Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 428 กลับ!

เมื่อสัมผัสได้ถึงความอาฆาตแค้นที่แผ่ออกมา

แม้แต่เย่หยวนชิวกับเย่หลิงหลงเองก็ยังรู้สึกหวาดหวั่นราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง

หลังจากคุนหลุนกับฟ่านลู่ห่างออกไปแล้ว

สองปู่หลานยังคงตกอยู่ในภวังค์ครู่ใหญ่

คำพูดประโยคสุดท้ายของฟ่านลู่ราวกับเสียงระฆังใบใหญ่ที่ดังก้องกังวานอยู่ในหูของคนทั้งสองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

และในเวลาเดียวกันนี้เอง

เฉินตงที่บริษัทไท่ติ่งได้รับสายจากคุนหลุนพอดี

เมื่อคุนหลุนเล่าเรื่องราวทั้งหมดจบ

มือขวาของเฉินตงพลันอ่อนปวกเปียก

ตุ้บ…

มือถือหลุดลื่นหล่นจากมือลงสู่พื้น

ร่างกายของเขาชา ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

ทำไม…ถึงเป็นแบบนี้ได้?

หลายวินาทีผ่านไปกว่าสายตาของเฉินตงจะปรับโฟกัสกลับมา

แต่เพียงชั่วพริบตาเดียว ดวงตาของเขากลับกลายเป็นสีเลือด

ในตอนนั้นเฉินตงคล้ายแปรเปลี่ยนกลายเป็นสัตว์กระหายเลือด

“ทำไม ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ สมควรตาย ไปตายซะ!”

เขากัดฟันแน่น มือทั้งสองข้างของเขากำหมัดแน่นส่งเสียงดังก็อบ

ความรู้สึกโมโหและเกลียดชังที่มีต่อกู้ชิงหยิ่งพลุ่งพล่านถึงขีดสุด

ความเข้าใจผิดครั้งนี้เป็นเพราะการบังเอิญเจอแค่ครั้งเดียว และจู่ๆ เหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปเสียดื้อๆ

ในความเดือดดาลนั้น เฉินตงรีบควานหาโทรศัพท์อย่างลนลาน

ลมหายใจของเขาถี่รัว มือทั้งสองของเขาสั่นระริก

เมื่อหาเบอร์ของกู้ชิงหยิ่งเจอ ก็รีบต่อสาย

ทว่าปลายสายกลับแจ้งเสียงปิดเครื่องที่ทำให้เขารู้สึกหมดหวัง

เฉินตงไม่ยอมหยุด

ครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม…

เสียงตอบรับเหมือนกันเช่นเดิม ไม่ว่าจะโทรไปกี่ครั้ง

แม้กระทั่งเบอร์โทรของกู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงเขาก็ลองโทรไป

แต่สุดท้ายปลายสายก็ปิดเครื่องเช่นกัน

ความวิตกและผิดหวังถาโถมราวกับน้ำป่าที่ไหลซัดใส่เฉินตง

สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมความหวาดหวั่นของเฉินตงคือเขารู้สึกหายใจติดขัดราวกับกำลังจะจมน้ำ

เขารู้ดีว่าถ้าเขาไม่รีบแก้ความเข้าใจผิดครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ว

สุดท้ายเขา…จะสูญเสีย…

ต่อให้กู้ชิงหยิ่งไม่ให้โอกาสเขาในการอธิบายอีก เขาก็ไม่สามารถรอได้แล้ว!

“กูหลัง เตรียมออกรถไปสนามบิน!”

เฉินตงตะโกนเสียงดัง

ในโทรศัพท์เมื่อครู่นี้คุนหลุนรายงานว่า หลังจากที่เขากับฟ่านลู่ลงจากภูเขาซี่สุ่ยก็ตามหากู้ชิงหยิ่งกับพ่อแม่ไม่เจอ

และในคำพูดของหลี่หวั่นชิง ก็บอกเอาไว้ชัดเจนว่าปลายทางของพวกเขาคือที่ไหน

เฉินตงคิดว่าคนทั้งสามจะต้องกลับไปเก็บของที่วิลล่าก่อน

แต่หากตามกลับไปตอนนี้ คงจะตามไม่ทัน

เขาคิดอยากจะให้ท่านหลงรั้งคนทั้งสามเอาไว้ก่อน แต่ก็หักห้ามความคิดบุ่มบ่ามนี้เอาไว้

เพราะคนที่จะสามารถรั้งกู้ชิงหยิ่งเอาไว้ได้ในเวลานี้คือตัวเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น!

ระหว่างทาง

เสียงรถยนต์คำรามลั่น ราวกับกำลังเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วเต็มสูบ

กูหลังรู้สึกหนักอึ้ง เขารู้สึกหวั่นใจ

เขาแอบมองเฉินตงอยู่เป็นพักๆ

และรู้สึกถึงความน่าสยดสยองที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเฉินตง

ส่วนเฉินตงกำลังจ้องไปด้านหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำ สุดท้ายจึงเอ่ยปากเร่งกูหลัง “เร็วหน่อย ช่วยเหยียบเร็วกว่านี้หน่อย!”

เสียงกระตุ้นนี้ราวกับกำลังคำรามออกมา เฉินตงในเวลานี้ไม่สุขุมเหมือนอย่างเช่นทุกวันที่ผ่านมา

ขณะนั้นเสียงเรียกเข้ามือถือดังขึ้น

เฉินตงรับโทรศัพท์โดยไม่แม้แต่จะเหลียวมอง

“เฉินตง…”

เสียงเย่หยวนชิวดังขึ้นที่ปลายสาย

“โทรมาหาแม่แกหรอ! พวกแกยังมีหน้าโทรมาฉันอีกรึ ถ้าเมียทิ้งฉันไป ฉันจะจัดการหงหุ้ยของพวกแกให้ถึงที่สุด! จู่เหลาของคนรุ่นหยวนสวะอะไรนั่น ฉันจะเฉดหัวไปให้หมด!”

ตึ้ง!

เฉินตงที่กำลังโมโหจัดเขวี้ยงมือถือไปกระแทกคอนโซลรถแตกกระจาย

ชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปในอากาศ

กูหลังตกใจจนตัวสั่น เท้าขวาของเขาเหยียบคันเร่งจมมิด

สนามบินชานเมือง

เสียงเครื่องบินขึ้น-ลงดังสนั่นทั่ว

โถงในสนามบินมีคลื่นฝูงชนกระจายอยู่ทุกบริเวณ

รถของกูหลังยังไม่ทันจอดสนิท แต่เฉินตงกลับเปิดประตูรถและกระโดดลงไปแล้ว

เขาวิ่งปรี่เข้าไปที่โถงใหญ่ในสนามบินอย่างคลุ้มคลั่ง

การกระทำนี้ทำเอาผู้คนบริเวณรอบๆ ตกใจจนหน้าถอดสี

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินจึงเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาทางเขา

เฉินตงวิ่งไปยังเคานเตอร์ เขาจ้องถมึงไปยังพนักงานตรงนั้น “ฉันต้องการให้เครื่องบินทุกลำหยุดบินเดี๋ยวนี้!”

สีหน้าของเจ้าหน้าที่คนนั้นเปลี่ยนไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นท่าทางคลุ้มคลั่งของเฉินตง

และในเวลาเดียวกันนั้น

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้เข้ามาล้อมรอบตัวของเฉินตงเอาไว้

“คุณผู้ชายคะ ที่นี่คือสนามบินสาธารณะ ถ้าคุณทำอะไรที่อาจจะเป็นอันตรายต่อคนอื่น ถือว่าเป็นความผิดนะคะ!”

“บ้าเอ๊ย! ฉันต้องการให้เครื่องบินทุกลำหยุดบิน ทุกลำต้องหยุดบินออกไปทั้งหมดเดี๋ยวนี้!”

เฉินตงไม่สนใจเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่กลับหันไปตะคอกใส่พนักงานด้านหน้าเคานเตอร์

เสียงคำรามราวเสียงฟ้าฟาด

ทำเอาผู้คนบริเวณรอบๆ มุงกันเข้ามาดูและพากันชี้มือชี้ไม้

“สงสัยจะเป็นคนบ้าล่ะมั้ง ให้เครื่องบินทั้งหมดห้ามบินออก เขาคิดว่าเขาเป็นใครหรือ”

“ต้องเป็นคนบ้าแน่ๆ คนแบบนี้อยู่ห่างๆ หน่อยก็ดี ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนลูกหลงไปด้วย”

“เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็มารยาทดีเกินไปหน่อยไหม ทำไมไม่จับตัวเอาไว้ซะเลย เข้ามาก็คลุ้มคลั่งแล้ว คิดว่าสนามบินเป็นของเขาหรือยังไง”

……

“คุณผู้ชายใจเย็นก่อนนะคะ สนามบินไม่สามารถทำตามคำสั่งของคุณได้ค่ะ”

เมื่อพนักงานเคานเตอร์เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ด้วยแล้วก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา แต่ความต้องการของเฉินตงก็ทำให้เธอไร้คำพูด แถมยังรู้สึกเหมือนคนที่มุงอยู่รอบๆว่าคนตรงหน้าเป็นบ้า

“ฉันมาตามหาเมีย สั่งเครื่องบินทุกลำให้หยุดบินออกไปเดี๋ยวนี้!”

ท่าทางของเฉินตงราวกับโดนผีสิง เขากำหมัดแน่นแล้วทุบลงไปบนเคานเตอร์ดัง “ตึ้ง”

“จับเขาไว้!”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบลงมือ

และในตอนนั้นเอง

“หยุด! ห้ามแตะต้องเขา!”

กูหลังตะโกนพลางวิ่งตะบึงเข้ามา

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงหยุด

เฉินตงไม่ได้ใส่ใจ เขายังกัดฟันและจ้องเขม็งไปที่พนักงานเคานเตอร์ จากนั้นจึงชี้ไปยังฝูงคนรอบๆ “ต้องทำอย่างที่พวกเขาบอกใช่ไหม สนามบินนี้ต้องเป็นของฉันก่อนถึงจะสั่งให้หยุดบินได้?”

พนักงานยิ้มด้วยรอยยิ้มดูถูก

จะให้หยุดบินได้ยังไง?

แล้วสนามบินจะเป็นของคุณได้ยังไง?

บ้าจริงๆ!

ปั้ง!

เฉินตงโยนบัตรดำชงโค ลงตรงหน้าพนักงานเคานเตอร์

“สนามบินนี้ ฉันขอซื้อ รีบสั่งให้เครื่องหยุดบินเดี๋ยวนี้!”

ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ต่างตกอยู่ในความสับสน

ฝูงชนโดยรอบเงียบลงครู่หนึ่ง ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน

ไม่นานนักความครึกครื้นนี้ก็ดึงดูดความสนใจคนในสนามบินจำนวนมาก

เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงเห็นเฉินตงกับบัตรดำชงโค ต่างพากันตกใจจนหน้าถอดสี

บริเวณโถงในสนามบิน

เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและก่นด่าเฉินตงกันอย่างอื้ออึง

“โชคดีที่วันนี้ฉันได้บินเที่ยวบินนี้พอดี เลยได้เจอเรื่องราวสนุกๆ ”

“เด็กหนุ่มคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นใครหรอถึงอยากจะซื้อสนามบิน แค่โยนบัตรออกมาใบเดียวก็คิดว่าจะซื้อได้แล้วเหรอ ตลกชะมัด!”

“บ้าบอจริงๆ ถ้าไม่บ้าจริงคงไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้หรอก”

……

ท่ามกลางเสียงหัวเราะเย้ยหยันนั้น

ประกาศของสนามบินกลับดังแทรกขึ้น

“เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เที่ยวบินทุกเที่ยวในสนามบินจึงต้องเลื่อนเวลาบินออกไปชั่วคราวสิบนาที”

เปรี้ยง!

เสียงประกาศครั้งนี้ราวกับเสียงสายฟ้าฟาด

เสียงหัวเราะเย้ยหยันที่ดังอื้ออึงภายในห้องโถงสนามบินพลันเงียบสงัดลงทันที

ฝูงชนต่างพากันอ้าปากค้างด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกับพนักงานเคานเตอร์ที่อยู่รอบๆ ตัวเฉินตงก็ยังมีสีหน้าราวกับเห็นผี

“หาชื่อผู้โดยสารที่ชื่อว่ากู้ชิงหยิ่งให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

เฉินตงเอ่ยกับพนักงานเคานเตอร์ด้วยเสียงแหบแห้ง “ฉันอยากรู้ว่าเธอเดินทางออกไปหรือยัง”

พนักงานได้สติกลับคืนมา ไม่กล้าอยู่เฉยอีกต่อไปจึงรีบลงมือค้นหา

ในห้องโถงใหญ่ของสนามบิน

เงียบสงัดถึงขั้นได้ยินเสียงเข็มตก

เสียงพนักงานรีบจิ้มคีย์บอร์ดดังสะท้อนก้องเข้าหูทุกคน

ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น

พนักงานคนหนึ่งกล่าวกับเฉินตงด้วยความหวาดกลัว

“คุณผู้ชายคะ เมื่อสิบนาทีก่อนหน้านี้ มีผู้โดยสารหญิงชื่อกู้ชิงหยิ่งโดยสารเครื่องบินออกไปแล้วค่ะ”

“ให้บินกลับมา สั่งให้บินกลับมา!” เฉินตงคล้ายกำลังจะตกลงสู่ห้วงแห่งความบ้าคลั่งและเสียสติ

พนักงานมีสีหน้าลำบากใจ

“ขอโทษด้วยค่ะ พวกเขาเดินทางด้วยเที่ยวบินส่วนตัว จึงไม่สามารถสั่งให้บินกลับมาได้ค่ะ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset