Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 60 ชื่อเสียงป่นปี้?

บทที่ 60 ชื่อเสียงป่นปี้?

หวางหนันหนันดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้าง น้ำตาคลอหน่วย สีหน้าเลื่อนลอยรีบวิ่งไปที่หลงถิงฮัวหยวน

ทางไกล ดอกไม้โปรยปรายทั่วท้องฟ้า

และแผ่นคำที่ห้อยอยู่กับเฮลิคอปเตอร์สามลำที่หยุดอยู่กลางอากาศ

เหมือนกับว่าถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆผ่าลงตัวเธอ

เธอถึงขนาดที่ว่านึกภาพที่เฉินตงและกู้ชิงหยิ่งที่มีความสุขกันในตอนนี้ กำลังถูกผู้คนจ้องมองกันอยู่ออกกันเลยทีเดียว

และทั้งหมดนี้……

“ของฉัน มันควรเป็นของฉัน……”

หวางหนันหนันกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “เฉินตง นายมันเลว นายมันคนโกหก! นายเคยบอกว่ารักฉัน แต่ไม่นึกเลยว่านายเพื่อกู้ชิงหยิ่ง กล้าใช้วิธีการเลวๆแบบนี้มาหย่ากับฉัน”

อิจฉา ความแค้น ความโกรธ อารมณ์เหล่านี้ผสมเข้าด้วยกัน

ทำให้หวางหนันหนันใกล้จะสติแตกและบ้าคลั่งเต็มที

“ฉันไม่มีทางให้นายอยู่ดีแน่ ฉันจะเปิดโปงว่านายเป็นคนหน้าเนื้อใจเสือต่อหน้าคนทั้งเมือง เฉินตง นายบีบบังคับฉันเอง!”

ในที่สุด หวางหนันหนันก็วิ่งไปถึงบริเวณใกล้เคียงของสำนักงานขายในหลงถิงฮัวหยวนแล้ว

ในสายตา

เฉินตงและกู้ชิงหยิ่งกำลังกอดกันอยู่ และเพลิดเพลินกับสายตาของทุกคนและแสงแฟลชที่กำลังจ้องมองมา

หวางหนันหนันที่โกรธแค้นจัดก้าวไปข้างหน้า เดินออกจากฝูงและตะโกนออกมาเสียงดังว่า

“เฉินตง นายมันคนหลอกลวง!”

เสียงตะโกนร้องลั่นที่กะทันหันนี้ เหมือนกับเป็นค้อนหนักที่ทำลายและหยุดนิ่งความสุขตรงหน้าสำนักงานขายอย่างเหี้ยมหาญ

ทุกคนมองไปที่หวางหนันหนันอย่างตกตะลึง

แต่เดิมกล้องทุกตัวที่โฟกัสเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งอยู่ ตอนนี้ก็มาโฟกัสที่หวางหนันหนัน

บรรดาสื่อคึกขึ้นมาแล้ว

แต่เดิมพวกเขาวันนี้แค่จะรายงานข่าวของอาคารชุดอาคารแรกที่ปรับปรุงใหม่ในภาคตะวันตกของเมือง แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีข่าวทยอยเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย

ด้วยที่พวกเขามีไหวพริบที่ไวต่อข่าว ตอนนี้ก็รู้ล่วงหน้าแล้วว่า พรุ่งนี้หลังจากที่รายงานข่าวพวกนี้ออกไปแล้วต้องทำให้ทั้งเมืองสั่นสะเทือนแน่นอน

เถ้าแก่ของไท่ติ่งบอกรักแฟนในสำนักงานขาย ผู้หญิงปริศนาปรากฏตัวขึ้นกะทันหันเพื่อร้องขอความเป็นธรรม!

นี่เป็นข่าวที่พวกคนชอบสอดรู้สอดเห็นชอบที่สุด!

บนเวที

เฉินตงสีหน้าฉายแววโกรธเคือง สายตามองไปที่หวางหนันหนันอย่างเย็นชา

จะมาก่อเรื่องเหรอ?

เธอรู้จักนิสัยของหวานหนันหนัน ตอนนี้มาที่นี่ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

แต่เขาไม่แคร์ เขาแค่โกรธที่การปรากฏตัวของเธอทำลายบรรยากาศดีๆที่เขาทำเพื่อกู้ชิงหยิ่ง

“เฉินตง……”

กู้ชิงหยิ่งมุดออกมาจากอ้อมกอดของเฉินตง เห็นหวางหนันหนันแล้วใจหนักขึ้นมาทันที

“ฉันจัดการเองได้ แต่เดี๋ยวอย่าลืม Genting Sky นะ”

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนแล้วให้เสี่ยวหม่าพากู้ชิงหยิ่งออกไป

จากนั้น เขาหันไปพูดกับหัวหน้าหน่วยงานพวกนั้นว่า “หัวหน้าทุกท่านครับ เรื่องเล็กๆน้อยๆ ผมจัดการได้ ไท่ติ่งจะมีทีมงานมาดูแลทุกคนนะครับ”

ข้างล่างเวที หวางหนันหนันเห็นว่ากู้ชิงหยิ่งกำลังจะไปแล้วเลยใจร้อนขึ้นมาทันที

เธอพุ่งไปที่เวทีเหมือนบ้าไปแล้ว “นังจิ้งจอก แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

ข้างเวที บอดี้การ์ดเดินขึ้นหน้าพร้อมกัน ขวางหวางหนันหนันที่กำลังจะพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต

“เฉินตง นายมันเลว ฉันมันคนโกหก!”

หนางหนันหนันร้องจนอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เสียงแหบแห้งไปหมด เหมือนกับเป็นผู้เคราะห์ร้ายเลยทีเดียว แล้วด่าออกมาอย่างเสียใจสุดขีด “เสียแรงที่ฉันลดตัวแต่งงานกับนายเมื่อสามปีก่อนจริงๆ นายก็คือตอบแทนฉันด้วยผลลัพธ์แบบนี้เหรอ?”

ผ่าง!

ข้างหน้าสำนักงานขายเต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง

ทุกคนแสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมากันหมด

นี่คือ……มือที่สามมาชิงตำแหน่ง?

สื่อทั้งหลายคึกขึ้นมาทันที กดกล้องถ่ายหวางหนันหนันรัวๆ

ข่าวใหญ่!

นี่มันข่าวใหญ่ชัดๆ!

กู้ชิงหยิ่งกำลังจะเดินลงจากเวทีแล้วได้ยินคำด่าทอของหวางหนันหนัน ใบหน้าสวยพลันเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที

วันนี้เป็นวันเปิดจองวันแรกของหลงถิงฮัวหยวน ไท่ติ่งและเฉินตงถูกคนทั้งเมืองจ้องมองไว้อยู่

ตอนนี้หวางหนันหนันออกมาอาละวาด

ไม่เพียงแต่จะทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทไท่ติ่งเสียหาย

ยิ่งจะทำให้เฉินตงชื่อเสียงป่นปี้ได้

นี่……จะทำลายเฉินตงสินะ!

เธอรู้อดีตของเฉินตงและหวางหนันหนัน ทั้งครอบครัวของหวางหนันหนันทำร้ายเฉินตงมาก็มากพอแล้ว

ตอนนี้หย่ากันแล้วยังคิดจะใส่ร้ายป้ายสีเฉินตงอีก?

ในเดี๋ยวนั้นเอง กู้ชิงหยิ่งกำลังจะขึ้นเวทีโต้แย้งแทนเฉินตง

แต่แล้วเสียงอ่อนโยนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา

“ฉันจัดการเองได้ อย่าทำลายอารมณ์ของเธอเลย ไปรอฉันที่ Genting Sky นะ”

กู้ชิงหยิ่งสีหน้าพลันชะงักพร้อมมองเฉินตงอย่างลังเล

แต่สุดท้าย เธอก็เลือกที่จะออกไปกับเสี่ยวหม่า

เธอเชื่อว่าเฉินตงจัดการได้

มองกู้ชิงหยิ่งเดินจากไป เฉินตงจึงเดินลงจากเวทีช้าๆ

ภายใต้การจ้องมองของสายตาและแสงแฟลชนับไม่ถ้วนนั่น เขาเดินผ่านการห้ามปรามของบอดี้การ์ดไป และเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหวางหนันหนันที่กำลังนั่งยองๆร้องไห้เสียงดังเหมือนกับหมดหวัง

ยิ้มจางๆออกมาเล็กน้อย “พวกเราก็จบกันแล้ว เธอยังทำแบบนี้อีก คือต้องการให้ฉันชื่อเสียงป่นปี้เหรอ?”

หวางหนันหนันพยายามประคองตัวลุกขึ้นยืน ตาแดงก่ำ หน้าตาไหลพราก กัดฟันพูดเหมือนคนที่เสียสติไปแล้ว “ฉันก็คือจะทำลายนาย จะทำให้นายชื่อเสียงป่นปี้ นายต้องชดใช้ที่หลอกฉัน!”

ในใจเฉินตงเต็มไปด้วยความโกรธ มองหวางหนันหนันอย่างเย็นชา

“บ้านพวกเธอ ฉันช่วยไม่ไหวแล้วจริงๆ!”

“แล้วฉันทำอะไรได้?”

หวางหนันหนันพูดอย่างสิ้นหวัง “พวกเขาเป็นพ่อแม่ของฉันและเป็นน้องชายของฉัน จะไม่ให้ฉันช่วยอะไรเลยหรือไง?”

เฉินตงไม่เถียง แต่แค่ยิ้มหยันตัวเอง

เขารู้สึกว่าตอนที่ตัวเองถามคำถามนี้ออกมาช่างโง่เขลาสิ้นดี

ถ้าหวางหนันหนันเข้าใจได้จริงๆ ก็ไม่มีทางหลังจากแต่งงานกันมาสามปียังเกิดเรื่องหย่านี้ขึ้น

“พูดสิ? นายพูดออกมาสิ?”

เห็นเฉินตงที่นิ่งเงียบไม่พูด หวางหนันหนันจึงคิดไปเองว่าตัวเองยึดกุมคุณธรรมจริยธรรมไว้ได้แล้วเลยเกรี้ยวกราดมากขึ้น “เฉินตง ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันเป็นคนขอหย่ากับนายเอง แต่ฉันหวางหนันหนัน ไม่ยอมให้นายมาหลอกฉันแบบนี้เด็ดขาด นายอยากอยู่กับนังร่านกู้ชิงหยิ่ง ได้สิ ให้ฉันมาหนึ่งล้าน แล้วฉันจะไปทันทีเลย!”

“ไม่อย่างนั้น นายอย่ามาโทษฉันไปบอกพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ของนายต่อหน้าของคนทั้งเมือง!”

“พฤติกรรมเยี่ยงสัตว์?”

เฉินตงหรี่ตาลงและพูดออกมาอย่างเย็นชา “กล้ามากที่มาขายหน้า คือเธอหาเรื่องขายหน้าเอง!”

พูดจบ เขาก็ให้บอดี้การ์ดหลบไป

หลังจากนั้นก็ทำท่าเชิญกับหวางหนันหนัน

หวางหนันหนันอึ้ง คิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะให้เธอขึ้นเวที

ในตอนนี้เอง

เฉินตงพูดออกมาด้วยเสียงโกรธแค้น

“เธอขึ้นไป บอกกับคนทั้งเมือง ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอเอาเงินช่วยชีวิตที่ฉันให้กับแม่ฉันเอาไปซื้อบ้านให้น้องชายเธอยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนช่วยฉัน ป่านนี้แม่ฉันคงตายใน ICU ที่โรงพยาบาลนานแล้ว!”

ผ่าง!

ประโยคหนึ่งทำให้ตกตะลึงไปทั่วงาน

ทุกคนในงานพลันอึ้งกันไปหมด

เพียงไม่กี่วิสั้นๆ

ในงานก็ระเบิดเสียงอื้ออึงออกมาดังสะเทือนเลือนลั่น

“พระเจ้า! เพื่อซื้อบ้านให้น้องชาย แม้แต่เงินช่วยชีวิตของแม่เฉินตงก็เอาไปเหรอ?”

“เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ ฉันแม่งตอนนี้รู้แล้วจริงๆว่าอะไรคือปีศาจฝูตี้ ผู้หญิงคนนี้หน้าไม่อายจริงๆ!”

“แม้แต่ชีวิตแม่สามีตัวเองก็ไม่สน เมียแบบนี้เก็บเอาไว้ก็เปลืองข้าวสุกหรือไง?”

……

ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เหมือนกับเสียงคลื่นซัดกระหน่ำนี้

ใบหน้าสวยของหวางหนันหนันซีดลงทันที ตกตะลึงตัวแข็งทื่ออยู่กับที่

เธอคิดไม่ถึงว่าแค่คำพูดคำเดียวของเฉินตงจะทำให้เธอเป็นฝ่ายร้ายขึ้นมาในทันที

นี่มันเหตุผลแบบไหนกัน?

แสงแฟลชนับไม่ถ้วนส่องไปที่ตัวหวางหนันหนัน

หวางหนันหนันโมโหจนกระทืบเท้าอย่างแรงแล้วตะคอกออกมาเสียงดัง “ทำไมพวกเธอต้องพูดถึงฉันแบบนี้? ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ผู้ชายเหี้ยคนนี้ต่างหากที่เนรคุณ!”

“เหอะ!”

เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน “เธอมีเหตุผลขนาดนี้ ฉันไม่แคร์ที่จะให้เธอขึ้นไปพูดบนเวที”

พูดจบ เฉินตงก็หันหลังเดินจากไป

การเปิดจองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ

หวางหนันหนันอยู่ที่นี่ ทำให้เขาไม่อยากเผชิญกับหวางหนันหนันอีกแม้แต่วินาทีเดียว

ส่วนการอาละวาดของหวางหนันหนันจะกระทบถึงยอดของหลงถิงฮัวหยวนหรือไม่นั้น เขาไม่ได้ไปคิดมันเลย ซื้อบ้าน “ทำเงิน” เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ “ข่าวฉาวโฉ่” ของเขาก็จะกระทบถึงความกระตือรือร้นของผู้ซื้อบ้านได้

ส่วนภาพลักษณ์ของเขา……

คนที่ตั้งแต่เด็กจนโตผ่านมากับชื่อเสียง “ลูกสวะ” ไม่มีทางใส่ใจกับข่าวซุบซิบอะไรอยู่แล้ว!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset