Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 469 ไม่ได้มาดี

บนกำแพงสูง

ว่างเปล่า

แต่สีหน้าของเย่หลิงหลงกลับเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็ง เธอตะโกนออกมาเสียงดัง : “ใคร ? !”

หลังจากพูดจบ

ก็มีเสียงกรอบแกรบดังขึ้นด้านนอกกำแพง

ใบหน้าอันงดงามค่อยๆ โผล่ออกมาจากผนัง

แลบลิ้น แล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ : “ฉันเพิ่งจะปีนขึ้นมา ก็ถูกเธอพบเข้าให้แล้ว เธอเกิดมาเอขัดขวางฉันใช่ไหม ?”

พบเข้ากับใบหน้าที่ดูคุ้นเคย

ความเย็นชาบนใบหน้าของเย่หลิงหลงจางลงเล็กน้อย เธอค่อยๆ ยกหมัดขวาขึ้นมา แล้วแสยะยิ้ม

“อยากเจ็บตัวฟรีอีกใช่ไหม ?”

เทียนอ้ายที่ฟาดตัวอยู่บนกำแพงผงะไปเล็กน้อย

จากนั้นจึงก้มหน้ามองหน้าอกโดยไม่รู้ตัว

เฮ้อ~

ความคิดนี้ช่างกล้าหาญเกินไปแล้ว

“เธอปีนกำแพงของสมาคมซานเหอครั้งแล้วครั้งเล่า พอจะรู้ผลที่ตามมาไหม ?”

เย่หลิงหลงพูดอย่างเคร่งขรึม แสดงท่าทีตักเตือน

สมาคมซานเหอเป็นองค์กรใหญ่ของหงหุ้ย ควบคุมสาขาอีกสามพันหกร้อยแห่ง

ต่อให้เทียนอ้ายจะปีนกำแพงเข้ามาโดยไม่มีเจตนาร้าย แต่สมาคมซานเหอก็ไม่มีทางทนต่อการกระทำที่เป็นการดูถูกเช่นนี้

และทั้งสองครั้งก็ถูกเธอจับได้อีกด้วย

หากเป็นคนอื่น คงจะถูกจับกุมโดยคนในสมาคมซานเหอไปแล้ว

ผลลัพธ์ของการแอบบุกรุกสมาคมซานเหอนั้น เทียนอ้ายย่อมรู้ดี

แต่ตอนนี้เธอมีเงื่อนงำเกี่ยวกับหงหุ้ยเพียงเล็กน้อย

ตอนนี้เธอแค่ต้องการแน่ใจว่า คืนที่เฉินตงหายตัวไป หงหุ้ยงมอะไรขึ้นมาจากทะเลกันแน่ ?

ถ้าหากไม่บุกรุกเข้ามาในสมาคมซานเหอ เธอจะสืบหาเบาะแสจากที่ไหนกัน ?

แต่ว่า เมื่อเผชิญหน้ากับการตักเตือนของเย่หลิงหลง

เทียนอ้ายก็กลอกตา และแสร้งทำเป็นไม่รู้อีโหน่อีเหน่ : “ผลลัพธ์อะไร ?”

จู่ๆ เย่หลิงหลงก็หัวเราะออกมา

แววตาที่แหลมคมและเย้ยหยัน จ้องมองไปที่เทียนอ้ายซึ่งกำลังพาดตัวอยู่บนกำแพง

“เธอรู้สึกไหมว่าฉันโตกว่าเธอ ดังนั้นคิดว่าจะไม่ฉลาดกว่าอย่างนั้นหรือ ?”

เทียนอ้ายเงียบไป จู่ๆ ใบหน้าอันงดงาม ก็ปรากฏท่าทีโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที

เธอโต้กลับด้วยความหงุดหงิด : “หน้าอกใหญ่แล้วยังไง ?”

“หน้าอกใหญ่ ถือว่าสุดยอด !”

เย่หลิงหลงเลิกคิ้วแล้วหัวเราะ เสียงหัวเราะเยาะ เพียงพอที่จะทำให้แสงจันทร์และแสงอาทิตย์มืดมน

แทบจะในเวลาเดียวกัน

จู่ๆ สีหน้าของเธอก็เย็นชาจนถึงขีดสุด และวิ่งตรงไปยังกำแพงด้วยความเร็ว

“เธอลงมาเดี๋ยวนี้ !”

ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน

ใบหน้าของเทียนอ้ายก็แสดงความตื่นตระหนกออกมา

“ลาก่อนนะ”

เมื่อเห็นเย่หลิงหลงกระโดดลอยตัวขึ้นมา เธอก็รีบเอี้ยวตัวและกระโดดลงจากกำแพงทันที

เดิมที เย่หลิงหลงคิดอยากจะดึงเทียนอ้ายลงมาจากกำแพง

เทียนอ้ายหนีไปได้ ทำให้พลาดท่า เธอใช้ฝ่ามือกดลงไปบนกำแพง แล้วออกแรงพลิกตัวข้ามกำแพงไปลงยังตรอกเล็กๆ ด้านนอก จากนั้นจึงวิ่งตามเทียนอ้ายไป

เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉลาดแต่ไร้หน้าอก ในทางกลับกัน สามารถเป็นหงกุ้นของหงหุ้ยได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่เพียงแค่ด้านการต่อสู้เท่านั้น แม้แต่สมองก็ชาญฉลาดมากด้วย

เป็นครั้งแรกที่เทียนอ้ายบุกรุก อาจทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นโดยบังเอิญ

แต่ความบังเอิญ เกิดขึ้นซ้ำสองได้ด้วยหรือ ?

ครั้งแรกคือความบังเอิญ ครั้งที่สองต้องเรียกว่าเตรียมการมา !

คนที่ตั้งใจลักลอบเข้ามาในสมาคมซานเหอ เย่หลิงหลงไม่อาจปล่อยเทียนอ้ายไปได้

และในขณะที่เย่หลิงหลงกำลังวิ่งตามเทียนอ้าย

ภายในห้อง เฉินตงที่นอนอยู่บนเตียง ก็มีประกายขึ้นในดวงตาของเขา

“หากไม่กลับไปตอนนี้ ไม่แน่ว่าอาจเป็นการปกป้องภรรยาและลูกอย่างดีที่สุดก็ได้”

ในขณะที่พึมพำ มือทั้งสองข้างของเฉินตงกลับจับลงไปบนขาทั้งสองข้างอย่างเงียบๆ

หลังจากรู้ว่าขาทั้งสองข้างต้องพิการ เขาก็อยากออกไปจากสมาคมซานเหอ และยากกลับไปอยู่ข้างกายของกู้ชิงหยิ่ง

แต่ตอนนี้เมื่อสงบสติอารมณ์ลงได้เล็กน้อย เขาก็รู้ดีว่า หากกลับไปตอนนี้ มีแต่จะทำให้ทุกคนในครอบครัวของกู้ชิงหยิ่งต้องตกอยู่ในอันตราย

ดังนั้นเมื่อครู่ถึงแม้จะได้ยินเสียงของเทียนอ้ายอย่างชัดเจน แต่เขากลับไม่ยอมส่งเสียงออกมา

เทียนอ้ายไปและย้อนกลับมาอีกครั้ง แสดงว่าต้องสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้เบาะแสนี้ เฉินตงหวังว่าเทียนอ้ายจะไม่มาพบเข้า

ขาพิการแล้ว คนที่ลอบฆ่าเขาในคืนนั้นก็ไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา

ไม่แน่ว่าตอนนี้การหลบซ่อนตัวอยู่ใต้ปีกของหงหุ้ย อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ต่อให้ท้ายที่สุดเขาต้องตาย ก็ยังดีกว่าต้องทำร้ายกู้ชิงหยิ่งทั้งครอบครัว

แววตาของเขาแน่วแน่ แล้วเฉินตงก็กัดฟันพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจ

“ฉันไม่เชื่อ ชาตินี้ฉันจะกลับมายืนไม่ได้อีกแล้ว……ต่อให้กลับไป ก็ต้องกลับไปอย่างเต็มภาคภูมิ”

อีกทางด้านหนึ่ง

เย่หลิงหลงและเทียนอ้ายวิ่งตามกันมาติดๆ อยู่ในตรอกเล็กๆ ด้วยความรวดเร็ว

โครงสร้างของบ้านเรือนในย่านไชน่าทาวน์ มีการเว้นช่องว่างระหว่างบ้านแต่ละหลัง ทำให้เกิดเป็นตรอกเล็กๆ

“คนสวย เธอหยุดตามสักทีได้ไหม ? ฉันหลงทางจริงๆ !”

เหงื่ออาบไปทั่วหน้าผากของเทียนอ้าย เธอตะโกนออกมาเสียงดัง

“ถ้าเธอไม่วิ่ง ฉันก็ไม่ตาม !”

เย่หลิงหลงมีท่าทีหยิ่งผยอง เธอเบ้ปาก แล้วแสยะยิ้ม : “ตอนนี้เธอควรจะขอบคุณฉัน ที่ไม่ได้เรียกคนมาล้อมเธอเอาไว้”

“พวกเราสองคนเป็นไปไม่ได้หรอก” จู่ๆ เทียนอ้ายก็พูดขึ้น

เย่หลิงหลง : “……”

คิดอะไรอยู่ ?

จู่ๆ เทียนอ้ายซึ่งอยู่ด้านหน้า ก็เตะกำแพงที่อยู่ด้านข้างด้วยเท้าขวา จากนั้นจึงกระโดดไปที่กำแพงด้านซ้ายแล้วใช้เท้าเตะอีกครั้ง

ติดต่อกันสามครั้ง และกระโดดขึ้นไปอยู่บนกำแพงสูงเกือบสามเมตร

“เธอหนีไม่รอดหรอก !”

เย่หลิงหลงสีหน้าจริงจัง ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เธอระเบิดพลังออกมา

“ตุ้บ” ฝ่ามือกระทบลงบนแผ่นกระเบื้องที่อยู่บนกำแพงจนแตก จากนั้นจึงหยิบเศษกระเบื้องขึ้นมาหนึ่งแผ่น แล้วโยนเข้าใส่เทียนอ้ายดัง “ฟิ้ว”

ตุ้บ !

เทยีนอ้ายที่กำลังวิ่งหนี รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ด้านหลังหัวเข่าด้านซ้าย

เสียงกรีดร้องดังขึ้น เธอสูญเสียการทรงตัวทันที และหล่นลงมาจากกำแพง

“ตอนนี้ ยังจะหนีอยู่อีกไหม ?”

ยังไม่ทันทีเทียนอ้ายจะลุกขึ้น แสงสว่างตรงหน้าก็มืดลง

เย่หลิงหลงเดินเข้ามาหาเธอ แล้วก้มลงมองมาที่เธอ

หางตาของเธอ เหลือบไปเห็นแสงสะท้อนในมือของเย่หลิงหลง

เทียนอ้ายตกตะลึงทันที : “เธอ เธอคงไม่ได้คิดจะฆ่าฉัน เพียงเพราะฉันปีนกำแพงเข้าไปในบ้านของเธอหรอกนะ ?”

เย่หลิงหลงเขย่ากริชที่อยู่ในมือ

น้ำเสียงดุดัน : “เธอแอบเข้ามาในสมาคมซานเหอครั้งแล้วครั้งเล่า มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ?”

ตอนนี้ ใบหน้าของเย่หลิงหลงไม่เหลือความปรานีอยู่แม้แต่น้อย กลับเต็มไปด้วยความอำมหิต

คำพูดที่ดุดัน ราวกับว่าหากเทียนอ้านกล้าพูดจาติดขัดแม้เพียงเล็กน้อย กริชที่อยู่ในมือก็พร้อมที่จะฟันลงมาทันทีโดยไม่ลังเล

สีหน้าของเทียนอ้ายเปลี่ยนไป

ในขณะที่ขมวดคิ้ว จู่ๆ ก็ถามขึ้นว่า : “หงหุ้ยของพวกคุณ คืนนั้นงมอะไรขึ้นมาจากทะเลกันแน่ ?”

เปรี้ยง !

เย่หลิงหลงตกตะลึง ดวงตาของเธอเป็นประกายอย่างรวดเร็ว

เธอรู้ได้อย่างไร ?

การเคลื่อนไหวของหงหุ้ยในคืนนั้น ถึงแม้จะใช้คนหลายพันคน แต่ก็ถูกปิดเป็นความลับสุดยอด

แล้วผู้หญิงคนเดียว จะรู้ได้อย่างไร ?

ทันใดนั้น เย่หลิงหลงก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา

ในขณะที่เธอกำลังตกตะลึงอยู่นั้น

ดวงตาของเทียนอ้ายก็เป็นประกาย ก็กลิ้งตัวออกไปหลายตลบในทันที แล้วอาศัยจังหวะลุกขึ้น แล้วเตะขึ้นไปบนกำแพง และในที่สุดก็หายลับไป

เย่หลิงหลงได้สติขึ้นมาทันที

แต่เมื่อมองเห็นกำแพงที่ว่างเปล่า ก็แน่ใจว่าไม่อาจตามทันแล้ว

หลังของเธอเย็นวาบ

เดิมทีเป็นเพราะการพบกันกับเทียนอ้ายในครั้งก่อน ทำให้เธอรู้สึกสนุกสนานขึ้นในใจเล็กน้อย

แต่หลังจากที่เทียนอ้ายพูดคำพูดประโยคเมื่อครู่ออกมา ทำให้เธอรู้สึกใจเต้นทันที

“เธอมาที่สมาคมซานเหอก็เพื่อสืบหาเรื่องในคืนนั้น ไม่ได้มาดี จะต้องรับบอกคุณปู่โดยทันที”

พูดจบ ใบหน้าของเย่หลิงหลงก็เคร่งขรึมลง เธอรีบหันหลังกลับไปที่สมาคมซานเหออย่างรวดเร็ว

ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง

หลังจากเทียนอ้ายหนีออกมาจากไชน่าทาวน์ ก็รีบกลับเข้าไปที่รถอย่างรวดเร็ว

เธอตบหน้าอกด้วยความหวาดกลัว : “อันตรายจริงๆ ยังดีที่ฉันมีไหวพริบ ไม่อย่างั้นวันนี้คงต้องถูกจับตัวเอาไว้แน่นอน”

เทียนอ้ายเลิกคิ้ว ในสมองปรากฏภาพของท่าทีแปลกประหลาดของเย่หลิงหลงเมื่อครู่

“ต้องมีเรื่องปิดบังไว้แน่นอน แต่น่าเสียดายที่พบกับผู้หญิงอกโตคนนี้ทุกครั้ง ดูๆ ไปแล้ว ควรจะเปลี่ยนช่องทางจะดีกว่า นี่ก็ดึกมากแล้ว กลับไปที่บ้านตระกูลกู้ก่อนก็แล้วกัน”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset