Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 442 ร่องรอยถูกเปิดเผย

รุ่งเช้าวันต่อมา

เฉินตงที่ไม่ได้นอนทั้งคืน รีบพาคุนหลุนมุ่งหน้าไปยังโบราณสถานเฟิงโปนอกเมืองแต่เช้า

ที่นี่นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งของเมืองนี้

สำหรับคนในพื้นที่นี้ สถานที่อย่างโบราณสถานก็เป็นเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น

พายุทรายได้ซัดสาดสถานที่แห่งนี้จนไม่เหลือร่องรอยของความเป็นโบราณสถานอีกต่อไป

รถเบนซ์จีคลาสได้ควบทะยานฝ่าลมทะเลทรายพุ่งไปข้างหน้า

ทะเลทรายแห้งแล้งรอบด้าน ยิ่งกินบริเวณมากขึ้นเรื่อยๆ ทิวทัศน์ที่เห็นมีเพียงสีน้ำตาลเวิ้งว้าง

ไม่มีร่องรอยของผู้คน

เฉินตงนั่งอยู่เบาะข้างๆ คนขับด้วยอารมณ์สับสน

เมื่อใกล้จะได้พบพ่อ เขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น

เบอร์มือถือที่ส่งข้อความมาเมื่อคืนนี้ถูกยกเลิกไปแล้ว ยิ่งทำให้เขารู้สึกหวั่นใจ

สรุปแล้ว…พ่อกำลังกลัวอะไรอยู่กันแน่

ตอนนี้ก็อุตส่าห์ตามมาจนถึงที่นี่แล้ว ทำไมถึงต้องระแวดระวังถึงขั้นยกเลิกเบอร์หลังส่งข้อความด้วย

“คุณชาย โบราณสถานเฟิงโป อยู่ด้านหน้าแล้วครับ”

คุนหลุนกล่าวเตือน

เฉินตงดึงตนเองให้ออกมาจะอารมณ์ที่ว้าวุ่นแล้วมองไปข้างหน้า

ภาพเบื้องหน้าเป็นซากกำแพงหักพังหลายแห่งที่ตั้งอยู่บนทะเลทรายสีน้ำตาลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

และซากกำแพงหักพักพวกนั้นก็คือโบราณสถานที่คนที่นี่ใช้เรียกขานกัน

“ดูทรุดโทรมมากเลย”

เฉินตงขยี้จมูก “พ่อเลือกสถานที่นัดพบเป็นที่นี่ คงจะเป็นเพราะสามารถหลบซ่อนร่องรอยได้ดี”

จากการประมาณการของเขา ที่นี่น่าจะห่างจากตัวเมืองห้าสิบกว่ากิโลเมตร

ระยะทางที่ห่างไกล บวกกับทรายที่ห้อมล้อมอยู่รอบด้าน

คงเป็นเรื่องยากมากที่จะมีใครสังเกตเห็น

เขาก้มหน้าลงมองโทรศัพท์ที่ไร้สัญญาณมาได้มาสักพักใหญ่

จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้มือถือในการติดต่อ

“ถ้าท่านหลงกลับมาถึงโรงแรมจะกังวลเรื่องพวกเราไหมครับ” คุนหลุนสังเกตเห็นเฉินตงมองโทรศัพท์จึงเอ่ยถามออกมา

เฉินตงยิ้ม “ไม่หรอก ก่อนที่ผมจะออกมาได้ส่งข้อความไปบอกเขาแล้ว อีกอย่างพี่คิดว่าเขาจะกลับมาแต่เช้างั้นหรอ”

คุนหลุนแค่นยิ้ม ก่อนจะเร่งความเร็วรถเพิ่มขึ้น

หลังจากผ่านซากกำแพงหักพังมาได้สักพัก รถก็หยุดลงดังเอี๊ยด

เฉินตงลงจากรถแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังด้านในโบราณสถาน

พายุทรายรอบตัวพัดแรง แม้ว่าจะคลุมผ้าพันคอมาแล้ว แต่หากไม่ระวังทรายก็อาจจะปลิวเข้าไปในปากได้อยู่ดี

ระหว่างทางสามารถเห็นซากกำแพงหักพังมาตลอดทาง บางอันก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ ส่วนบางอันก็ฝังอยู่ใต้ดินเหลือเพียงร่องรอยให้เห็นเท่านั้น

รอบตัวเต็มไปด้วยความเวิ้งว้างว่างเปล่า

มีเพียงเสียงลมพัดอื้ออึงรอบกาย ไร้เสียงของสิ่งอื่นใด

เงียบสงัดราวป่าช้า

ทรายที่ถูกเหยียบย่ำส่งเสียงซ่าๆ ทุกย่างก้าวที่ย่ำลงไป เท้าอาจถูกทรายดูดกลืนลงไปได้ทุกเมื่อ

เดินมาได้ประมาณหนึ่งร้อยกว่าเมตร เฉินตงก็เห็นว่าระหว่างซากกำแพงปรักหักพังมีแท่นกลมอยู่แท่นหนึ่ง

แท่นทรงกลมนี้ถูกทรายดูดกลืนไปค่อนข้างลึก ด้านบนเต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์

“ไปรอกันอยู่ตรงนั้นเถอะ” เฉินตงชี้ไปยังแท่น

เมื่อนั่งลงไปบนแท่นทรงกลมแล้ว ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการรอคอยที่แสนยาวนานของคนทั้งสอง

โทรศัพท์ไร้สัญญาณ แค่จะติดต่อใครสักคนยังทำไม่ได้ นอกจากนั่งรอพ่อแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นให้ทำ

เวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างเชื่องช้า

เฉินตงกับคุนหลุนรอจนหมดเรื่องคุยกัน

และในที่สุดก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังมาจากไกลๆ

แต่ก็พอที่จะเห็นทรายที่ฟุ้งกระจาย

“มาแล้ว!”

ดวงตาของคุนหลุนเป็นประกาย เขารีบลุกขึ้นยืน

ในใจของเฉินตงหดเกร็งอย่างแรง จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วมองไปยังทรายแดนไกลที่ฟุ้งกระจายด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง

เวลานั้นหัวใจของเขาเต้นระส่ำอย่างไร้การควบคุม

ชั่ววินาทีที่กำลังจะได้พบพ่อ อารมณ์ของเขามีทั้งความกลัว ตื้นตันและยินดีผสมปนเปอยู่ด้วยกัน

ทว่า

โครม!

หลังจากเสียงดังสนั่น

กำแพงหักพังที่อยู่ไม่ไกลนักระเบิดลั่น กำแพงดินบดอัดกลายเป็นปลิวว่อนไปทั่วทุกทิศทุกทาง

รถจี๊บคันหนึ่งขับพุ่งตรงเข้ามายังแท่นทรงกลมนี้ราวกับสัตว์ดุร้าย

“คุณชายระวัง!”

คุนหลุนรีบเอาตัวมาบังเฉินตงเอาไว้

และในเวลาเดียวกันนั้นเอง

รถจี๊บเบรกจนท้ายปัด จอดขวางอยู่ด้านหน้าแท่นทรงกลม

ใบหน้าของเฉินเต้าหลินที่มีฝุ่นเขรอะกรังยื่นออกมาทางฝั่งที่นั่งข้างคนขับ เขาเปิดประตูออก แล้วตะโกนเสียงดัง “มีคนเจอตัวแล้ว ขึ้นรถ!”

มีคนเจอตัว?

ใครเจอ?

ตอนนั้นในหัวของเฉินตงเต็มไปด้วยคำถาม

ความรู้สึกยินดีที่ได้พบหน้าพ่ออีกครั้งพังครืนลงไปหมด

ความอันตรายที่บีบรัด ราวกับฝ่ามือใหญ่ๆ ที่บีบคอเขาเอาไว้

เฉินตงกับคุนหลุนยังไม่ทันจะเคลื่อนกาย

ห่างออกไปกลางท้องฟ้ามีเสียงคำรามกระหึ่มของใบพัดเฮลิคอปเตอร์ดังมา

เฉินตงสั่นสะท้าน เขาหรี่ตาลง

เขาพยายามจะเงยหน้าขึ้นไปมอง จึงเห็นเฮลิคอปเตอร์สามลำกำลังมุ่งตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว

การบินในระยะต่ำ ใบพัดที่หมุนอย่างรวดเร็วแหวกอากาศออกอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาทรายด้านล่างลอยตลบไปทั่วบริเวณ ทำให้การมองเห็นยิ่งพร่ามัวมากขึ้น

“เร็วเข้า!”

เฉินเต้าหลินตวาดลั่นพลางเอาเท้าเหยียบคันเร่ง

เมื่อเฉินตงกับคุนหลุนได้สติกลับมาก็รีบกระโดดเข้าไปในรถ

ยังไม่ทันได้ปิดประตู เฉินเต้าหลินก็รีบหักพวงมาลัยมุ่งหน้าไปยังทะเลทรายที่เวิ้งว้างอย่างรวดเร็ว

เมื่อมองจากกระจกหลังรถ เฉินตงจึงเห็นเฮลิคอปเตอร์ทั้งสามลำอย่างชัดเจน กำลังมุ่งหน้าตามมาทางนี้ติดๆ ระยะห่างยิ่งลดน้อยลงเรื่อยๆ

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เฉินตงเริ่มผวา ความยินดีที่ได้พบหน้าพ่อ ตอนนี้เหลือแต่ความหวาดหวั่นระแวดระวัง

ระหว่างที่เอ่ยถามเขาก็หันหน้าไปมองเฉินเต้าหลิน

เมื่อไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลานาน สีหน้าของเฉินเต้าหลินยังคงเคร่งขรึม แต่จากใบหน้าของเขาจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าลำบากตรากตรำ จนเกิดริ้วรอยมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

ส่วนเสื้อผ้าที่สวมใส่ทั้งตัวนั้นสกปรกมอมแมม

เฉินตงไม่กล้าคิดเลยว่า เฉินเต้าหลินที่อยู่ด้านหน้าตนจะสามารถซ่อนตัวควบคุมตระกูลเจิ้งได้

ทรัพย์สมบัติของตระกูลเฉิน ไม่น่าทำให้พ่อมีสภาพน่าอนาถเช่นนี้ได้?

“เมื่อวานที่ลูกปรากฏตัวในงานเลี้ยงตระกูลเจิ้ง และตอนที่พ่อส่งข้อความไปหาลูกตอนดึก พ่อถูกสะกดรอย!”

สีหน้าของเฉินเต้าหลินจริงจัง คิ้วขมวดแน่น ระหว่างที่กำลังพูดนั้นเขาก็เหยียบคันเร่งจนมิด เสียงเครื่องยนต์ของรถจี๊บคำรามลั่นราวสัตว์ดุร้าย

โดยสะกดรอยในระยะเวลาสั้นๆ แค่นั้นเองเหรอ?

หัวใจของเฉินตงกระตุกวูบอย่างแรง ความหนาวยะเยือกแผ่ไปทั่วตั้งแต่หัวจรดเท้า

ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้เวลาพ่อติดต่ออะไรแล้วมักจะปิดเบอร์ไปทันทีภายในเวลาอันรวดเร็ว

“นายท่าน คุณชาย พวกมันตามมาแล้ว!”

คุนหลุนที่นั่งอยู่เบาะหลังกล่าวเตือนเสียงเครียด

ปลายหางตาของเฉินตงกระตุก ตอนนั้นเขาเพิ่งจะเห็นผ่านกระจกหลังว่าเฮลิคอปเตอร์สามลำหายไปแล้ว แต่เสียงใบพัดของมันกลับดังสนั่นอยู่ด้านบนรถ

แม้นั่งอยู่ในรถ ปลายหางตาของเขายังเห็นเฮลิคอปเตอร์สองลำที่ลอยอยู่ซ้ายขวา ดังนั้นตรงกลางจะมีอีกลำหนึ่งที่บินอยู่บนศีรษะของเขา!

ฟิ้ว!

ตอนนั้นเอง

กลางท้องฟ้าเกิดเสียงหอนดังเสียดหู

ตู้ม!

ระเบิดลูกหนึ่งตกลงด้านข้างรถจี๊บและระเบิดตัวทันที ทำเอาทรายแตกกระจายไปทั่วท้องฟ้า

แม้ว่าจะไม่ระเบิดโดนรถจี๊บ แต่แรงระเบิดทำให้รถสั่นไหวจนเกือบจะกระเด็นลอยไปกลางอากาศ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ทำเอาเฉินตงอดไม่ได้ที่จะร้องเสียงหลง

โชคดีที่เฉินเต้าหลินจับพวงมาลัยเอาไว้แน่น จึงหักกลับไปอีกด้าน ทำให้รถจี๊บกลับอยู่ในสภาพที่สามารถทรงตัวได้

“พวกมันเป็นใครกันแน่”

เฉินตงที่กำลังเสียขวัญ ตอนนี้จ้องเขม็งไปยังเฉินเต้าหลิน

แค่ปรากฏตัวก็โดนวางระเบิด เรื่องนี้ต่อให้เฉินตงเป็นคนจิตใจเข้มแข็งแค่ไหนก็ยากที่จะรักษาความสุขุมเอาไว้ได้

นี่คือ…การไล่ล่าเพื่อเอาชีวิต!

ทว่า

เฉินเต้าหลินไม่ได้ตอบคำถาม แต่หันกลับไปพูดกับคุนหลุนว่า

“คุนหลุน! กล่องหลังรถมีอาวุธอยู่ เอามันออกมายิงไล่พวกมันไปเดี๋ยวนี้!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset