Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 53 คำอธิบายแบบขอไปที

บทที่ 53 คำอธิบายแบบขอไปที

หวางเห้าขยี้ตาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา

หลินเสว่เอ๋อทำไมถึงเข้าไปห้องคนไข้ของไอ้แม่ผีทะเลของเฉินตง?

ในตอนนี้ เขารู้สึกมึนงงไปหมดแล้ว

ค่อยๆเดินไปที่ห้องคนไข้ทีละก้าวๆ

และในห้องคนไข้นั้น

เห็นหลินเสว่เอ๋อและหลี่หลานยิ้มกันอย่างเป็นมิตร และให้ฟ่านลู่มาดูแลหลินเสว่เอ๋อ

ไม่เหมือนกับตอนที่อยู่ในห้องจางซิ่วจือเมื่อกี้

หลินเสว่เอ๋อในตอนนี้เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มและถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับหลี่หลานไม่หยุด ถึงขนาดที่ว่าปอกแอปเปิ้ลให้หลี่หลานด้วยตัวเอง

ลักษณะท่าทางก่อนหลังนี้ แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

หลินเสว่เอ๋อและหลี่หลานที่อยู่ในห้องคนไข้คุยเรื่องสัพเพเหระกันอย่างมีความสุข ไม่มีมองหน้ากันไม่ติดเลยแม้แต่น้อย

และนอกห้องคนไข้ หวางเห้าก็เห็นทุกอย่างในห้องผ่านกระจกบนประตูได้อย่างชัดเจน

สมองของเขาตอนนี้ส่งเสียงตุ้บๆไม่หยุด ยืนงงอยู่หน้าประตู

ถึงขั้นที่ว่าไม่มีความคิดอะไรผุดขึ้นมาเลย ราวกับคอมพิวเตอร์ค้างยังไงอย่างงั้น

สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทั้งหมดนี้ทำให้เขาไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย

เขายังไงก็คิดไม่ถึงว่าหลินเสว่เอ๋อที่ตอนอยู่ต่อหน้าเขาและครอบครัวเขาเป็นเทพธิดาเย็นชา แต่พออยู่กับไอ้แม่ผีทะเลของเฉินตงกลับอ่อนโยนได้ขนาดนี้

และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ หลินเสว่เอ๋อทำไมถึงรู้จักหลี่หลาน?

เวลาค่อยๆผ่านไป

คนในทางเดินมองหวางเห้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลายใจ

แต่หวางเห้าไม่มีจิตใจไปสนเรื่องอื่น ความสนใจทั้งหมดอยู่ในห้องคนไข้หมดแล้ว

และเป็นแบบนี้อยู่ครึ่งชั่วโมง

ในที่สุดหลินเสว่เอ๋อก็ลุกขึ้นและเดินออกมา พอเธอเปิดประตูห้องคนไข้ก็เห็นหวางเห้าที่ยืนงงอยู่ รอยยิ้มบนหน้าเธอเลือนหายไปทันที

หลังจากที่ตื่นตระหนกอยู่สักพัก หลินเสว่เอ๋อก็ตั้งสติกลับมาเหมือนเดิมและถามเสียงเย็นชาว่า

“ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่?”

หัวใจของหวางเห้าสั่นไหวชั่วขณะ รีบตั้งสติกลับอย่างรวดเร็ว แล้วความรู้สึกโกรธก็ทะลักพรั่งพรูออกมา

“ฉัน……”

ยังไม่ทันรอเขาตะโกนออกมา สีหน้าของหลินเสว่เอ๋อก็เย็นเยือกขึ้นมาทันที “นายอย่าไปรบกวนคุณน้าพักผ่อน ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

พูดจบ เธอก็หันหลังเดินจากไป

หวางเห้ารู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที รีบวิ่งไปตามหลินเสว่เอ๋อ “เสว่เอ๋อ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เธอจะไม่อธิบายกับฉันหน่อยเหรอ?”

“อธิบายอะไร?” หลินเสว่เอ๋อมองหวางเห้าอย่างเอือมระอา เธอไม่เคยมีนิสัยที่ต้องอธิบายกับหวางเห้ามาก่อน

โดยเฉพาะกับเรื่องเมื่อกี้ ดันซวยถูกหวางเห้าจับได้ซะอีก เธอเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง

“ยายแก่ผีทะเลในห้องคนไข้นั่น ทำไมเธอถึงไปเยี่ยมมัน?”

หวางเห้าโกรธจนตาโตเบิกกว้าง เหมือนกับสิงโตตัวผู้ที่กำลังโกรธจัด

“หวางเห้า นายพอได้แล้ว! นายพ่อแม่ไม่สั่งสอนเหรอ อะไรคือยายแก่ผีทะเล?”

หลินเสว่เอ๋อตวาด “น้ายังไงก็เป็นแม่ของอดีตสามีพี่สาวนาย ฉันไปเยี่ยมน้าหน่อยจะเป็นไรไป? เพราะว่าเรื่องของเราสองคนทำให้พี่เขยนายต้องหย่ากับพี่สาวนาย ฉันไปเยี่ยมเพราะรู้สึกผิด นายยังจะมาทำเป็นมีเหตุอีกเหรอ?”

หวางเห้าชะงัก

เป็นอย่างนี้จริงๆเหรอ?

ยังไม่รอให้เขาได้ตั้งสติ หลินเสว่เอ๋อก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและกอดเขาไว้ แล้วเขย่งเท้าเอาปากแตะขอบปากเขาเบาๆและพูดเสียงอ่อนโยน “เอาน่า ไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอก ฉันแค่ไปเยี่ยมเพราะรู้สึกผิดจริงๆ นายกลับไปดูแลแม่นายให้ดีเถอะ แล้วไปรวบรวมค่าสินสอดมาให้ครบ เราสองคนก็จะได้แต่งงานกัน”

“จริงเหรอ?”

หวางเห้าดีใจขึ้นมาทันที “เธอ เรื่องครั้งนั้นเธอไม่โทษพวกเราแล้วเหรอ?”

“ตาบ้า จะโทษพวกนายได้ยังไงล่ะ?” หลินเสว่เอ๋อตำหนิแล้วทำท่าสะบัดมือ “เอาล่ะ ฉันกลับไปทำงานก่อนนะ นายอย่าคิดมาก”

มองแผ่นหลังของหลินเสว่เอ๋อ หวางเห้ายืนอึ้งอยู่กับที่ด้วยความตกใจและดีใจ

เขารู้สึกโกรธเรื่องที่หลินเสว่เอ๋อไปเยี่ยมแม่ของเฉินตงจริงๆ

แต่ในใจเขา หลินเสว่เอ๋อที่มีวุฒิการศึกษาสูง ในด้านการวางตัวและการจัดการเรื่องราวนั้นก็จัดการได้ละเอียดรอบคอบและทะลุปรุโปร่งมากกว่าเขาจริงๆ ที่สำคัญกว่านั้นคือ หลินเสว่เอ๋อก็มีจิตใจดีอีกด้วย

เพราะฉะนั้น คำอธิบายแบบขอไปทีของหลินเสว่เอ๋อเมื่อกี้ สำหรับเขาแล้วก็ถือว่าอธิบายเหตุการณ์เมื่อกี้ได้ดีมากแล้ว

หลังจากที่เลิกสงสัยแล้ว ในใจของหวางเห้าก็เหลือแต่ความดีใจและความตื่นเต้น

หลังจากงานหมั้น หลินเสว่เอ๋อก็ไม่เจอเขาอีกเลย เขารู้ว่าหลินเสว่เอ๋อโกรธ ถึงขั้นที่กลัวว่าจะต้องเลิกกับหลินเสว่เอ๋อด้วยซ้ำ

แต่วันนี้ หลินเสว่เอ๋อมาเยี่ยมคุณแม่ และจากคำพูดเมื่อกี้ก็บ่งบอกชัดว่าไม่โกรธแล้ว พวกเขายังมีความเป็นไปได้กันอยู่!

“เสว่เอ๋อ เธอวางใจได้เลย ฉันจะให้พ่อแม่ฉันและพี่สาวรีบรวบรวมเงินให้ครบเพื่อจะได้แต่งงานกับเธอ”

หวางเห้ากำหมัดแน่นด้วยสายตาที่มุ่งมั่น

เมื่อหวางเห้ากลับถึงห้องคนไข้อย่างดีอกดีใจ หวางเต๋อและจางซิ่วจือก็ตกตะลึง

กี่วันมานี้ พวกเขาสองคนไม่เห็นหวางเห้าดีใจขนาดนี้มาก่อน

“เสี่ยวเห้า มีเรื่องอะไรที่น่าดีใจเหรอ?” จางซิ่วจือเริ่มถามก่อนเลย

หวางเห้ายิ้มบอก “พ่อครับแม่ครับ เสว่เอ๋อไม่โกรธแล้ว เมื่อกี้เธอยังบอกผมว่า ขอแค่พวกเรารวบรวมเงินมาให้ครบก็แต่งงานกันได้เลย”

“งั้นก็ดี งั้นก็ดีเลย” หวางเต๋อประสานมือเข้าด้วยกันอย่างตื่นเต้น

ส่วนจางซิ่วจือแสดงท่าทีว่าคิดเอาไว้ไม่ผิดและยิ้มออกมาอย่างได้ใจ “เสว่เอ๋อเด็กคนนี้น่ะ ทั้งสวยทั้งจิตใจดี การศึกษาก็สูง แม่รู้อยู่แล้วว่าเธอต้องไม่ถือสาแน่นอน เสี่ยวเห้า แกต้องไม่ทำให้คนเขาผิดหวังนะ”

“มันแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมชีวิตนี้นอกจากเสว่เอ๋อแล้ว ใครก็ไม่แต่ง”

หวางเห้ากำหมัดแน่นและสายตาแน่วแน่ แต่สีหน้าจู่ๆก็หม่นหมองขึ้นมา “แต่ว่า พ่อครับแม่ครับ เงินสินสอดนี้เมื่อไหร่ถึงจะครบล่ะครับ?”

ได้ยินที่พูด

หวางเต๋อและจางซิ่วจือก็ชะงักพร้อมกัน

ทั้งสองสบตากัน จางซิ่วจือโกรธจนกัดฟันแน่น “ต้องโทษพี่สาวนาย ยัยนั่นทำเรื่องพัง เรื่องนี้ต้องให้มันไปหาวิธีจัดการเอง”

“กดดันลูกสาวแบบนี้ไม่เหมาะสมหรือเปล่า?” หวางเต๋อลังเลเล็กน้อย

“มีปัญญาคุณก็ไปหาเงินมาให้ได้สิ? คุณมันก็แค่คนสอนหนังสือโง่ๆ ยืมคนไปทั่วแต่ก็ยังรวบรวมไม่พอไม่ใช่หรือไง?”

จางซิ่วจือมองค้อนใส่หวางเต๋อ คิดแล้วก็ตัดสินใจว่า “รอให้แม่ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็จะหาคนรวยๆให้ยัยนั่นแต่งงานกับเขาแล้วขอสินสอดมาเยอะๆ แบบนี้เสี่ยวเห้าก็จะมีเงินแต่งงานแล้ว”

“ฮ่าๆๆ……ขอบคุณครับแม่” หวางเห้ากอดจางซิ่วจืออย่างดีใจ

หวางเต๋อที่อยู่ข้างๆถอนหายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน

……

ฟ้าเริ่มมืดลง

เฉินตงไม่อยากให้กู้ชิงหยิ่งอยู่ดูแลเขาอีกเพราะต้องมาลำบากทรมานด้วยกันกับเขา จึงให้กู้ชิงหยิ่งกลับบ้านไป

กู้ชิงหยิ่งตอนแรกก็ไม่ยอม แต่ก็รับมือกับท่าทีเด็ดขาดของเฉินตงไม่ไหว จึงได้แต่ลากร่างกายที่เหนื่อยล้านี้ออกจากโรงพยาบาล

รอให้กู้ชิงหยิ่งออกไปแล้ว

เฉินตงจึงขยับร่างกายสองสามทีแล้วเปลี่ยนท่าทีสบายกว่านี้

เพราะแผลบนหน้าอกจึงทำให้เขาตอนนี้ยังลุกขึ้นนั่งไม่ได้ ถูกกู้ชิงหยิ่งนอนทับแขนอยู่นาน หลังของเขาก็เกือบชาแล้ว

พอสบายขึ้นมาหน่อยแล้ว เฉินตงจึงถามออกไป “คุนหลุน จัดการกับเรื่องหลังจากนั้นยังไง?”

คุนหลุนพูด “จางเห้อหมิงถูกลงโทษตามกฎหมาย และโทษต้องไม่เบาแน่นอนครับ”

“นายรู้ว่าฉันไม่ได้หมายถึงเขา”

เฉินตงหัวเราะ ในสายตาเขา จางเห้อหมิงก็เป็นเพียงแค่ตัวตลกเท่านั้น

ก็แค่คนขี้ประจบคนหนึ่งที่คิดจะเอากู้ชิงหยิ่งไปเอาใจเฉินเทียนหย่าง

คุนหลุนแสดงสีหน้าจนใจเล็กน้อย “เฉินเทียนหย่างแค่ขาหักหนึ่งข้างและออกไปจากเมืองนี้แล้วครับ”

“แค่นี้เองเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นและหัวเราะเย็นชาหนึ่งที

“หลักฐานของเขาไม่พอที่จะให้ลงโทษตามกฎหมายได้ครับ”

คุนหลุนอ้ำอึ้งอยู่สักพักแล้วพูดออกมาด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้งว่า “คุณชายครับ ท่านคงไม่รู้อำนาจของตระกูลเฉินมากนัก พวกเราฆ่าเฉินเทียนหย่างไม่ได้ ถ้าฆ่าแล้ว แม้แต่คุณท่านก็ปกป้องพวกเราไม่ได้ครับ”

“แล้วเขาฆ่าฉันได้งั้นเหรอ?”

สีหน้าเฉินตงแสดงถึงความโกรธแค้น สายตาเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด หัวเราะเย้ยหยันหนึ่งที “เพราะฉันเป็นแค่ลูกสวะ ไม่มีสถานะที่จะทำได้สินะ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset