Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 460 ยังมีชีวิตอยู่ต้องเจอคน หากตายแล้วต้องพบศพ

“กลับไปคุยกันที่บ้านเถอะ”

เทียนอ้ายพูดด้วยท่าทีจริงจัง

กู้ชิงหยิ่งดูสับสนเล็กน้อย เธอพยักหน้า ลุกขึ้นกำลังจะเดินไปด้านหน้า

แต่เพราะกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย กำลังขาอ่อนแรงและเดินโซเซ

เทียนอ้ายตกใจมาก จึงรีบเดินเข้าไปประคอง

“ทำไมเธอต้องทรมานตัวเองแบบนี้ด้วย ?” เทียนอ้ายพูด

กู้ชิงหยิ่งยิ้มอย่างเศร้าหมองโดยไม่พูดอะไร

กลับไปถึงด้านในคฤหาสน์

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงเองก็เดินลงมาด้านล่าง

หลี่หวั่นชิงรีบเดินเข้าไปประคองกู้ชิงหยิ่ง

ส่วนกู้โก๋ฮั๋วก็เชื้อเชิญให้เทียนอ้ายนั่งลง แล้วถามว่า : “เทียนอ้าย ทางฝั่งของเธอสืบได้ความอะไรบ้าง ?”

ไม่ว่าจะเป็นกำลังของหน่วยข่าวกรองบริษัทชิงหยิ่ง หรือจะเป็นพลังของหน่วยข่าวกรองของตระกูลเทียนและพันธมิตรทางธุรกิจคนอื่นๆ ของกู้โก๋ฮั๋ว

ขอบเขตและความลึกในการสืบหานั้น ยังห่างไกลจากหน่วยงานที่เทียนอ้ายสังกัดอยู่มากนัก

อีกทั้งหน่วยงานที่เทียนอ้ายสังกัดอยู่นั้นมีลักษณะเฉพาะ แม้กระทั่งอยู่ต่อหน้า กู้โก๋ฮั๋วยังไม่สามารถสอบถามอะไรจากปากของเทียนอ้ายได้เลย

เทียนอ้ายขมวดคิ้ว จัดระเบียบความคิดอยู่สักครู่ แล้วค่อยๆ พูดออกมา

“ฉันอาศัยข้อมูลของโรงแรมที่เฉินตงเข้าพัก แล้วแอบตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนถนนบริเวณโดยรอบโรงแรม ผลลัพธ์ที่ได้ออกมา พอจะสรุปได้ว่าน่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขา”

“เดี๋ยวก่อน !”

กู้โก๋ฮั๋วรีบเรียกให้หยุด : “กล้องวงจรปิดบนถนนบริเวณโดยรอบโรงแรม พวกเราไปตรวจสอบมาแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกตินี่”

“ลุงกู้คะ ที่พวกคุณสืบหามาต้องไม่มีความผิดปกติแน่นอน”

เทียนอ้ายแสดงท่าทีภาคภูมิใจออกมาโดยไม่รู้ตัว : “แต่ผลการตรวจสอบที่ได้จากหน่วยข่าวกรองของหนู แตกต่างจากผลลัพธ์ที่พวกคุณสืบหามาได้”

เทียนอ้ายเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า : “คืนที่เฉินตงกดตัดสายโทรศัพท์ของกู้ชิงหยิ่ง กล้องวงจรปิดที่อยู่บนถนนด้านนอกลานจอดรถของโรงแรมถูกปิดหมด อีกทั้งคืนนั้นถนนก็ถูกสั่งปิดอีกด้วย”

เปรี้ยง !

คำพูดประโยคนี้ เหมือนกับฟ้าผ่าลงมากลางห้องนั่งเล่น

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงตกตะลึงไป

มือทั้งสองข้างของกู้ชิงหยิ่งประสานกันแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

“แต่ข้อมูลที่ฉันได้จากหน่วยข่าวกรอง ในคืนนั้นที่โรงแรมและบนถนนไม่มีความผิดปกติใดๆ เลย” กู้โก๋ฮั๋วไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

เขารู้ดีว่าตัวเองมีอิทธิพลมากขนาดไหน และยิ่งรู้ดีถึงความสามารถของหน่วยข่าวกรองของเขา

แต่สิ่งที่เทียนอ้ายพูดขึ้นในตอนนี้ ไม่เหมือนกับผลลัพธ์ที่ได้มาจากหน่วยข่าวกรองเลยแม้แต่น้อย !

“ถ้าจะบอกว่ากล้องวงจรปิดที่พวกของลุงกู้เห็น เป็นของปลอมล่ะคะ ?”

เทียนอ้ายเลิกคิ้ว ดวงตาของเธอเป็นประกาย : “เชื่อว่าลุงกู้ก็คงรู้ดีถึงความสามารถของเทคโนโลยีทุกวันนี้ หากต้องการสร้างของปลอมขึ้นมา เชื่อว่าก็สามารถทำการตัดต่อวิดีโอได้ใช่ไหมล่ะคะ ? เตรียมอัดวิดีโอเอาไว้หนึ่งช่วง แล้วปรับเปลี่ยนเวลา ด้วยความสามารถของพวกแฮกเกอร์ นี่คงไม่ใช่เรื่องยากใช่ไหม ?”

ริมฝีปากของกู้โก๋ฮั๋วขยับ แต่พูดอะไรไม่ออก

การที่แฮกเกอร์จะเปลี่ยนแปลงเวลาในกล้องวงจรปิดรุ่นเก่านั้น เป็นเรื่องง่ายมากจริงๆ

อีกทั้งเพราะเป็นวิดีโอรุ่นเก่า หากต้องการสืบหา คงไม่สามารถเปิดดูวิดีโอทีละรายการได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

ทว่า หลังจากที่กู้โก๋ฮั๋วเงียบไป

ความเหน็บหนาวได้แผ่ซ่านจากเท้าของเขา ไล่ขึ้นไปจนถึงศีรษะ

ตอนนี้ต่อให้เป็นกู้โก๋ฮั๋ว ก็ยังรู้สึกขนลุก

เมื่อเห็นท่าทีของกู้โก๋ฮั๋ว เทียนอ้ายก็พูดว่า : “ตอนนี้ลุงกู้รู้แล้วใช่ไหมคะว่าเรื่องนี้มีความซับซ้อนแค่ไหน ?”

กู้โก๋ฮั๋วพยักหน้าเงียบๆ

กู้ชิงหยิ่งและหลี่หวั่นชิงหันมองกู้โก๋ฮั๋วพร้อมกัน

กู้ชิงหยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างร้อนรน : ” พ่อคะ เรื่องนี้ซับซ้อนขนาดไหนคะ ? เฉินตงเป็นอะไรกันแน่ ?”

กู้โก๋ฮั๋วพยายามระงับความกลัวที่เกิดขึ้น แล้วหันไปพูดกับกู้ชิงหยิ่งว่า : “ถึงแม้การตัดต่อกล้องวงจรปิดจะเป็นเรื่องง่าย แต่ตัวพ่อเองก็ยังไม่สามารถทำได้ เข้าใจแล้วใช่ไหม ?”

กู้ชิงหยิ่งตัวสั่นเทา เธอรู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนกอย่างสุดขีด

คำพูดของพ่อ หากจะพูดให้เข้าใจได้ง่ายก็คือ เขาไม่มีอำนาจพอที่จะตัดต่อกล้องวงจรปิดได้ ดังนั้น คนที่สามารถดัดแปลงกล้องวงจรปิดได้ จะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งมากกว่าพ่อแน่นอน !

บริษัทชิงหยิ่ง เป็นที่รู้จักในระดับสากลมาเป็นเวลานาน

ในตลาด ถือว่าเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง

คนที่แข็งแกร่งกว่าพ่อ จะต้องน่ากลัวขนาดไหนกัน ?

ทำไมเฉินตงถึงไปมีเรื่องกับคนแบบนี้ได้

ดวงตาของกู้ชิงหยิ่งก็แดงก่ำและเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาทันที

จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้น ไม่สนใจว่าร่างกายกำลังอ่อนแอ ฝืนเดินออกไปด้านนอก

“ชิงหยิ่ง เธอจะไปไหน ?”

เทียนอ้ายสังเกตเห็นเป็นคนแรก จึงได้เข้าไปขวาง

“ฉันจะไปหาเขา”

กู้ชิงหยิ่งร้องไห้อย่างหนัก ขัดขืนไปพลางร้องไห้ไปพลาง : “หากยังอยู่ต้องพบคน หากตายแล้วต้องพบศพ !”

คำพูดนี้ ราวกับว่าเธอใช้พลังทั้งหมดที่มี พูดผ่านไรฟันออกมา

กุ๋โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงรีบเดินตามไป แล้วช่วยเทียนอ้ายขวางกู้ชิงหยิ่งไว้

“เสี่ยวหยิ่ง ตอนนี้ลูกร่างกายอ่อนแอ ควรจะอยู่บ้านดูแลตัวเองให้ดี และดูแลลูกในท้องให้ดี !”

“พ่อจะต้องหาเขาให้เจอ เรื่องตามหาเฉินตง พ่อจะต้องคิดหาวิธีให้ได้ ตอนนี้ลูกวิ่งออกไปเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะหาเฉินตงไม่เจอ แต่จะพลอยทำให้ลูกได้รับอันตรายไปด้วย”

“ฮือฮือฮือ……”

กู้ชิงหยิ่งร้องไห้เสียงดัง ใบหน้าซูบผอมของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา : “เขาบอกว่าจะมาขอโทษหนูแท้ๆ ทำไมตอนนี้จู่ๆ ถึงได้หายตัวไป หนูจะไปหาเขา หนูจะไปถามต่อหน้าเขา ว่าเขาหมายความว่าอย่างไรกันแน่ !”

“พ่อคะแม่คะ ไปหาเป็นเพื่อนหนูหน่อยได้ไหม ? เขาเป็นผู้ช่วยให้รอด เขาสามารถช่วยคนในเครื่องบินทั้งลำได้ แล้วทำไมถึงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ? ไม่ ต่อให้เขาตายไปแล้ว หนูก็ต้องพบศพของเขาให้ได้ !”

เธอขอร้องอ้อนวอนอย่างน่าเวทนา

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงรู้สึกร้อนใจ ราวกับมดที่อยู่บนหม้อร้อนๆ

ไม่รู้ว่าควรจะขัดขวางกู้ชิงหยิ่งเช่นไรดี

ต่อให้จะมี “การทรยศ” เกิดขึ้น

แต่ความรู้สึกที่ลูกสาวมีให้ต่อเฉินตงนั้น สองสามีภรรยาต่างรู้ดี

ถ้าหากไม่รัก จะเสียดายที่ต้องเลิกกันเช่นนี้หรือ ?

อีกทั้งตอนนี้เฉินตงยังมาเกิดข่าวร้ายเช่นนี้อีก

ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก แล้วจะให้ลูกสาวทนรับไหวได้อย่างไร ?

ตุ้บ !

จู่ๆ ก็มีเสียงดังเกิดขึ้น

เทียนอ้ายยกมือขึ้น แล้วกระแทกลงไปที่ท้ายทอยของกู้ชิงหยิ่ง

กู้ชิงหยิ่งหมดสติไปทันที

ภาพนี้ ทำให้กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงตกใจจนหน้าถอดสี

เทียนอ้ายรีบพูดอธิบายว่า : “วางใจเถอะค่ะคุณลุงคุณป้า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ทำให้ชิงหยิ่งสงบลงก่อนเท่านั้น”

เมื่อได้ยิน

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงก็มีท่าทีเบาใจลงมาก

กู้โก๋ฮั๋วรีบถามต่อ : “เทียนอ้าย เธอสืบรู้อะไรมาอีกบ้าง ?”

“ไม่มีแล้วค่ะ ตอนนี้รู้มาเพียงเท่านี้”

เทียนอ้ายส่ายหัวอย่างเคร่งขรึม แล้วหันมองกู้ชิงหยิ่งที่หมดสติไป แล้วหันกลับมาพูดกับกู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงว่า : “คุณลุงคุณป้า พวกคุณต้องปลอบใจเสี่ยวหยิ่งสักหน่อยนะคะ ฝีมือของเฉินตงหนูเองก็เคยเห็นมากับตา แน่นอนแล้วว่าต้องเกิดเรื่องขึ้น แต่ตอนนี้ ตัวเขาน่าจะยังไม่เป็นอะไร”

“ได้”

เทียนอ้ายออกจากคฤหาสน์ไป

หลังจากกลับเข้าไปนั่งในลัมโบร์กีนี เธอก็ลูบดั้งจมูกของเธอ แล้วยิ้มออกมาอย่างเศร้าสร้อย

“คืนนั้น หงหุ้ยส่งคนหลายพันคนไปตามชายฝั่ง ต้องการที่จะตามหาอะไรกันแน่ ?

นี่เป็นข้อมูลอีกอย่างที่เธอได้มาจากหน่วยข่าวกรองของหน่วยงาน

แต่เป็นเพราะสถานะที่ไม่ธรรมดาของหงหุ้ย ทำให้เธอปิดบังข้อมูลเรื่องนี้ ตอนที่เล่าเรื่องทุกอย่างให้พวกของกู้ชิงหยิ่งทั้งสามฟัง

แต่ทว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นห่างจากช่วงเวลาที่เฉินตงหายตัวไปเพียงไม่นาน สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกสนใจ

“หงหุ้ยปิดเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ ส่งคนออกไปกว่าพันคน ที่น่าตกใจก็คือแม้กระทั่งหน่วยข่าวกรองของลุงกู้และพ่อก็ไม่อาจสืบรู้ได้ ช่างแข็งแกร่งจริงๆ”

เทียนอ้ายสตาร์ทรถ แววตาเป็นประกาย : “ถ้าเช่นนั้น ก็เริ่มลงมือสืบหาจากหงหุ้ยก่อนก็แล้วกัน !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset