Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 36 ความเอ็นดูของกู้ชิงหยิ่ง

บทที่ 36 ความเอ็นดูของกู้ชิงหยิ่ง

ร้านอาหารฝรั่งWinnie

ครั้งแรกที่มากินอาหารฝรั่งในชีวิตของเฉินตง ก็คือร้านอาหารร้านนี้ ตอนนั้นกู้ชิงหยิ่งเป็นคนเลี้ยงด้วย

ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยสี่ปี เขาและหวางหนันหนัน กู้ชิงหยิ่งแล้วก็เพื่อนๆอีกสองสามคน จะนัดกันมากินข้าวด้วยกันที่นี่บ่อยๆ

สามปีก่อน ตอนที่กู้ชิงหยิ่งจะจากไปต่างประเทศ ก็มาลากับเขาและหวางหนันหนันที่ร้านอาหารร้านนี้

ดังนั้น ร้านอาหารนี้เป็นสถานที่มีความหมายเป็นพิเศษ

“คนบ้างาน? นึกไม่ถึงว่าคุณยังจำได้เหรอ?”

กู้ชิงหยิ่งลูบๆผมที่เปียกชื้น สายตามองไปในร้านอาหารที่เปิดไฟสว่างเจิดจ้า

“จะลืมได้ไง?”

เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น

กู้ชิงหยิ่งขมวดจมูกขึ้น: “แต่ว่าคุณขี้งกเกินไปหน่อยรึเปล่า? อย่างน้อยตอนนี้ก็มีตำแหน่งงานเป็นรองประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์แล้วนะ ฉันกลับมาตั้งไกล คุณพอฉันมาที่แบบนี้เหรอ?”

สามปีมานี้ ถึงแม้เธอจะอยู่คนละซีกโลก แต่ก็คอยติดตามข่าวคราวของเฉินตงกับหวางหนันหนันตลอดเวลา

ไม่อย่างนั้น ก็คงไม่ส่งข้อความถามเฉินตงในวีแชทในตอนที่เฉินตงกับหวางหนันหนันเพิ่งจะหย่ากัน

ในสายตาของเธอ เฉินตงสามารถใช้เวลาสามปี จากนักศึกษาที่จบเพิ่งเรียนจบมหาลัยและทำงานจนมีตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นถึงรองประธานบริษัท เก่งที่สุดแล้วจริงๆ

และสิ่งนี้ คงเป็นที่สุดแห่งชีวิตของเฉินตงแล้วล่ะ?

“แล้วคุณอยากไปร้านอาหารที่ไหนครับ? ตามใจเลย ผมเลี้ยง” เฉินตงยิ้มและพูดอย่างใจกว้าง

“ไม่เป็นไร ร้านนี้ก็ได้”

กู้ชิงหยิ่งเบะปาก แล้วลงจากรถก่อน

เธอรู้ดี ถึงแม้เงินเดือนของรองประธานบริษัทไม่น้อย แต่เงินทั้งหมดส่วนมากก็ให้หวางหนันหนันและค่ารักษาอาการป่วยของแม่

เธอไม่อยากทำให้เขาลำบากใจ

ลงจากรถ เสื้อผ้าเปียกกันทั้งสองคน แต่ก็ไม่สนใจอะไร

ตอนที่เขาสองคนเดินเข้าไปในร้านอาหาร ทำให้ดึงดูดสายตาผู้คนหันมามองกันไม่น้อย

เพราะมาทานข้าวร้านอาหารฝรั่งด้วยความซมซานขนาดนี้ ดูไม่งามจริงๆ

หลังจากที่นั่งลงและสั่งอาหารเสร็จแล้ว อาหารก็มาเสิร์ฟบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว

เฉินตงและกู้ชิงหยิ่งกินไปคุยไป มีความสุขมาก

แต่ทั้งสองคนไม่ได้พูดถึงหวางหนันหนันเลยสักนิด

กู้ชิงหยิ่งไม่อยากพูดถึงหวางหนันหนันให้เฉินตงรู้สึกเสียใจในเวลานี้

ส่วนเฉินตง ก็เพราะไม่อยากกระทบอารมณ์ของกู้ชิงหยิ่งในตอนนี้

“จริงสิ หลังจากที่กลับมาแล้ว ฉันอยากหางานทำ”

กู้ชิงหยิ่งยิ้มๆและกระพริบตา: “ท่านรองประธาน จ้างฉันไปทำงานที่บริษัทคุณไหม?”

เฉินตงตกใจและยิ้มอย่างขมขื่น: “พระเจ้าเอ๋ย คุณเป็นหวัดจริงๆแล้วหรือนี่?”

“คุณนั่นแหล่ะ ไข้ขึ้นจนสมองเสียไปแล้ว” กู้ชิงหยิ่งเหล่ตาและบ่นกลับไปหนึ่งคำ นี่เป็นคำพูดที่เขาทั้งสองล้อเล่นกันบ่อยๆตอนเรียนมหาลัย

เฉินตงแกล้งทำเป็นโล่งใจ: “งั้นก็ดี แต่ว่าอย่างน้อยคุณก็เป็นคุณหนูไฮโซ เพิ่งจะกลับมา ทำไมคิดอยากจะทำงานแล้ว?”

เขาก็พอรู้บ้างเกี่ยวกับสถานการณ์ในครอบครัวของกู้ชิงหยิ่ง

นี่คือคุณหนูไฮโซที่มาตรฐานที่สุด ให้คุณหนูไฮโซมาทำงานที่บริษัทไท่ติ่งเหรอ?

นี่มันล้อเล่นกันหรือเปล่า?

“ไม่ไปทำงานจะช่วยคุณได้ไงล่ะ?”

กู้ชิงหยิ่งพูดอยู่ในใจ แต่มองดูเฉินตงแล้ว เธอก็ยิ้มและพูดอย่างอัดอั้นใจ: “ไม่ทำงาน พ่อฉันจะให้ฉันไม่สืบสานธุรกิจของเขาแล้ว”

เฉินตงพูดอะไรไม่ออกอยู่สักพัก

จากนั้นกู้ชิงหยิ่งก็พูดต่อ: “ช่างเถอะ ท่านรองประธานเฉินไม่จ้างฉัน งั้นฉันก็ไปทำงานที่บริษัทพ่อก็ได้”

เฉินตงพยักหน้า ไม่ซักถามอะไรอีก

เขาไม่อยากซักถามเรื่องส่วนตัวของเพื่อนมากเกินไป

ทานข้าวกันเสร็จแล้ว ทั้งสองคนกลับไปที่รถด้วยความดีใจ

“ไปที่บ้านคุณได้ไหม?” กู้ชิงหยิ่งชีกระโปรงที่เปียกชื้นบนตัวเธอ: “ฉันอยากไปอาบน้ำที่บ้านคุณสักหน่อย แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย”

เฉินตงกระตุกคิ้ว ห้องเช่าสภาพแบบนั้น ให้กู้ชิงหยิ่งไป รู้สึกลำบากใจยิ่งนัก

ยิ่งกว่านั้นคือ ในบ้านมีคุนหลุนอยู่ด้วย

เฉินตงส่ายหัว: “บ้านผมยังเช่าอยู่อยู่เลย ที่บ้านรกมาก ผมส่งคุณไปโรงแรมดีกว่า”

เช่าบ้าน?

หน้าตายิ้มแย้มของกู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนไปกะทันหัน เห็นสายตาของเฉินตงแล้ว รู้สึกเอ็นดูสงสารขึ้นมาทันที

สามปีที่ฉันไม่อยู่ เขาลำบากมามากเกิน

เธอยิ้มๆและพยักหน้า: “งั้นก็ได้”

“งั้นไปโรงแรมไท่ซานละกัน” เฉินตงบอก

“ได้เลย”

กู้ชิงหยิ่งไม่ปฏิเสธ และไม่ได้บอกว่าจะจ่ายค่าใช้จ่ายเอง

เธอรู้สถานการณ์ของเฉินตงดี เงินที่ได้มาให้หวางหนันหนันและแม่รักษาอาการป่วย ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องเช่าบ้านอยู่จนถึงตอนนี้

แต่ เธอไม่อยากทำร้ายศักดิ์ศรีของเฉินตงเพราะความสงสารของตนเอง ทำให้เฉินตงรู้สึกว่าเธอกังวลว่าเขาจะจ่ายไม่ไหว

ศักดิ์ศรีของผู้ชาย ไม่ยอมให้ใครมาเหยียบหยามได้

สตาร์ทรถ

ในรถมืดๆเล็กน้อย

กู้ชิงหยิ่งถามขึ้นมากะทันหัน: “จริงสิ ช่วงนี้คุณป้าเป็นยังไงบ้าง?”

“ก็ดี” เฉินตงตอบ

กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้ว: “ที่จริง เรื่องของคุณ ฉันรู้หมดแล้ว ฉันช่วยคุณได้นะ ไม่ ฉันหมายถึงช่วยคุณป้า”

“ผมหาทางออกด้วยวิธีอื่นได้แล้ว แม่ผมกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกาย ใกล้จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว” เฉินตงตอบ

“จริงเหรอ? ดีจังเลย!”

กู้ชิงหยิ่งดีใจจนยิ้มขึ้นมา: “เฉินตง คุณเก่งมากเลย คุณรู้ไหม ตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัย ฉันก็รู้สึกนับถือคุณมาก คุณเป็นไอดอลของฉันเลยนะ”

“อย่ามาประจบสอพลอเลย ตอนเรียนมหาลัยคือคิดอยากจะมาลอกการบ้าน แต่ตอนนี้ลอกการบ้านไม่ได้แล้วนะ” เฉินตงเหล่ตาจ้องหน้าเธอ

กู้ชิงหยิ่งหัวเราะ เปลี่ยนคำพูด: “งั้นพรุ่งนี้ฉันไปเยี่ยมคุณป้าหน่อยได้ไหม?”

เฉินตงพยักหน้า: “ได้สิ พรุ่งนี้หลังจากผมเลิกงาน พาคุณไปพร้อมกัน”

ขับรถไปถึงโรงแรมไท่ซาน

เฉินตงช่วยกู้ชิงหยิ่งเอากระเป๋าเดินทางลงจากรถ เปิดห้องเรียบร้อย

ส่งกู้ชิงหยิ่งกลับขึ้นไปห้องพัก เขาก็หันหลังเดินออกไป

มองดูประตูที่กำลังปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ชิงหยิ่งหายไปทันที แต่เปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่เอ็นดูและสงสารอย่างบอกไม่ถูก

“ฉันรู้ทุกอย่าง คุณกับหวางหนันหนันหย่ากัน เพราะหวางหนันหนันเอาเงินสองแสนสุดท้ายที่ต้องเอาไว้รักษาแม่ เรื่องนี้ เป็นใครก็คงทนไม่ได้”

หลังจากที่หวางหนันหนันและเฉินตงหย่ากัน ตระกูลหวางก็รีบปล่อยข่าวลือออกไปทันที

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตระกูลหวางคิดว่าตนเองดีนักดีหนา รู้สึกว่าเฉินตงไม่คู่ควรกับตระกูลหวางและหวางหนันหนัน

แต่กู้ชิงหยิ่งกลับรู้สึกว่า คนที่เป็นฝ่ายไม่คู่ควรและบังอาจเอื้อม คือตระกูลหวางต่างหาก!

ข่าวลือของการหย่าในครั้งนี้ ถึงแม้ตระกูลหวางจะจงใจใส่ร้ายและโกหกกลับเรื่องดำให้กลายเป็นขาว แต่กู้ชิงหยิ่งเข้าใจสถานการณ์ของเฉินตงและหวางหนันหนัน ว่ามันมีหลายสาเหตุ

เงินช่วยชีวิตของแม่เฉินตง ยังเป็นเงินที่มีเพียงแค่สองแสนก้อนสุดท้าย

กลับถูกหวางหนันหนันเอากลับไปให้บ้านตัวเองทั้งหมด จุดมุ่งหมายก็เพื่อจะจะจ่ายเงินดาวน์บ้านใหม่ให้หวางเห้า

มันน่าตลกสิ้นดีจริงๆ!

กู้ชิงหยิ่งไม่รู้ว่าในช่วงเวลานั้น เฉินตงเจอเรื่องร้ายๆมามากมายขนาดไหน

แต่เธอรู้ ข้างหนึ่งคือแม่ป่วยหนัก ส่วนอีกข้างหนึ่งคือภรรยาของเขากลับทำลายความหวังสุดท้าย การเปลี่ยนแปลงที่มากถึงเพียงนี้ เป็นใครก็ไม่สามารถรับได้

ส่วนเฉินตง ก็อดทนผ่านมันมาได้แล้ว!

“คุณเหนื่อยเกินไป ฉันไม่อยากให้คุณเหนื่อยขนาดนั้น ดังนั้นฉันก็เลยกลับมาไง”

กู้ชิงหยิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยน แววตาตั้งมั่นอย่างแน่วแน่: “ฉันจะต้องช่วยคุณแน่นอน ฉันรู้ ความสามารถของคุณไม่ใช่เป็นได้แค่รองประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น”

พูดจบ เธอหยิบมือถือออกมาโทร

“คุณพ่อคะหนูถึงแล้ว เพิ่งจะทานข้าวเสร็จแล้วมาที่โรงแรม”

หยุดไม่สองสามวิ กู้ชิงหยิ่งยิ้มและพูด: “คุณพ่อคะ ลูกอยากไปทำงานที่บริษัทวัสดุก่อสร้างของพ่อ ไหนๆแล้ว บริษัทนั้นท่านก็แค่เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกความพยายามในอดีต ให้ลูกไปฝึกฝนเรียนรู้งาน ก็คงไม่เป็นไรมั้งคะคุณพ่อ?”

“เด็กโง่ ไปบริษัทที่เล็กๆขนาดนั้น เสียดายความรู้ความสามารถ อยากทำงานก็กลับมาติดตามอยู่ข้างๆพ่อก็พอแล้ว?” เสียงโทรศัพท์ฝั่งโน้น เต็มไปด้วยความรักและเอ็นดูของพ่อ

“ไม่เอา อยู่กับพ่อแล้ว งั้นก็กลายเป็นหนูต้องสืบสานธุรกิจของพ่อน่ะสิคะ? หนูยังอยากสู้นี่คะ” กู้ชิ่งหยิ่งยกขาที่ขาวๆขึ้นมานั่งไขว่ห้าง ขยับไปมาและอ้อน: “ได้ไหมคะคุณพ่อคะ?”

“ก็ไปสิ พ่อโทรหาประธานบริษัทคนเก่าหน่อย ลูกไปก็ทำแทนหน้าที่เขาได้เลย”

“คริคริ……ขอบคุณค่ะพ่อ คุณพ่อดีที่สุดเลย”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset