Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 48 นัดเจอกัน

บทที่ 48 นัดเจอกัน

เมื่อกลับมาถึงบ้านเฉินตงก็ไม่ได้พักผ่อน แต่พาคุนหลุนมาที่สวนสาธารณะเล็กๆใกล้บ้านเพื่อฝึกซ้อมอย่างหนักและโหดเหี้ยมต่อ

การต่อสู้สนามจริงครั้งแรกทำให้เขามีประสบการณ์มากขึ้น และรู้จุดอ่อนของตัวเองด้วย

เฉินตงไม่ใช่คนที่จะอยู่ที่เดิม ไม่พากเพียรพยายามให้ก้าวหน้าต่อไป

ตั้งแต่เด็ก เขาโดนเรียกว่า ลูกสวะ แต่ก็ค่อยๆปืนไต่มาจนถึงวันนี้

เขารู้ว่ามีเพียงมานะให้มากขึ้น ถึงจะได้สิ่งที่เพิ่มขึ้น

เขาอยากเอาชนะเฉินเทียนหย่างก็ต้องขยันกว่าเฉินเทียนหย่างร้อยเท่าพันเท่า

แม้กระทั่งไม่คำนึกถึงชีวิต

ความยอดเยี่ยมมีไว้สำหรับคนมานะพยายาม ไม่เคยเข้าข้างใคร รวมทั้งผู้มีพรสวรรค์ด้วย

ในเวลาเดียวกัน

โรงแรมไท่ติ่ง ภายในห้องวีไอพี

เฉินเทียนหย่างจ้องมองจางเห้อหมิงอย่างโหดร้าย ไม่ได้พูดอะไร

อากาศภายในห้องราวกับต่ำลงยังไงอย่างนั้น

จางเห้อหมิงหัวหดรู้สึกหวาดกลัว ยืนอยู่กับที่ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่นิดเดียว

กู้ชิงหยิ่งแอบแก้ประกาศทางเว็บไซด์บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ ทำให้เฉินตงมีทางรอดต่อไปได้

เขาไม่อาจเปลี่ยนกลับมาได้ ฉะนั้นตอนนี้จึงได้แต่ปรากฏตัวที่นี่เพื่อเอาของมาคืนเฉินเทียนหย่าง

“คิก!”

เฉินเทียนหย่างหัวเราะเสียงเย็น จ้องมองบัตรเอทีเอ็มบนโต๊ะ“ประธานจางเอาเงินแล้วไม่ทำงาน ตอนนี้ยังเอาเงินมาคืนอีก คุณคิดจะล้อเล่นกับผมเหรอ?”

จางเห้อหมิงหน้าเปลี่ยนสี รีบอธิบาย“พี่เฉินครับ ผม ผมไม่ได้จงใจล้อคุณเล่นนะครับ ผมเองก็ถูกบังคับครับ ลูกสาวเจ้านายผมมาสานงานต่อที่บริษัท ผมเลยต้องกลายเป็นรองประธาน เธอเป็นคนเปลี่ยนประกาศเองครับ”

เขาไม่กล้าปกปิดแม้แต่น้อย

ในสายตาของเขาเฉินเทียนหย่างก็คือผู้ที่มีผ้าคลุมลี้ลับปกคลุมอยู่ร่างกาย

เขาไม่รู้ว่าเฉินเทียนหย่างมีอำนาจเพียงใด แต่เขาไม่กล้าขัดใจเขาเป็นแน่

“ลูกสาวเจ้านายคุณ?”

ความโหดร้ายในดวงตาของเฉินเทียนหย่างยิ่งรุนแรงมากขึ้น“จุดนี้ผมคาดไม่ถึงเลย”

ให้อภัยแล้ว?

จางเห้อหมิงแน่นหน้าอก แอบโล่งใจไปหนึ่งเปลาะ

จากนั้นก็มองไปยังที่นั่ง เขามาที่ห้องครึ่งชั่วโมงแล้ว ซึ่งเขาก็ได้แต่ยืนอยู่อย่างนั้นมาตลอดครึ่งชั่วโมง

“นั่งสิ”เฉินเทียนหย่างกล่าว

รอจางเห้อหมิงนั่งแล้ว เฉินเทียนหย่างถามต่อว่า“เจ้านายของคุณเป็นใครกันแน่?ลูกสาวเขามาก็ทำให้ประธานอย่างคุณขาดอำนาจไปเลย?”

“ผม ที่จริงผมก็เคยพบเจ้านายไม่กี่ครั้งเองครับ เขาทำธุรกิจใหญ่โต เขาอยากเก็บบริษัทวัสดุก่อสร้างไว้เป็นที่ระลึกถึงได้คงอยู่มาจนทุกวันนี้ เขาไม่ได้มาที่บริษัทเป็นประจำครับ”

จางเห้อหมิงยิ้มอย่างอึดอัด“กู้ชิงหยิ่งกับเฉินตงเป็นเพื่อนในสมัยเรียนมหาวิทยาลัยครับ คาดหวังเพื่อรักษามิตรภาพเอาไว้ จึงดื้อทำอย่างนี้ครับ”

เฉินเทียนหย่างยกคิ้ว“มีรูปถ่ายกู้ชิงหยิ่งไหม?”

จางเห้อหมิงหยุดชะงัก ลังเลไปสักพัก ก่อนที่ดวงตาจะหนักแน่นขึ้นมากะทันหัน“มีครับ”

พูดพลางล้วงมือถือออกมา จากนั้นก็หารูปถ่ายของกู้ชิงหยิ่งเจอ

ซึ่งเป็นรูปที่เขาแอบถ่ายตอนอยู่ที่บริษัท

เขาคิดอะไรไม่ดีไม่ร้ายกับกู้ชิงหยิ่ง ตอนนี้เขาก็เข้าใจว่าเฉินเทียนหย่างก็น่าจะคิดอยากได้ตัวเธอเช่นกัน

สาเหตุที่เขาเลือกอย่างหลัง เพราะเขาอยากใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดเฉินเทียนหย่าง

หากทำงานต่อที่ยิงลี่ มากสุดเขาก็ได้เป็นประธาน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เข้าร่วมงานวงการธุรกิจที่แท้จริงกับเจ้านาย

แต่การปรากฏตัวของเฉินเทียนหย่าง ทำให้เขามีความหวังเห็นหนทางที่เร็วกว่า

เมื่อเฉินเทียนหย่างเห็นรูปถ่ายกู้ชิงหยิ่งในมือถือ ถึงเขาจะเคยเห็นผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แต่ก็อดตาสว่างวับไม่ได้ ถูกความสวยดึงดูดเข้าแล้ว

เฉินเทียนหย่างพูดอย่างไม่รีรอ“ช่วยผมนัดเจอเธอหน่อย”

หางตาจางเห้อหมิงกระตุกสองครั้ง แต่ก็สงบลงอย่างรวดเร็ว พยักหน้า“ได้ครับผมจะพยายาม”

“ผมไม่ได้ให้คุณพยายามสุดความสามารถ แต่ต้องนัดให้ได้ต่างหาก!”

น้ำเสียงเฉินเทียนหย่างแน่วแน่ เอาบัตรเอทีเอ็มขึ้นมาโยนใส่ตัวจางเห้อหมิง“เงินของผมออกไปแล้ว ไม่คุ้นที่ต้องรับคืนมา”

พูดจบ เขาก็สะบัดมือให้จางเห้อหมิงออกไป

หลังจากเดินออกจากโรงแรม จางเห้อหมิงถึงได้ดึงสติกลับคืนมา

เดิมทีเขาอยากจะอยู่ที่บริษัทใช้หลักการเก๋งใกล้น้ำย่อมได้จันทร์ก่อน อยากมีช่วงเวลาดีๆกับกู้ชิงหยิ่งที่บริษัท

แต่ตอนนี้การตอบสนองของเฉินเทียนหย่างทำให้เขาจนปัญญา

ด้วยการมองคนของเขาที่มากประสบการณ์ ทำไมจะไม่เข้าใจความคิดของเฉินเทียนหย่าง?

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จางเห้อหมิงพูดเสียงต่ำ“ไม่อำมหิตเป็นเจ้าคนนายคนไม่ได้ กู้ชิงหยิ่งคุณอย่างโทษผมเลย!”

……

เช้าวันต่อมา

เมื่อกู้ชิงหยิ่งมาถึงบริษัท จางเห้อหมิงก็รีบเข้ามาหาที่ห้องทำงานส่วนตัวทันที

“ประธานกู้”

จางเห้อหมิงเรียกหนึ่งประโยค

กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้ว“มีเรื่องอะไร?”

เธอรู้สึกไม่ดีกับจางเห้อหมิงเลย โดยเฉพาะตอนที่จางเห้อหมิงผิดสัญญาไปต่อต้านไท่ติ่ง จางเห้อหมิงก็เหลือเพียงความขยะแขยงในใจเธอแล้ว

“คือว่าตอนกลางคืนมีเวลาว่างไหมครับ?”

จางเห้อหมิงลูบมือ“ผมอยากเชิญคุณทานข้าวครับ ถือเป็นการขอโทษครับ”

“อืม รู้แล้ว ฉันรับการขอโทษจากคุณ”กู้ชิงหยิ่งพลิกเอกสาร น้ำเสียงเย็นเหยียบ“แต่ว่าอาหารคืนนี้ก็ไม่ต้องแล้ว”

จางเห้อหมิงรู้สึกร้อนใจ กำลังจะเปิดปากพูด

กู้ชิงหยิ่งยกมือสะบัด“คุณออกไปก่อน ฉันยังต้องดูข้อมูลที่ขายวัสดุให้กับไท่ติ่ง”

ประโยคเดียวทำให้จางเห้อหมิงไม่อาจพูดต่อได้ ได้แต่ถอยออกไปในห้องทำงานอย่างเงียบๆ

กลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของตน สีหน้าจางเห้อหมิงก็เคร่งขรึมขึ้นขีดสุด

เคาะนิ้วเบาๆที่โต๊ะ เกิดเสียง“ตงตง”

ผ่านไปสักพัก ดวงตาของเขาก็หรี่ขึ้นมา พูดอย่างโหดร้ายว่า“จะบีบผมจริงๆใช่ไหม?”

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

เฉินตงกำลังยุ่งอยู่กับงานก็ได้รับข้อความวีแชทจากกู้ชิงหยิ่ง

“คุณเฉิน กลางคืนมีเวลาว่างไหม?ไปทานข้าวด้วยกัน”

“ครับ”

เฉินตงตอบกะทัดรัดหนึ่งตัว เผยรอยยิ้มออกมา

กำลังจะวางมือถือลง วีแชทก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เห็นเจ้าของข้อความวีแชท เฉินตงขมวดคิ้วรู้สึกรำคาญเล็กน้อย

หวางหนันหนันเป็นคนส่งข้อความมาหา

เนื้อหาง่ายมาก ฉันอยากคุยกับคุณ

เฉินตงไม่ได้แยแส เขาไม่มีอะไรจะคุยกับหวางหนันหนันแล้ว

ทุกอย่างจบลงแล้ว

มีความจำเป็นต้องอธิบายให้หวางหนันหนันเข้าใจเรื่องระหว่างเขากับกู้ชิงหยิ่งไหม?

ไม่รอให้เขาวางมือถือลง วีแชทก็มีข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาติดต่อกันสองครั้ง

ข้อความที่หนึ่งมาจากหวางหนันหนัน

“ถ้าไม่คุยกับฉัน ฉันจะไปหาคุณที่บริษัท!”

เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้กำลังข่มขู่อยู่

แต่บ้านตระกูลหวางน่าจะยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากลายเป็นเจ้าของไท่ติ่งแล้ว

คำพูดของหวางหนันหนันนี้ เห็นได้ชัดว่ายังคิดว่าเขาเป็นรองประธานที่ไท่ติ่งอยู่ จะมาโวยวายให้เกิดความชุลมุนขึ้นที่บริษัท

ส่วนอีกข้อความมาจากหลินเสว่เอ๋อ

“คุณเฉินค่ะ คืนนี้มาทานข้าวที่บ้านฉันได้ไหมคะ?”

เฉินตงนวดจมูกอย่างช่วยไม่ได้ ดวงตาหมุนไปมา

ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมา

จากนั้นก็ตอบข้อความวีแชทให้หวางหนันหนัน

“ได้สิ คืนนี้เจอกันที่ท่าเรือตู้หยู”

จากนั้นเขาก็ตอบข้อความของหลินเสว่เอ๋อต่อ

“ได้สิ แต่ไม่ไปที่บ้านคุณนะ ผมเชิญคุณไปที่ท่าเรือตู้หยู”

วางมือถือลง เฉินตงหัวเราะอย่างพึงพอใจ

ท่าเรือตู้หยูถือเป็นร้านอาหารชั้นเยี่ยมร้านหนึ่ง ดูทิวทัศน์ยามราตรีข้างแม่น้ำ เป็นจุดนัดพบของหนุ่มสาวมากมาย

เพียงแต่ไม่รู้ว่าพี่สาวกับน้องสะใภ้คู่นี้เจอกันจะเป็นอย่างไร?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset