Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 49 แตะต้องผู้หญิงของผม ต้องตาย

บทที่ 49 แตะต้องผู้หญิงของผม ต้องตาย

ตอนพลบค่ำ

เฉินตงเลิกงานก่อนเวลา

กลางคืนต้องไปกินข้าวกับกู้ชิงหยิ่ง เขาคิดว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเขานัดดินเนอร์กัน ต้องตั้งใจหน่อย

กู้ชิงหยิ่งไม่ติดใจอดีตของเขา เขายิ่งไม่มีเหตุผลผลักกู้ชิงหยิ่งให้ห่างออกไป

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ คนเราก็เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

ไม่ใช่ถูกทำร้ายมาก็เก็บตัวปฏิเสธทุกอย่างไป

สำหรับการนัดดินเนอร์ครั้งแรกกู้ชิงหยิ่งก็ตั้งใจมากอย่างเห็นได้ชัด

เธอสะสางงานให้เรียบร้อยแต่เช้า ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเพื่อแต่งหน้าแต่งตา

แต่เธอไม่รู้ว่าตอนเธอออกจากห้องทำงานแล้ว จางเห้อหมิงแอบย่องเข้ามาเงียบๆ

เขามองดูด้านหลังด้วยความระมัดระวัง จากนั้นจางเห้อหมิงก็เอายาออกมาจากกระเป๋ากางเกงหนึ่งขวดเล็กแล้วนำยาสองเม็ดลงไปในแก้วของกู้ชิงหยิ่ง

ยาชนิดนี้เขามีช่องทางซื้อมาจากการไปเที่ยวสังสรรค์ในบาร์ต่างๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

หลังจากที่มียาตัวนี้ ผู้หญิงที่ต้องตาเขาในบาร์ เขาก็จัดการอยู่หมัดทุกราย

ยาจำนวนสองเม็ดเพียงพอให้คนไร้เรี่ยวแรง ขาดการรับรู้ไปจนถึงเช้าของอีกวัน

เขย่าแก้วน้ำอย่างละเอียดรอบคอบ แน่ใจว่ายาละลายหมดแล้ว ดวงตาของจางเห้อหมิงก็เกิดแสงเย็นระยิบระยับ

“กู้ชิงหยิ่ง อย่าโทษผมเลย”

พูดจบเขาก็หันหลังออกจากห้องทำงานไปอย่างเงียบๆ

หลังจากที่กู้ชิงหยิ่งกลับเข้ามาที่ห้องทำงานก็ไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ

เธอมองดูเวลารู้สึกว่ายังเช้าอยู่ จึงยกแก้วขึ้นมาดื่มน้ำพลันอ่านข้อมูลไปด้วย

ไม่นานความรู้สึกเวียนหัวก็ถาโถมเข้าหา

“เหนื่อยเกินไปหรือ?”

กู้ชิงหยิ่งกดขมับอย่างสงสัย

ช่วงนี้เธอทำงานหนักไป เพราะจะช่วยเหลือไท่ติ่งเธอคิดสรรหาสารพัดวิธีเพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางของยิงลี่

แต่หลังจากพักผ่อนมาได้สักพัก ความรู้สึกมึนเวียนไม่ได้คลายลด แต่กลับแรงมากขึ้นกว่าเก่าเสียอีก

จากนั้นเธอก็รู้สึกล้าและอ่อนไปทั้งตัว เหมือนค่อยๆถูกดูดพลังงานไปจนเกือบหมด

กู้ชิงหยิ่งเอามือถือออกมา วีแชทหาเฉินตง“เฉินตง ฉัน……ฉันรู้สึกเหนื่อยกะทันหัน”

ติ๊ง!

เฉินตงตอบ:คุณอยู่ไหน?ผมเตรียมตัวเสร็จแล้ว ไปรับคุณได้

กู้ชิงหยิ่งยิ้มแย้ม

ไอ้คนบ้างานยังรู้จักเตรียมตัวมารับฉันด้วยเหรอ?

ไม่มีรถสักคัน ควรจะเป็นฉันที่เป็นฝ่ายไปรับคุณมากกว่า

แต่เธอตอบหนึ่งข้อความว่า“ฉันอยู่ที่บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ค่ะ”

ดินเนอร์ครั้งแรก เฉินตงให้ความสำคัญกับครั้งนี้มากๆอย่างเห็นได้ชัด

ผู้ชายไปรับผู้หญิงถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผล

เธอไม่มีทางไปทำร้ายศักดิ์ศรีของเฉินตงเพราะเขาไม่มีรถหรอก

หลังจากที่เธอส่งข้อความเสร็จ

เอี๊ยะ……

ประตูห้องทำงานถูกจางเห้อหมิงเปิดออก

จางเห้อหมิงเดินเข้าไปด้านหน้ากู้ชิงหยิ่งด้วยรอยยิ้ม“ประธานกู้ ยังไม่เลิกงานเหรอครับ?”

“ไม่ ไม่มีอะไร……ก็รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ต้องพักแป๊บหนึ่ง”

กู้ชิงหยิ่งยกมือขึ้นมาโบก ความเหนื่อยล้าตัวอ่อน เวียนศีรษะยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้น

“พนักงานเลิกงานกันหมดแล้ว เหลือเพียงคุณกับผมเอง”

จางเห้อหมิงแย้มยิ้ม“หรือให้ผมไปส่งคุณดีไหม?”

พูดจบ เขาไม่สนว่ากู้ชิงหยิ่งจะตกลงไหม เขาก็เข้าไปประคองกู้ชิงหยิ่งขึ้นมา จับไหล่ของกู้ชิงหยิ่งแล้วเดินออกไปด้านนอก

กู้ชิงหยิ่งอยากจะคัดค้าน แต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงเอาเสียเลย ถูกพยุงขึ้นมาแล้วเกือบเซตัวไปอยู่ในอ้อนกอดของจางเห้อหมิงด้วยซ้ำ

ได้กลิ่นที่ลอยมาจากลม จางเห้อหมิงก็เกิดอาการฟุ้งซ่านมองดูกู้ชิงหยิ่งอย่างหดหู่ใจ

หน้าตาสวยงามเพียงนี้ เดิมทีควรจะเป็นเขาที่ได้เชยชม

ตอนนี้ต้องสละมอบให้กับเฉินเทียนหย่างซะแล้ว

“คุณ……ปล่อยฉัน”

คำพูดของกู้ชิงหยิ่งทำให้ความคิดของจางเห้อหมิงมลายหายไปทันที

สีหน้าเขาดุร้ายขึ้นมา ไม่ได้สนใจกับคำพูดของเธอเลยสักนิด ประคองกู้ชิงหยิ่งเดินออกไปด้านนอกต่อ

กู้ชิงหยิ่งไม่ได้โง่ แต่เธอกลับเป็นคนฉลาด ไม่ใช่ทายาทใสซื่อแอ๊บแบ๋วอะไรทั้งนั้น

เห็นได้ชัดว่าอาการของร่างกายตอนนี้ไม่ได้เกิดจากความเพลียใดๆ

ถูกวางกลชัดๆ!

จางเห้อหมิงไม่สนใจไยดีทำให้เธอรู้สึกว้าวุ่นใจและหวาดกลัวเหลือเกิน โชคดีที่มือถือยังมีหน้าที่คุยสนทนากับเฉินตงอยู่

เธอวิดีโอคอลหาเฉินตงอย่างไร้เรี่ยวแรง……

เฉินตงเดินออกจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

เห็นกู้ชิงหยิ่งตอบกลับมา รู้สึกประหลาดใจ“ทำไมยัยคนนี้ถึงอยู่ที่บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ได้?”

ไม่รอให้เขาวิเคราะห์ให้เข้าใจ วิดีโอคอลก็เข้ามา

เขาเปิดออกมาดู

ทันใดนั้นปรากฏภาพมัวๆเลือนรางและขยับเคลื่อนไหวไปมาอยู่หน้าจอมือถือ

สีหน้าเฉินตงเคร่งขรึมขึ้นมา

เขาไม่ได้พูดทันที แต่ขมวดคิ้วจ้องมองดูภาพ

เห็นได้ชัดว่ากู้ชิงหยิ่งกำลังเคลื่อนที่อยู่ และยังมีอิริยาบถที่แปลกประหลาดอีกด้วย เห็นมีคนกำลังพยุงเธอเลือนรางแล้วเดินออกไปด้านนอก

เกิดเรื่องขึ้นแล้ว!

สมองของเฉินตงเกิดเสียง“โครม”ขึ้นมา

เขารีบขวางแท็กซี่คันหนึ่ง แล้วปรับมือถือเป็นเสียงมือถือให้เงียบ เกือบพูดกับคนขับรถแท็กซี่ด้วยการตะคอก “เร็ว!บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่!รีบไปที่บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่เดี๋ยวนี้!”

คนขับรถแท็กซี่สะดุ้งตกใจกลัว รีบขับรถออกไป

ปัง!

เฉินตงนำเงินในกระเป๋าจำนวนหนึ่งพันกว่าหยวนตบที่เก้าอี้คนขับ

“เร็วหน่อย เร็วหน่อยสิ ผมจะไปช่วยคน!”

“โอ้โห!”

สีหน้าคนขับรถแท็กซี่เปลี่ยนรีบเหยียบคันเร่งให้ถึงที่สุด และพุ่งทะยานออกไป

เฉินตงนั่งอยู่ด้านข้างคนขับ สองมือจับมือถือไว้แน่น จากนั้นก็จับจ้องอยู่ที่วีดีไอคอล

ถึงแม้เขาจะปิดเสียง แต่เขาสามารถได้ยินเสียงของอีกฝั่ง มีแต่อีกฝั่งไม่ได้ยินเสียงของเขาเฉยๆ

สองมือของเขาสั่นเทา หายใจเร็วหอบ

ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ!

ไม่เช่นนั้นกู้ชิงหยิ่งคงไม่ส่งวิดีโอคอลอย่างนี้มาหรอก

เขาไม่รู้ว่าทำไมกู้ชิงหยิ่งถึงอยู่ที่บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกู้ชิงหยิ่ง

แต่สิ่งสำคัญในตอนนี้ก็คือเขาต้องรีบไปหากู้ชิงหยิ่ง

ขัดขวางไม่ให้เกิดอันตรายอะไรขึ้น

“คุณ คุณส่งฉันไปไหน?”

ในวีดีโอคอลมีเสียงของกู้ชิงหยิ่งที่มีลมหายใจแต่ไร้เรี่ยวแรงดังขึ้น

มันทำให้หัวใจของเฉินตงทะลักมาถึงลำคอ

“โรงแรมไท่ซาน”

เสียงของจางเห้อหมิงดังขึ้น

ชั่วขณะนั้นดวงตาเฉินตงเกือบถลึงออกมา แววตาราวกับจะกินคน

เขาฟังเสียงของจางเห้อหมิงออก ได้ยินคำว่า“โรงแรมไท่ซาน”เขายิ่งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว

“แตะต้องผู้หญิงของกู แม่ง หาที่ตายชัดๆ!”

เปล่งเสียงออกมาตามระหว่างฟัน คนขับรถด้านข้างถึงกลับขนลุกฟูกันเลยทีเดียว

คนขับรถอยากจะปลอบใจเฉินตง แต่เหลือบมองวิดีโอคอลสักครู่ แล้วมองสีหน้าของเฉินตง

คนขับรถจึงทิ้งความคิดออกไป แล้วขับให้เร็วขึ้นกว่าเดิม

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงของตนถูกทำร้ายเด็ดขาด!

ปัง!

อีกฝั่งเกิดเสียงขึ้นกะทันหัน จากนั้นก็เห็นภาพเพดานในวีดีโอคอล

เห็นได้ชัดว่ามือถือตกแล้ว

สีหน้าเฉินตงเคร่งขรึม“โชเฟอร์รีบขับไปที่โรงแรมไท่ซานด่วน”

เห็นได้ชัดว่าเวลานี้ไม่อาจขัดขวางที่หน้าบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ได้แล้ว

แต่รีบไปที่โรงแรมไท่ซานก็ยังมีโอกาสช่วยกู้ชิงหยิ่งได้สูง

ระหว่างทางเฉินตงหายใจเร็ว นัยน์ตามีความเย็นแผ่ซ่านออกมาราวกับสัตว์ร้ายจะกัดกินคน

มือถือถูกเขาบีบจนเกิดเสียงกรอบแกะ

แต่สติปัญญาที่เหลืออยู่ทำให้เขาแจ้งไปบอกคุนหลุนด้วย

มีคุนหลุนอยู่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องชกต่อยอีกต่อไป!

ในที่สุดโรงแรมไท่ซานก็ปรากฏสู่สายตา

เกิดเสียงดังเอี๊ยด!

ท้ายรถแท็กซี่หมุนหนึ่งครั้ง ก่อนที่จึงจอดตรงหน้าประตูโรงแรมไท่ซาน

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset