Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 438 เชิญคุณเฉินนั่งโต๊ะวีไอพี

แต่ไม่มีใครสังเกตทันเห็นว่าเจ้าบ้านเจิ้งรับโทรศัพท์

เพราะความสนใจของทุกคนพุ่งตรงไปที่เฉินตงกับเจิ้งจุนเซี่ยน

เวลานี้ทุกคนต่างเห็นว่าใบหน้าของเจิ้งจุนเซี่ยนเต็มไปด้วยความเคียดแค้น

บรรยากาศในงานอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของเชื้อเพลิงที่กำลังจะปะทุ

เฉินตงหันไปสบตาเจิ้งจุนเซี่ยนแล้วค่อยๆ หรี่ตาลง

ส่วนท่านหลงกับคุนหลุนที่อยู่ข้างกายเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

คุณชายของตนถูกเครือญาติของคุณชายของที่อยู่เมืองห่างไกลความเจริญหยามเกียรติ

“เจิ้งจุนเซี่ยน แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถ้าวันนี้แกยุ่งกับเพื่อนฉัน ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่!”

เจิ้งจุนหลินเกรี้ยวกราดขึ้นแล้วยกมือขึ้นไปดึงมือของเจิ้งจุนเซี่ยนที่วางอยู่บนไหล่

เพี๊ยะ!

เจิ้งจุนเซี่ยนเอามือของตนปัดมือของเจิ้งจุนหลินออก

อย่างรุนแรง

เจิ้งจุนหลินขมวดคิ้วแน่น มือของเขาบวมแดงขึ้นมาในทันที

ส่วนลูกพี่ลูกน้องคนอื่นๆที่ล้อมเจิ้งจุนเซี่ยนอยู่ก็ก้าวออกไปข้างหน้า ไปยืนขนาบข้างเจิ้งจุนหลินแล้วผลักเจิ้งจุนหลินไปข้างหลังสองก้าวอย่างเสียมารยาทโดยไม่สนใจรอบข้าง

ในความคิดของพวกเขา ขอแค่มีกฎของตระกูลเจิ้งอยู่

คุณชายใหญ่อย่างเจิ้งจุนหลินก็ไม่มีค่าอะไรให้พวกเขาต้องกลัว

เพราะแม้แต่เจ้าบ้านเองก็ไม่สนใจลูกชายที่ไร้ประโยชน์คนนี้

เจิ้งจุนหลินพยายามโต้ตอบ แต่สู้แรงของคนสามคนไม่ได้

“พวกแกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน”

เจิ้งจุนเซี่ยนหันมามองเจิ้งจุนหลินอย่างดูแคลนแล้วหัวเราะอย่างไร้ความรู้สึก “จุนหลิน อย่าคิดว่าเพื่อนของแกสำคัญนักเลย คนสามคนนี้คงจะรู้จักแกได้ไม่นานล่ะมั้ง พวกเพื่อนเสเพลแบบนี้แกยังอุตส่าห์เอาพวกเขามานั่งที่โต๊ะวีไอพี คุณชายใหญ่ตระกูลเจิ้งอย่างแกไม่รู้จักมารยาทธรรมเนียมบ้างเลยหรือไง!”

คงไม่มีใครคาดคิดว่าลูกพี่ลูกน้องจะกล้าต่อว่าลูกชายแท้ๆ ของเจ้าบ้านต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้

ภายในโถงด้านใน บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเฮฮา หยุดลงในทันที

ทุกสายตาต่างมาหยุดรวมกันอยู่ที่โต๊ะที่อยู่ใกล้ประตูบานนี้

มีทั้งประหลาดใจ เห็นเป็นเรื่องสนุกและเฝ้ามองอย่างเรียบเฉยไม่รู้สึกรู้สาอะไร…

“ธรรมเนียม?”

มีเสียงหนึ่งกล่าวล้อเลียนขึ้น

เจิ้งจุนเซี่ยนขมวดคิ้วแน่นจนปรากฏรอยย่น เขาหันหน้าขวับมาจ้องเฉินตงอย่างมาดร้าย

เฉินตงหรี่ตา นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความหนาวสะท้าน

สายตาที่ใช้มองเจิ้งจุนเซี่ยนราวกับมองตัวตลก

“คุณเอาความกล้าหาญมาจากไหนถึงนับว่าฉันกับจุนหลินเป็นพวกเสเพลย์ คุณไม่มีคุณสมบัติในการเป็นคนใช้คอยยกเท้าให้ฉันด้วยซ้ำ การที่ฉันมาร่วมงานตระกูลเจิ้งได้ถือว่าเป็นเกียรติของตระกูลเจิ้งมากแล้ว!”

เปรี้ยง!

คำพูดนี้ราวกับเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น

เจิ้งจุนหลินขนหัวลุกแล้วมองไปที่เฉินตงอย่างหวาดๆ

“นายพูดแบบนี้เป็นบ้าไปแล้วหรือไง”

การที่เฉินตงพูดแบบนี้ในสถานการณ์ตอนนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เจิ้งจุนเซี่ยนลงไม้ลงมือได้เลย!

และก็เป็นอย่างที่คาดไว้!

เจิ้งจุนเซี่ยนฟิวส์ขาด “มาจับหมาสามตัวนี้โยนออกไปเดี๋ยวนี้!”

ทันใดนั้น การ์ดของตระกูลเจิ้งก็รุมทึ้งเข้ามาราวฝูงผึ้ง

ในเมืองนี้ ตระกูลเจิ้งเป็นตระกูลมั่งคั่งที่ไม่มีอะไรต้องกลัว

สูงส่งอยู่เหนือคนอื่น มองข้ามหัวประชาชน

งานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่สะเทือนไปทั้งเมือง

คนนอกที่มาร่วมงานกลับพูดจาสามหาวเช่นนี้ จะให้ตระกูลเจิ้งเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

และแทบจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

ท่านหลงกับคุนหลุนเขยิบตัวไปด้านข้างเพื่อปกป้องเฉินตงเอาไว้ซ้ายขวา เผชิญหน้ากับการ์ดที่มีท่าทางดุดันเหล่านั้น

“แกอยากรนหาที่ตายเอง!”

เจิ้งจุนเซี่ยนแผดเสียง แล้วง้างมือเล็งไปที่เฉินตง

“หยุดเดี๋ยวนี้เจิ้งจุนเซี่ยน!”

เจิ้งจุนหลินรู้สึกเดือดดาลที่ได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้

หมัดนี้ของเจิ้งจุนเซี่ยนไม่เพียงต้องการจะทำร้ายร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเหยียบหน้าของเจิ้งจุนหลินให้จมดิน

เพราะเขาได้ประกาศให้ทุกคนได้ยินไปทั่วแล้วว่าเฉินตงคือเพื่อนของเขา!

เมื่อสถานการณ์รุนแรง

เฉินตงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ที่เดิม ใบหน้าของเขาเย็นชา สายตาของเขาปรากฏความอาฆาตแผ่ไปทั่ว

แต่มือทั้งสองข้างเขากลับกำหมัดเอาไว้แน่น

เขาไม่ใส่ใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการลงมือของเจิ้งจุนเซี่ยน

และในตอนที่เฉินตงกำลังจะโต้ตอบกลับไป

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

เสียงคำรามลั่นราวฟ้าพิโรธ

เจิ้งจุนเซี่ยนที่วางท่าหยิ่งผยองสั่นสะท้าน มือของเขาลอยค้างอยู่กลางอากาศ

เขาอาจจะไม่ใส่คำสั่งของเจิ้งจุนหลินได้ แต่เสียงตะโกนสั่งครั้งนี้ เขาจำเป็นต้องเชื่อฟัง

เพราะเสียงคำรามนี้เป็นเสียงของ…เจ้าบ้านเจิ้ง!

“เจ้าบ้าน!”

เจิ้งจุนเซี่ยนมองไปที่เจ้าบ้านเจิ้งอย่างหวาดหวั่น

ในตอนนั้น เฉินตงคลายมือออก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่า “นายควรขอบคุณเจ้าบ้านของนายนะ ที่มาช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน”

“แก……”

เจิ้งจุนเซี่ยนถลึงตาแต่ไม่กล้าไม่เชื่อฟังเจ้าบ้านเจิ้ง

ตอนนี้เจ้าบ้านเจิ้งวางมือถือลงแล้ว ความเมามายที่ปรากฏบนใบหน้าเริ่มเลือนหายไปหลังจากรับโทรศัพท์เพียงครู่เดียว สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน

ทุกสายกลับจดจ้องไปที่เจ้าบ้านเจิ้งด้วยความสงสัย

รวมทั้งเฉินตงและเจิ้งจุนหลิน

ภายใต้การจับตามองของแขกในงาน

เจ้าบ้านเจิ้งก็เดินอย่างราชสีห์เข้าหยุดตรงหน้าเจิ้งจุนเซี่ยน

เพี๊ยะ!

ฝ่ามือที่ทำเอาทุกคนต่างไร้คำพูดฟาดไปที่ใบหน้าของเจิ้งจุนเซี่ยนอย่างแรง

เสียงดังก้องราวสายฟ้าฟาด

เจิ้งจุนเซี่ยนโซเซจนหน้าแทบคว่ำลงบนโต๊ะ ตอนนี้เขาทำตัวไม่ถูก

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างทำตัวไม่ถูกเช่นกัน

ทุกคนต่างไม่มีใครคาดคิดว่าเจ้าบ้านเจิ้งที่เดิมทียืนอยู่อีกฝั่ง จู่ๆ กลับลงมือตบหน้าเจิ้งจุนเซี่ยน

นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

คนที่รู้สึกหวาดหวั่นมากกว่าเจิ้งจุนเซี่ยนก็คือ พี่น้องอีกสามคนที่เหลือ พวกเขาต่างเข้าใจว่าเจิ้งจุนเซี่ยนก็คือเจ้าบ้านคนต่อไป

ถ้าพูดตามสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เวลาเช่นนี้เจ้าบ้านเจิ้งควรจะปกป้องศักดิ์ของเจิ้งจุนเซี่ยน วันหน้าหากเจิ้งจุนเซี่ยนรับตำแหน่งเจ้าบ้านแล้วจะได้รักษาอำนาจของตระกูลเจิ้งเอาไว้ได้

การโดนตบหน้าต่อหน้าฝูงชนเช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้น!

“เจ้าบ้านตบหน้าผมทำไมครับ”

เจิ้งจุนเซี่ยนไม่กล้าสบตาเจ้าบ้านเจิ้งโดยตรง

ทว่าตอนนี้ เจ้าบ้านเจิ้งกลับเมินเฉยใส่เขา

เขามองไปที่เจิ้งจุนหลินด้วยสายตาเป็นประกายที่ไม่หลงเหลือความโกรธอยู่อีก ดวงตาของเขาค่อยๆ ปรากฏไอน้ำบางๆ คลออยู่ในเบ้าตา

เขากล่าวออกมาด้วยริมฝีปากสั่นระริก “ลูกกิเลน……”

เปรี้ยง!

คนในเหตุการณ์ต่างมึนงง

เฉินตงเองก็ชะงักไปเช่นกัน

ลูกกิเลนเป็นคำที่ใช้ชื่นชมลูกชายที่มีความสามารถเหนือคนอื่น

แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเอาไว้ใช้ยกย่องผู้อื่น ไม่ค่อยมีใครกล้าใช้คำนี้เรียกลูกของตัวเอง

ยิ่งไปกว่านั้น ในตระกูลเจิ้ง เจิ้งจุนหลินไม่เคยต่อกรกับพวกเจิ้งจุนเซี่ยนได้เลย

สายตาของเฉินตงมองไปที่มือถือของเจ้าบ้านเจิ้งโดยอัตโนมัติ สายตาของเขาวับไหว

“พ่อ เรียกผมว่าอะไรนะ”

เจิ้งจุนหลินสับสน กี่ปีมาแล้ว?

ที่เขาไม่ได้ยินคำชมที่ออกมาจากพ่อของตัวเอง

กล่าวคำว่า ลูกกิเลนต่อหน้าผู้คนในงานเช่นนี้ นี่ถือเป็นคำชมที่สุดยอดแล้ว!

“ดี ดี ดี!”

ดวงตาของเจ้าบ้านเจิ้งคลอไปด้วยน้ำตา เขามองไปยังเจิ้งจุนหลินแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงก่อนจะยิ้มอย่างชื่นชม

จากนั้น ภายใต้การจับจ้องด้วยความแปลกใจของแขกในงาน

เขาก็หันหน้ากลับไปหาเฉินตงแล้วยิ้มอย่างอบอุ่น “เชิณคุณเฉินไปนั่งที่โต๊ะวีไอพีครับ ตระกูลเจิ้งของพวกเราดูแลไม่ดี โปรดให้อภัยพวกเราด้วย”

เปรี้ยง!

ภาพเช่นนี้ราวกับค้อนหนักๆ ที่ทุบลงไปบนดวงตาของทุกๆ คน

มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

เจิ้งจุนหลินตกตะลึง

เจิ้งจุนเซี่ยนและพวกเองก็งงงวยเช่นกัน มีเพียงเสียงอู้อี้อยู่ในหัวของพวกเขา

ทว่าเฉินตงกลับยิ้มออกมาอย่างเข้าใจ

เขาเงยหน้ามองไปยังด้านในของคฤหาสน์

เมื่อท่านหลงกับคุณหลุนเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ในใจของสั่นสะท้าน

“เชิญคุณเฉินนั่งด้านนี้ครับ!”

เจ้าบ้านเจิ้งกล่าวด้วยเสียงอันดังอีกครั้ง คราวนี้เขาก้มหัวลงเล็กน้อยด้วย

หัวใจของเจิ้งจุนเซี่ยนเต้นแรง เขามองไปทางเจ้าบ้านเจิ้งที่เอ่ยอย่างนอบน้อมและค้อมเอวลง ภาพนี้คล้ายเป็นมือหยาบๆ ที่กำลังบีบคอของเขาอยู่ ทำให้เขาหายใจติดขัด

เฉินตงหันกลับมามองเจ้าบ้านเจิ้ง

เขาขยี้จมูกก่อนจะยิ้มอย่างแปลกประหลาด

“ขอโทษด้วยที่เฉินตงไม่สำนึกบุญคุณ เมื่อครู่นี้เจิ้งจุนเซี่ยนผู้นี้บอกเอาไว้ว่า ไม่อนุญาตให้หมาแมวอย่างเราไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset