Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 446 พ่อหายตัวไป ความลับของคุณนายใหญ่ตระกูลเฉิน

สุดท้ายเฉินตงก็สามารถติดต่อท่านหลงได้สำเร็จ

เขารีบกลับไปยังสถานที่เกิดเหตุ

แต่เมื่อเขาลากสังขารร่างกายที่อ่อนล้าและเจ็บปวดกลับไปถึง ภาพที่เขาเห็นกลับทำให้หัวใจของเขากระตุก

เปลวเพลิงตรงเฮลิคอปเตอร์กำลังจะมอดลง ควันโขมงลอยสูงขึ้นฟ้าและยังมีสะเก็ดไฟที่ริบหรี่

ซากรถที่พลิกคว่ำยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม

บรรยากาศตอนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นน้ำมันและควันไฟ

ส่วนสถานที่ที่พวกเขานั่งพักกันอยู่นั้น คุนหลุนนอนอยู่บนพื้นทรายไม่ได้สติ

ส่วนพ่อนั้น……หายตัวไป!

เกิดเรื่องแล้ว!

เฉินตงสีหน้าเคร่งเครียด เขาล้มลุกคลุกคลานวิ่งเข้าไปหาคุนหลุน

เมื่อปลุกคุนหลุนให้ตื่นขึ้นมาแล้ว เขาก็รีบถาม “คุนหลุน เกิดอะไรขึ้น พ่อผมล่ะ”

คุนหลุนเอามือลูบคอที่ปวดบวมของเขา “นายท่านไปแล้วครับ”

“ไปไหน”

คุนหลุนส่ายหน้า “นายท่านหาโอกาสตอนที่ผมไม่ระวัง ทุบผมสลบไป และก็หนีไปแล้ว”

เฉินตงนั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้นทราย

สติสัมปชัญญะรางเลือน หัวสมองของเขากลายเป็นสีขาว

พ่อกำลังกลัวใครอยู่กันแน่

ใครกันแน่ที่ทำให้พ่อที่ควบคุมเงินมหาศาลของแผ่นดินต้องหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้

สิ่งเดียวที่ทำให้เขาสงบลงได้ ก็คือพ่อยังปลอดภัยอยู่ และไม่ได้เกิดการบุกโจมตีอีกเป็นครั้งที่สองตอนที่เขาไม่อยู่ที่นี่

“คุณชาย การจากไปของนายท่านครั้งนี้น่าจะนานพอสมควร คงจะไม่ติดต่อคุณชายอีก”

คุนหลุนพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง ริมฝีปากของเขากระตุก เนื่องจากพยายามบังคับตัวเองไม่ให้เล่าเหตุการณ์ที่เฉินเต้าหลินกระอักเลือดออกมา

เพราะเขากลัวว่าเฉินตงจะเครียด

สายตาของคุนหลุนมองออกไปยังทะเลทรายที่เวิ้งว้างด้วยความกังวล

สภาพร่างกายแบบนั้นของนายท่านจะออกจากทะเลทรายแห่งนี้ แล้วหลบหลีกการตามฆ่าได้หรือ

“ฉันเข้าใจ”

เฉินตงฝืนยิ้มอย่างขมขื่น

คราวนี้เป็นเพราะการมาถึงของเขา พ่อเลยต้องเปิดเผยร่องรอยของตัวเองทำให้เกิดการไล่ล่าสังหารเกิดขึ้น

เมื่อต้องการจะหายตัวไปอีกครั้ง เขาก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการหายตัวให้มากขึ้นกว่าเดิม

ด้วยวิธีตัดขาดการติดต่อจากโลกภายนอก ถึงจะเป็นวิธีซ่อนตัวได้ดีที่สุด

แต่ความสงสัยที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเฉินตงกลับยิ่งรุนแรงมากขึ้น

คำพูดของพ่อเป็นการเลี่ยงประเด็นสำคัญ

แต่สุดท้ายกลับเตือนให้เขาระวังคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและคนในตระกูลเฉิน นั่นก็ถือเป็นการบอกใบ้อะไรบางอย่าง

หรือว่า……คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินกับคนในตระกูลเฉินร่วมมือกันจัดการพ่อ?

เมื่อเกิดความคิดเช่นนี้ เฉินตงก็พยายามสงบความคิดของตัวเองลง

เขาเริ่มสงสัยแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่หลังจากที่เกิดเรื่องราวขึ้นกับพ่อ ตระกูลเฉินทั้งบ้านก็ตกอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง จึงเป็นเรื่องยากที่จะคิดเชื่อมโยงเรื่องราวของพ่อเข้ากับพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคิดดีๆ แล้ว การที่เกิดเรื่องขึ้นกับพ่ออาจจะทำให้คนในตระกูลเฉินเปลี่ยนเจ้าบ้านคนใหม่

แต่การชิงตำแหน่งท่ามกลางความวุ่นวายเช่นนี้ กับการรับตำแหน่งภายใต้สถานการณ์ปกติ มีความหมายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตระกูลเฉินเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา

ถ้าคนในตระกูลเฉินมีสมองสักหน่อย ก็คงไม่มีทางทำเรื่องที่โง่เขลาแบบนี้

“พ่อต้องการให้ผมระวังอะไรกันแน่” เฉินตงบ่นพึมพำกับตัวเองด้วยสายตาที่ห่างไกล

เขารออยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง

บนผืนทะเลทรายเวิ้งว้างปรากฏฝุ่นตลบอบอวล

รถจี๊บคันหนึ่งวิ่งตะบึงมาทางนี้ด้วยความเร็วจี๋

เอี๊ยด!

รถหยุดลง

ท่านหลงกับเจิ้งจุนหลินวิ่งลงมาอย่างแตกตื่น

เมื่อเห็นสภาพของเฉินตงกับคุนหลุนและสถานที่เกิดเหตุ คนทั้งสองก็รู้สึกศีรษะด้านชา แผ่นหลังหนาวสะท้าน

“คุณชาย นายท่านล่ะครับ”

ท่านหลงโพล่งถามออกมา

เขารู้ว่าเฉินตงออกมาพบเฉินเต้าหลิน แต่เป็นเพราะตนไปเที่ยวเสียเวลากับเจิ้งจุนหลินทั้งคืน เขาเลยไม่ได้ตามเฉินตงมาด้วย แต่เหตุการณ์เบื้องหน้าทั้งหมด ทำให้ท่านหลงรู้สึกถึงความน่าสยดสยอง

“อย่าเพิ่งถาม รีบช่วยคุนหลุนก่อน”

เฉินตงจ้องเขม็งไปที่ท่านหลง

ท่านหลงเป็นคนหัวไว จึงรีบเรียกเจิ้งจุนหลินให้พาคุนหลุนขึ้นรถ

การรอคอยที่ยาวนาน ทำให้สติของคุนหลุนเริ่มเลือนราง เนื่องจากเป็นผลที่สืบเนื่องมาจากการเสียเลือดมากเกินไป

ถ้าไม่รีบช่วย ก็คงจะไร้หนทางช่วยได้อีก

ตลอดทางที่มุ่งหน้ากลับไปในเมือง ในรถไร้เสียงพูดคุย

ท่านหลงก็ไม่กล้าถามอะไรมาก

ส่วนเจิ้งจุนหลินนั้น เมื่อได้เห็นเหตุการณ์เช่นนั้นก็ตกใจกลัวจนพูดอะไรไม่ออก

เขาเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเจิ้ง แม้ว่าจะเป็นคนเสเพล แต่เขาก็แค่เสเพลไปวันๆ

สำหรับเหตุการณ์อย่างสงครามนั้น ทำให้เขาเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นและช็อกไม่น้อย

รถกลับไปถึงเมืองอย่างรวดเร็ว หลังจากนำตัวคุนหลุนเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว อารมณ์ของเฉินตงก็เริ่มสงบลงได้บ้าง

เขานั่งอยู่บริเวณทางเดินของโรงพยาบาล

เฉินตงสีหน้าเคร่งเครียด แววตาของเขาห่างไกลราวกับกำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่าง

แม้ว่าร่างกายของเขาจะมีบาดแผลเช่นกัน แต่ด้วยความเป็นห่วงคุนหลุนจึงทำให้เขาไม่ได้ให้หมอตรวจดูอาการของตัวเองในทันที

ท่านหลงนั่งอยู่เป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ เขามองซ้ายมองขวา ด้วยอยากจะถามคำถามบางอย่างแต่ก็พยายามฝืนตัวเองเอาไว้

เจิ้งจุนหลินวิ่งมาแล้วกล่าวว่า “พี่ตง จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หมอทุกแผนกในโรงพยาบาลนี้กำลังช่วยพี่คุนหลุนอยู่”

“ขอบใจ” เฉินตงตอบ

เจิ้งจุนหลินโบกมือแล้วกล่าวอย่างลังเล “พี่ตง ผมไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ผมคิดว่าตระกูลเจิ้งของพวกเราน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”

หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่กล้าเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา

เพราะเขารู้ดีว่า คนเสเพลในตระกูลเจิ้งไม่เคยมีใครให้ความสำคัญ

แต่การปรากฏตัวของเฉินตง ทำให้พ่อเปลี่ยนความคิด แต่งตั้งเขาให้เป็นเจ้าบ้านคนต่อไป เขาจึงมั่นใจที่จะเอ่ยคำพูดประโยคนั้นออกไป

“นายช่วยอะไรไม่ได้หรอก”

เฉินตงยิ้มอย่างไร้อารมณ์ “นายช่วยหาบอดี้การ์ดมาเฝ้าคุนหลุนไว้ก็พอ สักสองวันถ้าอาการของคุนหลุนดีขึ้นบ้างแล้ว พวกเราจะไปจากที่นี่ เมื่อพวกเราไปแล้ว นายพยายามอย่าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเราให้คนนอกฟังก็พอ”

“หา?!”

เจิ้งจุนหลินตะลึง

สีหน้าของเฉินตงจริงจัง “บอกให้นายทำอะไร นายทำตามก็พอแล้ว นี่ถือเป็นการปกป้องนายและตระกูลเจิ้งด้วย”

จุนหลิน กรุ๊ปของตระกูลเจิ้ง คือไพ่ใบสุดท้ายของเขา

หากต้องการจะซ่อนไพ่ใบสุดท้าย วิธีการที่ดีที่สุดคือให้คนตระกูลเจิ้งไม่สนใจการมีตัวตนอยู่ของเขา

ยังดีที่การมาครั้งนี้ เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับตระกูลเจิ้งมากนัก

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจคนมากที่สุดก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงคืนนั้น

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังดีที่เป็นเพราะพรหมลิขิตของเขากับเจิ้งจุนหลินที่ยังทำให้สามารถใช้เจิ้งจุนหลินเป็นข้ออ้างในการปกปิดสาเหตุที่แท้จริงได้ไม่ยากนัก

“เข้าใจแล้วพี่ตง ผมจะไปจัดการให้เลย”

เจิ้งจุนหลินเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

“คุณชาย ไปรักษาแผลก่อนดีไหม” ท่านหลงกล่าวอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นทั่วตัวเฉินตงมีแต่บาดแผล

เฉินตงหัวเราะ “ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าคุนหลุนจะเป็นตายยังไง แผลแค่นี้ของผมเล็กน้อยมาก”

ระหว่างพูด เฉินตงก็เงยหน้ามองท่านหลง

แล้วถามว่า “ท่านหลงคงรับใช้พ่อของผมมานานแล้ว ผมอยากถามว่าท่านหลงรู้เรื่องราวของคนตระกูลเฉินพวกนั้นมากน้อยแค่ไหน”

“ใคร” ท่านหลงถามกลับ

“คุณนายใหญ่ตระกูลเฉิน” เฉินตงตอบ

ท่านหลงหรี่ตาลงด้วยความประหลาดใจ

แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวช้าๆ

“อันที่จริงแล้วฐานะของคุณนายใหญ่ถือเป็นเรื่องคลุมเครือในตระกูลเฉินมาตลอด คนในตระกูลต่างปิดเรื่องนี้เป็นความลับ”

ปิดเป็นความลับ?

ต้องการทำให้เป็นความลับ

เฉินตงเลิกคิ้วรอฟังต่อ

ท่านหลงมองซ้ายมองขวา ก่อนจะกระซิบกระซาบ

“อันที่จริง ถ้าพูดตามความจริงแล้ว ตอนที่คุณหญิงใหญ่ยังอยู่ ฝั่งพวกเขาไม่ค่อยได้รับความใส่ใจเท่าไหร่ กล่าวได้ว่าเป็นคนนอกตระกูลเฉินเลยด้วยซ้ำ”

“มีฐานะอย่างทุกวันนี้ได้ ก็เป็นเพราะกฎนับถือผู้อาวุโสของตระกูลเฉิน คุณนายใหญ่อยู่มานาน จนคนในรุ่นเดียวกันตายไปหมด ถึงมีฐานะอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ และเพราะสาเหตุนี้เองที่ทำให้คนในตระกูลเฉินเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”

รอยยิ้มของเฉินตงหายไป เรื่องราวน่าอายแบบนี้ คุณนายใหญ่ตระกูลเฉินคงรับไม่ได้ จึงทำให้คนในตระกูลเฉินไม่อยากพูดถึง

“แต่……”

ท่านหลงยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มแปลกประหลาด “คุณนายใหญ่เป็นแม่คนที่สามของนายท่าน ยังมีความลับอีกเรื่องหนึ่ง กระผมทราบเรื่องนี้มาจากปากของนายท่านเอง เข้าใจว่าความลับเรื่องนี้ คนตระกูลเฉินคนอื่นน่าจะยังไม่มีใครรู้”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset