Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 471 รักษาความลับ

เมื่อเย่หลิงหลงออกไปแล้ว

เฉินตงขยี้จมูกและทำหน้าไร้อารมณ์

ไม่คิดเลยว่าการที่เทียนอ้ายมาตามหาเขา จะทำให้หงหุ้ยต้องยกระดับการป้องกันขึ้นมาเช่นนี้

เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น ทว่าเขากลับไม่ยอมบอกความจริงกับเย่หยวนชิวและหยวนเทียนกาง

ข้อแรกเป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้เทียนอ้ายมาตามสืบที่สมาคมซานเหออีก

เวลานี้หากเทียนอ้ายหาเขาพบ และย้อนกลับไปที่ตระกูลกู้อีก มีแต่จะทำให้คนในตระกูลกู้ทั้งหมดต้องตกอยู่ในอันตราย

ข้อสองเขารู้สึกว่าการทำเช่นนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายมากนัก

ในเมื่อกลุ่มอำนาจนั้นยังไม่เคยทำสำเร็จเลยสักครั้ง และแม้แต่เทียนอ้ายเองยังสามารถสืบถึงความผิดปกติของหงหุ้ยได้ กลุ่มอำนาจนั้นก็คงจะระแคะระคายด้วยอย่างแน่นอน

การบุกมาลอบสังหารที่หงหุ้ยอีกเป็นครั้งที่สองจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น

เขาคว้ากางเกงที่อยู่บนขาของตัวเอง ความโกรธแค้นในใจของเขาพลันค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง เขาจะต้องจับตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารเขาออกมาให้ได้

ณ วิลล่าตระกูลกู้

ท่านหลงอ่านข้อมูลทุกอย่างจนจบ

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่เขายังคงฟังเทียนอ้ายเล่าเรื่องราวไปโดยเงียบๆ

เขาต้องการจับต้นชนปลายให้ถูก เขาจะไม่มีทางยอมพลาดเบาะแสเล็กๆ น้อยๆ ไปอย่างแน่นอน

เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตของคุณชาย

และเชื่อมโยงไปถึงวิธีการที่เขาต้องใช้ในการรับมือต่อจากนี้ด้วย

กู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงเองก็คอยประกบซ้ายขวาอยู่ข้างกายกู้ชิงหยิ่ง

กู้ชิงหยิ่งยังคงดูเหนื่อยล้าและซีดเซียวอยู่เช่นเคย แต่ดีขึ้นกว่าในตอนแรกค่อนข้างมาก

แววตาของเธอเริ่มปรากฏประกายระเรื่อขึ้นมาบ้าง

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าใจความหมายของเรื่องราวในภาพรวมทั้งหมด

“เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้”

เมื่อเทียนอ้ายเล่าจบก็หยักไหล่ แล้วมองไปที่ท่านหลง

เรื่องที่เธอเล่า เหมือนกับเรื่องที่เธอเล่าให้กู้โก๋ฮั๋วฟังก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน

เรื่องที่หงหุ้ยเป็นคนยื่นมือเข้ามาช่วย ไม่ได้ถูกเล่าออกมา

หลังจากที่ฟังจบ ท่านหลงก็ขมวดคิ้วครุ่นคิดเงียบๆ

ส่วนกู้ชิงหยิ่งและครอบครัวก็หันมามองท่านหลงอย่างมีความหวัง

ตอนนี้ตระกูลกู้ไร้หนทางแล้ว

ความสามารถของผู้ก่อตั้งตระกูลกู้ หรือแม้กระทั่งความสามารถของผู้ใหญ่และเครือญาติที่ยังมีความสัมพันธ์กันอยู่นั้น ล้วนไม่อาจสืบหาได้ว่าใครต้องการฆ่าเฉินตง แถมยังไม่รู้ด้วยว่าสถานการณ์ของเฉินตงในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

“ท่านหลง……”

กู้ชิงหยิ่งเอ่ยเสียงทุ้มลึก

ท่านหลงเงยหน้าขึ้นมามองกู้ชิงหยิ่ง ใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเขาพยายามฝืนยิ้มออกมา

เขาคล้ายตัดสินใจบางอย่างได้แล้วจึงเอ่ยกับกู้ชิงหยิ่งว่า “คุณนาย เราออกไปคุยกันหน่อยดีไหม”

คนตระกูลกู้ทั้งสามสบตากัน สุดท้ายกู้โก๋ฮั๋วก็เข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับหลายอย่าง เขาเองก็พูดอะไรมากไม่ได้จึงยอมให้กู้ชิงหยิ่งออกไปคุยกับท่านหลงตามลำพัง

กู้ชิงหยิ่งรู้ดีว่าพ่อกับแม่ไม่มีทางหักหลังตน แต่เธอเองก็ต้องยอมรับในความระมัดระวังของท่านหลง เมื่อเดินมาถึงหน้าต่าง สีหน้าของท่านหลงก็ยิ่งขมุกขมัวมากขึ้น

กู้ชิงหยิ่งเอ่ยว่า “ท่านหลง มีอะไรอยากจะพูด……ใช่ไหม”

ท่านหลงพยักหน้า “คุณชายยังไม่ตาย”

กู้ชิงหยิ่งตัวแข็งทื่อ สายตาของเธอส่องประกายความดีใจออกมา

“แต่เรื่องนี้เป็นความลับ กระผมหวังว่าคุณนายจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้ ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด เพราะคุณชายมีแผนการบางอย่าง ในฐานะที่เป็นภรรยาก็ควรจะร่วมมือกับคุณชายนะครับ” ท่านหลงกล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด

กู้ชิงหยิ่งพยายามข่มกลั้นความดีใจของตน พร้อมทั้งเข้าใจดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ “ได้ค่ะ ฉันรับปาก ฉันจะต้องปกป้องลูกน้อย รอวันเขากลับมา!”

สายตาของเธอแน่วแน่เป็นประกาย ท่านหลงเห็นเช่นนี้ก็อดชื่นชมไม่ได้ คุณชายเลือกภรรยาได้ไม่เลวจริงๆ

การเผชิญเรื่องใหญ่ขนาดนี้ จะต้องจัดการอย่างใจเย็น

……

ตอนดึกในคืนวันเดียวกันนั้น

เวลาเกือบสี่ทุ่ม

เฉินตงเหงื่อออกเต็มหน้าผาก เขานอนแผ่ลงบนเตียงด้วยอาการเหนื่อยหอบ

เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดออกมาแล้วไหลอาบลงมาตามแก้ม

แต่สายตาของเขายังคงแน่วแน่เช่นเดิม

“จะต้องกลับมายืนให้ได้ จะต้องลุกขึ้นให้ได้……”

เฉินตงพึมพำ มือทั้งสองข้างจับเตียงเอาไว้พยุงให้ตัวเองลุกขึ้นนั่ง เพื่อที่จะออกกำลังกายต่อไปได้

ตอนนี้ร่างกายของเขาสามารถออกกำลังกายแบบเบาๆ ได้แล้ว

การหมดสติไปหนึ่งอาทิตย์ ทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอไปมาก

แม้ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเขาจะสูญเสียความรู้สึกไป แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหย่อนยานกับตัวเอง

แอ๊ด……

เย่หลิงหลงผลักประตูเดินเข้ามา

เมื่อเห็นเฉินตง สายตาของเธอก็เปล่งประกายวิบไหวอย่างประหลาดและเหม่อมองเขา

ผู้ชายคนนี้……พยายามที่จะกลับมาอยู่ใช่ไหม

“ดึกขนาดนี้ ยังไม่นอนอีกหรอ”

เสียงของเฉินตงดึงเย่หลิงหลงให้กลับมาสู่ความเป็นจริง

“คุณเองก็เหมือนกัน ดึกขนาดนี้ยังออกกำลังอยู่อีกหรอคะ”

เย่หลิงหลงเลิกคิ้วแล้วเดินเข้ามาหาเฉินตงอย่างนุ่มนวล เธอหยิบกระดาษเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อบนหน้าผากให้เฉินตง “ตอนนี้คุณเพิ่งฟื้นได้ไม่นาน ร่างกายยังอ่อนแออยู่มาก การออกกำลังกายหนักเกินไปคงจะไม่ส่งผลดีอะไรกับคุณ ต้องค่อยๆ ฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป”

“ผมรู้”

เฉินตงหยิบกระดาษมาจากมือของเย่หลิงหลงเงียบๆ แล้วเช็ดหน้าตัวเองพลางถามว่า “คุณเข้ามาทำอะไรตอนดึกดื่น”

เย่หลิงหลงชะงักไป

มือขวาที่ถูกเฉินตงชกกระดาษทิชชู่ไป ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศก่อนจะค่อยๆ ลดมือลง

เธอจ้องไปที่เฉินตงแล้วยิ้มอย่างแปลกประหลาด “ทำไม คุณคิดว่าฉันจะทำอะไรเกินเลยคุณหรือไง”

เฉินตง “……”

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เย่หลิงหลงเป็นคนที่สวยมาก

เครื่องประดับใดๆ ก็ตามเมื่ออยู่บนร่างกายของเธอ ดูจะทำให้เกิดความคิดไม่ดีได้ทั้งสิ้น

สีหน้าดีใจหรือแสร้งแปลกใจของเธอ ก็มองได้เรื่อยๆ โดยไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ

“ตอนนี้คุณเดินไม่ได้ เลยกลัวว่าฉันจะทำอะไรคุณน่ะเหรอ เรื่องนี้ฉันพอเข้าใจได้”

สองมือของเย่หลิงหลงกอดอกเอาไว้ มือเรียวงามของเธอลูบคางแล้วยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

เฉินตงวางกระดาษลง “ถ้าคุณเอาแต่พูดเรื่องนี้กับผม ผมจะตะโกนแล้วนะ หงกุ้นของหงหุ้ย หลานสาวของจู่เหลารุ่นหยวน เข้ามาในห้องผู้ชายกลางดึก วางแผนคิดจะทำเรื่องฉาวโฉ่ รับรองว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่”

“คุณ……” เย่หลิงหลงเริ่มร้อนใจ “คุณมันหน้าไม่อาย!”

“คุณเป็นฝ่ายเริ่มลงมือเองนะ” เฉินตงกล่าวอย่างสงบ

ตอนนั้นที่เย่หลิงหลงอารมณ์พุ่งปี๊ดขึ้นมา

หมอนี่พอเริ่มจะดีขึ้นมาหน่อย ก็กลับมายั่วโมโหอีกแล้ว

เย่หลิงหลงแอบโมโหอยู่เงียบๆ แต่ก็ยังเอ่ยออกมาว่า “ฉันนอนไม่หลับ รู้สึกเป็นห่วงคุณขึ้นมาเลยตั้งใจแวะมาดูคุณหน่อย ตอนนี้สมาคมซานเหอกำลังใช้กฎฉุกเฉินอยู่ วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่กลับมาแล้ว แปลกมาก”

เฉินตงเอือมระอา

ถ้ามีการเคลื่อนไหวต่างหากถึงจะแปลก ที่เทียนอ้ายปีนกำแพงเข้ามาเช่นนั้นก็เพื่อจะเข้ามาพบตน

เมื่อเห็นเฉินตงนิ่งไป เย่หลิงหลงจึงโบกมือ “ช่างเถอะ คุณพักผ่อนเยอะๆ และกัน อย่าออกกำลังหนักเกินไป ฉันขอตัวกลับห้องไปพักผ่อนก่อน ขืนอยู่ที่นี่นานๆ พี่เทียนกางจะต้องบ่นฉันเละแน่”

เมื่อเย่หลิงหลงออกไปแล้ว

เฉินตงจึงขมวดคิ้ว แล้วกลับลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง

จริงสิ ตั้งแต่หมดสติไปจนถึงตอนนี้เป็นเวลานานแค่ไหนแล้ว

คนพวกนั้นที่ต้องการจะฆ่าฉัน ป่านนี้คงลงมือแล้วล่ะมั้ง

แม้ว่าหงหุ้ยจะสามารถปิดบังต่อตระกูลผู้มีอิทธิพลในเมืองนี้ได้ แต่ก็คงจะปิดบังคนพวกนั้นไม่ได้

ฟิ้ว!

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ก็เกิดเสียงการเคลื่อนไหวผ่านลมดังเข้ามาจากด้านนอก

และในเวลาเดียวกัน

“อ๊าก!”

เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นตามมาทันที

เย่หลิงหลง!

สีหน้าของเฉินตงเปลี่ยนไป เขาลุกพรวดขึ้นนั่งแล้วรีบลากรถเข็นวีลแชร์เข้ามา

ทันใดนั้น เกิดเสียงร่างกายปะทะต่อสู้กันอย่างดุเดือดดังเข้ามาจากด้านนอก

มือสังหาร……มาแล้ว!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset