดเสียงพร้อมน้ำตาไหลพราก “เธอต้องการอะไรกันแน่ แค่บังเอิญเจอกันเท่านั้น คิดจะเอาเรื่องกันขนาดนี้เลยหรอ”

เมื่อเห็นกู้ชิงหยิ่งน้ำตานองหน้าเช่นนี้

เย่หลิงหลงที่กำลังหยิ่งผยองกลับมึนงง

ก็แค่โวยวายนิดหน่อย ทำไมต้องเป็นถึงขนาดนี้ด้วย?

“ทำไมเธอต้องมาโวยวายใส่ฉันด้วย”

เย่หลิงหลงไม่เข้าใจเท่าไหร่จึงเอ่ยว่า “เมื่อวานฉันกับปู่ต่างหากที่เป็นฝ่ายโดนรังแก!”

“โดนรังแก?”

กู้ชิงหยิ่งน้ำตาไหลพราก ริมฝีปากของเธอสั่นไหว “ใครกันแน่ที่โดนรังแก? คนที่รังแกคนอื่นตอนนี้กลับพยายามจะแก้ผิดเป็นถูกงั้นเหรอ”

“ฉัน…” เย่หลิงหลงมึนงง “ฉันไปรังแกเธอตั้งแต่เมื่อไหร่”

“พอแล้ว!”

กู้โก๋ฮั๋วเดือดดาล เขายกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่เย่หลิงหลงพลางตวาดออกไป “เป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้จักร่ำเรียนให้ดี ลูกสาวของกู้โก๋ฮั๋วไม่เคยต้องเสียใจมากถึงขนาดนี้มาก่อน สาวน้อยอย่างเธอหน้าตาสะสวยก็จริง แต่จิตใจชั่วร้าย!”

เย่หลิงหลงหัวหมุน

คุนหลุนกับฟ่านลู่ยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นมาพักใหญ่แล้ว

ใครจะไปคิดว่าเมื่อวานฟ้าไม่ผ่า แต่กลับจะมาผ่าลงตรงกลางสถานที่พักผ่อนแห่งนี้!

เมื่อได้ยินคำต่อว่าของกู้โก๋ฮั๋วเช่นนั้น เย่หยวนชิวพลันขมวดคิ้วแน่น

เขาก้าวออกมาเพื่อมายืนอยู่ข้างๆ เย่หลิงหลง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “หลานสาวของฉัน ไม่เคยโดนใครดูหมิ่นแบบนี้มาก่อนเลย สิ่งที่เธอพูดคือความจริง คนเป็นผู้ใหญ่อย่างคุณ ทำไมถึงพูดจาเหลวไหล?”

“เรื่องจริง?”

กู้โก๋ฮั๋วโกรธจนยิ้มแยกเขี้ยว คล้ายกำลังกัดฟัน “จริงอย่างที่เขาว่ากันว่า ผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างไม่ดี เด็กก็ย่อมเป็นแบบนั้น ดำเนินตามเส้นทางเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน”

เมื่อเขาได้ยินคำว่าเรื่องจริงที่หลุดออกมาจากปากเย่หยวนชิว เขาจึงรู้สึกราวกับว่านี่คือการตอกย้ำว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นถูกต้อง!

เหลวไหล!

นี่มันเรื่องเหลวไหลชัดๆ !

ส่วนหลี่หวั่นชิงตอนนี้มีสีหน้าเขียวคล้ำ เธอโอบกู้ชิงหยิ่งเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว

ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน เรื่องราวเช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจอดทนได้ที่สุด!

นี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายของคนเป็นภรรยาทุกคน!

“พ่อคะ ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ พวกเราไปกันเถอะ ไปกันได้แล้ว!”

กู้ชิงหยิ่งไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีก เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเย่หลิงหลงที่เข้ามาโวยวายใส่ เธอรู้สึกพังทลายไม่เหลือชิ้นดี

สีหน้านิ่งสงบและรอยยิ้มต่างๆ ล้วนเป็นเพียงสิ่งบังหน้า เมื่อสิ่งบังหน้านี้ถูกกระชากออกก็เหลือเพียงความเจ็บปวด

“ไป พวกเรากลับบ้านกัน กลับบ้าน!”

หลี่หวั่นชิงแสดงอาการเกรี้ยวกราดออกมาแบบที่เห็นได้น้อยครั้งนัก เธอประคองกู้ชิงหยิ่งมุ่งหน้าเดินลงเขาไป

กู้โก๋ฮั๋วชี้หน้าคุนหลุนกับฟ่านลู่อย่างยัวะจัด “พวกเธอสองคนกลับไปบอกไอ้เฉินตงนั่นด้วยว่าลูกสาวของฉันอยู่กับเขาตั้งแต่ตอนที่เขาตัวเปล่าด้วยความรัก ลูกของฉันไม่ใช่คนที่เขาจะมาดูถูกกันได้ตามใจ! ตระกูลกู้ของเราดูแลเขาด้วยความหวังดี ลูกสาวของฉันรักเขาหมดทั้งหัวใจ แต่เขากลับทำเรื่องแบบนี้ พฤติกรรมแบบนี้มันไม่ต่างอะไรจากสัตว์เดรัจฉานเลย!”

เมื่อได้ยินคำต่อว่าของกู้โก๋ฮั๋ว

สีหน้าของฟ่านลู่ซีดเผือด สีหน้าของคุนหลุนก็หมองคล้ำเช่นกัน

จบกัน!

จบแล้วจริงๆ!

ส่วนเย่หลิงหลงกับเย่หยวนชิวนั้นนิ่งงันไปเมื่อโดนกู้โก๋ฮั๋วต่อว่ารุนแรงจนไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป

เมื่อกู้ชิงหยิ่งกับพ่อแม่ลับสายตาไปแล้ว

ตอนนั้นเย่หลิงหลงถึงจะได้สติกลับมา “ปู่คะ ทำไมหนูไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เลยคะ”

“เธอไม่เข้าใจอะไร?”

ฟ่านลู่กล่าวด้วยเสียงเย็นเยียบ “เป็นเพราะการปรากฏตัวของเธอ ที่ทำให้คุณเฉินกับเสี่ยวหยิ่งต้องเข้าใจผิดกัน เสี่ยวหยิ่งเข้าใจว่าเธอเป็นเมียน้อย การวางท่าจองหอง โวยวายของเธอ ในสายตาของเสี่ยวหยิ่งคือพฤติกรรมของคนเป็นเมียน้อย ไหนลองว่ามาซิว่ายังมีอะไรไม่เข้าใจอีก”

“เธอรู้ไหมว่าคุณนายน้อยต้องเสียใจเพราะเรื่องนี้มากขนาดไหน? เมื่อวานถ้าการปรากฏตัวเข้ามาโวยวายของเธอไม่ทำให้คุณนายน้อยต้องร้องไห้จนตาบวมช้ำแบบนี้ เธอคิดว่าฉันจะอยากออกไปพูดกับเธองั้นหรอ?”

เย่หลิงหลงที่วางตัวหยิ่งผยองเริ่มโงนเงน ในหัวของเธอคล้ายได้ยินเสียงฟ้าผ่า

เย่หยวนชิวหน้าถอดสี

ไม่รอให้ปู่หลานสองคนได้เอ่ยปาก

ความอาฆาตแค้นเย็นยะเยือกได้แผ่ซ่านไปถึงร่างของปู่หลานสองคน

คุนหลุนหรี่ตาลงแล้วจ้องไปที่เย่หยวนชิวและเย่หลิงหลง

สุดท้ายก็ไปหยุดค้างอยู่ที่เย่หลิงหลง

“ถ้าเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นระหว่างคุณชายกับคุณนายน้อย ต่อให้เธอเป็นผู้สืบทอดของหงหุ้ยรุ่นหยวน คนอย่างคุนหลุนก็ไม่มีทางปล่อยเธอไว้แน่!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset