Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 434 เสียงวิจารณ์

แสนล้าน?!

พนักงานต้อนรับสาวชะงัก จากนั้นจึงหันกลับมาใช้สายตามองสำรวจเฉินตง

รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้านิ่งเฉย

“ขอโทษนะคะคุณผู้ชาย วันนี้คืองานวันฉลองวันเกิดของตระกูลเจิ้ง”

พนักงานต้อนรับสาวเอ่ยด้วยท่าทางสงบ “คุณชายกรุณาอย่าล้อเล่นนะคะ”

เฉินตงไร้คำพูด

ค่าตัวแสนล้าน คงจะเป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาเองล่ะมั้ง

ท่านหลงกับคุนหลุนที่ตามหลังมาก็มีท่าทีกระอักกระอ่วน

“ค่าตัวแสนล้าน เยอะมากเลยหรือ”

เฉินตงหยักไหล่ ที่เขามาที่งานฉลองวันนี้ เป้าหมายก็เพื่อตามหาพ่อ

ยิ่งเข้าใกล้ประธานเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ยินข่าวที่มีประโยชน์มากขึ้น

“เยอะมาก…หรือ”

ริมฝีปากของพนักงานต้อนรับสาวเริ่มกระตุก สายตาที่มองเฉินตงเริ่มเปลี่ยนเป็นการดูถูก จากนั้นจึงกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณพูดแบบนี้คิดอยากจะก่อกวนหรือคะ”

เธอไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาท

แต่ในเมืองที่ประชากรไม่ถึงหนึ่งล้านคนแห่งนี้ ไม่น่าจะมีคนที่ค่าตัวแสนล้านอยู่

ต่อให้เป็นคนต่างถิ่น ก็ควรรู้จักถ่อมตัว เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามบ้างไม่ใช่หรือ

ในสายตาของเธอ คำพูดของเฉินตงไม่ถือว่าเป็นการหลิ่วตาตามเอาเสียเลย

ยิ่งไปกว่านั้น เศรษฐีที่มีค่าตัวแสนล้านจะมาร่วมงานเลี้ยงของตระกูลเจิ้งที่เมืองเล็กๆ แห่งนี้หรือ

ตอนนี้คนต่างเมืองที่ไม่ทราบค่าตัวแน่ชัด แจ้งค่าตัวตามใจเพราะอยากจะไปนั่งโต๊ะด้านหน้า

นี่คงจะเป็นแค่คนที่คุยโวโอ้อวด ตั้งใจจะมาก่อกวนล่ะมั้ง

“ก่อกวน?”

เฉินตงเลิกคิ้ว จากจึงหัวเราะออกมา

ทำตัวอย่างกับหมาเห่าเครื่องบินอย่างไรอย่างนั้น!

ในตอนนั้นเอง

“คุณชายจุนหลินมาถึงแล้ว!”

เสียงตะโกนประกาศก้อง

ตอนนั้นภายในลานเกิดเสียงอื้ออึงดังขึ้น

คนส่วนมากต่างมองไปทางประตูใหญ่ของสนามด้านใน

พวกเฉินตงเองก็เช่นเดียวกัน

เจิ้งจุนหลินสวมชุดสูทรองเท้าหนังเดินเข้ามาช้าๆ ด้วยท่าทางสบายๆ และยิ้มแย้ม

ระหว่างที่ก้าวไปข้างหน้า ก็ยกมือขึ้นขึ้นคารวะทักทายคนที่อยู่บริเวณรอบๆ ท่าทางของคุณชายใหญ่ตระกูลเจิ้งมีท่วงท่าที่สง่างามอย่างยิ่ง

“รบกวนคุณชายเฉินอย่ามัวช้าอยู่นะคะ วันนี้แขกของตระกูลเจิ้งค่อนข้างเยอะเลย ฉันไม่สามารถอ้อยอิ่งอยู่กับคุณได้”

พนักงานต้อนรับสาวเอ่ยกระตุ้นอย่างเหลืออด

สำหรับที่นี่ ตระกูลเจิ้งย่อมต้องมีความมั่นใจเช่นนี้!

ดังนั้นเธอจึงกล้าแสดงอารมณ์เช่นนี้

“รอเดี๋ยว”

เฉินตงพยักหน้าอย่างสงบ แล้วหันไปกล่าวกับคุนหลุนว่า “ไปเชิญคุณชายเจิ้งมาที่นี่”

คุนหลุนมุ่งหน้าเข้าไปหาเจิ้งจุนหลินทันที

“เชิญคุณชายเจิ้ง?”

พนักงานต้อนรับสาวตกใจ จากนั้นจึงส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา

คนต่างเมืองสามคนนี้ ตอแยเก่งจริงๆ

สายตาของเธอมองไปที่คุนหลุนอย่างดูแคลน

ทุกคนในเมืองนี้ต่างรู้ดีว่าเจิ้งจุนหลินเป็นคนเย่อหยิ่งถือตัว ที่ตอนนี้เขายิ้มแย้มทักทายทุกคนแบบนี้ก็เป็นเพราะเขารู้ว่าคนที่นั่งอยู่เหล่านี้คือคนใหญ่โตของเมืองนี้

แต่คนทั่วไปคิดจะเข้าไปทักทายน่ะหรือ

หากไม่โดนต่อยหน้าบวม ก็ถือว่ามีบุญมากทีเดียว

ทว่า

ในตอนนั้น

พนักงานต้อนรับสาวตัวสั่นสะท้าน ดวงตาของเธอหรี่เล็กลง

“เป็นไปได้ไง” เธอกล่าวออกมาด้วยความแปลกใจ

คุนหลุนยืนอยู่ด้านหน้าเจิ้งจุนหลิน

เจิ้งจุนหลินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะจึงยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร จากนั้น…จึงเดินตามคุนหลุนมาทางนี้

ช่วงเวลานั้น พนักงานต้อนรับหญิงรู้สึกชาไล่ขึ้นมาถึงที่หัว ดวงตาของเธอเริ่มพร่าเลือน

หรือว่าคนต่างเมืองสามคนนี้รู้จักคุณชายเจิ้งจริงๆ?

“มีอะไร?”

เจิ้งจุนหลินเสียงแข็ง ทำเอาพนักงานต้อนรับสาวหน้าซีด

พนักงานต้อนรับสาวรีบร้อนอธิบาย “คุณชายเจิ้งคะ คือ ฉัน…”

เจิ้งจุนหลินโบกมือ แล้วหันมามองเฉินตง “นายมาจริงๆ สินะ”

“มาหาความครื้นเครงหน่อย”

เฉินตงหยักไหล่ “แต่พนักงานต้อนรับของตระกูลนายออกจะเข้าใจยากไปหน่อย ผมแค่ถามว่าคนที่ค่าตัวแสนล้านต้องนั่งตรงไหน แต่เธอกลับบอกว่าผมมาก่อกวน”

เฉินตงหยักไหล่ ”

“แสนล้าน?”

หางตาของเจิ้งจุนหลินกระตุก จากนั้นจึงหัวเราะออกมาอย่างแปลกประหลาด “ขับแค่รถเบนซ์จีคลาส ก็บอกว่าค่าตัวแสนล้านแล้วหรอ ฉันล่ะชอบท่าทางการโม้ของนายจริงๆ”

เมื่อเอ่ยจบ เขาก็โบกมือให้พนักงานหญิงออกไป

จากนั้นจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไปกัน ในเมื่อนายมาแล้ว ก็ไปนั่งกับฉันแล้วกัน”

พนักงานต้อนรับหญิงที่แอบถอนหายใจ แล้วหมุนตัวห่างออกไป ตอนนั้นเมื่อได้ยินประโยคนี้ใบหน้าของเธอก็ขาวซีด

พระเจ้า!

นั่งโต๊ะเดียวกับคุณชายเจิ้ง หรือว่าเขาจะเป็นคนใหญ่โตที่มีค่าตัวแสนล้านจริง?

ความหวาดกลัวแผ่ขยายไปทั่วร่างของเธอ เธอก้มหน้างุดแล้วรีบจ้ำเท้าเดินหลบไป

“เมื่อคืนท่าทางของนายไม่ได้เป็นแบบนี้” เฉินตงยิ้มแล้วมองไปทางเจิ้งจุนหลินอย่างแปลกใจ

“นายไม่เข้าใจ”

เจิ้งจุนหลินส่ายหน้า “ฉันกับนายเจอกันโดยบังเอิญ หรือให้พูดตามตรงคือ นายต่อยหน้าฉัน พวกเราสองคนถือว่าเป็นศัตรูกัน ฉันเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเจิ้ง ฐานะค่อนข้างอ่อนไหว งานฉลองวันเกิดของพ่อฉันวันนี้ ตามธรรมเนียมแล้วจึงไม่ควรพานายมาด้วย”

“แล้วทำไมตอนนี้ถึงพาฉันมาด้วย”

เฉินตงขยี้จมูกแล้วมองเจิ้งจุนหลินอย่างขบขัน

เมื่อครู่นี้หากเขาพูดมากอีกแค่ประโยคเดียว เกรงว่าพนักงานต้อนรับสาวคงเรียกคนให้มาไล่เขาออกไปแล้ว

“ที่ฉันตั้งใจพานายมาด้วย กับเรื่องที่เราบังเอิญเจอกัน เป็นคนละเรื่อง อีกอย่างฉันรู้สึกว่านายมีลับลมคมใน ในเมื่อนายมาถึงแล้ว ฉันเลยอยากรู้ว่านายต้องการจะมาทำอะไรที่งานวันเกิดของพ่อฉันกันแน่”

เจิ้งจุนหลินกะพริบตา จากนั้นจึงลดเสียงต่ำลง “แต่ว่านายรู้เรื่องของฉันแล้ว พอมานั่งกับฉันแบบนี้คงจะเสียอารมณ์หน่อย ฉันให้เวลานายพิจารณา ฉันช่วยให้นายย้ายโต๊ะได้นะ”

เฉินตงกล่าวว่า “ผมไม่ชินกับการนั่งแถวหลัง”

“โอเค”

เจิ้งจุนหลินผายมือพาเฉินตงกับพวกเดินไปยังโต๊ะวีไอพีด้านหน้า แล้วนั่งลง

เหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มจนจบ เป็นเพราะเจิ้งจุนหลิน ทำให้สายตาของคนจำนวนมากหันมาสนใจเฉินตงกับพวก

เมื่อเห็นเจิ้งจุนหลินพาพวกเฉินตงไปนั่งที่โต๊ะวีไอพี คนทั้งหมดต่างพากันงุนงง

คนสามคนนี้คือใคร

กล้าดียังไงมานั่งที่โต๊ะวีไอพีของตระกูลเจิ้ง

เสียงซุบซิบค่อยๆ ดังหึ่งขึ้น

“คุณพระ โต๊ะวีไอพีของตระกูลเจิ้งทั้งสามโต๊ะ จะต้องเป็นคนใหญ่โตและผู้ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในตระกูลเท่านั้น เจิ้งจุนหลินคิดจะทำอะไรน่ะ”

“ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเป็นลูกชายแท้ๆ ของเจ้าบ้านเจิ้ง เจิ้งจุนหลินไม่มีคุณสมบัติใดๆ ที่จะได้นั่งโต๊ะวีไอพี แถมยังกล้าพาคนอื่นไปนั่งด้วยอีก?”

“ได้ยินเขาว่ากันว่าเจิ้งจุนหลินเป็นเพลย์บอย ได้มาเจอกับตัววันนี้ถือว่าเปิดหูเปิดตาว่าเขาเป็นคนที่ไม่รู้จักกฎระเบียบจริงๆ”

……

เสียงวิจารณ์ดังอื้ออึงขึ้นรอบๆ ตัว

เฉินตงขมวดคิ้วเบาๆ “ไม่โกรธหรอ”

ในแววตาของเจิ้งจุนหลินปรากฏความโมโหแล่นผ่านแวบหนึ่ง จากนั้นจึงยักไหล่แล้วยิ้ม “ฉันจะโกรธอะไร ชินตั้งนานแล้ว พวกเขาก็แค่กล้าพูดเท่านั้นแหละ มีที่แย่กว่านั้นรออยู่ นายต้องเตรียมใจให้ดี ตอนนี้จะย้ายไปนั่งโต๊ะอื่นก็ยังทัน”

“ผมไม่ชินกับการนั่งแถวหลังจริงๆ” เฉินตงเอนกายพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน

ท่านหลงกับคุนหลุนที่นั่งอยู่อีกด้านก็กำลังอมยิ้มอยู่ เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาไม่เก็บคำพูดของเจิ้งจุนหลินมาใส่ใจ

งานฉลองวันเกิดตระกูลเจิ้ง ยิ่งใหญ่สมเกียรติ

แขกวีไอพีมากันแน่นขนัด แขกเหรื่อมากมายนับไม่ถ้วน

ตลอดระยะเวลาที่เฉินตงและคนอื่นๆ นั่งมาตลอดครึ่งชั่วโมงนี้ ยังคงมีแขกถูกเชิญเข้ามาด้านในลานด้านในอย่างไม่ขาดสาย

ขนาดโถงด้านในยังเป็นเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่ต้องคิดถึงลานด้านนอก

ในโถงด้านในตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ล้วนมีเสียงวิจารณ์เจิ้งจุนหลินกับพวกของเฉินตงดังขึ้นมาให้ได้ยินไม่ขาดตอน

เมื่อคนเริ่มเข้ามาเยอะมากขึ้น เสียงวิจารณ์เหล่านั้นก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

สีหน้าของเฉินตง ท่านหลงและคุนหลุนไม่แปรเปลี่ยน สถานการณ์เช่นนี้ไม่สามารถทำให้พวกเขารู้สึกร้อนใจได้

ส่วนเจิ้งจุนหลินนั้นก็ไม่ยี่หระเช่นกัน เขาเอาแต่วางท่าอย่างเพลย์บอยแล้วเล่นถ้วยน้ำชาที่วางอยู่ตรงหน้า

ทันใดนั้น

โถงด้านในพลันเงียบลงกะทันหัน

แขกในโถงด้านในจำนวนมากต่างพากันลุกขึ้นยืน

“คุณชายจุนเซี่ยนมาถึงแล้ว!”

จากนั้นจึงมีเสียงตะโกนร้องดังขึ้น

จู่ๆ เจิ้งจุนหลินก็กำถ้วยน้ำชาเอาไว้แน่น แล้วมองไปที่เฉินตงด้วยสายตาที่แปลกประหลาดไป ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา “ตอนนี้ถ้านายอยากจะย้ายไปด้านหลังก็คงไม่ทันแล้ว”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset