Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 477 จุดจบ

ภายในโรงพยาบาล

เฉินตงนั่งอยู่ด้านข้างเตียงผู้ป่วยเงียบๆ

เฝ้ามองเย่หลิงหลงที่ยังคงไม่ได้สติ

เขาพาเธอมาส่งได้ทัน หลังจากหมอทำการรักษาแล้ว เย่หลิงหลงก็พ้นขีดอันตราย

ใบหน้างดงามของเธอยังคงซีดเผือด

เฉินตงยิ้มอย่างหมองหม่นด้วยอารมณ์สงสาร “คุ้มไหมที่ทำแบบนี้เพราะผม”

ประตูห้องผู้ป่วยถูกเปิดออก

จากนั้นท่านหลงก็เดินเข้ามา

เขามองเย่หลิงหลงที่ยังคงไม่ได้สติอยู่บนเตียงผู้ป่วย แล้วเลื่อนสายตามายังขาทั้งสองข้างของเฉินตงด้วยความไม่เข้าใจ

เฉินตงเลิกคิ้ว “ท่านก็รู้มาก่อนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ทำไมต้องมองขาผมแปลกๆ แบบนั้น”

ท่านหลงยิ้มอย่างแข็งกระด้าง

ตอนที่เขาพบเฉินตงที่สมาคมซานเหอนั้น

การจับมือกันครั้งนั้น เฉินตงได้สะกิดที่กลางฝ่ามือของเขา เขาถึงจะเข้าใจเรื่องราว

ในตอนนั้นเอง

เฉินตงเหลือบไปเห็นเปลือกตาของเย่หลิงหลงสั่นเบาๆ

หัวใจของเขาสะท้าน

แล้วปรี่เข้าไปข้างเตียง พร้อมเอ่ยเรียกเบาๆ ว่า “หลิงหลง……”

เย่หลิงหลงลืมตาขึ้นช้าๆ สายตาของเธอจ้องมองเพดานด้านบนด้วยความงุนงง

จมูกของเธอได้กลิ่นยาเข้มข้น

ดวงตาของเธอเริ่มปรับระยะการมองเห็นได้ชัดขึ้น

“ฉันยัง……ไม่ตาย?”

“ผมพาคุณมาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลาพอดี”

เฉินตงเอ่ยอย่างอ่อนโยน

“คุณ?”

เย่หลิงหลงมองไปที่เฉินตงด้วยความไม่เข้าใจ “ฉันหมดสติไประหว่างทาง คุณพาฉันมาส่งที่โรงพยาบาลได้ยังไง”

เฉินตงยิ้มเกร็ง

เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาการจับจ้องอย่างประหลาดใจของเย่หลิงหลง

“ผมเคยบอกไปแล้วว่าช่วยคุณได้……”

เย่หลิงหลงตะลึงงัน ความง่วงงุนจากการหมดสติยาวมลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง

“คุณ ขาของคุณ……”

เฉินตงทำท่าห้ามไม่ให้พูด “นี่เป็นความลับ!”

เย่หลิงหลงนอนอยู่บนเตียงด้วยความงุนงง ประหลาดใจ และรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความจริง

เธอยิ้มอย่างขมขื่น “เย่หลิงหลง เธอตายไปแล้วจริงๆ ด้วย นี่คงเป็นความฝันครั้งสุดท้ายของเธอก่อนตายสินะ”

เฉินตงชะงักไป แล้วรีบเอ่ยปลอบว่า “คุณยังไม่ตาย และนี่ก็ไม่ใช่ความฝันด้วย”

ดวงตาของเย่หลิงหลงแดงก่ำ รื้นไปด้วยน้ำตา “อย่างนั้นคุณช่วยตอบฉันได้ไหม คุณ……เคยรักฉันบ้างไหม”

เขาสบตากับสายตาที่เป็นประกายวิบวับของเย่หลิงหลง

เฉินตงเงียบงัน

อารมณ์ของเขาปั่นป่วน

คอของเขาตีบตัน ยากที่จะกล่าวคำใดออกมา

เขาไม่ใช่คนไร้ประสบการณ์ ที่ไม่รู้จักความเจ็บปวดจากความรักของวัยหนุ่มสาว

สิ่งที่เย่หลิงหลงทำให้เขาทั้งหมด การปฏิบัติต่อเขา เขาล้วนรับรู้ได้ทั้งสิ้น

ตื้นตัน ซาบซึ้ง ละอายใจ……ความรู้สึกทุกอย่างรวมเข้าอยู่ด้วยกัน

แต่ในใจของเขา……มีคนที่ครอบครองอยู่แล้ว

คนคนนั้นจองหัวใจของเขาไปทั้งดวง

ไม่เคยลืม และไร้หนทางที่จะลืม

“หือ?”

เย่หลิงหลงร้องขึ้นเบาๆ

เมื่อเฉินตงรู้ตัวก็ยิ้มออกมา “ขอโทษนะ แต่ในเมื่อไม่สามารถอยู่ช่วยกันได้ยามยากลำบาก ไม่สู้แยกกันไปใช้ชีวิตอย่างอิสระดีกว่า”

คำพูดที่เด็ดขาดนี้ ไม่หลงเหลือช่องว่างให้เธอแม้แต่น้อย

เมื่อเอ่ยออกไปเช่นนั้น เฉินตงเองก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น

เขารู้ดีว่าคำพูดนี้สร้างความเจ็บปวดให้เย่หลิงหลงมากขนาดไหน

ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อเขา คำพูดประโยคนั้น คงไม่ต่างอะไรกับการโดนลูกธนูปักเข้าไปในหัวใจ

ทว่า

ริมฝีปากของเย่หลิงหลงเริ่มกระตุกแล้วยิ้มปลอบใจ “โธ่เอ๊ย ไม่ได้ฝันจริงๆ ด้วย เพราะถ้าฝัน คุณคงตอบว่าคุณรักฉัน”

เฉินตงชะงักก่อนจะหัวเราะออกมา

จากนั้น เย่หลิงหลงจึงหันไปมองเฉินตง “แต่คุณจำไว้ละกัน วันนี้คุณช่วยชีวิตฉันไว้ ก่อนหน้านี้ฉันก็ช่วยชีวิตคุณไว้ครั้งหนึ่ง เราสองคนถือว่าเสมอกัน ไม่ติดค้างอะไรกันอีก”

“โอเค”

เฉินตงพยักหน้า “คุณพักผ่อนเยอะๆ นะ เดี๋ยวผมจะไปดูปู่ของคุณและหลงโถวสักหน่อย”

ท่านหลงเข็นวีลแชร์เข้ามาด้วยสีหน้าสับสน แล้วออกจากห้องไปพร้อมกับเฉินตง

เมื่อประตูถูกปิดลง

น้ำตาพลันไหลพรากออกมาจากดวงตาของเย่หลิงหลง

ความรักของเธอได้จบลงเพียงเท่านี้

เมื่อเฉินตงจากมาแล้ว เขาคิดแต่ว่าจะต้องรีบกลับไปหาชิงหยิ่งและลูกของตัวเองให้เร็วที่สุด เขาหายไปนานแล้ว กู้ชิงหยิ่งจะต้องเป็นห่วงเขามากแน่ๆ

บนถนนที่มุ่งหน้าไปยังวิลล่าตระกูลกู้ เฉินตงนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนรถด้วยอารมณ์ที่วุ่นวาย

ไม่นานนัก รถก็ขับเข้ามาถึงสวนดอกไม้ที่วิลล่า

หลังจากรถจอดแล้ว เฉินตงจึงลงรถ ท่านหลงเดินตามไปด้านหลัง

ก๊อกๆๆๆ……

ท่านหลงเคาะประตู

ประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าก่อนหน้านี้ท่านหลงจะแจ้งไว้แต่แรกแล้วว่าให้รถผ่านเข้าไปในวิลล่าได้เลยโดยไม่ต้องตรวจ

แต่เมื่อกู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงได้เห็นเฉินตง พวกเขาก็ยังคงตื่นเต้นดีใจจนน้ำตาคลอ

“ตงเอ๋อกลับมาซะที”

“ผมทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง”

เฉินตงเอ่ยอย่างนิ่งสงบแล้วมองผ่านคนทั้งสองไปด้านหลัง “เสี่ยวหยิ่งล่ะครับ ผมอยากเจอเธอ”

“เธออยู่ในห้องนอนด้านบนน่ะ”

กู้โก๋ฮั๋วเอ่ยอย่างลึกลับว่า “พวกเรายังไม่ได้บอกว่าลูกกลับมาแล้ว เพราะอยากให้เธอเซอร์ไพรส์

เฉินตงพยักหน้าแล้วเดินขึ้นด้านบนไป

กู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงไม่ได้เดินตามไป แต่ยืนอยู่เคียงข้างกับท่านหลง

ท่านหลงกล่าวกับหลี่หวั่นชิงว่า “รบกวนคุณนายช่วยเตรียมอาหารมื้อเย็นได้ไหมครับ คืนนี้พวกเราจะได้กินเลี้ยงฉลองกันสักหน่อย”

ในเวลาเดียวกันนั้น

ด้านหน้าห้องนอนของกู้ชิงหยิ่ง

ก๊อกๆๆๆ

เฉินตงเคาะประตูสามทีแล้วเอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า “ที่รัก ผมกลับมาแล้ว”

ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว คู่รักที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานสบตาซึ่งกันและกัน ความผูกพันได้ส่งผ่านออกมาจากคนทั้งสองอย่างไม่สามารถใช้คำพูดบรรยายได้

“เฉินตง!” ในที่สุดกู้ชิงหยิ่งก็รอจนถึงวันที่เขากลับมาหาตัวเป็นๆ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ นี่ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่สุด

“ชิงหยิ่ง!” ดวงตาของเฉินตงก็มีน้ำตาคลอเช่นกัน เขาคิดถึงเธอมาก

ทั้งสองกอดกัน จากนั้นเฉินตงจึงถามว่า “ตอนนี้ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง ลูกสบายดีไหม”

กู้ชิงหยิ่งยิ้มแล้วเอามือเขามาวางไว้บนท้องของเธอ “คุณลองลูบดูสิคะ บางทีลูกก็ดิ้น ลูกแข็งแรงมาก ส่วนฉันก็สบายดี พวกเรารอคุณกลับมา”

เฉินตงโล่งใจขึ้น เขามองกู้ชิงหยิ่งอย่างจริงจัง “ทุกอย่างจบลงแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือ เฉินเทียนฟ่าง ผมให้เขาได้รับบทลงโทษเรียบร้อยแล้ว ตระกูลเฉินจะทำร้ายพวกเราไม่ได้อีกแล้ว”

เมื่อกู้ชิงหยิ่งได้ยินเช่นนั้นก็ประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้า “เฮ้อ ดูไม่ออกเลยนะคะว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้”

เฉินตง “ตระกูลเฉินมีอำนาจแข็งแกร่ง พอคนเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างนี้ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ปรารถนาในอำนาจและตำแหน่ง”

กู้ชิงหยิ่งตอบรับคำหนึ่ง จากนั้นจึงจูงมือเฉินตง “แต่คุณไม่ได้เป็นแบบนั้นนี่ ต่อให้คุณเป็นแบบนั้น คุณก็คงไม่ทำร้ายคนอื่น คุณกับพวกเขามีนิสัยที่แตกต่างกัน”

เมื่อเฉินตงได้ยินแบบนี้ เขาก็รู้สึกซาบซึ้ง เขาขอบคุณที่กู้ชิงหยิ่งเข้าใจในตัวเขา เขาคนพบเนื้อคู่ของตัวเองแล้วจริงๆ

“ชิงหยิ่ง ชีวิตนี้ผมจะมีคุณเพียงคนเดียว ผมจะไม่จากคุณไปไหน ผมจะปกป้องคุณอย่างดี” เฉินตงสาบาน

เมื่อเห็นสายตาจริงจังของเขา กู้ชิงหยิ่งก็รู้สึกชุ่มฉ่ำในหัวใจ เธอกอดเฉินตงเอาไว้ “ฉันรู้ค่ะ ฉันเข้าใจทุกอย่าง”

พวกเขาทั้งสองผ่านเหตุการณ์ด้วยกันมาหลายอย่างกว่าจะเดินมาถึงทุกวันนี้ จนเชื่อใจกันได้มากขนาดนี้ ดังนั้นกู้ชิงหยิ่งไม่มีทางสงสัยในความรู้สึกที่เฉินตงมีต่อตัวเอง

ภายใต้แสงไฟสีเหลืองนวล คนทั้งสองจูบกัน บนพื้นสะท้อนเงาของพวกเขาที่เข้ากันเป็นหนึ่งเดียว

จบบริบูรณ์

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset