Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 57 วันที่15 มาถึง!

บทที่ 57 วันที่15 มาถึง!

หลายวันต่อจากนั้น

กำลังวังชาทั้งหมดของเฉินตงอยู่ที่การเตรียมการเปิดจองของอาคารชุดที่ภาคตะวันตกของเมืองทั้งหมด

เตรียมการมาหนึ่งเดือน เขาไม่ยอมให้ศึกนี้มีอะไรผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว

ตามกาลเวลาผ่านไป โปสเตอร์โฆษณาเกี่ยวกับการเปิดจองอาคารชุดของภาคตะวันตกของเมืองก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในถนนสายหลักและทุกซอยของเมืองนี้

และเมื่อตอนที่ผู้สูงอายุและวัยรุ่นคุยกัน หัวข้อสนทนาเกี่ยวกับอาคารชุดของภาคตะวันตกของเมืองก็เหมือนจะกลายเป็นหัวข้อหลักไปแล้ว

ราวกับว่าความสนใจของทั้งเมืองนี้อยู่ที่อาคารชุดของภาคตะวันตกของเมืองทั้งหมด

คนที่มีกำลังที่จะซื้อบ้าน พวกเขาล้วนคันไม้คันมืออยากจะลองดูกันทั้งนั้น

เพราะพวกเขารู้ว่าถ้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ของภาคตะวันตกของเมืองก่อนที่ยี่เคอจะเข้าตั้งที่นี่ พอยี่เคอเข้าตั้งแล้ว ราคาบ้านก็จะต้องสูงขึ้นแน่นอน

นี่เป็นโอกาสดีที่จะทำเงินได้

เรื่องทำเงิน ใครๆก็กระตือรือร้นกันทั้งนั้น

กระทั่งที่ว่ามีหลายคนใช้เส้นสายของตัวเองคิดที่จะทำการซื้อจากภายในอย่างเงียบๆ

เฉินตงทายไว้แต่แรกแล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

หมกมุ่นกับอสังหาริมทรัพย์สามปี เขารู้ดีว่าเรื่องทำการซื้อจากภายในมันหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่เขาไม่คิดจะขายห้องจากภายในออกไปมากนัก เพราะนี่เป็นศึกครั้งแรกของเขา เขาต้องการผลลัพธ์ที่สั่นสะท้านไปทั่วเมือง

ถ้าทำการซื้อขายห้องจากภายในมากเกินไปล่วงหน้า วันที่เปิดให้จองวันแรกวันนั้น อสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันตกของเมืองยังจะขายดีได้อย่างไร?

ถ้าเรื่องทำการซื้อขายจากภายในถูกเผยแพร่ออกไป ด้วยความคาดหวังของผู้คนที่มีต่ออสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันตกของเมืองในตอนนี้จะต้องส่งผลกระทบกับชื่อเสียงของไท่ติ่งเป็นแน่

เพราะฉะนั้น เขาจึงให้เสี่ยวหม่าคัดเลือกมาแค่ส่วนหนึ่ง นอกเหนือจากเด็กเส้นที่เส้นใหญ่เกินกว่าบริษัทพวกเขาจะปฏิเสธทำการซื้อขายจากภายในได้ ส่วนคนที่ต้องการทำการซื้อจากภายในที่เหลือ ปฏิเสธให้หมด

ข่าวไท่ติ่ง “ปฏิเสธการซื้อขายจากภายใน” เผยแพร่ออกไปในตัวเมืองอย่างรวดเร็ว

นี่ก็ทำให้ตัวเมืองคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง

ต้องรู้ว่าคนที่อยากซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ภาคตะวันตกของเมืองหาได้ถมเถไป เด็กเส้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่มากกว่าคือต้องแย่งด้วยตัวเอง

ไท่ติ่งปฏิเสธทำการซื้อขายจากภายใน บอกได้ชัดเจนแล้วว่าก็เพื่อต้องการให้ทุกคนแข่งซื้ออสังหาริมทรัพย์กันอย่างยุติธรรม

นี่มัน……เป็นบริษัทที่มีจิตสำนึก!

พอข่าวกระจายออกไป ทำให้พวกคนที่ต้องการซื้อห้องแต่ไม่มีเส้นสายตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก ยิ่งตั้งมั่นว่าจะต้องแย่งมาให้ได้หนึ่งห้องในการซื้อห้องครั้งนี้ให้ได้

ส่วนพวกเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนกับบรรยากาศแบบนี้

แต่ก่อนตอนที่พวกเขาขายห้อง ครั้งไหนบ้างที่ไม่ใช่โฆษณากันอย่างยากลำบาก สร้างประเด็นให้เป็นที่พูดถึง?

แล้วไท่ติ่งล่ะ?

ภาคตะวันตกของเมืองที่ไม่มีใครยอมรับ สัญญาที่สูงเกินจริงถึงสามสิบล้าน ทำให้ไท่ติ่งกลายเป็นที่เยาะเย้ยของคนในวงการทุกคน

แต่กลับมีกระแสร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆในเมืองนี้

วิลล่าเขาเทียนซาน

โจวเย่นชิวดูข่าวอาคารชุดที่ภาคตะวันตกของเมืองในมือถือก็พลันยิ้มออกมา แล้วดันแว่นตากรอบทองที่อยู่บนดั้งจมูก

“จินหลินหรือจะเป็นสัตว์ในหนองน้ำ เพียงแค่ได้เจอสถานการณ์ก็จะกลายเป็นมังกรทันที เฉินตงเอ๋ยเฉินตง ไท่ติ่งที่ฉันจะให้หลี่ต้าเป่าเอาไว้ใช้ในตอนแก่ กลัวว่าจะต้องใช้นายที่เป็นมังกรตัวจริง นำสูงขึ้นไปถึงท้องฟ้าเก้าหมื่นไมล์แล้วล่ะมั้ง”

ต่อให้เป็นเขาที่รุ่งโรจน์ในวงการการค้ามาหลายปี ก็ไม่เคยเจอการเปิดให้จองระยะแรกที่เปิดจองดีขนาดนี้

ในสถานการณ์ที่ทั้งเมืองวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรงแบบนี้ ไม่มีใครสงสัยถึงผลลัพธ์ของการเปิดจองครั้งนี้แน่นอน

นอกจากขายดี!

ก็ยังเป็นขายดี!

โจวเย่นชิวถอนหายใจออกมา สีหน้าก็พลันฉายแววฉงนและจริงจังขึ้นมา “แต่ว่า ท่านหลงจากไปกะทันหันแบบนี้เพราะเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

การเดิมพันในครั้งนั้น ฉันทำถูกหรือทำผิดกันแน่นะ?

ด้วยความสามารถของโจวเย่นชิวในเมืองนี้ เขาก็ย่อมรู้ดีว่าเฉินตงเจอเรื่องอะไรมาบ้าง ยิ่งรู้ว่าเรื่องที่ซัพพลายเออร์คว่ำบาตร คือใครเป็นคนควบคุมอยู่เบื้องหลัง

ก่อนที่เฉินตงจะมาช่วยเขา เขาก็ได้ตัดสินใจแล้ว

แต่เขาก็รู้ดีถึงเบื้องหลังของเฉินเทียนหย่าง เขาไปต่อกรด้วยไม่ได้

ถ้าพนันแพ้ขึ้นมา สำหรับเขาแล้ว ต้องได้รับความเสียหายอย่างหนักอย่างไม่ต้องสงสัย

โจวเย่นชิวส่ายหัวเก็บความกังวลลง “ศึกวันที่15 นี้ ฉันเริ่มคาดหวังในตัวนายมากขึ้นซะแล้วสิ”

ส่วนตระกูลหวาง

จากกี่วันนี้มานี้ที่ทั้งเมืองวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอาคารชุดของภาคตะวันตกของเมืองกันอย่างร้อนแรง

หวางเต๋อ จางซิ่วจือและหวางเห้า ล้วนเสียใจจนลำไส้เขียวไปหมดแล้ว

แค่จางซิ่วจือนึกขึ้นมาได้ ก็จะต่อว่าหวางหนันหนันทุกครั้ง

ดูจากกระแสร้อนแรงในตอนนี้ สมมุติว่าตอนนั้นพวกเขาได้ซื้อห้องที่ภาคตะวันตกของเมือง ตอนนี้ก็คงหาเงินได้เยอะแล้ว

ไม่เพียงแต่รวบรวมเงินค่าสินสอดของหวางเห้าจนครบ ยังจะมีเงินเหลือเฟืออีกด้วย

แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นได้แค่ความเพ้อฝันเท่านั้น

ตอนนี้ราคาบ้านของภาคตะวันตกของเมือง บ้านของพวกเขาทำได้แค่แหงนมองแล้ว

หวางหนันหนันถูกบีบบังคับจนต้องไปนอนที่โรงแรมข้างนอก ไม่กล้ากลับบ้าน

เพราะเธอรู้ว่าถ้าเธอกลับบ้านก็จะต้องถูกพ่อแม่กับน้องชายต่อว่าอย่างโกรธแค้นแน่นอน

หลบมาที่โรงแรม กลับเงียบสงบเสียอีก

แต่ความรู้สึกของเธอก็ค่อยๆกลายเป็นความเสียใจอย่างสุดขีดตามการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรงของทั้งเมือง

ในใจเธอนั้น

เฉินตงเป็นรองประธานของไท่ติ่ง

ภาคตะวันตกของเมืองคือไท่ติ่งพัฒนาขึ้นมา

หลังจากวันที่15 ไม่พูดว่าอนาคตเฉินตงจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ที่ไท่ติ่ง แค่โบนัสก้อนนั้นก็ต้องไม่น้อยแล้วแน่นอน

ถ้าย้อนกลับไปได้ หวางหนันหนันในตอนนั้นจะไม่หย่ากับเฉินตงอย่างเด็ดขาดแบบนี้แน่นอน

และทั้งหมดนี้ เธอก็แค่คิดตอนที่รู้สึกเสียใจเท่านั้น

ในขณะที่สำนึกแค้นใจ เธอก็เริ่มบ้าคลั่งมากขึ้นทุกที

วันที่15!

ในวันที่15 นี้ เธอจะทำให้เฉินตงชื่อเสียงป่นปี้ เธอจะให้คนทั้งเมืองรู้ว่ารองประธานของไท่ติ่งเป็นขยะแบบไหน

ในเมื่อไม่ได้ ก็ต้องทำลาย

คือเขาเฉินตงไม่เมตตาเธอก่อน งั้นก็อย่าโทษที่เธอไม่ไว้หน้าเขา

โกหกเธอ ต้องชดใช้!

วันที่15 ใกล้เข้ามาแล้วทุกที

ทั้งบริษัทไท่ติ่งกำลังอยู่ในโหมดทำงานกันอย่างบ้าคลั่ง

เฉินตงนำพนักงานทุกคนทำงานโต้รุ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าจะต้องออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

ไม่มีใครบ่นว่า ทุกคนเหมือนกับว่าฉีดเลือดไก่มา ก้มหน้าก้มตาทำงานกันอย่างบ้าคลั่ง

นี่เป็นศึกพลิกตัวของไท่ติ่ง

ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะได้เก็บเกี่ยวผลพวงของความพยายามที่ต่อสู้มาตลอดหนึ่งเดือนกำลังจะได้มาถึงในไม่ช้า

คืนวันนี้ เฉินตงให้ทุกคนเลิกงานเร็วรีบกลับบ้านไปพักผ่อน

พรุ่งนี้ก็คือวันที่15แล้ว เตรียมการมานานขนาดนี้ คืนก่อนหน้าต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม พรุ่งนี้ถึงจะมีสภาพที่ดีที่สุดไปเผชิญกับงานเปิดจองได้

ทำงานโต้รุ่งติดต่อกันหลายวันทำให้เฉินตงเหนื่อยล้าสุดขีด

เขาลากร่างกายที่เหนื่อยล้าไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นจึงค่อยกลับบ้าน

นอนอยู่บนเตียงอยู่ แต่เฉินตงกลับนอนไม่ค่อยหลับ

อาจจะเป็นโรคทั่วไปของการที่ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าติดต่อกันหลายวัน

พอหยุดลง ก็กลับทำให้นอนไม่หลับ

เฉินตงจึงหยิบมือถือขึ้นมาโทรหากู้ชิงหยิ่ง

เพิ่งดังได้แค่รอบเดียวก็รับสายแล้ว

“ประธานเฉินคะ ในที่สุดท่านก็นึกขึ้นได้แล้วเหรอว่ายังมีแฟนอยู่?”

เฉินตงหัวเราะ “จะลืมเธอได้ยังไงล่ะ สองสามวันนี้ไม่ใช่เพราะว่างานยุ่งมากหรอกเหรอ? พรุ่งนี้ก็จะเปิดจองแล้วไงครับ”

“ตาทึ่ม ฉันล้อเล่นย่ะ ฉันรู้ว่าหลายวันมานี้นายยุ่งมาก ไม่กล้าโทรหานายเลยด้วย เสียงนายฟังดูเหนื่อยมากเลยนะ รีบไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะต้มซุปเอาไปให้นายนะ” กู้ชิงหยิ่งพูด

เฉินตงชะงักอยู่ชั่วขณะ

ในใจจู่ๆก็รู้สึกว่าการถูกเป็นห่วงแบบนี้ มีความสุขมาก

หลายวันมานี้ เขาเหนื่อยมากจริงๆ

แต่สามปีมานี้ เขายังมีวันที่เหนื่อยกว่าช่วงหลายวันนี้อีก

แต่เขาไม่เคยได้รับความเป็นห่วงที่เรียบง่ายและทำให้เขามีความสุขแบบนี้มาก่อน

เขาไม่สนใจว่าตัวเองจะเหนื่อยหรือไม่ เพื่อตัวเอง เพื่อคนข้างกาย จะลำบากและเหนื่อยมากแค่ไหนก็ไม่เป็นไร

เพราะว่าเขาตั้งแต่เด็กจนโตก็คือใช้ชีวิตลำบากแบบนี้มาตลอด

แต่พอมีคำพูดนี้ของกู้ชิงหยิ่ง เขาก็พลันรู้สึกว่าความเหนื่อยล้าทั้งตัวผ่อนคลายลงเยอะขึ้นมาทันที

จู่ๆ ตาของเฉินตงก็แฉะขึ้นมาเล็กน้อย

“นี่ ตาทึ่ม ทำไมนายไม่พูดเลย? อย่าบอกนะว่านอนแล้วน่ะ?” เสียงของกู้ชิงหยิ่งดังขึ้นมาในสาย

เฉินตงเช็ดหางตาและยิ้มพูดว่า “ยังไม่นอน ฝุ่นเข้าตานิดหนึ่งน่ะ กำลังขยี้ตาอยู่ เธอไม่ต้องมาแล้ว จำสัญญาของเราพรุ่งนี้ด้วยนะ เธอนอนเร็วๆล่ะ”

“ก็ได้จ้ะ ฝันดีนะ”

หลังจากวางสาย เฉินตงก็เช็ดความเปียกชื้นตรงหางตาจนแห้งแล้ว จึงปิดตาลงและหลับไปอย่างสนิท

ทั้งคืนไม่มีคำพูดใดๆ

เมื่อแสงแรกส่องลงบนพื้นดิน

เฉินตงก็ตื่นขึ้นจากความฝัน พักผ่อนหนึ่งคืนทำให้เขากำลังวังชาเต็มเปี่ยมขึ้นมาอีกครั้ง

มองดูพระอาทิตย์ขึ้นอย่างช้าๆตรงหน้าต่าง

เฉินตงก็เผยรอยยิ้มมั่นใจออกมา “วันที่15 มาถึงแล้วสินะ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset