Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – # ตอนที่ 181 พอกินดีอยู่ดี ก็มีความปรารถนาทางเพศ​

หลังจากเลิกงานแล้ว

เฉินตงรีบตรงไปยังบ้านของกู้ชิงหยิ่งทันที

โอกาสเช่นนี้ไม่ได้มีง่ายๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ทั้งสองคนก็เกือบจะแต่งงานกันแล้ว จะทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ?

บ้านของกู้ชิงหยิ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์ห้องหนึ่ง ไม่ได้หรูหรา แต่กลับเป็นบ้านที่ดูอบอุ่น อีกทั้งยังเหมาะแก่การอยู่คนเดียวของกู้ชิงหยิ่ง

ขณะที่เฉินตงกำลังเคาะประตูห้องของกู้ชิงหยิ่งอยู่

กู้ชิงหยิ่งก็ยืนมองเขาจากทางด้านหลังอยู่สักครู่ แล้วพูดว่า : “คุนหลุนล่ะคะ ?”

ทำเรื่องนี้ จะพากว้างขวางคอมาได้อย่างไร ?

เฉินตงยิ้ม : “วันนี้ไม่ได้ให้คุนหลุนคอยรับส่ง ผมขับรถมาเอง”

“ก็ดีค่ะ”

กู้ชิงหยิ่งยิ้มหวาน : “รีบเข้ามาสิคะ อาหารทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในห้องครัวยังเหลือซุปอีกหนึ่งอย่าง ประเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”

เฉินตงเดินเข้าไปในห้องด้วยรอยยิ้ม เขาเห็นอาหารอันโอชะที่มีกลิ่นหอมยั่วยวนและสีสันชวนรับประทานวางอยู่บนโต๊ะ เขารู้สึกน้ำลายไหลทันที

แต่ทว่า เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย

“เสี่ยวหยิ่ง คุณทำอาหารรสเลิศเช่นนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”เฉินตงเอ่ยถาม

กู้ชิงหยิ่งหยิบตำราอาหารเล่มหนึ่งยื่นให้เฉินตง : “นี่ ทำตามสูตรในนี้ก็ใช้ได้แล้ว ฉันไม่ได้ต้นน้ำเป็นแค่อย่างเดียวสักหน่อย คนโง่ !”

เฉินตงมองดูก็รู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่ากู้ชิงหยิ่งจะมีฝีมือในการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ !

เขายังจำตอนที่กู้ชิงหยิ่งอยู่บ้านเขาเมื่อก่อนได้ดี ฉากที่เธอบากหน้าเข้าไปช่วยฟ่านลู่ต้มน้ำร้อน

เผลอแป๊บเดียว ก็สามารถทำอาหารอันโอชะตามสูตรในตำราออกมาวางเต็มโต๊ะได้แล้ว !”

“เลิกมองได้แล้ว รีบไปล้างมือเร็วเข้า วันนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าครัวอย่างเป็นทางการ พ่อกับแม่ฉันยังไม่เคยมีโอกาสได้ทานเลย เพราะฉะนั้นคุณต้องตั้งใจช่วยฉันชิมนะ” กู้ชิงหยิ่งพูดเร่งรัด

“ไม่มีปัญหา”

เฉินตงยิ้มแล้วเดินเข้าไปในครัว หลังจากล้างมือเรียบร้อยแล้ว กู้ชิงหยิ่งก็หยิบซุปมะเขือเทศขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ

หลังจากนั่งประจำที่แล้ว

กู้ชิงหยิ่งก็เร่งเร้าเฉินตงให้รีบชิมอาหาร

เฉินตงคีบซี่โครงใส่เข้าปากหนึ่งชิ้น แล้วจู่ๆ ก็นิ่งไป

กู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ มือทั้งสองข้างของเธอจับกันแน่นด้วยความประหม่า : “เป็นอย่างไรบ้าง รีบวิจารณ์มาเร็ว !”

“อร่อย !”

เฉินตงกลืนซี่โครงลงไป แล้วชูนิ้วโป้งให้

กู้ชิงหยิ่งยิ้มออกมาอย่างเบิกบานใจในทันที เธอตบหน้าอกของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจแล้วพูดว่า : “ฉันเก่งใช่ไหมล่ะ แค่ครั้งแรกก็ทำสำเร็จแล้ว !”

เฉินตงยิ้มพร้อมพยักหน้า : “ยัยโง่ของผมเก่งที่สุด !”

ทันทีที่พูดจบ

กู้ชิงหยิ่งก็ผงะไป เธอหันมองเฉินตงทันที : “คนโง่ เมื่อกี้คุณกินซี่โครงเข้าไป”

เฉินตงพยักหน้าด้วยความสงสัย

“ก็ซี่โครงนะสิ ?” กู้ชิงหยิ่งถาม “คุณกลืนเข้าไปแล้ว ?”

ซวยแล้ว !

เฉินตงรู้สึกตกใจในทันที เมื่อครู่เขารีบกลืนเข้าไป เพราะต้องการที่จะเอ่ยชมกู้ชิงหยิ่ง จึงลืมเรื่องกระดูกซี่โครงไปเลย !

“ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่กระดูกซี่โครงชิ้นเดียว เพราะยัยโง่อย่างคุณทำอาหารอร่อยเกินไป ทำให้ผมตื่นเต้นจนลืมไปเสียสนิทเลย !” เฉินตงหัวเราะพลางอธิบาย

“ฮ่าฮ่า……ฉันจะลองชิมดู”

กู้ชิงหยิ่งเองก็ไม่รีรอ รีบหยิบตะเกียบแล้วคีบซี่โครงขึ้นมาหนึ่งชิ้น จากนั้นจึงใส่เข้าปากไป

มุมปากของเฉินตงกระตุก แววตาของเขาดูแปลกประหลาด

ทันใดนั้น

“ถุย……”

ใบหน้าอันงดงามของกู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนไปทันที เธอคายกระดูกซี่โครงออกมา แล้วพูดอย่างอารมณ์เสียว่า : “อะไรเนี่ย เค็มขนาดนี้ ทำไมคุณถึงบอกว่าอร่อย ?”

เฉินตงหัวเราะแล้วหันมองกู้ชิงหยิ่งด้วยแววตาที่อบอุ่น : “อาหารที่ภรรยาของผมทำ ผมต้องรู้สึกว่าอร่อยเป็นธรรมดา”

ตอนที่เขาใช้ชีวิตคู่ร่วมกับหวางหนันหนัน อาหารทั้งสามมื้อในทุกๆ วัน เขาจะเป็นคนทำให้หวางหนันหนันกิน ต่อให้เขาจะเหนื่อยขาดไหน ก็ต้องทำเช่นนี้

แต่ทว่า ตอนนี้ กู้ชิงหยิ่งซึ่งเป็นซึ่งเป็นถึงลูกสาวของผู้รากมากดี แต่กลับไม่สนใจอดีตของเขา มิหนำซ้ำยังเต็มใจที่จะสวมผ้ากันเปื้อนเข้าครัวเพื่อทำอาหารให้เขากิน

อย่าว่าแต่เค็มเลย ต่อให้เขาต้องกินเกลือเปล่าๆ ขาก็ยังรู้สึกว่าอร่อยอยู่ดี

“เฮ้อ……ช่างเถอะช่างเถอะ พวกเราออกไปทานข้างนอกกันเถอะค่ะ ครั้งนี้ไม่อร่อย ครั้งหน้าจะต้องอร่อยแน่นอน” รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ชิงหยิ่งจางหายไปทันที แล้วโบกมือด้วยความเสียใจ

“ไม่ต้องหรอก ก็อร่อยดีนี่ กินที่บ้านนี่แหละ” เฉินตงห้ามกู้ชิงหยิ่งเอาไว้ จากนั้นจึงยกถ้วยข้าวและตะเกียบขึ้นมา แล้วรีบกลืนอย่างรวดเร็ว

กู้ชิงหยิ่งนั่งมองภาพที่เห็นตรงหน้าแล้วนิ่งไป ความเสียใจที่เกิดขึ้นตรงหน้า ค่อยๆ แปลเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาแทน

กู้ชิงหยิ่งรู้สึกโล่งใจ เธอหยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วพูดอย่างจริงจังว่า : “คุณต้องการที่จะกินเองนะ ต้องกินให้เกลี้ยงด้วยล่ะ”

“ไม่มีปัญหา ! ขอแค่คุณไม่กลัวว่าผมจะดื่มน้ำบ้านคุณจนหมดก็พอแล้ว” เฉินตงกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย แล้วพูดพึมพำออกมา

อาหารที่ไม่ได้ถือว่าเลิศรสสักเท่าไหร่ แต่ทั้งสองกลับกินด้วยกันอย่างมีความสุขและมีแต่รอยยิ้ม

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ก็ช่วยกันล้างจาน

ถึงแม้เฉินตงจะนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟา แต่ความคิดของเขากลับลอยออกไปไกลตั้งนานแล้ว

รอมานานขนาดนี้แล้ว…… พอกินดีอยู่ดี ก็มีความปรารถนาทางเพศ​ ในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว !

เมื่อนึกถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ใจของเขาก็เต้นเร็วจนควบคุมไม่อยู่

ส่วนกู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ มือทั้งสองก็พันกันเป็นระวิง เอาแต่แอบชำเลืองมองเฉินตงอยู่ตลอดเวลา บนใบหน้าที่งดงามเริ่มมีสีแดงจางๆ ปรากฏขึ้น

ภายใต้แสงส่องสว่างของโคมไฟ ไม่ว่าจะมีรายการอะไรฉายอยู่ในโทศทัศน์ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป

อันที่จริงแล้ว ความคิดของทั้งสองไม่ได้จดจ่ออยู่ที่โทรทัศน์อีกต่อไป

บรรยากาศเป็นใจ

แต่ก็เงียบจนน่าประหลาดใจ

ในที่สุด

เฉินตงก็รวบรวมความกล้าทำลายความเงียบลง : “เสี่ยวหยิ่ง……อยากดูของล้ำค่าชิ้นใหญ่ไหม ?”

“หา ? !” กู้ชิงหยิ่งตัวสั่นและอุทานออกมา

เธอพูดออกมาด้วยความโกรธและตื่นตระหนก : “คุณ คุณพูดอะไรของคุณเนี่ย ?”

ยังทำเป็นไม่เข้าใจอีก ?

เฉินตงผงะไปชั่วครู่ แต่ก็ตั้งสติได้ทันที ผู้หญิงนี่นา ต้องรู้สึกอายเป็นธรรมดา

ทันใดนั้น ร่างกายของเข้าก็พุ่งเข้าหากู้ชิงหยิ่งทันที กู้ชิงหยิ่งตกใจจนกรีดร้องออกมา เดิมทีคิดจะหลบ แต่กลับถูกมือทั้งสองข้างของเฉินตงโอบกอดเอาไว้

ทันใดนั้นเอง ตาทั้งสองคู่ประสานกัน

เฉินตงถึงขั้นสัมผัสได้ถึงความสั่นเทาของคนที่อยู่ในอ้อมกอด

ใบหน้าของกู้ชิงหยิ่งแดงก่ำ ทำให้ใบหน้าอันงดงามของเธอยิ่งดูมีเสน่ห์

“ฉัน ฉัน……”

กู้ชิงหยิ่งรู้สึกใจเต้นจนแทบจะหลุดออกมาจากอก รู้สึกเขินอายจนค่อยๆ ก้มหน้าก้มตาลงและพูดไม่ออก

แต่ทว่า

เฉินตงใช้นิ้วชี้ด้านซ้ายของเขาช้อนคางของกู้ชิงหยิ่งขึ้นมา จากนั้นจึงค่อยๆ ยกหัวของเธอให้เงยขึ้น

แววตาของเขาอบอุ่น ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่นุ่มนวล จ้องมองกู้ชิงหยิ่งนิ่ง

จากนั้น จึงค่อยๆ เขยิบตัวเข้าไปใกล้

ร่างกายบอบบางของกู้ชิงหยิ่งยิ่งสั่นเทามากขึ้น แววตามีฉาบไปด้วยความรู้สึกตื่นตระหนก

เวลานี้ เธอรู้สึกเหมือนสมองว่างเปล่า ทั้งตัวรุ่มร้อนเหมือนถูกไฟแผดเผา

เธอรู้สึกได้ถึงกลิ่นกายของเฉินตงที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ถึงขั้นที่ว่า เธอสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่หอบสดชื่นและอบอุ่นที่ลอยออกมาจากปากของเฉินตง

ทันใดนั้นเอง

ขณะที่ริมฝีปากกำลังเลื่อนเข้ามาใกล้เพื่อที่จะบรรจงจูบ

“เฉินตง !”

กู้ชิงหยิ่งยกมือขึ้นมาขวางเฉินตงทันที ไม่ใช้เขาเข้ามาใกล้ได้อีกแม้เพียงก้าวเดียว

ภาพตรงหน้าที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เฉินตงผงไป

“เป็นอะไรไป ?”

“ฉัน ฉัน ฉันยังไม่พร้อมค่ะ” กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายและตื่นตระหนก มือทั้งสองข้างออกแรงกดอยู่บนไหล่ของเฉินตง

ทันใดนั้น เฉินตงก็เกิดความสงสัยขึ้นมา หรือว่านี่จะเป็นการเข้าใจผิด ?

เขาเอ่ยปากถามว่า : “ไม่ใช่ว่าคุณเรียบผมมาทานอาหารเย็นหรอกหรือ ?”

“ก็ทานอาหารไงคะ” กู้ชิงหยิ่งตอบ

หา !

มุมปากของเฉินตงกระตุก คงจะเข้าใจผิดแล้วจริงๆ !

ร่างกายอันบอบบางของกู้ชิงหยิ่งสั่นเล็กน้อย แล้วพูดว่า : “ฉัน ฉันจะดูว่าคุณเตรียมตัวจะกลับบ้านเมื่อไหร่”

เฉินตง : “……”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset