Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 47 ท่าเดียวก็พอ

บทที่ 47 ท่าเดียวก็พอ

ใบหน้ากูหลังย่นยับ กระตุกหางตารอยแผลตะขาบหนึ่งครั้ง

เป็นเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมจริงๆเหรอ?

ชั่วเวลาอันสั้นๆ การเปลี่ยนแปลงของเฉินตงในสายตาของเขา ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

ทำให้กูหลังประหลาดใจเหลือเกิน

ท่ามกลางความมืดมิด คุนหลุนเบิกตากลมโต เต็มไปด้วยความตกตะลึง “ดี เร็วดี!”

เขาพาเฉินตงมาที่โรงยิมมวยใต้ดินบอกว่าให้เฉินตงเก็บเกี่ยวประสบการณ์การต่อสู้ในสนามจริง แต่ความจริงแล้วเพื่อเป็นการขัดเกลาจิตใจของเฉินตงต่างหาก

ประสบการณ์ต่อสู้ก็คือทักษะการต่อสู้ผสมผสานกับสภาพจิตใจที่หนักแน่นและสงบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ถึงจะนำมาใช้ในสนามจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เพราะเฉินตงทำฟิตเนสเป็นกิจวัตรประจำวัน บวกกับร่างกายมีคุณสมบัติมาแต่เกิด ฉะนั้นหลังคุนหลุนฝึกฝนเขาอย่างหนักหน่วงและทารุณมาหลายวัน ร่างกายจึงมีความพร้อมเต็มที่แล้ว

ขาดก็แต่สภาพจิตใจเท่านั้น

หากสภาพจิตใจของคนเราไม่ค่อยแข็งแกร่ง ถึงแม้จะมีร่างกายกำยำ แต่เมื่อต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ก็จะเป็นอย่างเฉินตงตอนปะทะกับกูหลังใหม่ๆ มึนงงไร้ทิศทางคล้ายกับไม้แกะสลักรูปไก่ที่อยู่นิ่งให้คนอื่นทุบตี

สำหรับสภาพจิตใจของเฉินตงที่เปลี่ยนแปลง ทำให้คุนหลุนตกตะลึงจนหน้าเปลี่ยนสี

เขาคาดไม่ถึงว่าแค่ประลองฝีมือไม่นาน เฉินตงก็พัฒนาขึ้นมาเร็วขนาดนี้!

“สายตาของนายท่านแม่นยำเสมอมา”คุนหลุนพูดเองเอยเอง

บนอัฒจันทร์ผู้ชม บัดนี้ยังคงส่งเสียงร้องอยู่เหมือนเดิม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรงเหล็กใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น

อาจจะเป็นเพราะระยะห่าง ผู้ชมจึงไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเฉินตงเลย

“ฮู้……”

กูหลังหายใจออกแรงๆหนึ่งครับ นัยน์ตาประกายแวววาว“น่าสนใจแฮะ”

เพิ่งสิ้นเสียง กูหลังก็เกิดอารมณ์บ้าบิ่นขึ้นมาทันที

ร่างกายราวกับหมาป่า ความเร็วดั่งสายฟ้า

การเปลี่ยนแปลงของเฉินตงทำให้เขาจุกที่ลำคอ โดยไม่คิดจะเล่นอีกต่อไป อยากจะรีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด

ใต้แสงไฟที่แรงเจิดจ้า

เฉินตงยืนขึ้นอย่างมั่นคงโดยไม่โซเซเลย ดวงตาใต้หน้ากากจับจ้องการเข้าโจมตีของกูหลังอยู่

สงบเข้าไป

ต้องสงบเข้าไว้

เขาปรับการหายใจของตัวเองตลอด

วิ้ว!

เสียงแหวกลมกลางอากาศดังขึ้นมา

กูหลังปล่อยหมัดมายังใบหน้าของเฉินตง

และในเวลานี้

เฉินตงเลิกคิ้ว รีบขยับเอวหมุนหน้าไปอีกทาง

วิ้ว!

ข้างหูมีเสียงลมพาดผ่าน

“หลบได้เหรอ?”

สีหน้ากูหลังเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน

แต่ด้วยประสบการณ์ต่อสู้ที่โชกโชนทำให้เขาปรับอารมณ์กลับมามั่นคงได้เหมือนเดิมในช่วงเวลาสั้นๆ เขาอยากใช้ประโยชน์จากแรงที่กระโจนเข้าใส่ โดยใช้ข้อศอกขวาตรงไปยังใบหน้าของเฉินตง และในเสี้ยววินาทีนั้นเขาจะหักข้อศอกแล้วโจมตีขมับของเฉินตงแรงๆ

นี่เป็นท่าไม้ตาย!

หากตรงเป้าเมื่อไหร่ กูหลังรับประกันได้เลยว่าเฉินตงไม่ตายก็ต้องพิการอย่างแน่นอน

ปัง!

เฉินตงยกมือซ้ายขึ้นบังข้อศอกของกูหลังด้วยความเร็วแสง

การจู่โจมที่ทรงพลัง ถึงแม้จะสามารถกดมือที่บังอยู่ของเขาจนโดนหัวในที่สุด แต่ก็สามารถลดแรงกระแทกที่อาจถึงตายได้ให้น้อยลงไปมาก

“หลบได้อีกแล้วเหรอ?”

ในใจกูหลังเกิดคลื่นยักษ์ที่โหมกระหน่ำขึ้นมา

เขาไม่เคยเห็นเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมจะปรับตัวได้เร็วหลังจากเข้ามาอยู่ในกรงเหล็กนี้แล้วเลย!

เพียงแต่ระยะเวลาตกตะลึงตาค้างเท่านั้น

เสียงอันเยือกเย็นก็ดังขึ้นข้างหูกะทันหัน

“ท่าเดียวก็เพียงพอแล้ว”

เฉินตงโค้งตัวลง ประดุจดั่งเสือที่รอคอยสถานการณ์เอื้ออำนวยอยู่เสียอย่างนั้น เขากำหมัดมือซ้าย ใช้แรงโน้มถ่วงจากการโค้งตัวของเอว

ปัง!

หมัดเดียวก็โดนรักแร้ด้านซ้ายของกูหลังเข้าอย่างจัง

“อา!”

กูหลังร้องอย่างอนาถ โดนชกจนลอยออกไปแล้วตกลงสู่พื้นทันที

ความเจ็บปวดมากมาย ความรู้สึกชาบริเวณรักแร้ที่คล้ายกับจะเป็นอัมพาตได้เลย ทำให้เขาหน้าซีดเผือดเกือบจะยืนขึ้นมาไม่ได้

สนามที่เต็มไปด้วยเสียงตะโกนร้องเชียร์ก็เงียบกริบทันควัน

บรรดาผู้ชมในความมืด ต่างเบิกตากลมโตมองดูภาพในกรงเหล็กที่ไม่อยากจะเชื่อสายตา

นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

มีเพียงคุนหลุนที่อยู่ในความมืด หลังจากการตื่นตระหนกผ่านไปก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “คุณชายออมมือให้ด้วยเหรอ?”

ทักษะการต่อสู้ก็คือทักษะที่ใช้ฆ่าคน นี่เป็นบทสรุปที่เขาได้รับในช่วงความเป็นความตาย

ความอยู่รอดภายในกรงเหล็กนั้นไม่ค่อยถูกคนเห็นความสำคัญเท่าไหร่นัก

ด้วยประสบการณ์ต่อสู้ของเขา หมัดเมื่อสักครู่ของเฉินตงมีไม่ต่ำกว่าสิบวิธีที่สามารถทำให้กูหลังอย่างเขาต้องตายหรือไม่ก็พิการ

แต่เฉินตงกลับชกที่รักแร้ของกูหลัง

เช่นนี้จะทำให้อีกฝ่ายสูญเสียพลังการต่อสู้ไปชั่วคราว แต่ไม่ได้ทำร้ายจุดสำคัญของร่างกายเลย

ภายในกรงเหล็ก

เฉินตงเดินเข้าไปหากูหลัง

กูหลังลุกขึ้นยืนแล้ว ความเจ็บปวดมหาศาลทำให้เขาสีหน้าซีดเซียว ส่วนมือซ้ายก็ห้อยลงไม่อาจยกขึ้นมาได้ในเวลาอันสั้นๆนี้

การปะทะครั้งนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว

การต่อสู้ถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย มือข้างหนึ่งสูญเสียพลังการต่อสู้ จากนี้ก็ต้องเกิดการนองเลือดดั่งภูเขาหิมะระเบิดแน่นอน

“คุณแพ้แล้ว”

เฉินตงมองกูหลังอย่างสงบเงียบ

“คุณไม่ชกต่อ?”

กูหลังมึนไปหมด เขาทำใจเตรียมไปนอนอยู่คลองเลือดบนพื้นแล้ว

ต่อสู้ในกรงเหล็กมาหลายปี รู้ว่าที่นี่ก็เหมือนกับการประชันกันของเหล่าสัตว์ป่าที่ดุร้าย เขาเข้าใจกฎข้อนี้ดี

หยุดเมื่อเหมาะสมนั้นไม่เคยมีมาก่อนเลย

อย่างสภาพเขาในตอนนี้ หากเป็นคู่ต่อสู้อื่นก็ต้องอัดเขาอย่างไร้ปรานี เพื่อแสดงโชว์เลือดสดให้ผู้ชมสำราญใจ

สีหน้าเฉินตงเรียบเฉยโดยไม่พูดอะไร

กูหลังไม่เข้าใจ ผู้สวมหน้ากากตรงหน้าให้ความรู้สึกเขาที่ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง

มีความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยุดเมื่อสู้กันจนเห็นผลแพ้ชนะ

ทำให้เขาก็ปริปากพูด“คุณสามารถชกผมต่อไปได้ คุณหักแขนผมทิ้งหนึ่งข้าง หรือกระทืบผมให้นอนอยู่บนกองเลือด อีกทั้งตีผมให้ตายก็ยังได้ เพราะอำนาจของโรงยิมชกมวยใต้ดินแห่งนี้ พวกเราสามารถคลี่คลายกับตำรวจได้ แล้วทำไมไม่ชกต่อล่ะ?”

“ผมแค่อยากหาประสบการณ์ต่อสู้ ทำไมต้องโหดร้ายอย่างนี้ด้วย?”เฉินตงพูดด้วยรอยยิ้ม“ความรู้สึกชกมวยครั้งแรกไม่เลวเลยขอบคุณคุณมาก”

ขอบคุณ?

ครั้งแรก?

กูหลังตกตะลึง

มองนัยน์ตาผ่านหน้ากากเขาเหมือนจะเห็นแววตายิ้มของอีกฝ่ายได้

ผ่านไปเป็นเวลาเนิ่นนาน

กูหลังก้มหน้าลง“ขอบคุณคุณมาก”

เขารู้ดีว่าหากเฉินตงไม่รั้งมือก็จะเป็นดั่งที่เฉินตงพูด“ท่าเดียวก็เกินพอแล้ว”ซึ่งก็คือเขาจะต้องเจอจุดจบที่น่าสะพรึงกลัวเพียงหมัดเดียว

“ไปแล้ว”

เฉินตงโบกมือบอกให้กรรมการเปิดกรงเหล็กออก

เขามีประสบการณ์ต่อสู้ครั้งแรกแล้ว เขารู้ว่าควรใช้กระบวนท่าไหนต่อสู้

ต่อจากนี้ไป เขาเพียงแค่สั่งสมประสบการณ์ต่อสู้อย่างนี้ก็พอแล้ว

ส่วนตอนนี้ไม่ควรอยู่ในบรรยากาศที่เงียบงันเช่นนี้

เพราะผู้ชมอย่างน้อยร้อยละเก้าสิบต้องเสียเงินจากการแทงพนัน

เขารีบไปจากที่นี่ เพื่อจะได้ให้ผู้ชมมีเวลาทำใจบ้าง

“คุณชื่ออะไร?”

ด้านหลังมีเสียงของกูหลังส่งมา

เฉินตงไม่ได้หยุดเดิน ยกมือซ้ายขึ้นโบกไปมา

กูหลังยืนอยู่กับที่ด้วยใบหน้าแปลกประหลาด สุดท้ายก็เผยรอยยิ้มขึ้นมา

ออกจากโรงยิมชกมวยอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน

“คุนหลุน เมื่อกี้ผมสู้เป็นยังไงบ้าง?”เฉินตงถามความคิดเห็นของคุนหลุน

ดวงตาคุนหลุนเป็นประกายแวบหนึ่ง กล่าวว่า“ยัง ยังใช้ได้มั้ง”

เฉินตงพยักหน้า มือซ้ายลูบคางของตน“อืม ผมก็รู้สึกว่าการตอบสนองช้าไป ตอนเริ่มแรกปรับอารมณ์ไม่ทันถูกกูหลังชกไปสองครั้งถ้าไม่ใช่เขาประมาทเลินเล่อ ผมไม่มีโอกาสเอาคืนเลย”

คุนหลุนมองทิวทัศน์ยามค่ำผ่านกระจกรถ ทันใดนั้นไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี

คุณชาย……ตั้งใจเกินไปไม่ดีนะ

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset