Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 453 เสี่ยวหยิ่ง ฉันจะช่วยเธอแก้แค้นเอง !

หลังจากได้ยินคำพูดของเทียนอ้าย

กู้โก๋ฮั๋วและพ่อแม่ของเทียนอ้ายก็ผงะไปทันที

“เป็นเพราะต้องรีบไปขอโทษภรรยา ถึงขนาดยอมยกความดีความชอบอันใหญ่หลวงนี้ ให้กับคนอื่นเลยหรือ ?”

พ่อของเทียนอ้ายรู้สึกงุนงง และพูดออกมาโดยไม่อยากจะเชื่อ : “เขาโง่หรือเปล่า ?”

“ผู้ชายอย่างคุณจะไปรู้อะไร ?”

แม่ของเทียนอ้ายยกมือข้างขวาขึ้นจับคาง และพูดออกมาด้วยความอิจฉา : “อิจฉาภรรยาของผู้ชายคนนั้นจริงๆ ที่สามีของเธอรักเธอมากขนาดนี้”

เทียนอ้ายเองก็พลอยพยักหน้าไปด้วย : “หนูรู้สึกว่าเขาจะต้องรักภรรยาของเขามากแน่ๆ ช่างอิจฉาภรรยาของเขาจริงๆ”

เมื่อนึกถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นกับเฉินตงที่ด้านนอกสนามบิน แววตาของเทียนอ้ายก็ปรากฏความรู้สึกอิจฉาขึ้นมา

ถ้าหากผู้หญิงคนนั้นได้ล่วงรู้ ว่าสามีของเธอยอมสละความดีความชอบอันใหญ่หลวงนี้ เพื่อที่จะไปขอโทษเธอ เธอคงจะต้องซาบซึ้งใจมากแน่นอน ?

ไม่แปลกที่คนในครอบครัวของเทียนอ้ายทั้งสามคนจะคิดเช่นนี้

เพราะในความเป็นจริงแล้ว พวกเขารู้ดีความดีความชอบจากการแก้ไขสถานการณ์ปล้นเครื่องบิน และช่วยชีวิตทุกคนบนเครื่องให้ปลอดภัยได้นั้น เป็นความดีความชอบที่ใหญ่หลวงขนาดไหน

โดยเฉพาะเทียนอ้าย ด้วยอาชีพของเธอ ทำให้เธอรู้ถึงความดีความชอบในครั้งนี้อย่างชัดเจน

หากจะพูดกันตามตรงก็คือ ด้วยอาชีพของเธอ เมื่อเธอได้สร้างความดีความชอบในครั้งนี้ หลังจากที่กลับไปยังสำนักงานใหญ่ จะต้องได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นถึงสามขั้นอย่างแน่นอน !

กู้โก๋ฮั๋วเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะออกมาอย่างหดหู่ : “ในโลกนี้ ความรักที่ลึกซึ้งเช่นนี้ หาได้ยากยิ่งแล้ว”

บนโต๊ะอาหาร บรรยากาศแปลกไปเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่า หลังจากที่เทียนอ้ายได้เล่าความจริงของเหตุการณ์ทั้งหมดออกมา ความตื่นเต้นและภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้จางหายไปไม่น้อย

ไม่ว่าจะเป็นกู้โก๋ฮั๋วหรือพ่อแม่ของเทียนอ้าย ต่างก็หันเหความสนใจไปหาคนคนนั้น……ชายผู้ซึ่งต้องการรีบไปขอโทษภรรยา

“แม่คะ พวกเราเข้าไปเถอะค่ะ”

อารมณ์ของกู้ชิงหยิ่งกลับมาเป็นปกติ และเดินกลับไปยังที่นั่งพร้อมหลี่หวั่นชิง

เทียนอ้ายเห็นสีหน้าของกู้ชิงหยิ่งไม่สู้ดีนัก อย่างน้อยๆ ก็ดูหน้าซีดลงไปอย่างมาก จึงรีบถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง : “เสี่ยวหยิ่ง เธอเป็นอะไรกันแน่ ? เธอเมื่อก่อนหน้านี้ ไม่ได้ดูกระอักกระอ่วนขนาดนี้นะ”

“ไม่เป็นไรจริงๆ”

กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว ฝืนยิ้มออกมา : “อ้ายอ้าย เธอเลิกสนใจฉันได้แล้ว วันนี้เธอต่างหากที่เป็นฮีโร่”

“ฉันไม่ใช่ฮีโร่สักหน่อย เมื่อครู่ได้บอกความจริงกับพ่อของเธอและพ่อแม่ของฉันอย่างชัดเจนไปแล้ว”

เทียนอ้ายยักไหล่ เหมือนจู่ๆ จะนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอถูมือแล้วหันไปมองกู้ชิงหยิ่ง : “จริงสิ ตอนที่เธอแต่งงานฉันติดภารกิจพอดี จึงไม่ได้มาร่วมงาน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ขอให้เธออภัยให้ฉันด้วย ฉันเตรียมของขวัญมาให้เธอหนึ่งชิ้นด้วยนะ”

พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบน

ท่าทีของกู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ส่วนกู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิง ต่างหันมองกู้ชิงหยิ่งด้วยความสงสาร

คำพูดประโยคนี้ของกู้ชิงอ้าย เห็นได้ชัดว่ากระทบไปถึงบาดแผลภายในใจของกู้ชิงหยิ่ง

แต่เทียนอ้ายเองก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะพูดขึ้นมา สองสามีภรรยาจึงไม่อาจต่อว่าเทียนอ้ายได้

ไม่ช้า เทียนอ้ายก็วิ่งกล่องของขวัญวิ่งกลับมา

“นี่คือรองเท้าคริสทัลที่ฉันเตรียมเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ ถูกทำขึ้นโดยช่างฝีมือชั้นยอดที่หามาได้ ทั้งโลกมีเพียงคู่เดียวเท่านั้น”

เทียนอ้ายยื่นกล่องของขวัญใส่มือกู้ชิงหยิ่ง : “ตอนนั้นฉันยังคิดเลยว่า ตอนที่เธอแต่งงาน หากได้ใส่รองเท้าคริสทัลคู่นี้ในวันงาน จะต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยและมีความสุขที่สุดในโลกอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ตอนนั้นติดภารกิจด่วน จนยากที่ฉันจะจัดการเวลาได้ทัน”

“ไม่เป็นไรหรอกอ้ายอ้าย”

กู้ชิงหยิ่งแสดงอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมา เธอเปิดกล่องออกดูด้วยดวงตาที่แดงก่ำเล็กน้อย รองเท้าคริสทัลแวววาวปรากฏขึ้นต่อสายตาของเธอ ช่างเป็นรองเท้าคริสทัลที่งดงามมากจริงๆ

เพียงแต่ การแต่งงานในครั้งนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่คิด

ถึงขั้นว่า……มีการนองเลือด

และหลังจากนั้น……

กู้ชิงหยิ่งก้มมองท้องที่ป่องออกมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว แล้วรู้สึกเจ็บปวดถึงที่สุดในทันที

ฉันทำเพื่อคุณมากมายขนาดนี้ ทำไมคุณถึงทำกับฉันเช่นนี้ ?

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่กู้ชิงหยิ่งได้ยินคำพูดของเทียนอ้ายเมื่อครู่ที่พูดว่า คนอื่นสามารถละทิ้งเกียรติยศอันยิ่งใหญ่นี้ โดยไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เพื่อที่จะรีบไปขอโทษภรรยา

เพราะอะไร……ฉันถึงต้องพบเจอกับคนใจร้ายเช่นนี้ด้วย ?

เทียนอ้ายหันมองไปรอบๆ แล้วเลิกคิ้ว : “จริงสิ ฉันยังไม่เคยพบกับสามีของเสี่ยวหยิ่งเลย ครั้งนี้กลับมาพวกเรานัดเจอกันทั้งที เธอก็ไม่ยอมพามาแนะนำให้ฉันรู้จักสักหน่อย ไม่ไว้หน้ากันเลย”

กู้ชิงหยิ่งตัวสั่น ทันใดนั้นเธอก็ไม่อาจข่มความทุกข์ทรมานทั้งหมดไว้ได้อีกต่อไป

ดวงตาของเธอแดงก่ำ น้ำตาค่อยๆ หยดลงมาทีละหยดๆ ไหลผ่านหางตาและหยดลงมาบนรองเท้าคริสทัลที่อยู่ในอ้อมแขน

ภาพนี้ ทำให้เทียนอ้ายอึ้งไปในทันที

พ่อแม่ของเทียนอ้ายเองก็ตกตะลึงไม่น้อย

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงหันมองหน้ากัน แววตาเต็มไปด้วยความสงสาร

กู้โก๋ฮั๋วแสดงท่าทีโกรธแค้นออกมา เขายกแก้วเหล้าที่มีเหล้าขาวอยู่เต็มแก้วขึ้นมา แล้วดื่มจนหมดในคราวเดียว

“น้องกู้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?” พ่อของเทียนอ้ายเอ่ยถามขึ้น

อีกด้านหนึ่ง เมื่อเทียนอ้ายตั้งสติกลับมาได้ ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

เธอรีบเข้าไปกอดกู้ชิงหยิ่ง : “เสี่ยวหยิ่ง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ? เธออย่าทำให้ฉันตกใจสิ”

เมื่อได้ยินคำถาม กู้ชิงหยิ่งก็ยิ่งร้องไห้ออกมาหนักขึ้น

เธอโผเข้าไปในอ้อมกอดของเทียนอ้าย แล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

ข่มอารมณ์ หลายวันมานี้เธอพยายามข่มอารมณ์ของตนเองเอาไว้

เธอพยายามอย่างมากที่จะแสร้งทำท่าทีนิ่งเฉย เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ

แต่เธอไม่อาจทำได้ ในช่วงกลางดึกที่เงียบสงัด เธอมักจะนึกถึงเฉินตง และคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเฉินตง

แต่เมื่อนึกถึงเรื่องของเย่หลิงหลง กู้ชิงหยิ่งก็รู้สึกราวกับมีมีดมากรีดที่หัวใจ

ความทุกข์ทรมานจากอาการแพ้ท้อง ยิ่งทำให้เธอรู้สึกสูญสิ้นทุกอย่าง ภายใต้สภาวะซึมเศร้าและความกดดันเช่นนี้

ภายในห้องอาหาร มีเสียงร้องของกู้ชิงหยิ่งดังก้องอยู่

พ่อแม่ของเทียนอ้ายเอง เมื่อเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร

ทั้งสองตระกูลเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตอนนี้เมื่อเห็นกู้ชิงหยิ่งตกอยู่ในสภาพที่ใจสลาย สองสามีภรรยาเองก็รู้สึกร้อนใจเช่นกัน

“น้องกู้ รีบบอกมาเร็วเข้า เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?” พ่อของเทียนอ้ายเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง

กู้โก๋ฮั๋วกลับถอนหายใจออกมา มือทั้งสองข้างจับผมเอาไว้แน่น แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

หลี่หวั่นชิงค่อยๆ ตบหลังของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ : “เสี่ยวหยิ่ง แม่อยู่นี่ ไม่ร้องนะ ไม่ต้องร้องแล้ว ไม่ว่าใครจะไปจากลูก แต่พ่อกับแม่ก็ยังจะอยู่กับลูกตลอดไป”

เทียนอ้ายหันมอง จากนั้นจึงปรากฏความโกรธแค้นขึ้นในแววตาคู่งามทันที

“เสี่ยวหยิ่ง เธอถูกรังแกใช่ไหม ? บอกฉันมา ฉันจะช่วยเธอระบายความแค้นเอง !”

กู้ชิงหยิ่งผละตัวออกมาจากอ้อมแขนของเทียนอ้าย ใบหน้าของเธอฉาบไปด้วยน้ำตา ใช้ฟันกัดริมฝีปากแดงระเรื่อเอาไว้แน่น

เธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดพลางร้องไห้ว่า : “ฉันจงรักภักดีต่อเขา ทำไมเขาถึงต้องทรยศหักหลังฉันด้วย ?”

เปรี้ยง !

เสียงร้องไห้ ดังก้องอยู่ในหูของเทียนอ้ายและพ่อแม่ของเธอราวกับเสียงฟ้าผ่า

หักหลัง ?

นอกใจ ?

ทันใดนั้น ความโกรธแค้นของเทียนอ้ายปะทุขึ้นมา ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยความเคียดแค้น

“คนเลว ! กล้าทำแบบนี้กับเสี่ยวหยิ่งของฉันได้อย่างไร ? คิดว่าฉัน เทียนอ้าย ไร้น้ำยาหรืออย่างไร ?”

“เสี่ยวหยิ่ง แม่อยู่นี่ ลูกหยุดร้องได้แล้ว ลูกต้องนึกถึงสุขภาพและลูกในท้องของตัวเองให้มากๆ นะ” หลี่หวั่นชิงพูดเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเมตตา

แม่ของเทียนอ้ายเองก็รีบยืนขึ้นมา แล้วเดินตรงเข้ามาหากู้ชิงหยิ่ง จากนั้นจึงตบหลังกู้ชิงหยิ่งและพูดปลอบใจว่า : “เสี่ยวหยิ่ง เลิกร้องได้แล้ว แม่ของเธอพูดถูก ต่อให้ท้องฟ้าพังทลายลงมา ก็ยังมีพ่อกับแม่ มีลุงกับป้าอยู่อีกนะ”

ในฐานะที่เป็นผู้หญิง จึงสามารถเข้าใจถึงความเจ็บปวดของกู้ชิงหยิ่งในตอนนี้ได้ดีที่สุด

“หนูทนได้ หนูสามารถทนได้”

กู้ชิงหยิ่งร้องไห้พลางเช็ดน้ำตา และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า : “แต่เขามาแล้ว เขามาหาหนูแล้ว ตอนที่เขาพูดว่าจะพาหนูกลับบ้าน หนูไม่อาจทนไหวจริงๆ เรื่องนี้เขาคิดจะอธิบายอย่างไรอีก ? เขามีสิทธิ์อะไรจะพาหนูกลับบ้านอีก ?”

ปัง !

ได้ยินดังนั้น เทียนอ้ายก็ตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ

ขมวดคิ้วแน่น แล้วพูดผ่านไรฟันออกมาหนึ่งประโยค : “มาแล้วหรือ ? มาได้เวลาพอดี !”

พูดจบ เทียนอ้ายก็ลุกขึ้นแล้วดึงกู้ชิงหยิ่งให้ยืนขึ้น และพูดออกมาด้วยความโมโหว่า : “เสี่ยวหยิง พาฉันไปหาเขา ฉันจะช่วยแก้แค้นให้เธอเอง !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset