Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 466 คิดถึงเธอจนแทบขาดใจ ไร้หนทางที่จะรักษา

ตุ้บ !

ดวงตาทั้งสองข้างของเฉินตงปิดลง แล้วล้มตัวลงไปบนเตียงอย่างแรง

ภาพนี้ เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน

“เฉินตง !”

เย่หลิงหลงรีบวิ่งเข้าไป ด้วยสีหน้าซีดเผือด

แต่เย่หยวนชิวขวางเธอเอาไว้

หมอทั้งหาคนเดินเข้าไปวินิจฉัย จากนั้นก็มีหนึ่งคนพูดขึ้นว่า : “ไม่เป็นไรครับ”

เย่หลิงหลงและเย่หยวนชิวรู้สึกโล่งใจพร้อมกัน

เย่หยวนชิวหันกลับไปมองเย่หลิงหลง : “หลิงหลง ดูแลเฉินตงให้ดีๆ นะ”

มองดูคุณปู่พาหมอทั้งหาคนเดินจากไป

เย่หลิงหลงก็น้ำตาไหลรินออกมา

เธอค่อยๆ เดินเข้าไปหาเฉินตงที่นอนหมดสติอยู่ มองดูใบหน้าที่ซีดเผือดนั้น เลือดที่แดงฉานที่มุมปากปรากฏขึ้นในสายตาของเธอ

“ต้องดีขึ้น ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น คุณไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกสักหน่อย คุณยังมีฉันอยู่ทั้งคน”

เธอค่อยๆ ขยับริมฝากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น

เย่หลิงหลงค่อยๆ เช็ดเลือดที่มุมปากของเฉินตงเบาๆ

จากนั้น ก็ค่อยๆ ซบลงไปบนหน้าอกของเฉินตง ร้องไห้พลางพึมพำออกมาว่า : “มีฉันอยู่ ฉันไม่มีทางให้คุณเป็นอันตรายเด็ดขาด”

อากาศในช่วงกลางคืนค่อนข้างเย็น

เครื่องบินส่วนตัวลงจอดในสนามบิน

ด้านนอกสนามบิน มีคนจากสำนักงานตระกูลเฉินมารอรับอยู่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อเดินออกจากสนามบิน ท่านหลงก็ขึ้นรถทันที

“ไปที่บริษัทชิงหยิ่ง ตระกูลกู้”

“ท่านหลงครับ มาด้วยความเร่งรีบเช่นนี้ และยังไปตระกูลกู้อีก เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ ?”

คนในสำนักงานตระกูลเฉินที่มีหน้าที่มาต้อนรับเอ่ยถามขึ้น

แววตาของท่านหลงดุดัน และมองผ่านกระจกมองหลัง

“พูดมาก อยากจะถูกตัดลิ้นหรือยังไง”

“ขอ ขอโทษด้วยครับท่านหลง”

พนักงานต้อนรับตกใจมาก และรีบเอ่ยขอโทษอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงสตาร์ทรถ

ท่านหลงมองออกไปด้านนอกหน้าต่างอย่างใช้ความคิด

เรื่องของเฉินตง เขายังไม่แจ้งต่อตระกูลเฉิน

ดีที่ครั้งนี้เฉินตงเดินทางมาที่นี่เพียงลำพัง

หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ตระกูลเฉินไม่รับรู้ถึงการเดินทางของเฉินตงในครั้งนี้

ตอนนี้เฉินเต้าหลิน “หายตัวไป” ตระกูลเฉินก็เหมือนมังกรที่ไร้หัว เกิดความขัดแย้งของแต่ละฝ่ายเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

หากรายงานเรื่องที่เฉินตงเกิดเรื่องให้ตระกูลเฉินรับรู้ ในความคิดของท่านหลงรู้สึกว่าจะยิ่งส่งผลเสียมากกว่าผลดี

แม้แต่การเดินทางของเขาในครั้งนี้ ก็พยายามเก็บเป็นความลับมากที่สุด

ไม่กระโตกกระตาก ถือเป็นวิธีเดียวที่จะปกป้องเฉินตงได้

ดังนั้น ถึงแม้ตอนนี้จะมาถึงแล้ว ท่านหลงก็เลือกที่จะไม่ไปพักอยู่ที่สำนักงานของตระกูลเฉิน แต่เลือกที่จะไปบ้านตระกูลกู้แทน

ตอนที่ท่านหลงไปถึงตระกูลกู้ ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว

สิ่งที่ทำให้ท่านหลงรู้สึกตกใจเล็กน้อยก็คือ ไฟในบ้านตระกูลกู้ยังคงสว่างไสว

“ท่านหลง ผมจะรออยู่ด้านนอกนะครับ”

เจ้าหน้าที่ต้อนรับของสำนักงานโค้งคำนับแล้วพูด

ท่านหลงแสดงสายตาที่น่ากลัวราวกับมีดที่แหลมคมออกมา ทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรมากอีก

“ไปเถอะ ฉันมีธุระส่วนตัวต้องจัดการนิดหน่อย”

ท่านหลงโบกมือ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ต้อนรับขับออกไปแล้ว เขาจึงเดินเข้าไปแล้วกดออดหน้าประตูของบ้านตระกูลกู้

ไม่ช้า ก็มีคนรับใช้เดินออกมา

“ท่านหลงใช่ไหมครับ ?”

“ฉันต้องการพบคุณกู้”

ท่านหลงเดินเข้าไปในคฤหาสน์ โดยมีคนรับใช้เดินนำ

หลังจากเข้าไปในบ้าน กลับไม่พบแม้แต่เงาของกู้ชิงหยิ่ง และกู้โก๋ฮั๋วสองสามีภรรยา

เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า : “คุณนายน้อยกับคุณกู้สองสามีภรรยาล่ะ ?”

คนรับใช้พูดด้วยท่าทีโศกเศร้า : “จู่ๆ คุณนายน้อยก็หมดสติไป คุณกู้กำลังตามหมอมารักษาครับ”

เปรี้ยง !

ท่านหลงหน้าถอดสีทันที รีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงขึ้นไปชั้นบน

ตอนที่เขาเดินเข้าไปในห้องด้วยความหวาดกลัว

ภาพที่เห็น ทำให้หัวใจของเขาหล่นฮวบลงทันที

กู้โก๋ฮั๋วส่งสัญญาณให้ท่านหลงเงียบเสียง

ส่วนหลี่หวั่นชิงที่อยู่ข้างๆ เขา ก็ปิดหน้าปิดตาร้องไห้อยู่

กู้ชิงหยิ่งนอนอยู่บนเตียง ไม่ขยับเขยื้อน สีหน้าเรียบเฉย แววตาเหม่อลอย

ส่วนข้างเตียง มีหมอสองคนกำลังทำการวินิจฉัยด้วยสีหน้าแปลกๆ

ท่านหลงเฝ้ามองด้วยความกังวล ดวงตาของเขากำลังจ้องมองใบหน้าที่ซีดเซียวจนไม่เป็นผู้เป็นคนของกู้ชิงหยิ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร และท้องที่ป่องขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้ดวงตาของเขาแดงก่ำ

“ท่านหลง ออกมาคุยด้านนอกเถอะ”

กู้โก๋ฮั๋วพาท่านหลงเดินออกมาด้านนอกด้วยความอ่อนล้า

กู้โก๋ฮั๋วยืนอยู่ตรงทางเดินแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ซึ่งเป็นภาพที่เห็นได้น้อยมาก

“เกิดเองอะไรขึ้นกันแน่ครับ ?” ท่านหลงถามอย่างเคร่งเครียด

กู้โก๋ฮั๋วไม่ได้ตอบ แต่กลับสูบบุหรี่อย่างหนัก

บุหรี่หนึ่งมวล สูบหมดเพียงแค่สามครั้ง

หลังจากโยนก้นบุหรี่ลงไปบนพื้นอย่างไม่แยแส เขาจึงพูดขึ้นว่า : “ตงเอ๋อทรยศเสี่ยวหยิ่ง หลังจากกลับมา เสี่ยวหยิ่งก็เอาแต่ร้องไห้ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ตอนที่ตงเอ๋อมาถึงที่นี่ เสี่ยวหยิ่งกับตงเอ๋อก็พบหน้ากันครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้มีโอกาสที่จะพูดคุยกัน จากนั้นตงเอ๋อก็มาเกิดเรื่องขึ้น”

“เดิมทีเสี่ยวหยิ่งก็กำลังตั้งท้องอยู่ เป็นเพราะเรื่องที่ถูกหักหลัง ทำให้เกิดความกดดันขึ้นในจิตใจอย่างหนัก จึงอ่อนล้าทั้งกายและใจ ประกอบกับที่ตงเอ๋อมาเกิดเรื่องขึ้น ทำให้ร่างกายที่อ่อนแอของเธอไม่อาจทนรับไหวได้อีก”

กู้โก๋ฮั๋วลูบหน้าแล้วพูดด้วยความรู้สึกผิด : “คืนนี้แม่ของเธอรู้สึกเป็นห่วงเธอ จึงคิดที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ ใครจะไปคิดว่าเมื่อเข้ามาในห้อง จะพบว่าเธอนอนหมดสติอยู่ที่พื้นเสียแล้ว ตอนนี้เธอฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่คุณก็เห็นสภาพเมื่อครู่นี้แล้วนี่……”

เมื่อพูดถึงตอนท้าย กู้โก๋ฮั๋วก็ถอนหายใจออกมา

น้ำตาเอ่อล้นอยู่ในดวงตา

“ฉันเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง ทำได้แค่มองดูลูกสาวมีสภาพเช่นนี้ แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย”

ท่านหลงตบไหล่กู้โก๋ฮั๋ว แล้วพูดปลอบใจ : “ไม่เป็นไรหรอกครับ ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่นอน ในเมื่อผมมาแล้ว ผมจะต้องหาทางหาคุณชายให้เจอให้ได้”

“พวกเราเข้าไปด้านในเถอะ”

กู้โก๋ฮั๋วเช็ดน้ำตาที่หางตา แล้วแสร้งทำเข้มแข็งเดินเข้าไปในห้อง

ท่านหลงเดินตามไปด้านหลัง

และตอนนี้ หมอทั้งสองคนก็ได้วินิจฉัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว

มีคนหนึ่งพูดขึ้นว่า

“เด็กปลอดภัยดีครับ แต่สถานการณ์ของลูกสาวคุณตอนนี้ ถือว่าน่าเป็นห่วงมาก”

เมื่อได้ยินว่าเด็กไม่เป็นไร ท่านหลงและกู้โก๋ฮั๋วสองสามีภรรยา ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

แต่คำพูดครึ่งหลังของหมอ ทำให้ทั้งสามคนต้องตกใจ

“หมอคะ ลูกสาวของฉันเป็นอะไรคะ ?” หลี่หวั่นชิงถามด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น

หลังจากที่กู้ชิงหยิ่งฟื้นขึ้นมา ก็เอาแต่นั่งนิ่งเหมือนกับหุ่นไล่กา

สิ่งนี้ทำให้หลี่หวั่นชิงและกู้โก๋ฮั๋ว รู้สึกเหมือนมีมีดกรีดที่หัวใจ

ทว่า

หมอกลับพูดว่า : “ลูกสาวของคุณไม่เป็นไรครับ”

กู้โก๋ฮั๋วขมวดคิ้ว : “เดี๋ยวบอกว่าอันตรายมาก เดี๋ยวบอกว่าไม่เป็นไร มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?”

“คุณกู้ ร่างกายของลูกสาวคุณไม่ได้เจ็บป่วยอะไร และสภาพจิตใจป่วยจนยากเกินเยียวยาแล้ว”

หมอพูดอย่างจริงจังว่า : “ถ้าหากไม่สามารถแก้ไขปมในใจของเธอได้โดยเร็ว ด้วยสภาพของลูกสาวคุณในตอนนี้ ไม่ช้าตัวเธอเองก็จะต้องพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ แม้กระทั่งเด็กในท้องก็……”

เงียบสักพัก หมอก็หันไปเก็บอุปกรณ์ พลางพูดว่า : “คุณกู้คงเคยได้ยินคำว่าความโศกเศร้าน่ากลัวยิ่งกว่าการอกหักใช่หรือไม่ ?”

“มีวิธีรักษาลูกสาวของผมไหม ? หรือว่ามียาที่พอจะช่วยรักษาได้ไหม ?”

กู้โก๋ฮั๋วร้อนใจจนดวงตาแดงก่ำ

“ขอโทษด้วยครับ เรื่องปัญหาภายในจิตใจ ไม่มียาที่จะรักษาได้” หมอส่ายหัว จากนั้นทั้งสองก็เดินจากไป

“เสี่ยวหยิ่ง……”

หลี่หวั่นชิงร้องไห้และนั่งลงข้างๆ เตียง ยกมือขึ้นโบกด้านหน้าดวงตาที่ดูว่างเปล่าของกู้ชิงหยิ่ง : “แม่อยู่นี่ หนูมองแม่สักครั้งได้ไหม?”

“ลูกรัก พูดอะไรหน่อยสิ พ่อกับแม่อยู่นี่ ลูกอย่าทำให้พวกเราตกใจแบบนี้สิ” กู้โก๋ฮั๋วนั่งคุกเข่าลงข้างๆ เตียง แล้วจับมือของกู้ชิงหยิ่งเอาไว้

แต่กู้ชิงหยิ่งไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน

ท่านหลงเดินเข้าไปข้างๆ เตียงด้วยความโศกเศร้า

มองดูกู้ชิงหยิ่งที่ซูบผอมผิดหูผิดตา แม้แต่เขา ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาออกมา

ท่านหลงตะโกนออกมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ : “คุณนายน้อย กระผมมาเยี่ยมคุณแล้ว……”

เสียงตะโกนนี้

ทำให้แววตาของกู้ชิงหยิ่งสั่นคลอนเล็กน้อย

จากนั้น ก็มีหยาดน้ำตาไหลรินออกมาจากหางตา

ริมฝีปากที่ซีดและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ค่อยๆ ขยับ

“คนโง่ของฉัน……หายไปแล้ว……”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset